ทุกคนกำลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่ เฉียวโยวโยวนั่งบนเก้าอี้และเปิดกล่องของขวัญใบนั้น
ในกล่องของขวัญมีกล่องสีแดงขนาดเล็กที่มีโลโก้ดอกชบาอยู่ เฉียวโยวโยวเปิดกล่อง และในนั้นก็มีจี้คู่หนึ่งสะดุดตาของเธออย่างมาก
จี้เป็นทองคำขาวฝังด้วยเพชร แบบของผู้หญิงมีรูปพระจันทร์เสี้ยว สลักคำว่า ‘XG’ และแบบของผู้ชายเป็นรูปครึ่งวงกลม สลักคำว่า ‘YO’ เป็นจี้หัวใจคู่ ซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์แบบ
ฟู่สีเกอหยิบขึ้นมาดูและยิ้ม: “โชคดีที่แกะคำว่า XG ไม่ใช่ LX”
เฉียวโยวโยวยิ้มและหยิบของตัวเองขึ้นมาดู กลับพบว่านี่ไม่ใช่จี้ธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อจี้ถูกถอดออกด้านหลังยังมีต่างหูและนำมาสวมใส่ที่หูได้ด้วย
“เก๋มากจริง ๆ!” ดวงตาของเฉียวโยวโยวเป็นประกาย
ฟู่สีเกอหยิบแบบของผู้หญิงขึ้นมา: “เจ้าโยวเด็กโง่ แค่เครื่องประดับชิ้นเดียวก็สามารถทำให้คุณมีความสุขมากขนาดนี้เลยเหรอ มา เดี๋ยวผมใส่ให้คุณเอง!”
“นี่ มีโน๊ตเล็ก ๆ อยู่ข้างในด้วยล่ะ!” เฉียวโยวโยวหยิบมันขึ้นมาแล้วมองดู: “เสื่อฤดูร้อน ในโน๊ตเขียนว่าให้คุณเป็นคนอ่านมัน”
ฟู่สีเกอรับโน๊ตมาและเปิดอ่าน และเห็นในโน๊ตเขียนว่า: “สีเกอ สาว ๆส่วนใหญ่มักจะรับไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของแฟนเก่าหรอกนะ ที่ฉันมอบสร้อยคอให้คุณเพราะหวังว่าคุณจะล้มเลิกคำพูดที่คุณเคยพูดว่าคุณจะไม่สวมสร้อยอีกเพราะชิงชิง ยิ่งไปกว่านั้นรอยสักก่อนหน้าของคุณก็ควรถูกลบออกได้แล้ว! สิ่งที่ฉันพูดมาทั้งหมดนี้อาจจะดูละลาบระล้วงมากเกินไป แต่ฉันหวังว่าอยากให้พวกคุณมีความสุขจริง ๆ!”
ฟู่สีเกอดูข้อความในโน๊ตนั้นก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ซูสือจิ่นพูดถูก ในอดีตเขาเคยพูดว่าจะไม่ใส่จี้สาเหตุเป็นเพราะฮั่วชิงชิงจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสักรูปจี้ระหว่างเขาและฮั่วชิงชิงไว้ที่คออีกด้วย
ก่อนหน้านี้เขามักจะนึกถึงอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้ ……
เขาพบว่าตัวเองดูเหมือนจะคุ้นเคยกับมันแล้วจริง ๆ และมันจะไม่มีอิทธิพลใด ๆกับตัวเองอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความทรงจำเกี่ยวกับฮั่วชิงชิง ซึ่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับเฉียวโยวโยวเลยสักนิด ถ้าเช่นนั้นเขาจะรีบหาเวลาไปลบรอยสักออกให้เร็วที่สุดแล้วกัน!
แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อซูสือจิ่นกล่าวถึงเรื่องนี้……ฟู่สีเกอเคยได้ยินสือมูเฉินพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างหยานชิงเจ๋อและซูสือจิ่นมาก่อน ดังนั้นเขาจึงหันศีรษะและยื่นโน๊ตให้กับหยานชิงเจ๋อ
เมื่อหยานชิงเจ๋อเห็นข้อความบนโน๊ตนั้น หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
เธอบอกว่าผู้หญิงส่วนมากจะไม่ชอบให้พูดเกี่ยวกับเรื่องของแฟนเก่ามากที่สุด แต่ก่อนหน้านั้นเขาไม่เพียงแต่มีแฟนเท่านั้น แต่เขายังพาแฟนมาเจอเธอมากกว่าหนึ่งครั้ง
ถ้าเช่นนั้น ตอนนั้นเธอยังคงยิ้มโดยที่ไม่แสดงอาการเสียใจใดๆออกมาได้อย่างไรกัน?
หยานชิงเจ๋อยื่นจดหมายคืนให้กับฟู่สีเกอ จากนั้นเขาก็หันไปอีกทาง
ในขณะนี้ แขกผู้มีเกียรติทางฝั่งหันจื่ออี้ส่งกลับเกือบหมดแล้ว หันจื่ออี้เดินมาพร้อมกับฮั่วชิงชิงและกล่าวทักทายทุกคน: “เรากลับกันก่อนแล้วนะ เดี๋ยวผมและชิงชิงต้องไปจดทะเบียนสมรสกันที่อำเภอต่ออีก”
ฟู่สีเกอพยักหน้าให้เขา: “โอเค ขออวยพรให้มีความสุขในวันแต่งงานนะ!”
อีกฝั่งหนึ่งหลานเสี่ยวถางและสือมูเฉินก็โบกมือให้เขา
หันจื่ออี้ก็พยักหน้าตอบกลับให้ทั้งสองคน จากนั้นก็พูดกับฟู่สีเกอและเฉียวโยวโยวว่า: “ขออวยพรให้มีความสุขในวันแต่งงาน!”
จากนั้น แต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับไป
หยานชิงเจ๋อออกจากสถานที่จัดงานแต่งงานและตรงไปที่บริษัททันที
วันนี้ค่อนข้างจะยุ่งวุ่นวายมาก หลังจากที่ทำอะไรเสร็จมันก็ดึกแล้ว
ด้านนอกใต้แสงไฟนั้น หยานชิงเจ๋อกำลังปิดประตูสำนักงานของตัวเอง ทันทีที่เขาเดินไปถึงหน้าลิฟต์ เขาก็ได้ยินสองสาวกำลังพูดคุยกันขณะเดินไปด้วย: “นี่ ดูรูปนี้สิ นั่นมันเป็นท่านประธานหยานชิงเจ๋อนี่นา?”
ผู้หญิงอีกคนมองดูแล้วพูดว่า :”ใช่จริง ๆด้วย! แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆนี่ใครกันนะ สวยจัง!”
หญิงสาวอีกคนกล่าวว่า “ต้องเป็นแฟนของท่านประธานหยานแน่นอน! เธอดูสิ พวกเขาดูมีความสุขมากเลยล่ะ!”
“ใช่สิ ดูผู้หญิงที่ซบไหล่เขาสิ มันดูอบอุ่นมากเลยล่ะ!” หญิงสาวกล่าวว่า: “และภาพนี้ถ่ายได้สวยงามมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นการค้นหายอดนิยม!”
หญิงสาวทั้งสองยังคงก้มหน้าก้มตาพูดคุยกันอย่างเมามันส์ ดังนั้นเรื่องที่พวกเธอทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้นหยานชิงเจ๋อได้ยินจนหมดแล้ว
จนกระทั่งมีเสียงดังขึ้นเหนือหัวของพวกเธอว่า :“รูปอะไร?”
สองสาวเงยหน้าขึ้นและคาดไม่ถึงว่าคนที่ตัวเองกำลังพาดพิงอยู่นั้นก็อยู่ตรงหน้า อีกทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทซะด้วย ทันใดนั้นพวกเธอก็พูดตะกุกตะกัก: “ท่านประธานหยาน คุณยังอยู่ที่บริษัทอยู่อีกเหรอคะ…… พวกเรา……”
“รูปอะไร?ไหนผมขอดูหน่อยสิ ” หยานชิงเจ๋อยื่นมือออกมา
“ขอโทษนะคะ รูปภาพเราไม่ได้เป็นคนแอบถ่ายนะคะ !” เด็กสาวรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว: “ฉันก็เพิ่งเห็นในเวยป๋อนี่แหละค่ะ”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นเธอก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้ดู
หยานชิงเจ๋อมองดูรูปในหน้าจอโทรศัพท์ และตกตะลึงงัน
นี่มันเป็นความฝันที่เขาเพิ่งจะนอนฝันหวานเมื่อตอนกลางวันไม่ใช่หรอกเหรอ? !
ในภาพนั้นซูสือจิ่นนั่งอยู่ข้าง ๆเขา โดยที่ศีรษะของเธอซบอยู่ที่ไหล่ของเขา และทั้งสองก็หลับลึกไปพร้อมกัน
เขาไม่ได้เจอเธอมาหลายเดือนแล้ว ผมของเธอยาวกว่าตอนที่เขาเห็นที่ประเทศโรมนิดหน่อย เธอสวมกระโปรงสีสดใส เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนเธอดูเป็นผู้หญิงสดใสมากขึ้น
ในภาพความทรงจำของเขาใบหน้าของเธอยังคงเหมือนเดิมทุกประการ แต่หน้าตาไม่สดใสเหมือนตอนครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเธอ
เธอไม่ได้ผอมลงและผิวพรรณก็ดีมาก ดูเหมือนว่าเธออาศัยอยู่ในต่างประเทศเธอดูมีความสุขดี
รูปถ่ายมีหลายรูป มีรูปที่ถ่ายจากด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
ด้านล่างรูปภาพนี้ ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นว่าคู่นี้เป็นคู่ที่เหมาะสมที่สุดในปีนี้บนเวยป๋อ
เดิมทีตอนกลางวันเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ……
เธอกลับมาแล้วจริง ๆ อีกทั้งเธอยังอยู่ใกล้เขามาก? หยานชิงเจ๋อบีบโทรศัพท์โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆออกมา แต่ในใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบ!
ด้านข้าง ต่อมาหญิงสาวทั้งสองเห็นหยานชิงเจ๋อมองโทรศัพท์โดยไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน และอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า: “ท่านประธานหยาน คุณ ……”
หยานชิงเจ๋อได้สติกลับคืนมา เหลือบมองชื่อผู้ส่งเวยป๋ออย่างรวดเร็ว จากนั้นคืนโทรศัพท์ให้หญิงสาว: “ไม่มีอะไรแล้ว”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็เดินเข้าไปในลิฟต์ทันทีและกดที่ชั้น -2
หยานชิงเจ๋อมองดูตัวเลขบนหน้าจอ LED เลขเลื่อนขึ้นไปเรื่อย ๆ มีเพียงไม่กี่คำที่ค่อยๆ ผุดขึ้นในใจเขา: เธอซบไหล่ของเขาแล้วหลับไป!
เธอตั้งใจหลบหน้าเขามาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนั้นตอนที่เขาผล็อยหลับไป ทำไมเธอไม่อ้อมเดินไปอีกทางล่ะ อีกทั้งเธอยังมานั่งข้างเขาอีกด้วย? นี่กลับมาผล็อยหลับไปอย่างผ่อนคลาย?
หยานชิงเจ๋อรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหัวใจของตัวเองนั้นเต้นเร็วถี่ขึ้นเรื่อย ๆ และเขาไม่สามารถควบคุมมันได้
มีความคิดหนึ่งค่อย ๆ ผุดขึ้นมา: เป็นไปได้ไหมว่าเธอยังมีเยื่อใยต่อเขาอยู่?
หยานชิงเจ๋อขับรถตรงไปที่บ้านของซูสือจิ่น
ในขณะนี้ ซูสือจิ่นออกเดินทางไปแล้ว ซูเผิงฮวาเพิ่งส่งเธอกลับไปเมื่อกี้นี้ และเมื่อเขาเห็นหยานชิงเจ๋อ เขาก็ผงะไปครู่หนึ่ง: “ชิงเจ๋อ คุณมาอีกแล้ว?”
“คุณลุงซู เสี่ยวจิ่นเพิ่งไปเหรอครับ?” หยานชิงเจ๋อรู้ว่าตัวเองมาช้าไปอีกแล้ว
“ใช่” ซูเผิงฮวาพยักหน้า “ลุงเพิ่งไปส่งเธอและกลับมาได้ไม่นาน”
“เธอขึ้นเครื่องบินหรือยังครับ?” หยานชิงเจ๋อถามต่อ
ซูเผิงฮวามองดูเวลา: “อืม เครื่องบินบินขึ้นไปได้สักพักแล้วล่ะ ”
หยานชิงเจ๋อพยักหน้า: “อืม ผมเข้าใจแล้วครับ คุณลุงซูช่วยโทรหาเธอเมื่อเธอไปถึงได้ไหมครับ? ให้เธอเปิดอ่านอีเมลหน่อย ผมจะส่งให้เธอเดี๋ยวนี้ ”
ซูเผิงฮวามองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหยานชิงเจ๋อมาที่นี่หลายครั้งแล้ว
ในตอนแรก เขาสามารถหาข้ออ้างได้อย่างง่ายดาย แต่ในตอนหลัง เขาเองก็สงสัยว่า ถ้าเขารู้ที่อยู่ของซูสือจิ่นจริง ๆ เขาจะมอบที่อยู่ให้หยานชิงเจ๋อหรือไม่?
ซูเผิงฮวาพยักหน้าให้หยานชิงเจ๋อ: “ตกลง ถ้าเธอไปถึงเดี๋ยวลุงจะบอกเธอเอง”
“ตกลง ขอบคุณครับ” หยานชิงเจ๋อเงียบไปสองสามวินาที: “คุณลุงครับ คุณลุงสามารถเอาหมายโทรศัพท์มือถือของเธอให้ผมได้ไหมครับ?”
ซูเผิงฮวาผงะไปครู่หนึ่ง: “ชิงเจ๋อ……” ที่เขาทำแบบนี้มันทำให้เขาลำบากใจไม่น้อยเลยนะ ให้เขาทรยศลูกสาวของตัวเองอย่างนั้นหรือ?
“คุณลุงซู ถ้าหากสิ่งนี้มันทำให้คุณลุงลำบากใจ งั้นก็…… ” หยานชิงเจ๋อหลับตาลง
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวันนี้เห็นใบหน้าของซูสือจิ่นที่เหนื่อยล้า หยานชิงเจ๋อมีสีหน้าท่าทางที่ดูเศร้ามาก เมื่อซูเผิงฮวาเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกสงสาร และขัดจังหวะการพูดของหยานชิงเจ๋อ : “ชิงเจ๋อ ลุงรู้ว่าคุณอาจมีอะไรจะพูดกับเธอ ตกลง ลุงจะบอกหมายเลขโทรศัพท์ของเธอให้คุณ——”
หยานชิงเจ๋อตกตะลึงอย่างมาก: “คุณลุงซู ……”
“โอ้ เรื่องอื่นลุงก็จะไม่พูดอะไรมากแล้ว อันที่จริงเรื่องของคุณทั้งสอง ลุงก็พอรู้มาบ้าง ” ซูเผิงฮวาถอนหายใจ: “เดิมทีลุงเชื่อมั่นในตัวคุณจึงมอบลูกสาวลุงให้กับมือ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อลุงเห็นอาการที่เหม่อลอยหมดอาลัยตายอยากอย่างนั้นของเธอแล้ว พูดตามตรงในฐานะคนเป็นพ่ออย่างลุง ลุงเกลียดคุณจริง ๆ”
เขาพูดต่อว่า: “แต่ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพของคุณในครึ่งปีหลังนี้อีกครั้ง ก็……ช่างมันเถอะ เรื่องของพวกคุณ ก็แก้ไขมันด้วยตัวเองเถอะ!”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น ซูเผิงฮวาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและบอกหมายเลขโทรศัพท์ของซูสือจิ่นให้กับหยานชิงเจ๋อ
นั่นคือหมายเลขโทรศัพท์ตอนที่ใช้ระหว่างอยู่ในกรุงโรม ดังนั้นแม้ว่าซูเผิงฮวาจะบอกหมายเลขโทรศัพท์ให้หยานชิงเจ๋อ แต่มันก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก
หยานชิงเจ๋อรีบกดหมายเลขโทรศัพท์บันทึกลงในโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว จากนั้นกล่าวคำขอบคุณกับซูเผิงฮวา แล้วออกจากตระกูลซูไปทันที
เขาออกมาจากตระกูลซูได้ไม่นาน รีบเปิดเวยป๋อและดาวน์โหลดรูปภาพเหล่านั้น จากนั้นส่งอีเมลไปให้ซูสือจิ่นหนึ่งฉบับ
เขาคิดทบทวนแล้วว่าถ้าหากซูสือจิ่นเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของเขาที่โทรหาเธอ เธอคงไม่รับสายอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงรอการตอบกลับอีเมลของอีกฝ่าย
หลังจากลงจากเครื่องบินได้ไม่นาน ซูสือจิ่นก็ได้รับสายโทรศัพท์จากซูเผิงฮวา โดยบอกว่าหยานชิงเจ๋อได้ส่งอีเมลถึงเธอ เพื่อให้เธอเปิดดูอีเมล
ซูสือจิ่นรู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าหยานชิงเจ๋อส่งการออกแบบไดอะแกรมมาให้หรือเปล่า แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อเธอกลับถึงที่พักแล้ว เธอก็เปิดดูอีเมลในโทรศัพท์ที่เขาส่งมาทันที
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเปิดอีเมล เธอถึงกับตกตะลึงงัน
ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้? เธอถูกหยานชิงเจ๋อจับได้จริงหรือ? !
ซูสือจิ่นรู้สึกกระวนกระวาย
เพียงแต่เมื่อเห็นรูปภาพนี้และเมื่อเห็นข้อความใต้ภาพที่หยานชิงเจ๋อเขียน
เขาพูดว่า: “เสี่ยวจิ่น อาจเป็นเพราะว่าคุณกลับมา ในที่สุดวันนี้ผมก็สามารถนอนหลับดี ๆสักครั้งแล้ว ตอนที่คุณเข้าใกล้ผม ผมรู้สึกได้ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้นและผมไม่กล้าตื่นจากความฝัน จนกระทั่งผมเห็นรูปภาพบนเวยป๋อโดยบังเอิญ ผมถึงรู้ว่าคุณเคยกลับมา แต่ก็พลาดโอกาสอีกแล้ว
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทุกวันผมนอนไม่หลับเลย แม้แต่ในฝันยังฝันถึงแต่คุณ คุณสามารถให้โอกาสผมได้อธิบายหน่อยได้ไหม? ผมเฝ้ารอวันที่คุณกลับมา กลับมาที่เรือนหอของเรา
เพราะในใจของผมนั้น คุณเป็นภรรยาของผมเสมอ และผมรักคุณ ”
หลังจากที่ซูสือจิ่นอ่านข้อความนั้นแล้ว เกือบจะทำโทรศัพท์ของเธอตกหล่นลงพื้น
ข้าง ๆเธอ หญิงสาวที่เช่าห้องอยู่ด้วยกันกับเธอ ดูท่าทางเธอผิดปกติ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงถามเธอว่า: ” Fiona คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
ซูสือจิ่นได้สติกลับคืนมา และส่ายหัวให้กับหญิงสาว แล้วมองดูโทรศัพท์อีกครั้ง