ตอนที่ 374 ตลาดนัด

ตอนที่ 374 ตลาดนัด

“แต่แล้วทำไมถึงเลือกชื่อแบบนี้ล่ะ? จักรพรรดินีไม่เปลี่ยนชื่อให้เธอเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่เข้าใจ ถึงเธอจะดูน่าเกลียด แต่ก็ไม่ควรใช้คำว่า ‘น่าเกลียด’ เป็นชื่อเรียกหรือเปล่า?!

“ไม่มีทางหรอก พ่อแม่ของเธอได้รับชื่อนี้มา ชื่อของเงือกจะถูกเลือกตั้งแต่แรกเกิด และจะเปลี่ยนไม่ได้อีกตลอดชีวิต!”

เข้าใจแล้ว!

สวี่หลิงอวิ๋นมองสาวรับใช้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอสวยมากแต่กลับถูกเรียกว่าน่าเกลียดอย่างนั้นเหรอ?

ทันใดนั้นเธอก็นึกบางอย่างออก เธอไม่มีหางปลาด้วยซ้ำ เธอจะไม่ดูน่าเกลียดในสายตาชาวเงือกเชียวเหรอ!?

เสี่ยวอ้ายสะบัดหางและพูดว่า “โฮ่ง! ในสายตาของชาวเงือก พวกต่างถิ่นก็น่าเกลียดทั้งนั้น ไม่ใช่แค่มนุษย์หรอก”

สวี่หลิงอวิ๋นประหลาดใจ “แต่แล้วทำไมลูกสาวคนโตของตระกูลเงือกถึงมาตกหลุมรักองค์ชายแห่งจักรวรรดิไอเดนได้ล่ะ? นึกภาพสาวแสนสวยที่ต้องมาดูแลอสุรกายสุดน่าเกลียดไม่ออกเลยแฮะ ไม่แปลกใจที่จักรพรรดิเงือกจะเกลียดมนุษย์ขนาดนี้”

เสี่ยวอ้ายยิ้มและพูดว่า “โฮ่ง! ตอนที่จักรพรรดิเงือกยังเด็ก เขาเคยเปลี่ยนหางปลาเป็นขาและมาที่จักรวรรดิมนุษย์ด้วยนะ แต่เพราะเขาดูดีมาก เขาเลยถูกพวกผู้ชายไล่ตามอย่างกับสาวน้อย จนทำให้จักรพรรดิเงือกโกรธแทบบ้า”

“หางปลาของพวกเงือกกลายเป็นขาได้จริงเหรอ?!” สวี่หลิงอวิ๋นถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ นี่มันไม่ดูเหมือนลูกสาวแห่งเจ้าท้องทะเลในเทพนิยายไปหน่อยเหรอ?

องค์หญิงเงือกเปลี่ยนหางปลาให้กลายเป็นขายังต้องชดใช้ด้วยราคาอันแสนแพง ไม่รู้ว่าเงือกพวกนี้จะมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรด้วยไหม?

“โฮ่ง! ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น แต่ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะลดลงทันทีที่ขึ้นมาจากน้ำ ยกตัวอย่างเช่นจักรพรรดิเงือกที่เลื่อนขั้นมาถึงสิบดาวตอนปลายแล้ว แต่หากเขาขึ้นมาเหนือน้ำเมื่อไหร่ สิบดาวของเขาจะตกลงไปอยู่ในตอนต้น โฮ่ง!”

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เงือกไม่เต็มใจจะออกมาจากดาวสมุทร

เหตุผลที่สองเป็นเพราะพวกเขาเกิดมางดงามเกินไป มีเงือกจำนวนไม่น้อยที่แอบหนีออกไปแล้วถูกมนุษย์จับได้ จนตอนนี้พวกเขายังไม่กลับมา ดังนั้นจักรพรรดิเงือกจึงไม่อนุญาตให้ชาวเงือกออกไปจากดาวสมุทรเด็ดขาด

“พูดตามตรงนะโฮ่ง เสี่ยวอ้ายก็อยากรู้เหมือนกัน!” เสี่ยวอ้ายพูด “ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิเงือกจะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับองค์ชายแห่งไอเดนโฮ่ง!”

ดอลลี่ เงือกสาวรับใช้แหวกว่ายไปมาอย่างเชื่องช้า หางเธอแกว่งไปแกว่งมา ดูงดงามราวกับสิ่งมีชีวิตในเทพนิยาย

สวี่หลิงอวิ๋นจิตนาการไม่ออกว่าสาวสวยอย่างดอลลี่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ประหลาดน่าเกลียดในเผ่าพันธุ์เงือกได้อย่างไร?

“โฮ่ง! นายท่าน อย่าประเมินดอลลี่ต่ำไป ความแข็งแกร่งของดอลลี่ไม่น้อยไปกว่าจักรพรรดิเงือกเลย!”

เสี่ยวอ้ายพูดกับสวี่หลิงอวิ๋นว่า “ไม่อย่างนั้นจักรพรรดิเงือกจะปล่อยให้สัตว์ประหลาดน่าเกลียดมาเป็นสาวรับใช้ได้ยังไง หน้าที่หลักของเธอคือการปกป้องจักรพรรดินี!”

หากเป็นเช่นนั้นมันคงเป็นการไม่ให้เกียรติกัน…

การที่จักรพรรดินีเงือกเต็มใจปล่อยให้สาวรับใช้ผู้ทรงพลังมาเป็นมัคคุเทศก์ให้พวกเธอ มันคือความตั้งใจของจักรพรรดินี

ขณะที่กำลังแหวกว่ายไปกับสาวรับใช้ดอลลี่ พวกเธอสังเกตเห็นกลุ่มองครักษ์เงือกที่ถือตรีศูล

ทันทีที่กลุ่มองครักษ์เห็นสาวรับใช้ดอลลี่ พวกเขาก็หยุดกวัดแกว่งหางปลาเพื่อทำความเคารพและจากไป

ดอลลี่พูดน้อยมากและแทบจะไม่พูดอะไรออกมา เธอพาทั้งสามไปยังสถานที่ที่ดูมีชีวิตชีวาและคล้ายคลึงกับตลาดเล็กน้อย เธอหยุดและพูดว่า “นี่คือตลาดนัดที่เป็นจุดเด่นของพวกเรา พวกท่านสามารถนำของที่ไม่ต้องการแล้วมาแลกเปลี่ยนสิ่งที่เป็นประโยชน์กับอีกฝ่ายได้”

ตลาดนัด?

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกสนใจทันทีที่ได้ยินคำนี้ คำว่าตลาดนัดเป็นชื่อเดียวกันกับตลาดนัดในชาติที่แล้วของเธอ ไม่รู้ว่าเงือกบางส่วนจะมีส่วนเชื่อมโยงกับบรรพบุรุษที่ก้าวข้ามกันมาบ้างหรือเปล่า?

สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือเพื่อให้เสี่ยวอ้ายและนากาหยุดเคลื่อนไหว องครักษ์ที่อยู่ข้างหลังองค์หญิงสามต่างรู้สึกสนใจและติดตามเธอเข้าไปดู

ภายในตลาดนัดเต็มไปด้วยเงือกหนุ่มผู้หล่อเหลาและเงือกสาวแสนสวย พวกเขาจับจ้องมาที่สวี่หลิงอวิ๋นและพวกมนุษย์ที่เหลือ รวมถึงอสุรกายขายาวกับเอเลี่ยน ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นความประหลาดใจเมื่อมองดูเหล่ามนุษย์ ราวกับผู้คนที่มองดูกลุ่มลิงในสวนสัตว์

เงือกทั้งหลายกระซิบกระซาบกัน ขณะที่สายตาก็จับจ้องไปที่กลุ่มของสวี่หลิงอวิ๋น เงือกบางตัวถึงกับเอื้อมมือออกมาจะสัมผัสใบหน้าของพวกเธอ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะความน่าเกรงขามของดอลลี่ที่กดดันให้เหล่าเงือกถอยออกไป พวกเขาก็คงจะได้สัมผัสจริง ๆ

องครักษ์รู้สึกไม่คุ้นเคยนัก พวกเขากลายเป็นฝูงลิงในสวนสัตว์ตั้งแต่เมื่อไหร่?

สวี่หลิงอวิ๋นชอบอิสระและความเรียบง่าย เธอเริ่มโบกมือทักทายเงือกเหล่านั้น

“ฮัลโหล เพื่อนชาวเงือกทั้งหลาย เราเป็นมนุษย์ องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน!”

การปรากฏกายทั้งหลายทำให้ชาวเงือกรู้สึกทึ่ง ดวงตาของพวกเขาแวววาวราวกับค้นพบทวีปแห่งใหม่ เหมือนกับมนุษย์ที่เห็นหมาแมวพูดได้

“พวกเขาพูดได้!”

“ไม่เห็นเหมือนที่พ่อมดพูดเลย พ่อมดบอกว่าพวกมนุษย์โง่เง่าไม่ใช่เหรอ? แล้วพวกมนุษย์พูดได้ยังไง?”

“ฉันเคยได้ยินมาว่าพวกมนุษย์หยิ่งยโส หยาบคาย และอำมหิต แต่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกเขาใส่เสื้อและดูสะอาดสะอ้านกันด้วย?”

“น่าเกลียดจัง พวกเขาไม่มีหางปลาด้วยซ้ำ! น่าเกลียดกว่าดอลลี่อีก!”

ใบหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นบูดบึ้งขณะฟังเสียงกระซิบของพวกเงือก เจ้าพวกนั้นกำลังบอกว่าเธอน่าเกลียด!

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาดูดีกันหมด เธอคงจะแก้แค้นจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็หยิบอาหารอันโอชะจำนวนหนึ่งออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ

“ใครอยากจะแลกเปลี่ยนของกับเราบ้าง? ของของเราอร่อยและน่ากินมากนะ พวกเธออยากจะลองดูไหม?”

สวี่หลิงอวิ๋นค้นพบว่าเงือกเหล่านี้สามารถสูดดมกลิ่นได้ดีมาก ถึงแม้ว่าอาหารของเธอจะจืดชืด แต่พวกเงือกก็ยังสามารถสูดดมกลิ่นอาหารอันแสนอร่อยได้อยู่ดี พวกเขารู้สึกราวกับกำลังมองดูสิ่งของที่น่าอร่อย ก่อนจะหยิบกล่องที่อยู่ด้านล่างออกมาทีละคน

“ฉันมีไข่มุกดำที่มีขนาดเท่ากับไข่ เธอลองเอามันกลับไปร้อยเป็นสร้อยคอดูสิ มันสวยมากเลยนะ!” เงือกหนุ่มรูปงามพูดขึ้น

ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่กุนเชียง เขาอยากลิ้มลองรสชาติของมัน มันจะต้องอร่อยมากแน่

สวี่หลิงอวิ๋นหยิบหม้อไข่มุกดำขึ้นมาตามที่เงือกหนุ่มพูดไว้ ไข่มุกดำคือของล้ำค่าสำหรับจักรวรรดิชิงเหย้า แต่ในสายตาของเงือกหนุ่ม มันเป็นเพียงหม้อไข่ที่นำมาแลกเปลี่ยนเป็นกุนเชียงตามความต้องการเท่านั้น

สวี่หลิงอวิ๋นรีบนำหม้อไข่มุกดำใส่ลงไปในปุ่มมิติกักเก็บ และยื่นกุนเชียงให้กับเงือกหนุ่ม

“แลกกับกุนเชียง…”

ทอด…

ก่อนที่สวี่หลิงอวิ๋นจะทันได้พูดจบ เงือกหนุ่มก็หยิบกุนเชียงเข้าไปในปากเสียก่อน หลังจากกัดกินเพียงไม่กี่คำ รอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏขึ้น

“อร่อยมาก!” สายตาของเงือกหนุ่มจับจ้องไปที่กุนเชียงสิบกว่าอันในมือของสวี่หลิงอวิ๋น