ตอนที่ 410 ขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 410 ขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้

มู่เถาเยากับพวกลู่จือฉินอยู่ในเขตป่าชั้นในหนึ่งสัปดาห์ก็ออกมา ไม่เพียงแต่เข่งของแต่ละคนจะมีสมุนไพรอยู่เต็ม ในมือก็ยังถือเป็นมัดๆ

สองพี่น้องตระกูลน่าหลานไม่เคยเห็นสมุนไพรเยอะขนาดนี้มารวมอยู่ในมือตัวเอง ดีใจจนยิ้มไม่หุบ!

เข้าเขตป่าชั้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะได้สมุนไพรชั้นดี ยังได้เห็นความมหัศจรรย์และอันตรายของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

ประสบการณ์มากขึ้น ฝีมือต่อสู้ก็เพิ่มขึ้น ออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว สองพี่น้องตระกูลน่าหลานพึงพอใจมาก

ตี้อู่หลันฉือยิ้มพูด “ตอนนั้นพ่อของหนูก็มีความสุขแบบพวกคุณอาเลยค่ะ แต่ตอนนั้นคนเยอะ มีช่วยดูแลไม่ทันเวลาบ้าง หลายคนเลยบาดเจ็บมากน้อยแตกต่างกันไป”

น่าหลานรั่วเซิง “คุณพ่อของเธอก็เคยเข้ามาแล้วเหรอ”

“ค่ะ เสี่ยวเยาเยาพาคนกลุ่มใหญ่เข้ามาฝึกฝน”

น่าหลานรั่วหง “เสี่ยวเยาเยาใจกล้ามาก แต่ก็มีแค่คนฝีมือล้ำเลิศถึงจะไม่กลัว”

อยากเข้าเขตป่าชั้นในต้องมีทั้งสมองและพละกำลัง มิฉะนั้นคงต้องเป็นแบบพวกเขา มีผู้เชี่ยวชาญคอยคุ้มกัน

มู่เถาเยายิ้มพูด “หนูตามอาจารย์ใหญ่กับอาจารย์รองเข้าไปเก็บสมุนไพรตั้งแต่เด็กค่ะ”

พวกเขาพักผ่อนที่ใต้ต้นท้อใหญ่สักพักก็เหาะกลับ

ตอนถึงบ้านเห็นทุกคนอยู่กันครบ

รู้ว่าพวกเขาครบสัปดาห์ก็ออกมากัน ทุกคนจึงไม่มีใครออกไปไหน รอพวกเขากลับมาอยู่ที่บ้าน

พอได้เห็นกับตาแล้วถึงวางใจได้อย่างสิ้นเชิง

พวกมู่เถาเยาปลดของบนตัวออกทั้งหมด เรือนหลังน้อยอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรขึ้นมาทันตา

“อาจารย์ใหญ่คะ พวกเราเจอไม้หอมกฤษณาขาวด้วยค่ะ! เยอะมากด้วย!” มู่เถาเยาตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็ก

หยวนเหยี่ยพูดด้วยความดีใจ “จริงเหรอ ไหนดูหน่อย!”

ทุกคนหอบสมุนไพรจากเข่งของตัวเองออกมา เผยให้เห็นไม้หอมกฤษณาขาวเป็นชิ้นๆ

หยวนเหยี่ยหยิบขึ้นมาสำรวจดูแล้วตั้งใจดม “นี่เป็นสมุนไพรชั้นดีเลยนะ”

มู่เถาเยายิ้มตาโค้งพลางพยักหน้า

ตี้อู๋เปียนก็หยิบขึ้นมาสังเกตดู “ป่าเซียนโหยวมีไม้หอมกฤษณาขาวด้วย! คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเสียอีก” แน่นอนว่าไม่นับพวกของปลอมที่อยู่ในท้องตลาด!

มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “รออากาศอุ่นขึ้นฉันค่อยไปขุดต้นกล้ากลับมาลองปลูกในป่ากฤษณาของพวกเรา”

ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “เอาสิ กฤษณาเป็นต้นไม้ที่โตในป่าชื้นเขตร้อน ขนาดในเขตป่าชั้นในยังอยู่รอดได้ ข้างนอกก็ต้องอยู่ได้แน่นอน”

“อืม” เธอเองก็คิดแบบนั้น

สวีเสี่ยวเจิงถาม “ดูเหมือนกฤษณาจะใช้เป็นยาด้วยใช่ไหม”

ลู่จือฉินยิ้มตอบ “ไม้หอมกฤษณาเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่ช่วยชีวิตได้ ถ้าหายใจไม่ออกให้อมแผ่นเล็กๆ ไว้ในปากไม่กี่นาทีก็จะอาการดีขึ้นค่ะ”

อวี้อวี๋ “วิเศษขนาดนั้นเลย! ฉันรู้แค่ว่ากฤษณาช่วยผ่อนคลายร่างกายและจิตใจได้ ช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า”

มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “น้าอวี้คะ ไม้หอมกฤษณาแตกต่างจากกฤษณาทั่วไป มันช่วยให้ใจสงบ ผ่องใส จิตใจเบิกบานได้ มูลค่าทางยาสูงมากเลยนะคะ”

น่าหลานรั่วหง “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นไม้หอมกฤษณาขาวก็เอาไว้ให้เสี่ยวเยาเยาทำยาหมดเลยแล้วกัน” ก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้ว่าไม่ว่าจะเก็บสมุนไพรอะไรได้ก็จะแบ่งตามจำนวนคน

ตี้อู๋เปียนเปลี่ยนจากมือขวาถือกฤษณาเป็นมือซ้ายแล้วยกมือขวาขึ้นมาดม “ไม้หอมกฤษณาขาวเป็นราชาแห่งความหอม แค่จับก็ทิ้งกลิ่นหอม กลิ่นหอมของมันเป็นกลิ่นที่ผสมผสานกลิ่นน้ำผึ้ง กลิ่นกล้วยไม้ กลิ่นเก๊กฮวย กลิ่นนม กลิ่นจันทน์ เอาไว้ด้วยกัน กลิ่นฉุนแต่ช่วยให้สดชื่น”

อาจารย์แม่รองยิ้มพูด “จำได้ว่ามีคำพูดหนึ่ง สามชาติสั่งสมผลบุญ ชาตินี้ได้สัมผัสไม้หอมกฤษณา สมัยโบราณมันยังถูกมองเป็นของวิเศษด้วย เห็นว่าพกไว้ติดตัวจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ นำโชคดีเข้าตัว อยู่มาจนอายุปูนนี้เพิ่งเคยเห็นไม้หอมกฤษณาขาวเป็นครั้งแรก”

ลู่จือฉิน “ถ้าไม่มีวาสนาก็ยากที่จะได้พบเจอค่ะ”

ทุกคนพยักหน้า

ตี้อู๋เปียนแอบคิด ซาลาเปาน้อยดวงดีใช้ได้ คนที่ดวงไม่ดีน่าจะเป็นเหมียวอวี้ ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ควรจะเจอดอกพันวันไม่ใช่ไม้หอมกฤษณาขาว

น่าหลานรั่วเซิงยิ้มพูด “ในเมื่อไม้หอมกฤษณาขาวช่วยชีวิตคนได้ งั้นพวกเราก็ใช้มันให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ยกให้คนที่ใช้มันเป็น พวกเราเอาไปก็ทำได้แค่ใส่เตารมกลิ่น เสียของเปล่าๆ”

คนตระกูลน่าหลานรู้ว่ากฤษณาเป็นของล้ำค่ามีราคา แต่ไม่รู้สรรพคุณทางยาของมัน

เมื่อก่อนพวกเขาซื้อกฤษณาก็เพื่อไปรมกลิ่นหอมให้พ่อแม่

“ไม้หอมกฤษณาเป็นสมุนไพรต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ มีผลทางการรักษาโรคต่างๆ อาทิ ระบบหลอดเลือดหัวใจและสมอง ระบบย่อย ระบบประสาท ทั้งยังช่วยกระตุ้นและปรับการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายได้อีกด้วย…” มู่เถาเยายิ่งพูดยิ่งมีความสุข

อวี้อวี๋ยิ้มกว้าง “สมุนไพรดีขนาดนี้ งั้นยิ่งต้องเอาไปใช้รักษาโรค”

ถังถังกับตี้อู่หลันฉือพยักหน้าพร้อมกัน

มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “พวกสมุนไพรประเภทบำรุงสุขภาพทุกคนแบ่งกันนะคะ หนูกับอาจารย์สามเอาแค่สมุนไพรรักษาโรคก็พอค่ะ”

น่าหลานรั่วเซิงส่ายมือ “เสี่ยวเยาเยา สมุนไพรรักษาโรคใช้กับคนป่วย ไม่เพียงแต่จะไม่เกี่ยวข้องกับเธอและอาจารย์สาม พวกเธอยังต้องลงแรงอีกด้วย พวกเราจะเอาที่เหลือมาแบ่งกันได้ยังไง”

สวีเสี่ยวเจิงพยักหน้า “นั่นสิ เอาตามเดิมดีกว่า สมุนไพรบำรุงสุขภาพแบ่งตามจำนวนคนยกเว้นสมุนไพรรักษาโรค”

ถังถังกับตี้อู่หลันฉือก็ต้องการแบบนั้น

“ก็ได้ค่ะ งั้นต่อไปถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกหนูกับอาจารย์สามเข้าเขตป่าชั้นในด้วยกันได้นะคะ”

น่าหลานรั่วหง “ต้องแบบนี้สิ ต่อไปก็เอาแบบนี้ สมุนไพรที่ใช้รักษาคนพวกเราไม่เอาหรอก”

“ได้ค่ะ”

ตี้อู๋เปียนเดินเข้าไปถามมู่เถาเยา “ซาลาเปาน้อย บาดเจ็บกันหรือเปล่า ไม้หอมกฤษณาขาวปกติชอบขึ้นตามป่าหนองน้ำ รอบๆ มีงูพิษมีสัตว์แปลกๆ ปกป้องอยู่”

ตอนเขากลับมาพวกมู่เถาเยาเลยป่ากฤษณาไปแล้ว จึงไม่ได้ถามเรื่องเส้นทางที่พวกมู่เถาเยาเดินผ่านมา สนใจแค่เส้นทางที่มุ่งหน้าต่อ

อาจารย์แม่รองได้ฟังก็เข้าไปจับมู่เถาเยาแล้วสำรวจทั่วตัวทันที

คนอื่นๆ ก็ทำแบบนั้น

มู่เถาเยายิ้มพูด “อาจารย์ อาจารย์แม่คะ ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่เป็นอะไรค่ะ จะว่าไปก็น่าแปลก ไม้หอมกฤษณาขาวพวกนั้นไม่ได้ขึ้นตรงหนองน้ำ อีกทั้งรอบๆ ก็มีงูพิษไม่เยอะ สัตว์แปลกๆ มีแค่ตัวสองตัว…ตอนเก็บไม้หอมกฤษณาราบรื่นมาก”

“…เป็นไปได้ว่าสวรรค์รู้ว่าเสี่ยวเยาเยาต้องการเอาของพวกนี้ไปช่วยรักษาคน ก็เลย…” อวี้อวี๋พูดไปก็รู้สึกว่าน่าขำ แต่ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นที่สมเหตุสมผลแล้ว

สวีเสี่ยวเจิง “ไม่ว่ายังไงกลับมาอย่างปลอดภัยก็เป็นเรื่องดี พวกเราเลิกคิดเรื่องนี้เถอะ”

ทุกคนต่างพยักหน้า

หยวนเหยี่ยวางไม้หอมกฤษณาขาวในมือลงในเข่งแล้วพูดกับสองพี่น้องน่าหลาน ถังถัง ตี้อู่หลันฉือ “พวกเธอกลับไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเย็นกัน”

“ได้ครับ”

พวกเขาพากันออกไป กลับบ้านตระกูลเย่ว์

“เสี่ยวเยาเยา จือฉิน ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวน้ากับหันซู เสี่ยวอิน จะแยกประเภทสมุนไพรให้”

“ค่ะ”

หลังจากสองศิษย์อาจารย์ขึ้นชั้นบนไปแล้ว คุณนายทั้งสองกับลูกๆ สามคนของตระกูลน่าหลานอยากช่วยจัดการสมุนไพร แต่กลับถูกหยวนเหยี่ย ลู่หันซู และปาอินห้ามไว้

“สมุนไพรบางชนิดในนี้มีพิษ โดยเฉพาะเข่งของถังถัง มีพิษทั้งนั้น อย่าแตะต้องนะ”

คนตระกูลน่าหลานถอยออกอย่างกระอักกระอ่วน

อาจารย์แม่รองยิ้มพูด “เสี่ยวถังถังชอบของพวกนี้ ห้องของเธอก็ห้ามเข้าส่งเดชเลยนะ ขาดก็แค่เลี้ยงงูพิษไว้ในห้องแล้วล่ะ”

สวีเสี่ยวเจิงกับอวี้อวี๋มองหน้ากัน พวกเธอยังกล้าอยากได้สะใภ้แบบนี้กันอีกไหม

คนเป็นแม่มองน่าหลานอวิ๋นเหอด้วยสีหน้าสงสาร

น่าหลานอวิ๋นเหอ “…?”