ตอนที่ 409 โลกใบใหญ่ของเหล่าอวี๋ผอ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 409 โลกใบใหญ่ของเหล่าอวี๋ผอ

ตอนที่ 409 โลกใบใหญ่ของเหล่าอวี๋ผอ

“คุณย่าคะ ของเหล่านี้มันไม่เลวเลยใช่ไหม คุณ…” ซูเถากล่าว

ก่อนที่เธอจะพูดจบเหล่าอวี๋ผอก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น

“เถาเถา ให้คนมาช่วยขนของไปให้ฉันหน่อย วันนี้ฉันจะทำให้เห็นว่าของจริงมันเป็นยังไง”

ผู้คนที่กำลังส่งเสียงดังก็เงียบลงทันที

“เรียกคนมาสักสองคนช่วยขนของไปให้อวี๋ผอผ่อหน่อยนะคะ” ซูเถาส่งสัญญาณให้สวีฉี

“สองคนไม่พอ นาย นาย และนายมากับฉันให้หมด” เหล่าอวี๋ผอชี้ทีละคน

เมื่อทุกคนมาถึงห้องทำงานของเหล่าอวี๋ผอ พวกเขาก็ยกผ้ากันฝุ่นออก ปืนพลังงานนิวเคลียสที่ได้รับการปรับแต่งอย่างดีก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน

ทันใดนั้น เหมือนว่าโลกทั้งใบเงียบลงจนแทบได้ยินเสียงเข็มหล่น

เหล่าอวี๋ผอสุ่มหยิบปืนขึ้นมาหนึ่งกระบอกแล้วยื่นให้ซูเถา “ลองอีกทีสิ แล้วดูว่าได้ผลแค่ไหน”

ซูเถากลืนน้ำลายอึกใหญ่ และนึกถึงปืนพลังงานนิวเคลียสที่ปรับแต่งของเหล่าอวี๋ผอเมื่อครั้งที่แล้ว หนึ่งนัดจะใช้พลังงานถึงหนึ่งในสามของผลึกนิวเคลียส

ปืนพลังงานนิวเคลียสที่ฉางจิงออกแบบนั้นใช้พลังงานน้อยกว่าเล็กน้อย มันใช้พลังงานเพียงหนึ่งในสี่ของผลึกนิวเคลียสเท่านั้น

เหล่าอวี๋ผอทุ่มเทให้กับการปรับปรุงและปรับแต่งมัน ตอนนี้เธอก็หยิบมันออกมาอย่างมั่นใจเพื่อให้ซูเถาได้ลอง คาดว่าน่าจะสู้ปืนพลังงานนิวเคลียสของฉางจิงได้

ซูเถาหยิบปืนขึ้นมา สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ปืนในมือหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ

หลังออกจากสตูดิโอของเหล่าอวี๋ผอ ซูเถาก็ยิงปืนขึ้นฟ้า จากนั้นทุกสายตาก็มองไปที่พลังงานของมัน และซูเถาก็ต้องตกตะลึง

ผู้คนที่รออยู่ข้าง ๆ ต่างส่งเสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้น “เป็นยังไงบ้าง หัวหน้า ผมคิดว่าพลังของมันไม่เลวเลย แต่ไม่รู้ว่าการกินพลังงานเป็นยังไงบ้าง…”

ซูเถาจ้องมองไปที่เหล่าอวี๋ผอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “มันใช้พลังงานไปเพียงหนึ่งในเจ็ด คุณทำได้ยังไงคะ…”

มันสามารถยิงได้เจ็ดนัดติดต่อกัน…

ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ ต้องเตรียมผลึกนิวเคลียสไปจำนวนมาก ทว่าอาวุธดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเถาหยางได้สองเท่า

มีเสียงลุกฮือมาจากผู้คนที่อยู่รอบ ๆ

“ทึ่งไปเลยล่ะสิ?” เหล่าอวี๋ผอเปล่งเสียงและถามอย่างภูมิใจ

“คุณทำให้พวกเราได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์นี้ คุณเป็นที่รักของเถาหยางจริง ๆ” ซูเถาพูดทันที

ทุกคนยกย่องเหล่าอวี๋ผอทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมมากจริง ๆ คนคนหนึ่งสามารถเอาชนะทีมวิจัยและพัฒนาอาวุธทั้งหมดของฉางจิงได้

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว อาวุธที่ฉางจิงส่งมาดูเหมือนจะไม่ร้ายกาจเท่ากับอาวุธที่กองอยู่ในห้องของเหล่าอวี๋ผอ

หญิงชราพยายามอย่างเต็มที่และจริงจังกับมันมาก แต่เสี่ยวอวี๋ยังคงสังเกตเห็นมุมปากที่อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นของเธอ

“ฮ่าฮ่า…” เสี่ยวอวี๋เกาหัวของเขาแล้วหัวเราะ

เหล่าอวี๋ผอหันหลังให้ซูเถาแล้วถามหลานชายตัวแสบทันที “หัวเราะอะไรน่ะ”

……

เมื่อมีอาวุธเหล่านี้ ทำให้แผนกรักษาความปลอดภัยของเถาหยางแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ซูเถายังใจกว้างและมอบผลึกนิวเคลียสให้พวกเขาแต่ละคนเพื่อเป็นพลังงานสำรอง เป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตพวกเขาได้

ทุกคนตื่นเต้นมาก เพราะว่าอาวุธพลังงานนิวเคลียสนั้นหายาก ปกติแล้วทางฉางจิงจะมอบให้แต่ละฐานอย่างน้อย 1-2 กระบอกหรือมากที่สุดก็ 5-6 กระบอกเท่านั้น

แต่แผนกรักษาความปลอดภัยในเถาหยางของพวกเขา ทุกคนต่างก็มีอาวุธอยู่ในมือ และยังเหลือกองอาวุธที่ยังไม่มีผู้ครอบครองในห้องของเหล่าอวี๋ผออีก

ซูเถานำปืนออกมา 10 กระบอก แล้วส่งไปให้ทางตงหยาง ส่วนที่เหลือจะถูกสงวนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ของกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยาง

มีทั้งกำลังพล ทั้งอาวุธ ในที่สุดเถาหยางก็ถือได้ว่าเป็นฐานทัพที่แท้จริง

แม้ว่าเถาหยางจะไม่มีโดมป้องกัน แต่ถ้าพวกเขาต้องการโจมตีเถาหยาง พวกเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักกับอาวุธพลังงานนิวเคลียสที่เถาหยางมีมากมายในมือ

หลังจากนี้ซูเถาจะได้นอนหลับอย่างสนิทโดยไร้ซึ่งความกังวล

และในต้นเดือนสิบเอ็ดก็มีข่าวดีมาจากขบวนรถที่มุ่งหน้าไปยังชายฝั่ง ว่าพวกเขาไปถึงฐานชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดได้สำเร็จแล้ว อีกทั้งยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ในเวลาเพียงหนึ่งวัน เสบียงที่นำไปถูกจองจนหมดเกลี้ยง และได้ผลึกนิวเคลียสมาถึง 3,000 อันจากการมัดจำเพียงอย่างเดียว

ซูเถาเอามือทาบอกและพูดกับกู้หมิงฉือทางโทรศัพท์ว่า “ขอบคุณ”

ผลประโยชน์มหาศาลนี้ทำให้เธอแทบหลั่งน้ำตาออกมา

ซูเถามีความสุขจนเอ่อล้น จากนั้นก็ทำการเลื่อนตำแหน่งและเงินเดือนของลูกน้องรอบข้างทีละคน

ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจแล้วว่า หากเถ้าแก่ซูมีความสุข บอสกู้มีความสุข พวกเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือน

ดังนั้น องค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนขั้นและขึ้นเงินเดือนก็คือ เถ้าแก่ซูจะต้องมีความสุข

ในส่วนของกู้หมิงฉือ เขาจำได้ว่าเมื่อเขาไปเถาหยางเพื่อเยี่ยมคุณปู่ของเขาครั้งล่าสุด เขาไม่เห็นรถบ้านที่เขามอบให้ซูเถา แต่เห็นเพียงรถบัสสีชมพูหวานแหวว

เขาจึงถามออกมาน้ำเสียงห้วน ๆ “รถที่ผมให้คุณก่อนหน้านี้อยู่ที่ไหน”

ซูเถาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ “มันจอดอยู่ในโรงรถของฉัน เพราะว่าตอนนี้ฉันไม่ได้นำออกไปใช้ แต่อย่างไรก็ตามฉันขอให้ทางเขตตะวันออกเตรียมตัวเอาไว้ เมื่อทีมที่ออกไปค้นหาผลึกนิวเคลียสกลับมา ฉันก็จะสามารถควบรวมเขตตะวันออกได้ทันที”

ซอมบี้ยังไม่ถูกกำจัดออกไปจริง ๆ และบางแห่งยังคงถูกโจมตีจากซอมบี้อยู่ มีผู้คนไม่น้อยตกอยู่ในสภาวะคับขัน รอบนอกของเขตตะวันออกนับว่าเป็นพื้นที่อันตรายเช่นกัน ดังนั้นจะต้องควบรวมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ซูเถาไม่ได้มีอิทธิพลในการควบรวมพื้นที่ต่าง ๆ สถานที่เหล่านี้อยู่ภายใต้ปีกของเธอเท่านั้น แต่เธอไม่มีสิทธิ์ในการเข้าไปจัดการสถานที่เหล่านั้นได้

ด้วยเหตุนี้ ฐานหลายแห่งจึงมาที่เถาหยางเพื่อถามว่าพวกเขาสามารถเป็นหนึ่งในนั้นได้ไหม พวกเขาเต็มใจมอบสิทธิ์การจัดการให้ครึ่งหนึ่ง

เมื่อเผชิญกับการเอาชีวิตรอด อำนาจก็ไร้ค่า

ซูเถามองดูพวกเขาด้วยความงุนงง เธอไม่เคยจัดการกับฐานเหล่านี้ และบางฐานเธอก็ไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ

หลังจากส่งคนเหล่านี้ไปแล้ว จวงหว่านก็ถอนหายใจยาว

“ฉันยังคงหวังว่าคุณเสิ่นและทีมจะสามารถพัฒนายาและวัคซีนได้ในเร็ววัน ได้ยินว่าบางพื้นที่ได้ข่าวการพบซอมบี้กลายพันธุ์แล้ว ผู้บริหารระดับสูงของฐานก็ค้นพบว่าวิธีปฏิบัติของซอมบี้กลายพันธุ์นั้นคล้ายมนุษย์ สงสัยว่าซอมบี้พวกนั้นปลอมตัวเป็นมนุษย์ และสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนอย่างมาก”

“ช่วงนี้รบกวนพี่คัดกรองผู้มาเยือนอย่างเข้มงวดด้วยนะคะ หากมีการหลุดลอดเข้ามาที่เถาหยางก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันแอบเข้าไปในฐานการวิจัยและทำลายความคืบหน้าการวิจัยของคุณเสิ่นเข้า มันจะเป็นอันตรายได้” ซูเถาพูดอย่างจริงจัง

“ไม่ต้องกังวล! ฉันได้คุยกับคุณเสิ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาก็ให้สเปรย์ชนิดหนึ่งมา ถ้าฉีดใส่มนุษย์จะไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ใด ๆ หากฉีดลงบนตัวซอมบี้กลายพันธุ์ รูม่านตาของซอมบี้จะขยายออก ฉันจะลองดูเอง” จวงหว่านพยักหน้าอย่างหนักแน่น

ซูเถารู้สึกโล่งใจ

ในเวลาเดียวกัน ไซเรนก็เดินไปรอบ ๆ ฐานโส่วอัน เพื่อค้นหาเผ่าพันธุ์ของตนเอง

แผนของมันคือค้นหาเผ่าพันธุ์เดียวกันให้ได้อย่างน้อยสามตัว จากนั้นจึงจะสามารถไปที่ซินตูซึ่งเป็นฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดในทางใต้ได้ เพื่อเริ่มแผนการสังหารหมู่ และเปิดฉากโจมตีมนุษยชาติ

แต่มันค้นหาเป็นเวลานาน จนถึงตอนนี้ก็พบเพียงสองตัวเท่านั้น ตัวหนึ่งคือฮว่าผีที่ถูกพาตัวไป และอีกคนคือหัวหน้าตัวเล็ก ๆ ในฐานโส่วอัน

ส่วนฮว่าผีไม่ต้องพูดถึง เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วมในแผนการฆ่าล้างมนุษย์ เพราะเธอเองก็ยังถูกมนุษย์จับตัวได้

หลังจากนั้นประมาณสิบนาที เขาก็พบคนประเภทเดียวกันในฝูงชน

ทันทีที่สบตากันพวกเขาก็หยุดชะงักไปโดยปริยาย

หลังจากการหารือกันแล้ว พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันและตัดสินใจที่จะลงมือกับฐานโส่วอันก่อน และนี่จะเป็นการส่งสัญญาณถึงเผ่าพันธุ์เดียวกันด้วยว่าถึงเวลารวมตัวกันแล้ว