บทที่ 356 ตบหน้าอวิ๋นปี้ลั่ว

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​เห็น​นาง​เช่นกัน​ ​สายตา​ของ​นาง​จับจ้อง​ไป​ยัง​รถม้า​ที่​กำลัง​เคลื่อนตัว​ออก​ไป​ ​ถ้า​นาง​จำ​ไม่ผิด​ ​รถม้า​คัน​นั้น​น่าจะเป็น​รถม้า​ของ​ตระกูล​เฮย

“​ข้า​ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​แม่นาง​เวย​เวย​กับ​คุณชาย​เฮ​ยส​นิท​สนม​กัน​มาก​ ​วันนี้​ข้า​ได้​เห็น​แล้ว​ว่า​มัน​เป็น​เช่นนั้น​จริง​”​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​พูด​พร้อม​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​อัน​อ่อนโยน​และ​งดงาม​…

เมื่อ​อีก​สอง​คน​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ก็​กระตุก​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​ ​พวกเขา​หัน​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​สายตา​ดูหมิ่น​เหยียดหยาม​ ​ราวกับ​เห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​แค่​ผู้หญิง​ใจง่าย​คน​หนึ่ง​เท่านั้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขี้เกียจ​เกิน​กว่า​จะ​สนใจ​พวกเขา​ ​นาง​อ้า​ปาก​หาว​พลาง​เดิน​ต่อไป

คุณชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ได้รับ​การ​แนะนำ​มาจาก​สี่​ตระกูล​ใหญ่​เยาะ​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ของ​นาง​ ​”​ทั้งที่​เจ้า​ควรจะ​ทำ​ภารกิจ​ของ​ตน​ให้​ดี​ ​แต่​ใคร​เลย​จะ​รู้​ว่า​จู่ๆ​ ​เจ้า​จะ​หายตัว​ไป​กลางคัน​จน​ทำให้​พวก​ข้า​ต้องหา​ตัว​ไป​ทั่วทั้ง​งาน​ประมูล​เช่นนั้น​”

อีก​คน​ตบ​บ่า​เขา​ ​”​พูด​ไป​ก็​พาล​จะ​หงุดหงิด​ขึ้น​มา​เอง​เสียเปล่า​ๆ​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​หรอก​ ​หน่วย​พิฆาต​วิญญาณ​ไม่​เหมือนกับ​ที่อื่น​ ​เรื่อง​พวก​นี้​ย่อม​ถูก​รายงาน​ให้​เบื้องบน​ทราบ​อยู่​แล้ว​ ​บรรดา​คณาจารย์​จะ​เป็น​ผู้จัดการ​เรื่อง​นั้น​ตามที่​พวกเขา​เห็นสมควร​เอง​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​พวกเขา​จะ​ต้อง​รู้​แน่ว​่า​ใคร​ที่​ทำ​ผลงาน​เอาไว้​ ​และ​ใคร​ที่​ไม่​ทำ​อะไร​เลย​สัก​อย่าง​เดียว​ ​สุดท้าย​คนที​่​จะ​ผ่านการทดสอบ​นี้​ย่อม​ไม่ใช่​ใคร​อื่น​ ​แต่​เป็น​พวกเรา​เอง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​”

“​เจ้า​พูด​ถูก​”​ ​ชาย​คน​นั้น​เยาะ​ยิ้ม​ ​แล้ว​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​สีหน้า​ดูถูก

ตอนแรก​ที่​พวกเขา​หา​ตัว​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​เจอ​นั้น​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​คิด​ว่านา​งค​งก​ลับ​มาก​่อน​เพราะ​นาง​ได้​ข้อมูล​อะไร​บางอย่าง​มา​ ​แต่​ตอนนี้​กลับกลาย​เป็น​ว่านาง​เอง​ก็​เพิ่งจะ​มาถึง​สำนัก​เหมือนกัน

เมื่อ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วจึง​พยักหน้า​ให้​กับ​คน​ทั้งสอง​เบา​ๆ​ ​รอยยิ้ม​สดใส​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​อ่อนโยน​และ​น่ามอง​ของ​นาง​ ​”​ใกล้​จะ​เช้า​แล้ว​ ​ไป​กัน​เถอะ​”

ทันทีที่​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​แล้ว​กล่าวว่า​ ​”​เวย​เวย​ได้รับ​มอบหมาย​ให้​ดูลาดเลา​ภายนอก​เป็นหลัก​ ​ต่อให้​นาง​กลับ​ไป​กลางคัน​ ​แต่​นาง​ก็ได้​ทุ่มเท​ความพยายาม​ของ​ตน​ให้​กับ​งาน​นั้นแล​้ว​ ​แต่​การ​จะ​ให้​พวกเรา​บอก​ข้อมูล​ที่​ได้มา​ร่วมกับ​เจ้า​นั้น​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เหมาะสม​เท่าใด​นัก​ ​ข้า​หวัง​ว่า​เจ้า​จะเข้า​ใจ​”

ใบหน้า​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ฉาบ​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ระหว่าง​ที่นา​งก​ล่าว​เช่นนั้น​ ​นาง​ดูเหมือน​กับ​เทพธิดา​ที่​โบยบิน​อยู่​ใน​ลำแสง​ศักดิ์สิทธิ์​อัน​อ่อนโยน​ ​บริสุทธิ์​ผ่องใส​ ​และ​ไร้​ซึ่ง​จุดด่างพร้อย​ ​ไม่มีใคร​กล้า​ทำร้าย​นาง​แม้แต่​คนเดียว

รอยยิ้ม​เย็นชา​ถูกจุด​ขึ้น​ที่​มุม​ปากของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​สายตา​ที่​แน่วแน่​ของ​นาง​แสดงให้เห็น​ว่านาง​ไม่​สะทกสะท้าน​แต่อย่างใด​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ฟัง​ดู​เยือกเย็น​ ​”​แน่นอน​ว่า​ข้า​ย่อม​เข้าใจ​ดี​อยู่​แล้ว​ ​ก็​พวก​เจ้า​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อ​จะ​สลับ​ให้​ข้า​ไปดู​ลาดเลา​ข้างนอก​นี่​นา​”

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ ​สีหน้า​ของ​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​นั้น​ก็​พลัน​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย

แต่​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​ลับ​กัด​ริมฝีปาก​บาง​ ​ความเสียใจ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​นาง​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​แหบ​พร่า​ว่า​ ​”​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ของ​องค์​ชาย​หรือ​ ​เวย​เวย​ ​เจ้า​ถึง​ได้​เข้าใจ​ข้า​ผิด​”

“​เข้าใจผิด​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่เห็นด้วย​ ​นาง​เหยียด​ยิ้ม​ ​”​ข้า​จะเข้า​ใจ​เจ้า​ผิด​ใน​เรื่อง​ใด​หรือ​ ​แล้วก็​อีก​อย่าง​ ​แม่นาง​อวิ​๋น​ ​ข้า​ต้อง​ขอ​เตือนสติ​เจ้า​ว่า​ ​เจ้า​กับ​ข้า​ไม่ได้​สนิทสนม​กัน​ถึง​เพียงนั้น​ ​ขอให้​เจ้า​เรียก​ข้าว​่า​พระ​ชายา​สาม​ด้วย​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​พระ​ชายา​สาม​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​็​กำมือ​เข้าหา​กัน​แน่น​ ​พร้อมกับ​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​สีหน้า​เจ็บปวด​ ​”​ข้า​เพียงแค่​อยาก​เป็นเพื่อน​กับ​เจ้า​เท่านั้น​ ​แต่​ในเมื่อ​แม่นาง​เวย​เวย​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ใช้​ท่าน​เป็น​บันได​ ​ก็​ปล่อย​ให้​มัน​เป็น​เช่นนั้น​ไป​ก็แล้วกัน​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หยุด​เดิน​ ​แล้ว​จ้องมอง​สีหน้า​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​โน้มตัว​เข้าไป​หา​อีก​ฝ่าย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตัว​สูง​กว่า​ความสูง​โดยเฉลี่ย​ของ​ผู้หญิง​ทั่วไป

นาง​สูง​หนึ่งร้อย​เจ็ดสิบ​เซนติเมตร​ ​ขา​ของ​นาง​เรียว​ยาว​ ​และ​มีสัด​ส่วน​ตั้งแต่​ช่วง​อก​ไป​ถึง​เอว​อย่างที่​หลาย​คน​วาด​ฝัน​เอาไว้​ ​นาง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​เสน่ห์​ ​และ​บรรยากาศ​แข็งแกร่ง​ของ​ผู้​เป็น​ราชินี

ยิ่ง​เมื่อ​อยู่​ใน​ท่าที​่​นาง​ก้มหน้า​ลง​มอง​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วที​่​ตัวเล็ก​กว่านาง​ราว​หนึ่ง​ช่วง​ศีรษะ​เช่นนี้​ก็​ยิ่ง​ดูดี​ ​นาง​ลด​เสียง​ลง​ ​และ​เผย​กลิ่นอาย​แห่ง​ความสง่างาม​ออกมา​ ​”​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​ข้า​รู้ดี​ทีเดียว​ว่า​เจ้า​มาที​่​สำนัก​ไท่​ไป๋​ทำไม​ ​เจ้า​เลิก​เสแสร้ง​ได้​แล้ว​ ​สาเหตุ​ที่​ทำให้​เฮย​จู​ปฏิเสธ​ข้า​นั้น​แม้ว่า​คนอื่น​จะ​ไม่รู้​ ​แต่​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ไม่รู้​เหมือนกัน​หรือ​ ​เจ้า​มอบ​ข้อเสนอ​อัน​ใด​ให้​นาง​หรือ​ ​ถึง​ทำให้​นาง​วิ่งเต้น​ไป​ทั่ว​และ​พยายาม​จัดการ​ข้า​ ​แม้ว่า​นั่น​จะ​หมายถึง​การ​ต้อง​ฝ่าฝืน​คำสั่ง​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ตาม​”

ทันทีที่​คำพูด​เหล่านั้น​หลุด​ออกมา​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​็​ถึงกับ​หน้า​ถอดสี​ไป​เล็กน้อย​ ​นาง​มอง​เข้าไป​ใน​ดวงตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​ความสงสัย​และ​ไม่เชื่อ​ ​พร้อมกับ​พูด​ตะกุกตะกัก​ว่า​ ​”​แม่นาง​เวย​เวย​ ​เจ้า​กำลัง​พูด​เรื่อง​อะไร​หรือ​ ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​เฮย​จู​หรือ​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำปฏิเสธ​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​หยัด​กาย​ขึ้น​ช้าๆ​ ​แล้ว​กล่าว​พร้อมกับ​ยิ้ม​ออกมา​น้อย​ๆ​ ​”​แม่นาง​อวิ​๋น​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​ข้า​รู้สึก​ชื่นชม​เจ้า​ก็​คือ​ทักษะ​การแสดง​อัน​สุด​แสน​จะ​มหัศจรรย์​ของ​เจ้า​นี่​ล่ะ​”

ทันทีที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​ใบหน้า​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​็​ยิ่ง​ซีด​ ​หาก​รวม​สีหน้า​ขมขื่น​และ​รู้สึก​ผิด​นั่น​เข้ากับ​รูปโฉม​อัน​งดงาม​ของ​นาง​ ​แล้ว​เอา​มา​เทียบ​กับ​ใบหน้า​ที่​ทั้ง​ดำ​และ​เย็นชา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​แล้ว​ละ​ก็​ ​คน​หนึ่ง​คงจะ​เป็น​เจ้าหญิงส​โนว​์​ไวท์​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​คงจะ​เป็น​ราชินี​ผู้​ชั่วร้าย

สุดท้าย​คุณชาย​สอง​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​ก็​ทน​ดูไม่ได้​อีกต่อไป​ ​”​คุณหนู​อวิ​๋น​ ​ทำไม​เจ้า​ต้อง​พูดดี​กับ​นาง​ด้วย​ ​นาง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​เลย​สัก​อย่าง​ ​ดังนั้น​ก็​ยุติธรรม​แล้ว​ที่นาง​จะ​ไม่ได้​ข้อมูล​อะไร​ไป​”

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​พยายาม​ฝืน​หายใจเข้า​ลึก​ราวกับ​พยายาม​ข่ม​ความเสียใจ​อย่าง​สุดซึ้ง​ของ​ตน​ลง​ ​จากนั้น​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ของ​นาง​ก็​เงย​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​และ​ใช้​น้ำเสียง​อ่อนโยน​แต่​สั่นเครือ​นั้น​กล่าวว่า​ ​”​เป็น​ข้า​เอง​ที่​คิด​จะ​ใช้​นาง​เป็น​บันได​ยกฐานะ​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​ ​พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​ ​ท่าน​เจ้าสำนัก​ยังคง​รอ​ข้อมูล​ของ​พวกเรา​อยู่​”

ทั้งสอง​คน​พยักหน้า​ ​และ​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อย่าง​เย็นชา​ ​”​หวัง​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้นแล​้​วจะ​ไม่มี​คน​ขี้แพ้ชวนตี​โผล่​มาก​็​แล้วกัน​”

ขี้แพ้ชวนตี​หรือ​ ​นิ้ว​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลูบ​ตั๋วเงิน​รางวัล​ที่​ก่อนหน้านี้​ท่าน​เจ้าสำนัก​ยืนกราน​ที่จะ​ให้​นาง​เก็บ​ไว้​ ​มุม​ปากของ​นาง​กระตุก​ขึ้น​เล็กน้อย​อย่าง​ชั่วร้าย

ตรงกันข้าม​กับ​หยวน​หมิง​ที่​เหยียด​ยิ้ม​กว้าง​ ​”​ข้า​สงสัย​นัก​ว่า​พวกเขา​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่างไร​หลังจาก​ได้ยิน​ว่า​เจ้า​เป็น​ผู้ชนะ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ ​แต่​ไม่ได้​ตอบกลับ​ไป​ ​นาง​เดินตาม​หลัง​พวกเขา​ไป​อย่าง​สบาย​ๆ​ ​เสื้อคลุม​สีเขียว​สลับ​ขาว​ของ​นาง​ปลิว​เบา​ๆ​ ​อากาศ​เย็น​ๆ​ ​ลอย​อยู่​รอบตัว​ ​ความเฉื่อยชา​ที่อยู่​ใน​ร่างกาย​ของ​นาง​ไม่ได้​ลดน้อยลง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

ในไม่ช้า​พวก​อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วก​็​มาถึง​พระราชวัง​ใต้ดิน

ตู๋​ซู​เฟิง​นั่ง​อยู่​ที่​โต๊ะ​พร้อมกับ​ถือ​ถ้วย​ชาร้อน​ใน​มือ​ ​กลิ่นอาย​อัน​ทรง​เสน่ห์​ที่​เขา​เผยอ​อก​มาตั​้ง​แต่​ศีรษะ​จรด​ปลายเท้า​นั้น​ช่าง​เหมาะสม​กับ​ชายหนุ่ม​ใน​วัย​นี้​เป็น​ที่สุด​ ​เขา​ดู​สง่างาม​และ​สม​เป็น​สุภาพบุรุษ​ยิ่งนัก

“​ทุกคน​นั่งลง​สิ​”

เขา​สั่ง​ให้​คน​ริน​น้ำชา​ให้​กับ​บรรดา​ลูกศิษย์​เหมือนปกติ

เมื่อ​เห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​คน​สุดท้าย​ที่มา​ถึง​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​ออกมา​ ​จากนั้น​จึง​เคลื่อน​สายตา​ไป​มอง​ยัง​พวก​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว

อวิ​๋น​ปี้ลั​่​วนั​่ง​ลง​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ไม่​ช้า​ไม่​เร็ว​และ​ฟัง​ดูรื​่น​หู​เป็น​อย่างยิ่ง​ใน​ตอนที่​นาง​รายงาน​ผล​ของ​ภารกิจ​ตามที่​พวก​นาง​ตกลง​กัน​ไว้​ที่​งาน​ประมูล​ให้​ตู๋​ซู​เฟิง​ฟัง

ตู๋​ซู​เฟิง​จิบ​ช้า​ ​รอยยิ้ม​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ ​”​แค่นั้น​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ยิ้ม​อย่าง​นุ่มนวล​ ​”​การแทรก​แซง​ของ​องค์​ชาย​สาม​ทำให้​พวกเรา​ไม่​สามารถ​สืบต่อ​ได้​ก็​จริง​ ​แต่​หาก​ดู​จาก​ข้อมูล​ที่​มี​ใน​ตอนนี้​ ​ตัวปัญหา​ที่แท้​จริง​ย่อม​ต้อง​เป็น​มู่​หรง​หง​ตู๋​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​”

ตู๋​ซู​เฟิง​ส่งเสียง​ตอบรับ​ใน​ลำคอ​ ​เขา​วางมือ​ลง​บน​โต๊ะ​ ​”​เมื่อครู่นี้​เจ้า​บอกว่า​คนที​่​มู่​หรง​หง​ตู๋​ไป​พบ​นั้น​ทุกคน​ล้วนแต่​เป็น​พ่อค้า​ที่​มี​ฐานะ​ร่ำรวย​ใช่​หรือเปล่า​ ​แล้ว​เขา​มี​จุดประสงค์​อัน​ใด​หรือ​ที่​ต้อง​ไป​พบ​กับ​คน​พวก​นั้น​”

อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​เงียบ​ไป​ ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​”​เรื่อง​นี้​พวก​ข้า​ยัง​ไม่​มั่นใจ​เท่าใด​นัก​ ​แต่​ในเมื่อ​ทุกคน​ที่​เขา​หามา​นั้น​ล้วนแต่​เป็น​คน​ร่ำรวย​ ​เช่นนั้น​ก็​คงจะ​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ฉ้อโกง​กระมัง​เจ้า​คะ​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​อีก​สอง​คน​ส่งเสียง​เป็น​ลูกคู่​ ​พร้อมกับ​มอง​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ด้วย​สายตา​เต็มไปด้วย​ความชื่นชม​ ​อย่างไร​เสียคน​คน​นี้​ก็​คือ​แม่นาง​อวิ​๋น​ ​แน่นอน​ว่า​ไหวพริบ​ปฏิภาณ​ของ​นาง​ย่อม​รวดเร็ว​เป็น​อย่างยิ่ง

แต่​ตู๋​ซู​เฟิ​งก​ลับ​ทำ​เพียง​มอง​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ด้วย​สายตา​เฉยเมย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​อีกด้วย

ใน​ตอนแรก​นั้น​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ยัง​ไม่ทัน​ได้​รู้สึกตัว​ ​แต่​เมื่อ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​ตู๋​ซู​เฟิง​เงียบ​นาน​เกินไป​แล้ว​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​เรียก​เขา​อย่าง​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ​ ​ว่า​ ​”​ท่าน​เจ้าสำนัก​เจ้า​คะ​”