ตอนที่ 346 เล่นทายคำวันเปิดร้าน
“นี่ไม่ใช่ดอกไม้ของจริง แต่เป็นครีมรูปดอกไม้ที่สามารถกินได้ ! ” เด็กชายได้ยินเสียงบ่นพึมพำของหยวนเจี๋ยจึงเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ขณะที่ถือขนมชิ้นเล็กไว้บนฝ่ามือด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะชี้ไปที่ครีมดอกไม้แล้วพูดว่า “นี่เป็นของที่ข้าเพิ่งแข่งขันได้มา ! พี่สาวด้านในยังทำอยู่ ท่านอาก็เข้าไปตอบคำถามสิ ถ้าตอบถูกแล้วท่านก็จะได้รับเช่นกัน”
หยวนเจี๋ยคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อเพราะดอกไม้ที่งดงามขนาดนี้ไม่รู้ว่าต้องทำจากอะไร ขณะที่กำลังสงสัยก็เบียดตัวเข้าไปในฝูงชน ผ้าพันคอบิดเบี้ยวไปคนละทาง รองเท้าก็โดนเหยียบ ต้องออกแรงเยอะมากกว่าที่จะเบียดมาถึงด้านหน้าสำเร็จ
กู่เหนียงน้อยในชุดกระโปรงสีแดงคนหนึ่งกำลังขยับมืออย่างคล่องแคล่วไม่ต่างจากภูติน้อยในฤดูใบไม้ผลิและยังเหมือนเทพธิดาแห่งมวลบุปผา…บุปผาแสนสวยค่อย ๆ เบ่งบานภายใต้ฝีมือของนาง…
นี่เป็นเค้กถาดที่สามของหลินเว่ยเว่ยแล้ว บนเค้กถาดใหญ่ถูกปาดด้วยครีมหนึ่งชั้น จากนั้นก็ถูกตัดแบ่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม บนหน้าเค้กแต่ละชิ้นก็ถูกตกแต่งด้วยครีมรูปดอกไม้ เค้กครีมแบบนี้เป็นสิ่งที่ง่ายยิ่งกว่าง่ายสำหรับนางเลยก็ว่าได้
ส่วนในสายตาของหยวนเจี๋ยเห็นเป็นศิลปะที่งดงามมาก เขาจับจ้องไปที่กู่เหนียงน้อยด้วยดวงตาเปล่งประกาย เมื่อนางทำขนมชุดนี้เสร็จแล้ว เด็กหนุ่มที่หล่อเกินบรรยายด้านข้างก็เอาเสื้อคลุมมาห่มให้นาง หยวนเจี๋ยอดมองใบหน้าของเด็กหนุ่มถึงสองสามครั้งไม่ได้ อีกฝ่ายยังเอาถุงมือของตนมาสวมให้นางด้วย…ช่างเป็นพี่ชายที่เอาใจใส่และอบอุ่นเสียจริง
ทั้งสองคนอายุไม่มาก แต่รูปร่างหน้าตากลับโดดเด่นยิ่งนัก แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาของเด็กหนุ่มโดดเด่นกว่า เด็กผู้หญิงน่าจะมีอายุ 10 กว่าขวบ แต่ฝีมือที่นางมีกลับทำให้อดชื่นชมไม่ได้ พรสวรรค์และความพยายามส่งเสริมกัน !…
กู่เหนียงน้อยพูดเสียงดัง “รอบนี้เป็นคำถามปริศนา ข้อแรกคือจำต้องครึ่งเก็บครึ่ง เป็นคำว่าอะไร ! ”
หยวนเจี๋ยเริ่มขมวดคิ้ว นี่เป็นปริศนาแยกคำง่ายๆ ‘จำต้อง’ ครึ่งหนึ่งและ ‘เก็บ’ อีกครึ่ง เมื่อนำมารวมกันแล้วก็ไม่ใช่คำว่า ‘สายฟ้า’ หรอกหรือ ?
“คุณชายท่านนั้นยกมือคนแรก โปรดพูดคำตอบด้วย ! ” กู่เหนียงน้อยมองไปยังฝูงชนแต่ก็ไม่รู้นางตัดสินว่าอีกฝ่ายเป็นคุณชายได้อย่างไร เนื่องจากเห็นแค่มือข้างหนึ่งของอีกฝ่ายเท่านั้น
คนผู้นั้นเบียดตัวออกมา หลังจัดเสื้อผ้าและหมวกที่ยุ่งเหยิงเพราะการเบียดกลุ่มคนแล้วก็โค้งตัวคารวะกู่เหนียงน้อย “ข้าเดาว่า…สายฟ้า ! ”
นางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ถูกต้อง ขอเชิญคุณชายเลือกของรางวัล ! ต้องการให้ห่อกลับหรือไม่ ? ”
ชุดบัณฑิตของอีกฝ่ายถูกซักจนสีซีดแล้ว น่าจะมาจากครอบครัวฐานะธรรมดา เขาถามด้วยความเขินอายว่า “ยะ…ยังห่อกลับได้ด้วยหรือ ? ”
นางพยักหน้า ทันใดนั้นก็มีคนนำกล่องที่สวยงามใบหนึ่งมาห่อขนมอย่างชำนาญแล้วส่งของรางวัลให้ผู้ชนะด้วยมือทั้งสองข้าง
ดูงานบริการของอีกฝ่ายสิ ! หยวนเจี๋ยที่มองเหตุการณ์อยู่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม พวกพนักงานในร้านขนมเก่าแก่ของเมืองหลวงชอบมีดวงตาที่สามงอกตรงหน้าผาก พอเขาและสหายสวมชุดธรรมดาเข้าไปดูและไม่ซื้อขนมก็จะถูกทำให้อับอายทุกครั้ง เทียบกันไม่ติดเลย !
นางยังพูดอีกว่า “หลังบุรุษจากไป ก็ไม่มีใครเข้ามา ! ถามเหมือนกัน นี่เป็นคำว่าอะไร ! ”
ฝูงชนเงียบไปพักใหญ่ ไม่มีใครยกมือตอบคำถาม บ่าวรับใช้ของหยวนเจี๋ยกระดุกชายเสื้อเขาเบา ๆ แล้วกระซิบว่า “คุณชายห้า ท่านอย่าเอาแต่ยืนมองสิขอรับ เข้าไปร่วมกับเขาด้วย ขนมนั่นสวยดีขอรับ ไม่รู้ว่าจะอร่อยหรือไม่ ! ”
หยวนเจี๋ยหันมาถลึงตาใส่ ก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้น กู่เหนียงน้อยหันมามองแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณชายท่านนี้เชิญพูดคำตอบ ! ”
“ซ้ายก่อน ขวาตาม ทางขวามีคำว่า ‘อย่า’ และไม่มีคำว่า ‘คน’ พอเอามารวมกันแล้วจึงเป็นคำว่า ‘ตัดสิน’ ! ” ขณะที่ทุกคนกำลังมองอยู่ หยวนเจี๋ยก็พูดคำตอบออกมาอย่างใจเย็น
“ยินดีด้วย ท่านตอบถูก ! เชิญเลือกรางวัลและให้ห่อกลับด้วยหรือไม่ ! ” ทันใดนั้นนางก็ปรบมือให้เขา
หยวนเจี๋ยนำเค้กที่ห่อเรียบร้อยแล้วยัดใส่มือบ่าวรับใช้ซึ่งรับมาถือด้วยความดีใจ หลังสังเกตเห็นสายตาอิจฉาของคนรอบข้างแล้ว เขาก็ยกมันขึ้นสูงอย่างภาคภูมิ !
“คำถามต่อไป กินได้ไม่มีปาก ข้ามแม่น้ำไม่มีน้ำ แพ้แต่ไม่มีบทลงโทษ เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง” นางเริ่มหัวข้อใหม่อีกครา
“ข้าตอบได้ ! ข้าตอบข้อนี้ได้! พี่หลิน เลือกข้า เลือกข้าสิ ! ” กู่เหนียงในชุดสีชมพูเสื้อคลุมสีขาวซึ่งยืนห่างออกไปไม่ไกล ดูจะอายุน้อยกว่ากู่เหนียงผู้ทำเค้กเล็กน้อย นางยกมือขึ้นพร้อมกระโดดอยู่กับที่และมีคุณชายท่าทางสุภาพกำลังยืนปกป้องนางอยู่ทางด้านหลัง
กู่เหนียงที่เป็นคนถามก็กลอกตาใส่กู่เหนียงชุดสีชมพู “น้องหลิงเอ๋อร์ เจ้าจะร่วมสนุกด้วยหรือ ? ”
กู่เหนียงชุดสีชมพูมุ่ยปาก “ท่านไม่ได้ตั้งกฎเสียหน่อยว่าคนรู้จักเข้าร่วมไม่ได้ ข้ารู้คำตอบและยกมือคนแรก เหตุใดท่านไม่เลือกข้า ? ”
“หากเจ้าอยากกิน ประเดี๋ยวข้าทำให้เอง สละโอกาสให้คนอื่นดีกว่า ! ” หลินเว่ยเว่ยเถียงด้วยความเหนื่อยหน่าย
“มันไม่เหมือนกัน ข้าพยายามเองก็ย่อมมีความหมายกว่า ! พี่หลิน ข้าขอประท้วง ช่างไม่ยุติธรรมเลย ! ” กู่เหนียงชุดสีชมพูกระโดดอยู่กับที่ ! ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากฝูงชน นางเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอายพลางกระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์
การทายคำครั้งนี้จบลงอย่างรวดเร็ว ในที่สุดกิจกรรมเปิดร้านใหม่ของร้านขนมหวานหนิงจี้ก็จบลง หนิงตงเซิ่งออกมาพูดคำขอบคุณ ส่วนกู่เหนียงแซ่หลิน หนุ่มน้อยรูปงามและพวกของกู่เหนียงชุดสีชมพูก็ถูกเชิญเข้ามาในลานหลังร้าน
ฝูงชนแยกย้ายกันไป หยวนเจี๋ยก็เดินกลับโรงเตี๊ยม เถ้าแก่เห็นบ่าวรับใช้ข้างหลังอีกฝ่ายถือกล่องใส่ขนมไว้ในมือจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายท่านก็ไปร่วมเล่นมาเหมือนกันหรือขอรับ ? ”
หยวนเจี๋ยพยักหน้าแล้วคลี่ยิ้ม “ไปเล่นกับเขามา จัดกิจกรรมวันเปิดร้านแบบนี้ ข้าก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ! ”
เถ้าแก่ก็คลี่ยิ้ม “คุณชายหนิงท่านนี้เกิดมาเพื่อทำการค้าอย่างแท้จริง นี่เพิ่งใช้เวลาแค่ครึ่งปีก็เปิดร้านขนมถึง 4 สาขาแล้ว ! พูดกันว่ายังได้รับคำชื่นชมจากหยงหนิงโหวแห่งเมืองเหอโจวด้วย ! ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่ขนมของร้านเขาไม่ได้มีดีเพียงรูปลักษณ์ ทว่ารสชาติยังอร่อยสุดยอด ! มิหนำซ้ำยังจัดกิจกรรมบ่อยครั้ง จึงได้ใจจากลูกค้า…จะค้าขายดีเช่นนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผลแล้วขอรับ”
หยวนเจี๋ยถือเค้กเข้ามาในห้อง จากนั้นก็เริ่มแกะออกจากกล่อง ในกล่องมีแม้กระทั่งช้อนใบเล็ก ๆ เขาตักครีมบนหน้าเค้กขึ้นมาเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของนม รสชาติเข้มข้น หวานกำลังดีกระแทกต่อมรับรสของผู้คนได้ทันใด
เขายังตักกินเนื้อเค้กด้านใน รสชาตินุ่มลิ้น เข้าปากก็ละลายทันที กลิ่นหอมเข้มข้น เมื่อรวมกับครีมแล้วก็เอาชนะใจหยวนเจี๋ยได้ชนิดอยู่หมัด…ขนมแบบนี้สามารถทำลายขนมได้ทั่วทั้งเมืองหลวงให้แพ้พ่าย รวมถึงร้านเก่าแก่เหล่านั้นด้วย !