บทที่ 343 มีข้อเสนอให้หัวหน้าหมู่บ้าน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 343 มีข้อเสนอให้หัวหน้าหมู่บ้าน

บทที่ 343 มีข้อเสนอให้หัวหน้าหมู่บ้าน

รอยยิ้มของกู้เสี่ยวหวานหุบลงในทันที โชคดีที่นางหาวิธีรับมือมาไว้เรียบร้อยแล้ว

นางรีบยื่นตะกร้าขนมและไข่ไก่ให้ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านป้า ดูสิ นี่ไม่ใช่เพราะรู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านป่วยหรอกหรือ พวกข้าจึงเอาไข่และขนมมาเยี่ยม หัวหน้าหมู่บ้านคอยกังวลเกี่ยวกับหมู่บ้านอู๋ซีของเราจนป่วย พวกเราชาวบ้านจึงต้องมาแสดงน้ำใจ จริงหรือไม่?”

กู้เสี่ยวหวานเอ่ยคำนั้นออกมาโดยไม่มีช่องโหว่ ในเมื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านกล่าวว่าหัวหน้าหมู่บ้านป่วยใช่หรือไม่ เช่นนั้นนางจึงบอกไปว่ามาเยี่ยม เมื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินก็รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ถ้ารับตะกร้ามาก็คงไม่ดี แต่ถ้าไม่รับก็คงไม่ได้

เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางเช่นกันของนาง ในใจก็รู้ได้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านคงต้องเคยกล่าวถึงเรื่องนี้มาก่อนแน่ ดังนั้นนางจึงรีบมอบตะกร้าของให้ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านทันที “ท่านป้า อย่าเกรงใจเลย ข้ากับท่านป้าจางมาที่นี่เพราะเรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านเป็นกังวลนั่นแหละ ท่านดูสิว่าหัวหน้าหมู่บ้านเป็นห่วงทุกคนจนป่วยเช่นนี้ ถ้าพวกเราไม่มาก็คงจะน่าละอายไปเสียหน่อยใช่หรือไม่? สิ่งของเหล่านี้เป็นเพียงน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านรับไปเถอะ และข้ารบกวนท่านไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านทีว่าเรื่องของครอบครัวจาง หัวหน้าหมู่บ้านไม่ต้องกังวล เพราะพวกข้าคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาได้แล้วและเป็นวิธีที่ทุกคนจะชนะไปด้วยกัน”

เมื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินเรื่องนี้ ตาของนางก็เป็นประกายขึ้นทันที ดูเหมือนว่าสองคนนี้คงปรึกษากันดีแล้วถึงมาที่นี่

นางรีบรับตะกร้าของไปทันทีและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ พวกเจ้ารอสักครู่ ข้าจะไปถามสามีของข้า!”

หลังจากกล่าวจบ ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านก็ใช้แขนโอบตะกร้า และหันหลังกลับเข้าบ้านไป

ไม่นานหลังจากที่นางจากไป ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมาตะโกนว่า “จางซื่อ สาวน้อยกู้ เข้ามาเร็ว เมื่อสามีของข้าได้ยินว่าพวกเจ้ามีทางออกที่ดี อาการก็ดีขึ้นมากว่าครึ่งแล้ว” กู้เสี่ยวหวานและป้าจางมองหน้ากันแล้วยิ้มราวกับมองตาก็รู้ใจ

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องโถงด้วยรอยยิ้ม และเห็นหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงนั่งอยู่ในนั้นด้วยใบหน้าผ่องใส ดูเหมือนคนป่วยที่ไหนกัน

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ เขาก็กล่าวอย่างโกรธเคือง “จางซื่อ พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

เขามีท่าทางไม่เต็มใจเมื่อเห็นใบหน้าของพวกนาง ดูเหมือนว่าเมื่อสักครู่ที่ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าเขาต้องการพบพวกนางคงจะเป็นเรื่องโกหก

กู้เสี่ยวหวานยังคงนิ่งเงียบ และคอยสังเกตหัวหน้าหมู่บ้านอยู่อย่างลับ ๆ

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงยังคงมีสีหน้าโกรธเคืองและมองมาที่พวกนางโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ

เมื่อรอจนถึงตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านกำลังจะกล่าวอะไรออกมา กู้เสี่ยวหวานก็ชิงกล่าวขึ้นก่อน “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ครั้งที่แล้วที่ท่านไปพูดกับครอบครัวจางว่าต้นไผ่ในหมู่บ้านเป็นของสาธารณะ ไม่สามารถตัดตามใจชอบได้ เพราะกลัวว่าจะเป็นการแหกกฎ การที่ท่านต้องการให้ทุกคนในหมู่บ้านรวยขึ้นด้วยกันนั้น ช่างน่าชื่นชมเสียจริง”

“…”

คำถามของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงยังคงติดอยู่ในปากเพราะถูกกู้เสี่ยวหวานชิงกล่าวออกมาก่อน สายตาขุ่นมัวเอาแต่จ้องมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน เพราะกล่าวอะไรไม่ออก

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานวิเศษมาก

ทันทีที่นางเปิดปากพูด นางก็ยกย่องหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เมื่อได้ยินครั้งแรก ความหมายของคำเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นการยกย่องหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง แต่ความหมายจริง ๆ ของคำเหล่านี้คือการตีแสกหน้าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่เคยต้องการทำให้คนหมู่บ้านร่ำรวยด้วยกันมาก่อน ในครั้งนี้ เมื่อเห็นว่าครอบครัวจางร่ำรวย เขาก็มีจิตใจที่คดโกงขึ้นมา สิ่งนี้หมายความว่าอะไรน่ะหรือ? เมื่อเขาเห็นว่าครอบครัวจางร่ำรวยขึ้นมา เขาจึงไม่พอใจอย่างไรล่ะ!

นั่นคือทั้งหมดที่สามารถทำได้ และนำกฎของหมู่บ้านมาเป็นข้ออ้าง

ที่บอกว่าสิ่งของในหมู่บ้านนี้เป็นของสาธารณะนั้นไม่ผิด ผู้ใดอยากใช้ก็ใช้ไป ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ ครอบครัวนี้ครอบครองเท่านั้น ครอบครัวนั้นครอบครองไปเท่านี้ ครอบครัวนี้ไม่ได้ใช้ ครอบครัวนั้นใช้ไปมาก เดิมทีเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เมื่อมีคนเห็นว่าครอบครัวจางทำเงินได้ ในใจของพวกเขาก็ไม่มีความสุข พวกเขาอิจฉา พวกเขารู้สึกว่าครอบครัวจางเอาเงินของพวกเขาไป ในใจจึงมีความคิดบางอย่างขึ้นมาและต้องการได้ส่วนแบ่งนั้น

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมีความคิดเช่นไร กู้เสี่ยวหวานจะไม่รู้ได้อย่างไร?

นางมองไปภายในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง บ้านหลังนี้เพิ่งสร้างใหม่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เป็นบ้านที่ใหญ่และดีที่สุดในหมู่บ้าน เครื่องเรือนภายในเป็นของใหม่ทั้งหมด และคานบนหลังคาซึ่งไม่ได้มาจากไม้ในหมู่บ้าน คนอื่นในหมู่บ้านจะสามารถกล่าวอะไรได้หรือไม่?

แน่นอนว่าไม่!

ครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมีชีวิตที่ดี เมื่อออกไปไหนก็มีเกวียนไปรับไปส่ง มีเนื้อกิน สิ่งที่พวกเขาสวมใส่และสิ่งที่ใช้ล้วนเป็นของดี แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะอยากให้ทุกคนในหมู่บ้านอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่และกินอาหารแบบเดียวกับเขาหรือ?

หลายปีที่ผ่านมา หมู่บ้านอู๋ซีแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่ที่นกไม่อึและไก่ไม่วางไข่เกรงว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงนี้แค่คิดว่าครอบครัวของเขาดีขึ้นแล้ว และอยากให้คนอื่นดีขึ้นเช่นกันน่ะหรือ เขาไม่ได้มีความคิดนี้เลย!

กู้เสี่ยวหวานสูดลมหายใจอย่างเย็นชา และมองไปที่ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่แดงก่ำ ไม่สามารถกล่าวอะไรได้ครู่หนึ่ง ในตอนท้ายหัวหน้าหมู่บ้านก็จ้องเขม็งไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความโกรธ

กู้เสี่ยวหวานละสายตาไปทันทีราวกับว่านางไม่เห็นมัน แต่เมื่อเห็นท่าทางของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยในใจ

“หึ ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะไปยุ่งวุ่นวายกับเจ้า แต่พวกเราล้วนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่พวกเจ้ากลับใช้ของสาธารณะของหมู่บ้านเพื่อทำเงินให้ตนเอง ไม่แปลกใจเลยที่ชาวบ้านจะไม่พอใจ!” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ช่วงนี้ข้าและท่านป้าจางมาทำเงินได้บ้าง ชีวิตของพวกเราจึงดีมากกว่าแต่ก่อน” กู้เสี่ยวหวานกล่าว “แต่เมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเป็นห่วงชาวบ้านในหมู่บ้านอู๋ซีมาก วันนี้ข้าจึงพาป้าจางมาเสนอแผนให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง!”

ในที่สุดตาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็สว่างขึ้น “แผนอะไร?”

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านและยิ้มเล็กน้อย “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ถ้าเราหาอะไรให้ชาวบ้านทำเงิน ชาวบ้านยังจะมาทำให้ครอบครัวจางลำบากใจอยู่อีกหรือไม่ นี่เป็นความต้องการของท่านใช่หรือไม่? ถ้าในเวลานั้นพวกเรามาทำเงินด้วยกันล่ะ ท่านว่าอย่างไร?”

“เรื่องหาเงิน?” ดวงตาของหัวหน้าหมู่บ้านและภรรยาเป็นประกาย

“หาเงินอะไร สาวน้อยกู้ รีบบอกมาเร็วเข้า” ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านกังวลและกล่าวขึ้นมาจากด้านข้าง เพราะกลัวว่าถ้ากู้เสี่ยวหวานกล่าวช้าไปมากกว่านี้อีกสักนิด ครอบครัวของพวกเขาจะไม่สามารถทำเงินได้

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท่านไม่ต้องกังวล ค่อย ๆ ฟังข้าพูด ในกิจการกล่องไม้ไผ่นี้ ฝีมือของท่านลุงจางนั้นดีมาก และเขาบอกว่าถ้ามีคนในหมู่บ้านที่ต้องการสานกล่องไม้ไผ่แบบนั้นก็สามารถมาสานกับเขาได้ สำหรับกล่องไม้ไผ่นี้ ท่านลุงจางจะรับซื้อกล่องละสามเหรียญ เมื่อถึงเวลานั้นถ้าทุกคนมีกล่องไม้เท่าไร ท่านลุงจางก็จะรับซื้อเท่านั้น กล่องละสามเหรียญ”

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย