ตอนที่ 385 การโจมตีของอสุรกายยักษ์

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 385 การโจมตีของอสุรกายยักษ์

ตอนที่ 385 การโจมตีของอสุรกายยักษ์

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

เธอถามเสี่ยวอ้ายว่าโดยปกติแล้วราชาเอเลี่ยนจะไม่ออกมาจากรังของพวกมันง่าย ๆ แต่เหตุใดครั้งนี้ราชาเอเลี่ยนจึงออกมากันง่ายนัก? อีกทั้งอสุรกายจากเขตดาวต่างแดนบนดาวสมุทรนั่นอีก มันทำให้เธอรู้สึกผิดเล็กน้อย…

นี่อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เป็นความบังเอิญที่ทำให้เธอสับสน

ขณะเดียวกัน สวี่หลิงอวิ๋นสั่งให้ถั่วชมพูกลับมาที่จักรวรรดิชิงเหย้า หากมีอะไรเกิดขึ้น ถั่วชมพูที่อยู่ในระดับ 10 ดาวจะได้เป็นประโยชน์

สวี่หลิงอวิ๋นออกไปพร้อมกับเสี่ยวอ้าย

ถั่วชมพูมีความสุขมากที่มันถูกรายล้อมไปด้วยปลาตากแห้งขนาดจิ๋วและอาหารรสเลิศทุกชนิด แขนกลที่อยู่ด้านข้างคอยทำอาหารอันโอชะนานาชนิดให้กับมันตลอดทั้งวันทั้งคืนจนมันรู้สึกติดใจ!

สวี่หลิงอวิ๋นอนุญาติให้มันติดตามไปด้วย ทว่ามันกลับไม่ยอมไป

ติดตามสวี่หลิงอวิ๋นไปจะทำอะไรได้? เสี่ยวอ้ายก็อยู่ที่นั่นด้วย หากมันไปด้วยก็เกรงว่าจะเผลอทำแผนการพัง สู้มีความสุขอยู่คนเดียวดีกว่า

แค่นี้ต้นกล้าในหัวของมันก็ควบคุมมันมามากพอแล้ว ให้มันตายดีกว่าหากต้องไปอยู่ใต้คำสั่งของเสี่ยวอ้าย!

ขณะเดียวกัน จักรวรรดิไอเดนกำลังอยู่ในช่วงชุลมุนวุ่นวาย ราชาเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวได้มาเยือนพวกเขาแล้ว

ใครจะไปรู้ว่าพวกมันจะมาที่จักรวรรดิไอเดน? ประชากรของจักรวรรดิไอเดนเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดิน

แม้ว่าแลนเซล็อตจะอยู่ในระดับ 9 ดาว แต่เขาก็คอยต่อสู้อยู่ที่แนวหน้ากับโอคาซี

ว่ากันตามตรงเขายังอ่อนแอกว่าเล็กน้อยเมื่อต้องเทียบกับโอคาซีที่อยู่ในระดับ 10 ดาว

เนื่องจากตัวเขาอยู่ในระดับ 9 ดาวเท่านั้น ช้ากว่าอีกฝ่ายหนึ่งก้าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสำเร็จหรือว่าความรัก!

แม้เขาจะอ่อนแอกว่า แต่เขาก็ให้ความร่วมมืออย่างสุดกำลัง

“ผมขอให้องค์หญิงสามพาเสี่ยวอ้ายมาที่นี่แล้วครับ” คำพูดของโอคาซีสั้นกะทัดรัด “ความแข็งแกร่งของเสี่ยวอ้ายน่าจะช่วยยับยั้งเอเลี่ยนหุ้มเปลือกได้”

แลนเซล็อตพยักหน้า

ราชาเอเลี่ยนหุ้มเกราะรู้สึกหวาดกลัว มันรู้สึกได้ถึงอสุรกายยักษ์ลึกลับที่เข้ามาตรึงร่างกายของมันไว้

ความหวาดกลัวทำให้มันมุ่งความสนใจไปที่การกินเท่านั้น เพราะการกินเป็นเพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันรู้สึกปลอดภัย

ขณะที่อสุรกายยักษ์ลึกลับเข้าใกล้ร่างกายของมันมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่สามารถเปิดทางเชื่อมมิติเพื่อหนีออกไปได้

เสี่ยวอ้ายเงี่ยหูของมันตลอดทาง ราวกับกำลังตั้งใจฟังอะไรบางอย่าง

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกไม่สบายใจ เธอจ้องมองเสี่ยวอ้ายและพูดว่า “เสี่ยวอ้าย แกฟังอะไรอยู่ตลอดทาง? ทำไมฉันรู้สึกไม่สบายใจแบบนี้นะ?”

เสี่ยวอ้ายมองดูสวี่หลิงอวิ๋นด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้น หลังจากได้ยินเธอบอกว่ารู้สึกไม่สบายใจ

สวี่หลิงอวิ๋นมีต้นไม้แห่งชีวิตอยู่ในหัว ต้นไม้แห่งชีวิตสามารถตรวจสอบคลื่นสัญญาณจากระยะไกลได้

แม้ว่าเธอจะยังไม่เข้าใจมัน แต่เธอก็พอจะรับรู้สถานการณ์วิกฤตได้!

“ฉันรู้สึกว่าบาเรียระหว่างพวกเรากับเขตดาวต่างแดนกำลังจะพังลง!” เสี่ยวอ้ายพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หากบาเรียพังทลายลง ชีวิตที่สงบสุขจะพังทลายลงไปด้วย”

“แล้วจะต้องทำยังไง?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม

“โฮ่ง! การเสริมสร้างความแข็งแกร่งคือทางออกเดียว! ฉันเคยประมาณการณ์ว่าบาเรียจะพังทลายลงในเวลาหนึ่งถึงสองปี แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วเช่นนี้!” เสี่ยวอ้ายครุ่นคิดและพูดต่อ “โดยเฉพาะนายท่าน! หากอสุรกายยักษ์ค้นพบต้นไม้แห่งชีวิตในหัวของท่าน มันจะต้องมาคว้าไปแน่!”

สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง

“ฉันรู้สึกว่าอสุรกายยักษ์ที่ลอยตัวอยู่เหนือหัวของเราพยายามจะพังบาเรียลงและก้าวข้ามมาที่นี่ มันน่าจะมุ่งหน้าไปทางจักรวรรดิไอเดนหรือเปล่า?!” เสี่ยวอ้ายพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก

ไม่ว่าอสุรกายยักษ์ตัวไหนจะบุกรุกเข้ามา ทั้งหมดล้วนมาเพื่อทำลายล้างที่แห่งนี้

นอกจากนี้ ทันทีที่ก้าวข้ามมาที่นี่ สิ่งมีชีวิตจากเขตดาวต่างแดนล้วนอยู่ในระดับ 10 ดาว ทั้งในแง่ของความแข็งแกร่งและการป้องกันตัว

“เราต้องเร่งความเร็ว มันเร็วกว่าเรามาก!”

เสี่ยวอ้ายกับสวี่หลิงอวิ๋นรีบเร่งฝีเท้าในทันที ก่อนจะบินโฉบออกไปด้านหน้าอย่างว่องไว

ณ น่านฟ้าเหนือจักรวรรดิไอเดนเวลานี้ ต้นกล้าในหัวของโอคาซีสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง มันบิดตัวอย่างบ้าคลั่งเพื่อส่งสัญญาณอันตรายไปหาโอคาซี

“อันตราย!” โอคาซีเงยหน้าจ้องมองท้องฟ้าเหนือหัว เขาสัมผัสถึงภัยอันตรายได้เช่นเดียวกับสวี่หลิงอวิ๋น

เพียงแต่เขาตระหนักได้ถึงวิกฤตอันเลวร้ายมากกว่าสวี่หลิงอวิ๋น

“รีบแจ้งให้ทุกคนทราบโดยด่วน รวมถึงพวกทหาร สั่งให้เข้าไปหลบในชั้นใต้ดิน!” โอคาซีรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอันถี่รัว เขาไม่มีเวลามากพอที่จะอธิบายให้เหล่าทหารรับฟัง เพียงแต่สั่งผู้ช่วยชาร์ลให้ไปแจ้งทหารแทน

ไม่ว่าจะไอเดนหรือชิงเหย้า ทุกคนต้องไปซ่อนตัว!

แม้ว่าชาร์ลจะรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ไม่รีรอที่จะตอบรับคำสั่งการทุกอย่างจากท่านพลเอก!

เขารีบส่งต่อคำสั่งการของพลเอกให้กับทุกคนทันที

ทหารจากจักรวรรดิชิงเหย้ารีบเข้าไปในชั้นใต้ดินโดยไม่ลังเล

ผู้คนจากจักรวรรดิไอเดนกำลังรอคำสั่งจากองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต แลนเซล็อตตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะสั่งให้เหล่าทหารไปซ่อนตัว

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาเชื่อว่าโอคาซีจะต้องมีเหตุผลที่ดี

โอคาซีมองดูแลนเซล็อตผ่านหน้าจอวิดีโอ “ผมสังหรณ์ใจไม่ดี ดังนั้นท่านเองก็ด้วย ท่านต้องเข้าไปซ่อนตัว!”

ขณะเดียวกัน เมอร์ริล นายพลอาวุโสระดับ 10 ดาวกำลังต่อสู้เคียงข้างโอคาซี

แม้ว่าลางสังหรณ์ร้ายของเมอร์ริลจะไม่ดีเท่ากับโอคาซี แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจที่กำลังสั่นไหว

ประสบการณ์การต่อสู้มาหลายปีทำให้เขารู้ว่าการต่อสู้อันดุเดือดกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า!

มันคืออะไรกันแน่?!

หลังจากคาดเดาได้ไม่นาน คำตอบก็ปรากฏขึ้น!

หลุมดำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนน่านฟ้าเหนือสายตาของพวกเขา ดวงตาคู่ยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือทางเชื่อมมิติ กรงเล็บขนาดใหญ่เริ่มปีนป่ายออกมาจากทางเชื่อมมิติ ตามมาด้วยกรงเล็บยักษ์อันที่สาม และกรงเล็บยักษ์อันที่สี่!

อสุรกายยักษ์ตัวนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับการปรากฏตัวของเสี่ยวอ้ายในครั้งแรก มันมีสัญลักษณ์แปลกประหลาดอยู่ระหว่างคิ้ว ดวงตาของมันดุร้ายน่าสะพรึงกลัว เผยให้เห็นประกายแห่งการนองเลือด

ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยขนหนา เขี้ยวของมันยาวจนโผล่ออกมา มันค่อย ๆ ย่างก้าวลงมาจากทางเชื่อมมิติ ราวกับกำลังเหยียบย่ำอยู่บนปุยเมฆ

เอเลี่ยนทั้งหลายที่อยู่บนพื้นเริ่มสั่นสะท้าน ราชาเอเลี่ยนตัวก่อนหน้านี้ส่งเสียงร้องครวญคราง ก่อนจะถูกอสุรกายยักษ์ตนนั้นกลืนกินเข้าไปโดยตรง

บ้านและอาคารบนพื้นดินล้วนเป็นเพียงของเล่นชิ้นเล็กในสายตาของมัน ก่อนที่มันจะขึ้นไปเหยียบย่ำจนพังทลาย

มนุษย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินสัมผัสได้ถึงอสุรกายยักษ์ที่กำลังกวาดล้างโครงสร้างชั้นใต้ดินทั้งหมด เพียงแค่มันกระทืบเท้าเบา ๆ อาคารทั้งหมดก็พังทลายลง และมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนจะถูกฝังทั้งเป็น!

ทันทีที่โอคาซีกับเมอร์ริลเห็นอสุรกายยักษ์ พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงข้อเท็จจริงอันโหดร้าย นั่นคือพวกเขาไม่สามารถเอาชนะมันได้…

แต่พวกเขาจะต้องสู้! มิเช่นนั้นผู้คนที่หลบอยู่ชั้นใต้ดินจะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตราย!