บทที่ 472 ฉู่เหินออกโรง
บทที่ 472 ฉู่เหินออกโรง
ทั่วสนามประลองเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน ฉู่เหินเองก็เป็น 1 ในนั้นที่สัมผัสได้ ตั้งแต่ต้นเขาสังเกตการณ์ต่อสู้ของทั้งสองมาโดยตลอด จนรู้ได้เลยว่าถ้าเป็นตัวเองจะสามารถรับมืออีกฝ่ายได้หรือไม่!
ที่ใจกลางของการโจมตีนั้น มันก็ได้เกิดการระเบิดพลังที่ใหญ่กว่า 10 เมตรออกมา! คนที่ยืนใกล้บริเวณดังกล่าวถือว่าซวยเป็นอย่างมาก เพราะทันทีที่เจอพลังมหาศาลอัดเข้าใส่ พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นอันต้องกระอักเลือดจนสิ้นใจตายอยู่เสียตรงนั้น!
หลังจากถูกโจมตีไป 2 กระบวนท่า ชายชุดขาวก็คล้ายจะสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ถึงวินาทีก็กลับมามั่นคงเหมือนเดิม กลับเป็นวิทยาราชทั้งห้าที่สั่นไปทั้งร่างอย่างน่ากลัว แม้ว่าพวกเขาจะสามารถช่วยประคับประคองกันได้ หากแต่สุดท้ายก็กระอักเลือดออกมาอยู่ดี!
เท่านี้ก็รู้ได้เลยว่าชายชุดขาวมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดไหน ทว่าผลลัพธ์ดังกล่าวกลับไม่เป็นที่น่าพอใจ ชายชุดขาวกลับรู้สึกขายหน้าราวกับถ้าไม่ได้ฆ่าใครสักคนจะทำให้เขาไม่สบายใจ! ต่อมาก็เห็นมือเขาจับคนเหล่านั้นจนลอยเหนือพื้น
ตอนนี้ทุกคนรู้กันทั่วแล้วว่ามือของเขาราวนั้นสามารถยืดหดได้ไม่มีจำกัด อีกทั้งเมื่อมันลอยอยู่กลางอากาศราวกับสามารถขยายใหญ่ได้อีกเรื่อย ๆ เพียงพริบตาเดียวก็ใหญ่เท่ากับภูเขาลูกหนึ่งแล้ว ! วิทยาราชทั้งห้าเมื่อเห็นฉากนี้เข้าไปก็หลับตาอย่างหมดเรี่ยวแรง ตอนนี้พวกเขาไม่มีแม้แต่แรงจะตอบโต้แล้ว ได้แต่หลับตายอมรับความตาย!
ตอนนั้นเองที่ผู้อาวุโสนิกายหว่านเต้าทั้ง 3 คนหายตัวมายืนขวางหน้าวิทยาราชทั้งห้าเอาไว้ ชายชราทั้งสามพากันสะบัดแส้หางม้าของตนออกไป 1 ที ก่อนจะเห็นแส้หางม้านั่นยืดยาวราวกับน้ำตกพุ่งไปข้างหน้ากรงเล็บนั่น!
แส้หางม้าทั้งสามนี้ พวกมันราวกับไม่ได้อยู่ในสายตากรงเล็บของชายชุดขาวสักนิด อีกฝ่ายเพียงแค่เอื้อมมือเข้าไปจับที่แส้หางม้า! ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้อาวุโสทั้งสามแบ่งลมปราณของตัวเองเข้าไปในนั้นพอดี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเสียงดังกัมปนาทจากการที่แส้หางม้าของผู้อาวุโสทั้งสามระเบิดในพริบตา
แส้หางม้านั้นเดิมเป็นอาวุธที่เชื่อมกับจิตวิญญาณของผู้อาวุโสเหล่านี้ เมื่อมันระเบิดออก พวกเขาเองก็ย่อมได้รับผลกระทบจากพลังด้วยเช่นกัน ผู้เฒ่าทั้งสามพากันกระอักเลือดออกมา! โชคยังดีที่ผลลัพธ์นั้นพอรับได้ เพราะไม่ใช่แค่แส้หางม้าที่ระเบิด หากแต่กรงเล็บที่จับไว้ก็ระเบิดด้วยเช่นกัน!
ฝ่ายชายชุดขาวเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน มือของเขาโชกไปด้วยเลือด แม้ว่าจะไม่มาก หากแต่มันก็ทำให้ใบหน้าเขาย่ำแย่สุดขีด! คิดไม่ถึงว่ากับแค่อาวุธกระจอก ๆ จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้ เรื่องที่เกิดขึ้นไปอะไรที่เขารับไม่ได้แม้แต่น้อย!
ตอนนี้เองที่ชายในชุดขาวโบกมืออีกครั้ง ก่อนที่กระบี่จะปรากฏขึ้นในมือ ต่อมาคนด้านล่างก็เห็นว่ากระบี่ที่ว่าอยู่ ๆ ก็พุ่งตรงไปยังผู้อาสุโสเหล่านั้น! ฉู่เหินที่เห็นฉากนี้ก็ถึงกับขมวดคิ้ว ชายหนุ่มหยิบกระบอกจตุรธาตุของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะพุ่งตัวออกไป
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพุ่งตัวไปถึง มันก็ได้ปรากฏเงาร่าง 8-9 ร่างขึ้นตรงหน้า เงาร่างนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนของตระกูลฉู่นั่นเอง! เห็นเพียงฉู่ฉุน ฉู่ตงหนาน ซีเป่ย ฉู่อี้ และทาปาหยิงหนานที่พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้การต่อสู้ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว!
กระบี่นั้นแม้ว่าจะเร็วมาก แต่เมื่อถูกการโจมตีของทั้ง 7 คนเข้าไปก็ทำให้มันเคลื่อนไหวช้าลงทันที แต่ถึงอย่างงั้นมันก็แลกมากลับรัศมีกระบี่ที่พุ่งตรงเข้าทำร้ายทั้ง 7 คนเช่นกัน! ฉู่เหินเมื่อเห็นแบบนั้นรู้แล้วว่าตัวเองจะไม่ออกโรงไม่ได้ซะแล้ว! อาศัยเพียงฉู่ฉุนไม่สามารถรับการโจมตีของกระบี่นั้นได้ เขาต้องได้รับบาดเจ็บแน่!
ชายหนุ่มปรายตามองหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะเก็บกระบองจตุรธาตุไป และหยิบพัดวิเศษของตัวเองขึ้นมา ที่ทำแบบนี้เพราะว่าฉู่เหินรู้สึกว่าชายหนุ่มชุดขาวคนนี้ไม่ง่ายเลย เขากลัวว่าตนนั้นจะถูกคนพวกนี้ยึดของของเขาไป
ว่าแล้วฉู่เหินก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้า เขาได้ทำการสร้างเกราะป้องกันพลังธาตุของตัวเองเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หากแต่เกราะป้องกันนั้นไม่ได้อยู่บนร่างของเขา แต่กลับไปอยู่ที่กระบี่นั่นแทน ทันทีที่กระบี่บินของชายหนุ่มชุดขาวลอยมาใกล้ มันก็ถูกปิดกันการเชื่อมต่อทันทีด้วยเกราะป้องกันพลังธาตุ ก่อนที่ตัวกระบี่จะไร้สิ้นเรี่ยวแรง และทำท่าจะตกสู่พื้น
ฉู่เหินใช้วิชาก้าวนภา พริบตาเดียวก็มาถึงข้างเกราะป้องกันพลังธาตุ ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปหยิบกระบี่นั้นและใช้จิตวิญญาณสำรวจภายในกระบี่! ภายในนั้นชายหนุ่มสัมผัสได้ว่ามีพลังวิญญาณพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งเมื่อเห็นดังนั้นเขาก็เดาได้เลยว่าต้องเป็นจิตวิญญาณของชายชุดขาวอย่างแน่นอน
กระบี่บินพวกนี้ ก่อนหน้าเขาเองก็เคยพบเจอที่เมืองโบราณมาไม่น้อย แต่ในโลกภายนอกนี้กลับเป็นครั้งแรกที่เคยเห็น! ในเมื่อถูกฉู่เหินค้นพบแล้วงั้นเขาก็จะไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ทำตามแผน ว่าแล้วชายหนุ่มก็ใช้จิตวิญญาณของตัวเองทำลายจิตวิญญาณที่เหลืออยู่ของชายหนุ่มชุดขาว ก่อนจะใส่จิตวิญญาณของตัวเองเข้าไปแทน
เพียงชั่วพริบตากระบี่สั้นก็เปลี่ยนผู้ครอบครอง! หลังจากเก็บกระบี่สั้นไปแล้ว ชายหนุ่มก็หายตัวไปยืนข้างหน้าของทุกคน พร้อมทั้งสลายเกราะป้องกันเมื่อครู่ของตัวเองด้วย!
ทางด้านชายชุดขาว เขาคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าอาวุธของตัวเองจะถูกอีกฝ่ายยึดไปแบบนี้ เนื่องจากจิตวิญญาณของตัวเองได้ถูกฉู่เหินทำลายไปแล้ว นั้นเป็นเหตุให้เขาต้องกระอักเลือดออกมา! ตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สายตาจ้องเขม็งไปยังฉู่เหิน ถ้าดวงตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าฉู่เหินคงจะตายไปหมื่นรอบแล้ว
แต่ชายหนุ่มชุดขาวที่พอเห็นฉู่เหินปรากฏตัวก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวในทันที นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง ทั้งนี้ก็เป็นเพราะชายหนุ่มชุดขาวกำลังคิดในใจว่าในเมื่อฉู่เหินสามารถทำลายจิตวิญญาณของตนได้ในพริบตา นั่นก็แสดงว่าคน ๆ นี้คงไม่ง่ายซะแล้ว!
“เอากระบี่บินของฉันคืนมา!” ชายชุดขาวพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“อะไรคือกระบี่บิน จะบ้าหรือเปล่า กระบี่ที่ไหนมันจะสามารถบินได้เองกัน อีกอย่างกระบี่บินไม่ได้อยู่ในมือของฉัน ดูเหมือนว่านายจะหาคนผิดแล้วล่ะ” ที่ฉู่เหินพูดไม่มีตรงไหนผิดเลย ตอนที่เขาได้กระบี่บินเล่มนั้น อัคคีสังสารวัฏเองก็รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น! ดังนั้นมันจึงถูกจัดเก็บไว้อย่างดีภายในเปลวเพลิงของมัน
ตามที่อัคคีสังสารวัฏบอก แท้จริงแล้วนั้นวัสดุที่ใช้หลอมกระบี่บินนั้นดีมาก ๆ เพียงแต่คน ๆ นั้นเอากระบี่บินไปหลอมหลายครั้งเกิน แบบนี้คงต้องมีวัสดุชั้นสูงสักชิ้น ถึงจะสามารถหลอมใหม่ให้กลายเป็นกระบี่บินชั้นดีออกมาได้ ซึ่งวัสดุแบบนี้คงต้องไปเอามาจากอาวุธวิเศษชิ้นอื่น ๆ ซึ่งถ้าได้มาละก็ มั่นใจได้เลยว่ามันจะทำให้กระบี่บินกลายเป็นอาวุธวิเศษที่เลื่อนขั้นได้ไม่มีขีดจำกัด!
เพราะแบบนี้อัคคีสังสารวัฏเลยอยากได้กระบี่บินนี้ไปหลอมอันใหม่ อีกทั้งกระบี่ที่หลอมโดยอัคคีสังสารวัฏก็จะมีพลังของมันอยู่ด้วย ถ้าเป็นอย่างที่คาดจริงล่ะก็ พลังของกระบี่บินเล่มใหม่นี้คงจะแข็งแกร่งน่าดู
เมื่อคิดถึงกระบี่ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ฉู่เหินก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้! เขาทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับชายชุดขาวที่ถึงกับกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธจากคำพูดของฉู่เหิน
“เด็กน้อย อภัยแทนเขาด้วย รีบคืนกระบี่นั่นออกมาเถอะ! นั้นไม่ใช่ของที่นายจะมีไว้ครอบครองได้” ผู้อาวุโสคน 1 ใน 3 คนนั้นพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม!
ฉู่เหินหันปรายตาหันไปมอง “ฉันรู้ว่าพวกคุณเป็นคนจากปราสาทตติยเทพ และก็รู้ว่าพวกคุณจากปราสาทตติยเทพเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจราวกับเทพเซียน! แต่ฉันขอพูดด้วยสัตย์จริง อย่ามายุ่งกับฉัน ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าผู้อาวุโส เพราะผู้คุ้มครองฉันสามารถฆ่าพวกคุณได้ทุกเมื่อ”
เมื่อฉู่เหินพูดจบเขาก็ติดต่อกับหม้อเซียนเผ่ากูด้วยจิตวิญญาณ ก่อนจะหยิบมันออกมาและเปิดฝาออก!
ทันทีที่เขาเปิดฝา พลังอำนาจมหาศาลก็เข้าคุกคามอากาศในที่นี้จนทำให้ทุกคนหายใจลำบาก แม้แต่ผู้อาวุโสจากปราสาทตติยเทพเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน! ผู้อาวุโสทั้งสามนั้น พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย มันทำให้พวกเขารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้พูดความจริง