ตอนที่ 415 ตัดน้ำตัดไฟ

ตอนที่ 415 ตัดน้ำตัดไฟ

หนิงอวี้ซานมีไพ่ไม้ตายอะไรซูเถาไม่รู้

ชายคนนี้มีความลับและอดีตมากมายที่เขาไม่เคยบอกพวกเรา และซูเถาก็ไม่คิดที่จะถามอะไรเขามากมาย

เป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้ตั่งเหวยหรานรีบออกไปด้วยตัวเขาเอง แต่หากไม่ได้ผลเธอก็คงต้องเป็นคนลงมือจัดการ แต่หากว่ามันยังไม่ได้ผลอีก เธอก็คงต้องใช้ท่าไม้ตายอย่างท่านผู้นำสูงสุดและหัวหน้าสวี่

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเถารู้สึกว่ามีคนใจดีคอยคุ้มกันเธออยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะทะนงตนเล็กน้อย

เช้าวันรุ่งขึ้น รองหัวหน้ากองทหารมาหาซูเถาและบอกว่าทหารกำลังจะเริ่มการฝึกภาคปฏิบัติด้วยชุดอาวุธที่ฉางจิงสนับสนุน

ซูเถาอนุมัติทันที แต่ก็ยังคอยจับตาดูอย่างระมัดระวัง และเธอก็มอบอาวุธที่ฉางจิงส่งมาให้ไปเท่านั้น เธอไม่ได้พูดถึงชุดปืนผลึกนิวเคลียสของเหล่าอวี๋ผอ

รองหัวหน้ากองทหารมองไปที่รายการอาวุธและจากไปด้วยใบหน้าที่มีความสุข

ก่อนการฝึกภาคเช้า ตั่งเหวยหรานได้เรียกนายทหารระดับสูงมาประชุม

โดยมีปืนพลังงานนิวเคลียสสามอันบนโต๊ะประชุม

เหล่านายทหารระดับสูงต่างก็มองไปที่ปืนพลังงานนิวเคลียสสามกระบอกด้วยสายตาลุกวาว

รองหัวหน้ากองทหารอดไม่ได้ที่จะจ้องมองมันครั้งแล้วครั้งเล่า แทบจะรอไม่ไหวที่จะนำอาวุธมาสวมบนร่างกาย อย่างที่รู้กันว่าในฉางจิง รองหัวหน้าตัวเล็ก ๆ อย่างเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะมีปืนพลังงานนิวเคลียสติดร่างกายได้

เขาไม่คิดว่าท่านผู้นำสูงสุดจะใจดีกับเถาหยางมากขนาดนี้ และมอบอาวุธให้กับเถาหยางถึงสามกระบอก

ตั่งเหวยหรานอดไม่ได้ที่จะมองอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าตัวเขาจะมีแล้ว แต่ใครเล่าจะอดใจไหว

วันนี้ในฐานะหัวหน้ากองทหารเขามีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในการแจกจ่ายปืนทั้งสามกระบอกนี้

นายทหารหลายนายที่นั่งอยู่รอบโต๊ะประชุมก็กลั้นหายใจ หัวใจของพวกเขาเต้นรัว มีเหงื่อออกที่หนังศีรษะด้วยความตื่นเต้น

ณ ขณะนี้มีนายทหารทั้งหมด 8 นาย และทุกคนล้วนมียศมีตำแหน่งที่สูง แต่มีปืนพลังงานนิวเคลียสเพียงสามกระบอก มันไม่เพียงพอต่อจำนวนคนทั้งหมด

หากวันนี้ไม่รีบคว้าเอาไว้ วันหน้าก็คงไม่มีโอกาสแล้ว

ทันใดนั้นคลื่นใต้น้ำก็ถาโถมเข้ามาในห้องประชุมที่เงียบสงัด ลูกน้องขี้ประจบของตั่งเหวยหรานก็ประจบประแจงเขาทันที ตราบใดที่พวกเขาสามารถได้อาวุธนี้มาครอบครอง พวกเขายอมทั้งหมด

ตั่งเหวยหรานมองไปรอบ ๆ อย่างใจเย็นและเอ่ยออกมาว่า

“ใครเป็นคนเริ่มเหตุการณ์ในโรงอาหารก่อน หากไม่มีใครยอมพูด ฉันจะเอาปืนทั้งสามกระบอกนี้ลงไปมอบกับนายทหารด้านล่าง ใครยอมรับก่อนคนนั้นก็จะได้…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลูกน้องช่างประจบทั้งสองก็ชี้ไปที่ใครบางคนและพูดว่า

“เถาจวิน! หัวหน้า! เดิมทีเรื่องที่โรงอาหารพวกเราอยากจะรายงานให้คุณทราบ แต่พวกเขาพร้อมใจกัน…”

ทันทีที่ทั้งสองคนร้องเรียนเสร็จ ก็มีคนยืนขึ้นและพูดว่า

“ไม่ใช่ความคิดของเถาจวินคนเดียว ผมก็ด้วย!”

“ใช่ ผมก็ด้วย!”

……

จากนั้นพวกเขาก็ยืนขึ้นทีละคน

แม้ว่าปืนพลังงานนิวเคลียสจะหายากมาก แต่ถ้าพลาดครั้งนี้ไปก็อาจจะไม่มีโอกาสได้มันอีกเลย แต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ผลประโยชน์นี้ไม่เกี่ยวข้อง

ผู้บังคับกองพันชื่อเถาจวิน ถอดหมวกทหารออกจากศีรษะด้วยใบหน้าเย็นชา พร้อมกับหันหลังจากไป

บรรยากาศภายในห้องเริ่มตึงเครียด!

ทันทีที่เขาจากไป ผู้บังคับกองพันคนอื่น ๆ ก็ออกไปทีละคนเช่นกัน ในท้ายที่สุดแม้แต่รองหัวหน้าก็โค้งคำนับและจากไป มีเพียงลูกน้องสองคนของตั่งเหวยหรานเท่านั้นที่ยังคงอยู่

ทั้งสองแสดงออกด้วยท่าทีขุ่นเคือง แต่ในใจกลับมีความสุข และคิดในใจว่าออกไปกันให้หมดก็ดี

“ต้องการเหรอ?” ตั่งเหวยหรานเย้ยหยันและชำเลืองมองทั้งสอง

ทั้งสองพยักหน้าด้วยความหวัง

แต่แล้วตั่งเหวยหรานก็คว้าปืนพลังงานนิวเคลียสทั้งสามกระบอกเอาไว้ในมือของเขา

“ฉันบอกตอนไหนว่าจะเอาออกมาแจกจ่าย”

หลังจากพูดจบเขาก็จากไปทันที เล่นเอาลูกน้องขี้ประจบทั้งสองชะงักไป

ทหารด้านล่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องประชุม

ทุกคนได้รับอาวุธใหม่ระหว่างการฝึกตอนเช้า และพวกเขาก็แสดงรอยยิ้มที่จริงใจเป็นครั้งแรกในไม่กี่วัน

หัวหน้าหน่วยที่มีความรู้เรื่องอาวุธสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่านี่คืออาวุธล่าสุดของฉางจิง และเขาไม่สามารถวางมันลงพร้อมสัมผัสมันซ้ำแล้วซ้ำอีก

ทหารตัวน้อยก็ตื่นเต้นเช่นกัน “ท่านผู้นำสูงสุดให้ความสำคัญกับเถาหยางของเรามาก เขามอบแต่สิ่งที่ดีให้เถาหยางจริง ๆ”

หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อยอีกครั้ง

จะดีกว่าถ้าไม่มีหัวหน้าตั่ง

หัวหน้าหน่วยตีเขาเบา ๆ พร้อมกับยักคิ้วให้แล้วกระซิบ

“อีกเดี๋ยวจะเป็นเวลาพัก แอบเอาแท่งเหล่านั้นไปแจกจ่ายให้คนในทีมตรงนั้น แล้วก็ระวังตัว ด้วย”

ทหารตัวน้อยกลายเป็นคนจริงจังทันทีและพยักหน้าอย่างแรง

หลังจากเสร็จสิ้นช่วงพัก ทหารตัวน้อยก็แสร้งทำเป็นคุยเล่นและลากสหายสี่ห้าคนไปที่ห้องน้ำด้วยกัน

เมื่อไปถึงห้องน้ำเขาก็ปิดประตูทันที โดยไม่รู้ว่ามีคนข้างห้องกำลังถ่ายหนักอยู่หรือเปล่าเพราะกลิ่นค่อนข้างชวนอาเจียน จากนั้นเขาก็หยิบบาร์ให้พลังงานออกมายัดให้แต่ละคนแล้วกระซิบว่า

“รีบกินเข้า! กินให้หมดตรงนี้! แล้วก็ทิ้งถุงลงชักโครก”

ทุกคนต่างก็หวาดกลัว มือของพวกเขาสั่นราวกับว่าพวกเขากำลังรวบรวมฝูงชนเพื่อก่ออาชญากรรม

น้ำลายของพวกเขากำลังจะหยดติ้ง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่กล้ารับไว้และเอ่ยถามว่าเอามาจากไหน

ทหารตัวน้อยบอกว่าเป็นเถ้าแก่ซูที่เห็นใจพวกเขาแล้วแอบเอามาให้ อีกทั้งยังกำชับว่าอย่าให้หัวหน้าตั่งรู้และสร้างความเดือดร้อนให้เถ้าแก่ซู

ถ้าซูเถารู้ เธอคงสำลักแน่ เพราะความตั้งใจเดิมของเธอนั้นตรงกันข้าม…

เมื่อเหล่านายทหารชั้นผู้น้อยได้ยินว่าเถ้าแก่ซูเป็นคนมอบให้ ตาของพวกเขาก็เปล่งประกายขึ้นและเขาก็รีบกินมันทันที หลังจากกินเสร็จ พวกเขาถามว่าเถ้าแก่ซูกำลังมาช่วยพวกเขาหรือเป็นผู้นำกองทหารคนอื่นโดดร่มลงมาเพื่อเตะคนแซ่ตั่งออกไป

ทหารตัวน้อยบอกให้พวกเขาพูดน้อยลงหน่อย และรีบออกไปหลังจากกินเสร็จโดยไม่ให้เหลือหลักฐาน

จากนั้นพวกเขาก็เช็ดปากแล้วเดินออกไปทันที ซึ่งหลังจากที่พวกเขากินเข้าไป พวกเขาก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและไม่วิงเวียนระหว่างวันอีกต่อไป

ในอีกสองวันต่อมา ทหารตัวน้อยก็ใช้วิธีนี้เพื่อให้ทุกคนในกลุ่มสามได้กินบาร์ให้พลังงาน เห็นได้ชัดว่าทหารเหล่านั้นก็มีความสุขและเรี่ยวแรงขึ้นมาก อีกทั้งยังมีรอยยิ้มมากกว่าเก่า กระทั่งวันหนึ่งเมื่อซูเถากลับมาจากเลิกงานและออกมาจากอาคารเถาหลี่ ก็มีคนขว้างกระดาษมาตกลงตรงเท้าของเธอ

ซูเถารู้สึกประหลาดใจ พร้อมหยิบมันขึ้นมาและคลี่ออก และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือนกกระเรียนกระดาษที่พับจากถุงบรรจุภัณฑ์บาร์ให้พลังงานจำนวนมาก

เธอหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกปลื้มปีติอยู่ในใจ

พวกเขาเหล่านี้…พับของเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้ด้วยเหรอ

เธอรู้สึกซาบซึ้งและตกตะลึงไปพร้อม ๆ กัน จากนั้นเธอก็กลับไปที่สำนักงานเพื่อผูกนกกระเรียนกระดาษแล้วแขวนไว้บนโต๊ะของเธอ

สีสันสวยงามไม่แพ้ใคร

หลังจากทำสิ่งนี้เสร็จ จวงหว่านก็โทรมาบอกว่าเธอนัดตั่งเหวยหรานให้แล้ว เป็นตอนเที่ยงพรุ่งนี้

หลังจากจวงหว่านพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสบถ

“เถ้าแก่ เขาพูดจริง ๆ นะว่าถ้าเถ้าแก่เป็นคนเข้าไปคุย เขาไม่ไปหรอก ไอ้บ้านี่!”

จวงหว่านกำลังเดือดดาล

ถ้าเมิ่งเชียนและจงเกาอี้ไม่หยุดเธอ เธอคงรีบไปที่ฐานทดลองแล้ว

หากซูเถาจะบอกว่าเธอไม่โกรธก็คงเป็นเรื่องโกหก แต่เธอแปลกใจมากกว่าที่ตั่งเหวยหรานดูถูกเธอมากขนาดนี้

สุดท้ายแล้วเขาก็เต็มไปด้วยอคติ อายุก็มากแล้วแต่ยังไม่รู้ฟ้าสูงดินหนา?

ซูเถากล่าวว่า “เขารังเกียจฉันมาก งั้นฉันก็คงปล่อยเขาไปเฉย ๆ ไม่ได้เช่นกัน ไปตัดน้ำตัดไฟห้องเขาซะ แล้วนำปืนพลังงานนิวเคลียสไปแจกจ่ายให้ผู้บังคับกองพันแต่ละคน แล้วบอกพวกเขาว่าทุกกระบอกบรรจุผลึกนิวเคลียสมาอย่างเพียงพอ และแน่นอนว่าตั่งเหวยหรานจะไม่ได้สิ่งนี้”

“นอกจากนี้ โปรดแจ้งหัวหน้าตั่งด้วยว่า เขาควรคืนปืนพลังงานนิวเคลียสสามกระบอกที่เขาเอาไปเป็นการส่วนตัวโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นเถาหยางจะรายงานเขาต่อฉางจิงในข้อหาขโมยอาวุธของสหพันธ์”