เฟิงหานชวนอึ้งเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบว่า “ไม่มีอะไร แค่สูบเป็นครั้งคราว”
ความจริง เพราะรู้สึกได้ว่าอารมณ์เธอไม่ดี อารมณ์เขาก็เริ่มไม่ดีตามไปด้วย จนคิดว่าถ้าเธอรู้ความจริงเรื่องคืนนั้น เรื่องจะเป็นยังไง
เฉินฮวนฮวนยังจะดีกับเขาขนาดนี้ไหม? จะยังเชื่อใจเขาหรือเปล่า? จะยังพึ่งพาเขาหรือเปล่า?
ตอนที่เขาสูบบุหรี่ คิดแต่คำถามพวกนี้ จากนั้นอารมณ์ก็เสียกว่าเดิม
“เมื่อก่อนไม่ค่อยเห็นคุณสูบเลย ฉันคิดว่าคุณไม่สูบซะอีก” เฉินฮวนฮวนมองต่ำ ไม่เข้าใกล้เฟิงหานชวน ยังรักษาระยะห่างหนึ่งเมตร
เฟิงหานชวนเห็นว่าเธอเหมือนรักษาระยะห่างกับเขา เลยคิดว่าเธอไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ จากนั้นจึงขยี้บุหรี่ที่กระถางต้นไม้ข้างๆ
เขาเดินไปหาเฉินฮวนฮวน ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วลูบผมเธอเบาๆ “ไม่ชอบผมสูบบุหรี่เหรอ? งั้นต่อไปผมจะไม่สูบอีก”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่อยากถามคุณว่า ทำไมอยู่ๆถึงสูบบุหรี่?” ตอนนี้อารมณ์เฉินฮวนฮวนเซนซิทีฟมาก
เธอเม้มปาก พูดเสียงเบาอย่างนิ่งเฉย “เพราะเรื่องของฉันเหรอ?”
เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว แล้วแสดงสีหน้าลนลาน แล้วถามว่า “เพราะเรื่องของคุณ?”
ตอนนี้เขาเหมือนร้อนตัว ขอแค่เฉินฮวนฮวนพูดถึงอะไร เขาก็จะกังวลว่าเธอรู้ความจริง รู้ว่าเขาคือผู้ชายคืนนั้น
“คุณบอกว่าไม่ติดใจอะไร เป็นเรื่องจริงเหรอ?” เฉินฮวนฮวนรวบรวมความกล้า แล้วถามออกไป
ถึงก่อนหน้านั้นเธอเคยถามแล้ว แต่ตอนนี้ก็อดคิดมากไม่ได้ เพราะสัมผัสที่หกของเธอรู้สึกว่า ที่เฟิงหานชวนสูบบุหรี่เกี่ยวกับเรื่องนั้น
“ไม่ติดใจ?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ทีแรกยังไม่เข้าใจ แล้วพอตั้งสติได้ จึงรีบยื่นมือออกไป แล้วดึงเธอเข้ามากอด
เขากอดเธอไว้แน่น แล้ววางคางลงที่ไหล่เธอ ตาของเขาแดงเล็กน้อย ท่าทางแบบนั้นเฉินฮวนฮวนไม่เห็นแววตาเขา ไม่เห็นสีหน้าที่รู้สึกผิดของเขา
“ยัยบื้อ ผมไม่ติดใจอยู่แล้ว” เสียงของเขาเบามาก เหมือนเสียงออกจากลำคอไม่ได้ เป็นความรู้สึกกดดัน
“คุณไม่ติดใจจริงๆเหรอ?” เฉินฮวนฮวนถามอีกรอบ ในดวงตามีแต่น้ำตา
เธอเอาแต่ถามสวรรค์ ทำไมเธอต้องเจอเรื่องแบบนั้น ทำไมวันนี้ต้องให้เธอเจอหลิวตงรุ่ยอีก ทำไม……
ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของเธอถามเขา เฟิงหานชวนจึงรู้สึกใจสั่น ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เฉินฮวนฮวนก็คงไม่ทรมานขนาดนี้
“ฮวนฮวน คุณฟังผมพูดนะ นี่ไม่ใช่ความผิดคุณ” เฟิงหานชวนปล่อยเฉินฮวนฮวน วางฝ่ามือไว้ที่หลังศีรษะเธอ แล้วจ้องสบตากับดวงตาที่เปียกชื้นของเธอ
เฉินฮวนฮวนเห็นดวงตาที่แดงของเขา เธอไม่รู้ว่าเฟิงหานชวนกำลังเป็นห่วงเธอหรือเปล่า ตอนนี้เธอทำตัวไม่ถูก แล้วน้ำตาก็เอ่อล้นออกมา
“ไม่ใช่ความผิดของฉัน ไม่ใช่ ไม่ใช่ความผิดของฉัน……” เฉินฮวนฮวนร้องไห้ แล้วเอาแต่พึมพำคำนี้
“อื้อ ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ใช่ความผิดของคุณ” เฟิงหานชวนกอดเธออีกครั้ง แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ “ฮวนฮวน ผมไม่ติดใจ คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร ผมก็จะยืนอยู่ข้างคุณ”
น้ำเสียงที่หนักแน่นของเขา ทำให้ใจของเฉินฮวนฮวนเริ่มสงบลง เธอซบอยู่ในอ้อมกอดเขา แล้วถามให้แน่ใจ “ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร คุณก็จะยืนอยู่ข้างฉันจริงๆเหรอ?”
“จริง สิ่งที่เฟิงหานชวนพูด ถ้าโกหกคุณ ขอให้ตกนรกทั้งเป็น” เฟิงหานชวนไม่เคยสงสัยกับความมุ่งมั่นที่เขาจะแก่ไปพร้อมกับเธอ เพราะฉะนั้นเขาจึงสาบาน
“ไม่ คุณอย่าสาบานแบบนี้!” เฉินฮวนฮวนรีบผลักเขาออก แล้วใช้มือปิดปากเขาไว้
“ฮวนฮวน ผมไม่คิดจะโกหกคุณ ไม่เคยคิดอะไรอย่างอื่นเลย ผมรู้ว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันสั้น คุณเลยไม่วางใจ แต่เวลาจะพิสูจน์ใจผมเอง” เฟิงหานชวนสบตากับเธอ แล้วพูดออกมาทีละคำ
ตาเฉินฮวนฮวนแดงกว่าเดิม ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่เพราะซึ้งใจ เพราะซึ้งกับเฟิงหานชวน
“ความจริง ฉันคิดว่าความรู้สึกระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มันมีเวลาจำกัด”
เธอเม้มปาก มองเฟิงหานชวนอย่างกล้าหาญ แล้วยิ้มอย่างอิ่มเอมใจ พร้อมเอ่ยว่า “ถ้าวันนี้ไหนคุณไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว ฉันหวังว่าคุณอย่าปิดบังฉัน แล้วบอกกับฉันว่าจะหย่า ถึงตอนนั้น ฉันก็จะไม่ตอแย เพราะเราเคยมีชีวิตคู่ที่มีความสุขด้วยกัน ถึงสุดท้ายต้องแยกจากกัน ฉันก็อยากเก็บความทรงจำดีๆนี้ไว้”
“คุณน่าจะรู้เรื่องของฉันกับเยี่ยจิ่งเฉิน ตอนที่เลิกกันน่าอนาถใจมาก ฉันไม่อยากให้เราเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้น……”
เฉินฮวนฮวนยังพูดไม่จบ ก็รู้สึกมองอะไรไม่เห็น เขาก้มหน้าลงมา แล้วจูบปิดริมฝีปาก
หลังจากนั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นกัด เหมือนกำลังโกรธ เหมือนกำลังลงโทษเธอ
เฉินฮวนฮวนรู้สึกขาดอากาศหายใจ
พอรู้สึกถึงการต่อต้านของเธอ เฟิงหานชวนค่อยปล่อยเธอออก ดวงตาที่ดำสนิทที่ของเขา เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า “หย่า เป็นไปไม่ได้”
“เฟิงหานชวน เรารู้จักกันยังไม่ถึงเดือน คุณรับประกันทั้งชีวิตได้เหรอ?” เฉินฮวนฮวนไม่เชื่อคำสาบานอยู่แล้ว เพราะเธอไม่เคยเห็นความรักที่ยืนยาว
ไม่ว่าจะเป็นพ่อเธอเฉินเจี้ยนหมิน หรือว่ารักแรกของเธอเยี่ยจิ่งเฉิน หรือว่าจางฟานแฟนของเกาเหวิน แล้วก็นายท่านเฟิงเหลยถิงที่หลายใจอีก……ทุกๆอย่าง เธอไม่มีทางแน่ใจได้เลยว่าเฟิงหานชวนจะดีกับเธอไปทั้งชีวิต
หรือว่าสักวันหนึ่ง เขาเบื่อเธอแล้ว หรือว่าสักวันหนึ่ง มีผู้หญิงที่ทำให้เขาหวั่นไหวโผล่มา
เรื่องของโชคชะตา เอาอะไรแน่นอนไม่ได้
ความจริงเธอมองในแง่ดี อย่างน้อยตอนนี้เฟิงหานชวนดีกับเธอ อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข แค่นี้ก็พอแล้ว
“ผมทำได้” คำพูดธรรมดาๆ กลับแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น
พอได้ยินคำตอบที่มุ่งมั่นนี้ เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้น สบตากับเขาอีกครั้ง ใบหน้าเขาเย็นชา แฝงไปด้วยความจริงจัง
“เชื่อผม” เฟิงหานชวนจับไหล่ทั้งสองข้างเธอไว้ แล้วพูดอย่างหนักแน่น
ดวงตาเฉินฮวนฮวนพร่ามัวทันที แค่ชั่ววินาที เหมือนเขื่อนแตก แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เธอพยักหน้า แล้วพุ่งเข้าอ้อมกอดเขา กอดเอวเขาไว้แน่นๆ กอดเขาไว้แน่นๆ
เฟิงหานชวนไม่ได้ตอบอะไรอีก เขารู้ว่าวินาทีนี้ เฉินฮวนฮวนแค่ต้องการความเงียบ แล้วต้องการเวลาเพื่อคิดพิจารณา
เขาแค่กอดเธอไว้ แล้วปลอบใจซึ่งกันและกัน ให้พลังบวกกับอีกฝ่าย เหมือนให้ความไว้วางใจกับอีกฝ่าย
ค่ำคืนที่หนาวเย็น
ท้องฟ้าของเมืองเป่ยเฉิงไม่มีความโรแมนติกของธรรมชาติ เพราะไม่มีดวงดาวที่ระยิบระยับ มีแต่แสงไฟสีต่างๆที่มาประดับแทน
ไม่รู้ว่าทั้งสองกอดกันไปนานแค่ไหน เฉินฮวนฮวนเป็นคนปล่อยเฟิงหานชวนก่อน เธอเช็ดดวงตาที่บวมแดง เพราะร้องไห้ไปนานมาก เสียงเลยเบา “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
“อื้อ” เฟิงหานชวนพยักหน้าให้
เฉินฮวนฮวนเดินกลับเข้าไปข้างใน เพิ่งเดินไปถึงประตูระเบียง ก็เหมือนนึกอะไรได้ จึงหันกลับไปอีกครั้ง แล้วถามอย่างทำตัวไม่ถูก “อาหาน เรื่องที่อวิ๋นตวนวันนี้ สร้างผลกระทบที่ไม่ดีกับตระกูลเฟิงหรือเปล่า? อาเหยี่ยนบอกว่า พ่อเขา พี่ใหญ่คุณ พวกเขารู้เรื่องนั้นแล้ว”
“พ่อคุณก็น่าจะรู้แล้ว” เฉินฮวนฮวนพูดเสริมอีกคำ
เธอเป็นภรรยาที่นายท่านยัดให้เฟิงหานชวน ถ้านายท่านมีความเห็นอะไรกับเธอ จะแยกเธอกับเฟิงหานชวนหรือเปล่า?
เฉินฮวนฮวนไม่กล้าคิดต่อ
“ไม่เป็นไร” เฟิงหานชวนยื่นมือออกไป แล้วขยี้หัวเธอเบาๆ ยิ้มเอ่ยว่า “พ่อผมไม่ใช่คนที่จะเชื่อคนอื่นง่ายๆ ผมช่วยคุณอธิบายกับพ่อแล้ว”
“อีกหน่อยฉันจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แล้วสร้างความเสื่อมเสียให้ตระกูลเฟิง” เฉินฮวนฮวนก้มหน้า ในใจรู้สึกผิดมาก
“ไม่เสื่อมเสีย ไม่ต้องโทษตัวเอง ตระกูลเฟิงไม่เสื่อมเสียเพราะเรื่องนี้หรอก” เฟิงหานชวนจับแก้มเธอ แล้วพูดอีกว่า “ถึงแม้การกระทำของหลินอวี่หยางน่าขยะแขยง แต่ผมรู้สึกว่าเขาทำแบบนั้นสะใจมาก”
“หา?” เฉินฮวนฮวนเอียงหัว ทำหน้าสงสัย
ทำไมเธอรู้สึกว่า เฟิงหานชวนกำลังชมสิ่งที่หลินอวี่หยางทำ? ก่อนหน้านั้นเขายังรังเกียจหลินอวี่หยางอยู่เลย
“ที่หลินอวี่หยางทำถือว่าหนามยอกเอาหนามบ่ง พอคิดดูดีๆก็สะใจเหมือนกัน ดีกว่าวิธีอื่น” เฟิงหานชวนหัวเราะ แล้วพูดอีกว่า “ไม่มีใครโทษคุณ เพราะคนตระกูลเฟิง คนอื่นจะรังแกได้ยังไง”
ถ้าวันนี้หลินอวี่หยางไม่อยู่ด้วย ให้เขารู้ว่าเฉินฮวนฮวนโดนรังแก คงไม่ลงโทษอะไรง่ายๆแบบนั้นหรอก
แต่ว่า เขาก็จะไม่ปล่อยเพราะหลินอวี่หยางลงโทษผู้หญิงสองคนนั้นแล้ว ไม่ใช่แค่หลี่เหมยกับอันฉีที่โดนสั่งสอน แต่ร้านเนื้อย่างนั้น เขาก็จัดการแล้ว
ทีแรกร้านเนื้อย่างก็ไม่เกี่ยว เพราะผู้จัดการดูแลไม่ดี เลยทำให้คนอื่นรู้เรื่องนั้น เขาจึงลงโทษร้านนั้นด้วย
แน่นอน เรื่องนี้เขาไม่คิดจะบอกเฉินฮวนฮวน เพราะเขารู้นิสัยเธอดี นิสัยของเธอ ไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวมาโดนลูกหลง แต่เขาไม่คิดแทนคนอื่น
กล้าทำกับภรรยาเขา ก็ต้องโดนแบบนั้นแหละ
“ขอบใจนะ อาหาน” เฉินฮวนฮวนรู้ว่าเฟิงหานชวนกำลังปลอบใจตัวเอง จึงมองเขาตรงหน้าอย่างจริงใจ แล้วพูดขอบคุณ
“ผมบอกแล้วไง ระหว่างสามีภรรยาไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้” เฟิงหานชวนพูดย้ำ
“งั้นฉันควรจะขอบคุณยังไงดีล่ะ?” เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้ว แล้วทำหน้าสงสัย
ถ้าไม่พูดว่าขอบคุณ แต่เธออยากขอบคุณเฟิงหานชวน ไม่พูดอะไรเลยคงไม่ได้มั้ง?
นี่เลยทำให้เธอลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี
“ถ้าอยากจะขอบคุณจริงๆ คุณเป็นภรรยาผม ก็ควรใช้วิธีของภรรยา มาขอบคุณสามีสิ” เฟิงหานชวนยิ้มมุมปาก น้ำเสียงมีเลศนัย
เฉินฮวนฮวนไม่ได้คิดอะไรมาก แค่กะพริบดวงตาที่ไร้เดียงสา แล้วเอ่ยถามว่า “วิธีที่ภรรยาขอบคุณสามี? วิธียังไงเหรอ? ทำอาหารซักผ้าให้สามีเหรอ?”