บทที่ 306 งั้นมาจูบหน่อย

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 306 งั้นมาจูบหน่อย

“ซื่อจื่อ ท่านทาเล็บเป็นด้วยรึ?” หยุนถิงทั้งตกใจและประหลาดใจ

“ไม่เป็น”

“แล้วท่านพูดว่าเป็นทำไมเล่า?”

จวินหย่วนโยวเหล่มองของพวกนั้น “ไม่เคยกินหมูแล้วยังไม่เคยเห็นหมูหรือไง มีอะไรยากกัน”

“งั้นรึ งั้นเชิญซื่อจื่อเริ่มเลยเถอะ” หยุนถิงเลิกคิ้วมองเขา

นางจะเย่อหยิ่งมากไปแล้ว อีกครู่ถ้าเขาวาดไม่ดี หยุนถิงต้องหัวเราะเยาะเขาแน่

“ตกลง” จวินหย่วนโยวรับน้ำดอกไม้มาย้อมเล็บหยุนถิงก่อน จากนั้นก็วาดรูปดอกไม้บนนั้น ทำเอาหยุนถิงมองอย่างตะลึง

“ซื่อจื่อ ท่านแน่ใจว่านี่เป็นครั้งแรกที่ท่านทาเล็บน่ะ?”

นี่มันวาดได้ไม่ด้อยกว่าชิงเฟิงเลยนะ ซื่อจื่อคงไม่ได้โกหกกระมัง

แต่หยุนถิงคิดๆก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ซื่อจื่อห่างเหินกับผู้หญิงมาตลอด ขนาดองค์หญิงท่านหญิงเขายังไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย ดังนั้นเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

เพียงแต่ซื่อจื่อฉลาดเกินไปแล้ว วาดครั้งแรกก็กลายเป็นอย่างนี้ มันทำให้หยุนถิงเริ่มเสียเซลล์เหมือนกัน

“แน่นอน ข้าวาดครั้งแรก เจ้าเป็นคนแรก พอใจหรือไม่?” จวินหย่วนโยวถาม

“พอใจ พอใจมากยิ่งนัก ซื่อจื่อท่านนี่ช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ วาดครั้งแรกก็ออกมาดีขนาดนี้แล้ว ข้าชอบยิ่งนัก ซื่อจื่อท่านเก่งมากเลย” หยุนถิงบอกอย่างยินดี

สีหน้าที่เดิมเย็นชาของจวินหย่วนโยว พลันอบอุ่นขึ้นหลายส่วน

“ต่อไปหากอยากวาดอีก ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

“ได้ ซื่อจื่อท่านดีจริงๆเลย” หยุนถิงพอใจมาก

“ยังดี ต่อไปห้ามไปจวนองค์หญิงใหญ่อีก” จวินหย่วนโยวออกคำสั่ง

“หากจวนองค์หญิงใหญ่มาเชิญข้าล่ะ ข้าปฏิเสธไม่ได้กระมัง?” หยุนถิงย้อนถาม

“ก็บอกไปว่าไม่สบาย ห้ามเข้าใกล้นางมากเกินไป”

“ได้ ฟังคำท่านนะ”

จวินหย่วนโยววาดเสร็จ ก็ไปเยี่ยมรั่วจิ่ง

หยุนถิงกลับยื่นนิ้วมือทั้งสิบออกไป เจอใครก็จงใจอวดเสียหน่อย “นี่เป็นน้ำมันทาเล็บที่ซื่อจื่อวาดให้ข้า สวยมากใช่หรือไม่”

คนรับใช้ในจวนพากันชมเชย ต่างอิจฉาฮูหยินยิ่งนัก ซื่อจื่อดีกับฮูหยินมากจริงๆ ทาเล็บให้ฮูหยินด้วยตัวเองเลย

ด้านนอกหน้าประตู

หยุนเฉิงเซี่ยงพาหยุนเสี่ยวลิ่วมาด้วยตัวเอง คนรับใช้หน้าประตูรีบเข้ามาต้อนรับอย่างนอบน้อม อีกคนก็รีบไปรายงานหยุนถิง

พอได้ยินว่าพ่อตนมา หยุนถิงคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รีบพุ่งมานอกเรือนทันที

“ท่านพ่อ ท่านมาได้อย่างไรกัน มีเรื่องอะไรรึ?” หยุนถิงถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรพ่อมาไม่ได้รึ เจ้าไม่ได้กลับมาเยี่ยมหลายวันแล้วนะ ข้าเลยต้องมาหาเจ้าไง” หยุนเฉิงเซี่ยงทำทีโกรธ

หยุนถิงถึงถอนหายใจโล่งอก “ท่านพ่ออย่าโกรธเลย ช่วงนี้ข้ายุ่งไง รีบเข้ามาในเรือนเถอะ พ่อบ้านไปชง ชาหลงจิ่งน้ำค้างมาให้ข้ากาหนึ่งนะ เป็นชาที่ท่านพ่อข้าชอบที่สุด”

“ถือว่าเจ้ายังจำได้ว่าข้าชอบอะไร” หยุนเฉิงเซี่ยงเดินเข้าไปด้านในทันที

พอเข้าเรือน หยุนเสี่ยวลิ่วก็มองซ้ายแลขวา สุดท้ายมองไปรอบหนึ่งก็ไม่เห็นเสี่ยวอันจื่อ อดผิดหวังนิดหน่อยไม่ได้ “พี่หญิงใหญ่ เสี่ยวอันจื่อล่ะ?”

“เขาออกไปปฏิบัติภารกิจกับองครักษ์น่ะ” หยุนถิงตอบ

หยุนเสี่ยวลิ่วอึ้งไปเลย “เขาปฏิบัติภารกิจได้ด้วย?”

“แน่นอนสิ อย่าเห็นว่าเขายังเด็กนะ ความคิดเยอะ เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย ระยะนี้เรียนวรยุทธ์ก็ตั้งใจเรียนมาก ดังนั้นข้าเลยให้เขาไปฝึกฝนสักหน่อย”

หยุนเสี่ยวลิ่วสะท้อนใจนัก หันมองพ่อตนเอง

“ถิงเอ๋อร์ เสี่ยวอันจื่อน่ะอายุพอๆกับเสี่ยวลิ่ว ถ้าไงให้เสี่ยวลิ่วอยู่กับเจ้าที่นี่ด้วย ควรฝึกฝนยังไงก็ฝึกไป เขากับเสี่ยวอันจื่อจะได้เป็นเพื่อนกันได้” หยุนเฉิงเซี่ยงเปิดปาก

“แต่ท่านพ่อ ฝึกฝนวิทยายุทธ์อะไรน่ะลำบากจะตาย ข้ากลัวเจ้าหนูนี่จะทนความลำบากไม่ไหวน่ะสิ” หยุนถิงตอบ

“ข้าไม่กลัวความลำบาก จะพูดยังไงข้าก็เป็นลูกชายของเฉิงเซี่ยง จะยอมแพ้ให้กับเสี่ยวอันจื่อได้ยังไง” หยุนเสี่ยวลิ่วพูดด้วยหน้าตาเคร่งเครียด

“ก็ได้ งั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ออมมือเด็ดขาด ถ้าเจ้ายืนหยัดอดทนไม่ไหวก็กลับไปซะ”

“ตกลง”

“เช่นนั้นรบกวนเจ้าดูแลเสี่ยวลิ่วด้วยนะ เสี่ยวลิ่วอยู่กับเจ้าพ่อวางใจที่สุด” หยุนเฉิงเซี่ยงถอนหายใจ

“ท่านพ่อวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

หยุนเสี่ยวลิ่วเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าพี่หญิงใหญ่ ไม่รู้ทำไมรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขารีบวิ่งไปหาองครักษ์ให้สอนวรยุทธ์ให้ทันที

หยุนเฉิงเซี่ยงถึงพูด “ถิงเอ๋อร์ เจ้าแต่งงานกับซื่อจื่อมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมท้องเจ้ายังไม่มีวี่แววเลยสักนิด ไปหาท่านหมอดูสักหน่อยไหม?”

หยุนถิงมุมปากกระตุก “ท่านพ่อ ข้าเองก็เป็นหมอนะ”

“พ่อลืมไปแล้วจริงๆ เจ้าต้องรีบหน่อยแล้วนะ อย่านึกว่าอายุยังน้อยงดงามก็จะสามารถจับหัวใจของซื่อจื่อไว้ได้ตลอดไป รีบมีลูกชายเร็วๆดีกว่าสำคัญที่สุด พ่อหาท่านหมอมาจัดยาบำรุงให้เจ้าเป็นพิเศษเลยนะ นี่ของเจ้า นี่ของจวินซื่อจื่อ พวกเจ้าสองคนบำรุงด้วยกัน ผลลัพธ์ถึงจะยิ่งเร็วมากขึ้น” หยุนเฉิงเซี่ยงยื่นห่อในมือมาให้

หยุนถิงมุมปากกระตุก นี่ท่านพ่อมาเพื่อเร่งให้เธอท้องล่ะสิ

“ขอบคุณท่านพ่อตาที่คิดถึง ข้าต้องกินมันกับฮูหยินแน่!” น้ำเสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลลอยมาแต่ไกล จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา

หยุนถิงรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี จวินหย่วนโยวนี่มาได้ถูกเวลาเสียจริง น่าขายหน้าชะมัด

“ลูกเขยที่ดี เจ้าพูดเช่นนี้ข้าก็วางใจละ” หยุนเฉิงเซี่ยงพอใจมาก

หยุนถิงให้ห้องครัวทำอาหารมาเต็มโต๊ะ ล้วนเป็นของที่หยุนเฉิงเซี่ยงชอบกินมากที่สุด และยังชวนหยุนเฉิงเซี่ยงกับหยุนเสี่ยวลิ่วกินข้าวด้วย หยุนเฉิงเซี่ยงถึงได้จากไปอย่างพอใจ

พอกินอิ่ม หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวก็มานั่งชมจันทร์ในเรือน

แสงจันทร์กระจ่างสาดส่องลงมาที่ตัวหยุนถิง ยิ่งสะท้อนให้ใบหน้างามล้ำของนางดูงดงามชวนฝันมากขึ้น งดงามล่มเมือง พอนางหันมายิ้มบางๆให้จวินหย่วนโยว มันช่างดึงดูดเย้ายวนใจจริงๆ

จวินหย่วนโยวรั้งแขนหยุนถิง พลางดึงนางเข้าอ้อมกอด หยุนถิงเลยนั่งลงบนตักจวินหย่วนโยว

“ฮูหยิน ท่านพ่อตาพยายามอย่างหนักแล้ว ถ้าไงคืนนี้เรามาพยายามกันดีหรือไม่?” น้ำเสียงมีจังหวะของจวินหย่วนโยวลอยเข้าหู พาลมหายใจอุ่นร้อนมาด้วย ทำให้หูหยุนถิงเริ่มแดงขึ้นแล้วเหมือนกัน

“อย่าเล่น ท่านพ่อข้าก็อย่างนั้นแหละ ท่านอย่าถือสาเป็นจริงเป็นจังเลย” หยุนถิงพูดอย่างกระดาก

“นั่นน่ะท่านพ่อตานะ คำพูดของท่านพ่อตา ข้าย่อมต้องจริงจังสิ และต้องจริงจังมากด้วย” จวินหย่วนโยวพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด

“อย่ามา ทำไมปกติข้าไม่เห็นท่านจะเคารพพ่อข้าสักเท่าไหร่เลย มาตอนนี้ทำมาเป็นหมาป่าลามกอะไร”

“ข้าเคารพท่านพ่อตาอยู่ในใจ หากเป็นภายนอกก็เชื่อฟังคำสั่งเขายิ่งนัก น่ากลัวจะโดนคนเกลียดแค้นเอาได้ นี่ข้าหวังดีกับท่านพ่อตานะ” จวินหย่วนโยวอธิบาย

หยุนถิงคิดๆดูก็จริง “เอาเถอะ ยกโทษให้ท่านละ”

“งั้นก็มาจูบหนึ่งที” จวินหย่วนโยวพูด ก้มหน้าลงจูบริมฝีปากหยุนถิง

หยุนถิงอยากจะผลักเขาออก แต่กลับโดนมือใหญ่จวินหย่วนโยวรวบไว้ในอ้อมกอด ไม่ให้โอกาสเธอหลบหนีเลยสักนิด

ถึงจวินหย่วนโยวจะบ้าอำนาจ แต่ก็ไม่กักขฬะ ริมฝีปากบางรวมรันพันตูอ่อนโยน ประหนึ่งกำลังทะนุถนอมคุ้มครองสมบัติล้ำค่า อ่อนโยนอย่างยิ่ง

หยุนถิงต้านทานความอ่อนโยนของเขาไม่ได้ที่สุด พริบตาเดียวก็ลุ่มหลงในการโจมตีของจวินหย่วนโยว ร่างกายอ่อนยวบเอนพิงอ้อมกอดจวินหย่วนโยว ตอบสนองจูบของเขา

แสงจันทร์กระจ่างสาดส่องมาที่ร่างของทั้งสองคน อบอุ่นโรแมนติก องครักษ์เงามังกรที่ปีนกำแพงอยู่ทั้งหมดพากันหันหน้าหนี