บทที่ 340 จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ จักรพรรดิปีศาจเข้าฝัน

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 340 จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ จักรพรรดิปีศาจเข้าฝัน

“สบายดีพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่กระทบมาถึงข้า”

หานเจวี๋ยกล่าวตอบ ความห่วงใยของจักรพรดิสวรรค์ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจ

จักรพรรดิสวรรค์ถามด้วยความฉงน “เจ้าหลบซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่ ยมโลกวุ่นวายถึงเพียงนี้ โกลาหลมายาวนานขนาดนี้ ไม่ส่งกระทบต่อเจ้าเลยหรือ”

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ข้าซ่อนอยู่ในหลืบเล็กๆ มุมหนึ่ง พวกเขาไม่พบข้าก็เป็นเรื่องปกติ”

“เอาเถอะ เจ้าระวังหน่อยแล้วกัน วิญญาณพยาบาทแห่งแดนชำระบาปเก้าขุมออกจากยมโลก ต่อจากนี้เมืองนรกต้องกวาดล้างยมโลกเป็นแน่ เพื่อรวมอำนาจให้มั่นคง”

“วางใจเถอะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

หานเจวี๋ยตอบรับ

เขาไม่ได้อยู่ในยมโลกแล้ว

หานเจวี๋ยสอบถาม “สถานการณ์ของเฮ่าเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ สืบกระจ่างหรือยังว่าในร่างเขามีวิญญาณอีกดวงอยู่หรือไม่”

จักรพรรดิสวรรค์ให้คำตอบ “ไม่พบเลย รอจนมหาเคราะห์สิ้นสุดลง เราจะพาเขาไปพบบรรพชนเต๋า”

“รอให้มหาเคราะห์สิ้นสุดลงหรือ นานเกินไป ไม่เกรงว่าจะเกิดปัญหาแทรกซ้อนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“หลังจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเปิดฉากขึ้น บรรพชนเต๋าก็หายไปเลย คงเกรงว่าจะมีคนไปขอความช่วยเหลือจากเขากระมัง”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

เห็นทีว่าเรื่องนี้ก็คงต้องพึ่งข้าอยู่ดี

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

เฮ่าเอ๋อร์ อาจารย์ต้องช่วยเจ้าให้ได้ เรื่องที่เจ้าเฮ่าเทียนที่สมควรตายจะมากวาดล้างสำนักซ่อนเร้นของข้าจะต้องไม่เกิดขึ้น!

หานเจวี๋ยพูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์อีกสองสามประโยค หลังจากจบการสนทนาผ่านกระแสจิต หานเจวี๋ยก็เริ่มฝึกบำเพ็ญต่อ

นับจากนั้นเป็นต้นมา หานเจวี๋ยก็จะตรวจหาผู้แข็งแกร่งในละแวกใกล้เคียงทุกปี ป้องกันไม่ให้มีวิญญาณพยาบาททรงพลังเข้ามาใกล้

ยี่สิบปีผ่านไป หานเจวี๋ยไม่พบศัตรูที่ทรงพลังเลย

ดูเหมือนแดนชำระบาปเก้าขุมจะว่างเปล่าแล้วจริงๆ!

โอกาสทะลวงขั้นมาเยือนหานเจวี๋ยแล้ว

ทะลวงหนึ่งขั้นในระยะเวลาสองร้อยกว่าปี ความเร็วระดับนี้ไม่นับว่าเร็วเกินไป แต่ก็ไม่นับว่าช้าเกินไปเช่นกัน

แน่นอน นี่เป็นสถานการณ์ของหานเจวี๋ยคนเดียวเท่านั้น ความเร็วระดับนี้หากเกิดขึ้นกับจักรพรรดิเซียนคนอื่น นับว่ารวดเร็วดั่งโบยบิน

หานเจวี๋ยไล่อู้เต้าเจี้ยนออกไปนอกถ้ำ จากนั้นเขาจึงเริ่มทะลวงขั้น

ในไม่ช้า ทุกคนในเกาะล้วนรับรู้ถึงอำนาจกดดันอย่างหนึ่ง แม้แต่อาคมควบคุมในถ้ำเทวาฟ้าประทานก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่

จินกังนู่ลอบตระหนก กลิ่นอายช่างน่าหวาดหวั่นนัก

การะทะลวงขั้นของหานเจวี๋ยสร้างความปิติยินดีให้พวกเขาได้เสมอ

ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในแดนชำระบาปเก้าขุม ยิ่งหานเจวี๋ยแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

….

สามปีผ่านไป

หานเจวี๋ยทะลวงขั้นสำเร็จแล้ว!

จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ!

ราวกับทะลวงลำไผ่ ไม่มีอุปสรรคเลยสักนิด

สิ่งแรกที่หานเจวี๋ยทำคือเรียกจอค่าสถานะออกมาตรวจสอบ

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 4352/1,600,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: เซียนมนุษย์ (กายดาราอนธการ)]

[ตบะ: จักรพรรดิเซียนวัฏจักรแปดวัฏ]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม]

….

อายุขัยหนึ่งพันหกร้อยล้านล้านปี!

ยังคงต้องใช้คำนั้น!

เยี่ยม!

อายุขัยที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ล้วนได้คืนมาทั้งหมด!

หานเจวี๋ยรู้สึกพอใจยิ่งนัก เขาเริ่มควบรวมตบะ

วิญญาณของเขาบรรลุระดับสมบูรณ์แบบแล้ว ยากจะจินตนาการได้ว่าระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏจะยกระดับวิญญาณเขาให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นอย่างไร

เวลาผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี

ตบะของหานเจวี๋ยเสถียรอย่างสมบูรณ์ เขาหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเริ่มสาปแช่ง เตรียมจัดสรรอายุขัยสองพันล้านปีให้จักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์

สุดท้ายสิ่งได้กลับมาคือจิตมารของจักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง

หนังสือแห่งความโชคร้ายพลังยังด้อยเกินไป

หานเจวี๋ยรักษาตัวพลางเริ่มใช้ระบบวิวัฒนาการ

‘ในแดนชำระบาปเก้าขุมมีผู้ทรงพลังที่สามารถมองทะลุอาณาเขตเต๋าของข้าได้หรือไม่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

[ไม่มี]

ร้อยล้านปีแลกมาได้เพียงสองคำ ทว่าหานเจวี๋ยกลับไม่รู้สึกเสียเปรียบเลย

สงบแล้ว!

ฝึกบำเพ็ญต่อได้!

หานเจวี๋ยไม่ได้วิวัฒนาการหาผู้มีชัยในฉากสุดท้ายของมหาเคราะห์ในครั้งนี้อีก ถึงอย่างไรเฮ่าเทียนก็ยังไม่แยกจากหลงเฮ่า ทำให้หานเจวี๋ยลอบเล่นงานเฮ่าเทียนไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ภาพรวมน่าจะไม่เปลี่ยนไป จะสิ้นเปลืองอายุขัยไปไยเล่า

หานเจวี๋ยเริ่มยกระดับพลังวิเศษมรรคกระบี่รวมถึงพลังวิเศษท่าร่างของตน เงาเทพมหาวิวัฒน์

เวลาผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี

หานเจวี๋ยเพิ่มพลังของตนจนถึงขีดจำกัด ไม่สามารถเพิ่มต่อไปได้อีก เขาจึงเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบ

จักรพรรดิเซียนล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทั้งหมดถูกเขาสังหารในเสี้ยววินาที

เขาเบนเป้าหมายไปที่ระดับเทพ เขาก็แยกไม่ออกเช่นกันว่าใครบ้างที่เป็นระดับเทพ สู้แล้วถึงจะรู้

จากนั้นเขาก็ถูกทุบตีอย่างทารุณ

คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่สังหารเขาได้ในเสี้ยววินาที เขาทำได้เพียงพึ่งพาเงาเทพมหาวิวัฒน์และเมฆตีลังกาเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมีคู่ต่อสู้ที่ไม่ทราบตบะบางส่วนที่มีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับหานเจวี๋ยอยู่

กล่าวอีกนัยคือ หานเจวี๋ยสามารถเอาชนะผู้ทรงพลังระดับเทพที่อ่อนแอกว่าได้แล้ว

ไม่เลวเลย!

หานเจวี๋ยค่อนข้างพอใจ เช่นนี้ถึงจะสอดคล้องกับความก้าวหน้าของเขา

หลังจากทะลวงถึงระดับจักรพรรดิเซียนแปดวัฏ ความเร็วในการดูดซับแรงกรรมของกายดาราอนธการก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ระดับความเร็วที่ปราณอนธการแทรกซึมเข้าสู่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

หวังว่าจะสามารถควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้ก่อนถึงระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ

ขอแค่ควบคุมได้เท่านั้น หากต้องการดูดซับแรงกรรมในบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรให้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน มองจากระดับความเร็วในปัจจุบันนี้ หมื่นปีก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จ

หานเจวี๋ยเริ่มฝึกบำเพ็ญ พร้อมกับตรวจดูจดหมายไปด้วย

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเรียนรู้มหามรรคอักษรลับ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเรียนรู้มหามรรคอักษรลับ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[เต้าจื้อจุนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[เจียงอี้สหายของท่านได้รับการชี้แนะจากผู้ทรงพลัง เรียนรู้พลังวิเศษหมื่นบรรพกาล]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x17

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านออกจากแดนเซียน]

[ลี่เหยาสหายของท่านตระหนักรู้มรรคกระบี่ระหว่างการบำเพ็ญ ฝ่าด่านพันธนาการ ได้รับการยอมรับจากมรรคกระบี่ ความสามารถในการเข้าใจเพิ่มพูน]

[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]

….

หานเจวี๋ยรู้สึกแปลกใจ ลี่เหยาได้รับการยอมรับจากมรรคกระบี่งั้นหรือ

อาศัยสิ่งใดกัน

คุณสมบัติของข้าด้อยกว่านางตรงที่ใด

ทำไมข้าไม่ได้บ้าง

หานเจวี๋ยรู้สึกหงุดหงิด หรือเป็นเพราะจิตแห่งมรรคกระบี่ของเขายังบริสุทธิ์ไม่พอ

มีความเป็นไปได้จริงๆ!

แม้คุณสมบัติเชิงมรรคกระบี่ของหานเจวี๋ยจะเลิศล้ำ แต่ก็ไม่เคยเรียกขานตนว่าเซียนกระบี่เลย อีกทั้งในใจของเขาก็ไม่มีความเคารพในมรรคกระบี่

เขาอ่านจดหมายต่อไป สหายมากมายต่างได้รับโชควาสนา

ได้ยินว่าท่ามกลางมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต จะได้รับโอกาสวาสนาง่ายดายยิ่ง ความเร็วในบำเพ็ญก็เพิ่มขึ้น การสังหารฆ่าฟันในมหาเคราะห์ทิ้งมรดกและสมบัติล้ำค่าไว้ไม่น้อยเลย เมื่อสังหารศัตรูจะได้รับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ โชคชะตาอันยิ่งใหญ่จะมีส่วนช่วยเพิ่มความเร็วในการบำเพ็ญ นี่คือเหตุผลที่แม้จะรู้ถึงความน่ากลัวของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตดี แต่คนมากมายก็ยังกระโจนเข้าใส่

อันตรายและวาสนามักมาคู่กัน!

[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิปีศาจต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]

จักรพรรดิปีศาจหรือ

เป็นบ้าอะไร

ไม่ถูกสิ!

ค่าความเกลียดชังระดับหกดาวถึงขั้นไม่ตายไม่เลิกรา อีกฝ่ายคิดจะหาโอกาสมาตามตัวเขาแน่!

หานเจวี๋ยเลือกปฏิเสธ

ผ่านไปครู่หนึ่ง

[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิปีศาจต้องการเข้าฝันท่าน จะยอมรับหรือไม่]

ปฏิเสธ!

จากนั้นทั้งวัน แจ้งเตือนแบบนี้ก็เด้งขึ้นมาอีกยี่สิบสามครั้ง หานเจวี๋ยเลือกปฏิเสธไปทุกครั้ง

จักรพรรดิปีศาจที่อยู่ห่างออกไปในวังปีศาจโมโหแทบตายแล้ว

‘สำแดงพลังวิเศษสำเร็จแล้วชัดๆ ทำไมเขาถึงปัดป้องได้ตลอด เขาใช้วิธีการใดในการปฏิเสธเรากันแน่ หรือว่ามีจักรพรรดิสวรรค์คอยช่วยเหลืออยู่ข้างกาย ไม่น่าจะใช่ คนผู้นี้ไม่มีทางอยู่ที่วังสวรรค์ แต่กลับทำนายไม่ได้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่’

จักรพรรดิปีศาจขมวดคิ้วแน่น ในใจรู้สึกโมโหสุดขีด

เขาไม่มีทางลืมหานเจวี๋ยลง เนื่องจากหานเจวี๋ยทำให้ภรรยาของเขาสิ้นชีพอย่างน่าอนาถ

เพียงแต่ครั้งนี้ เขามิได้คิดจะสังหารหานเจวี๋ย แต่คิดจะใช้ประโยชน์จากหานเจวี๋ยเล่นงานวังสวรรค์ พลางสืบสาวไปหาเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

เขามีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะมาจากวังสวรรค์!

จนปัญญาที่หานเจวี๋ยไม่เปิดโอกาสให้เขาเลย!

……………………………………