ตอนที่ 421 เลือกภรรยาต้องเลือกตระกูลกู้

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 421 เลือกภรรยาต้องเลือกตระกูลกู้

สองวันต่อมา คนกลุ่มใหญ่ก็เตรียมออกเดินทาง

เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีก็จะไปส่งลูกสาวให้ได้

แน่นอนว่าไปส่งได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เครื่องบินสามลำทยอยออกจากตำหนักพระจันทร์ ลำหนึ่งเป็นของตี้อู๋เปียน ไปทางตะวันตก ลำหนึ่งเป็นของเย่ว์จือกวง ไปส่งลู่จือฉิน ปาอิน ถังถัง ลู่หันซูที่เมืองเย่ว์ตู อีกลำหนึ่งไปส่งพวกมู่เถาเยาที่เมืองหลวง

พวกมู่เถาเยาเดินทางถึงวังตระกูลตี้ประเทศเหยียนหวงก่อนเวลาอาหารเย็น

คนทั้งตระกูลตี้มารอรับที่ลานจอดเครื่องบิน และยังมีมู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา พวกเธอมาเมืองหลวงล่วงหน้าก่อน

จินเหยี่ยน้อยวิ่งด้วยขาน้อยๆ พุ่งไปตะโกนเรียกพี่ชายกับพี่สาว จากนั้นก็ละเลงน้ำลายบนหน้าทั้งสองคน

กู้เนี่ยนขำเหลือเกิน “จินเหยี่ยรู้ว่าทุกคนจะกลับมา เอาแต่พูดถึงทั้งวัน”

จินเหยี่ยน้อยหันหน้าไปพูดกับแม่ “ถึง”

“ใช่จ้ะ จินเหยี่ยของเราคิดถึงพี่ชายพี่สาว”

ย่าตี้ลูบศีรษะเหลนสาวตัวน้อย ยิ้มถาม “จินเหยี่ยไม่คิดถึงปู่ทวดย่าทวดเหรอ”

เด็กน้อยจับมือปู่ทวดย่าทวดแล้วพูดไม่หยุด “คิด ถึง…”

จากนั้นก็เอียงศีรษะ เห็นเย่ว์หลั่งกับเป่ยซีก็กะพริบตาปริบๆ

เป่ยซีย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเด็กน้อย ยิ้มกว้างถาม “จินเหยี่ยจ๊ะ จำย่าได้ไหมเอ่ย”

เด็กน้อยส่ายหน้าแล้วพยักหน้า “พี่สาว มะม้า” ก็แค่ลืมว่าชื่ออะไร

“ใช่แล้วจ้ะ ย่าเป็นมะม้าของพี่สาว จินเหยี่ยฉลาดจังเลย! มา ขอย่าอุ้มหน่อยนะ”

จินเหยี่ยกางแขนอย่างว่าง่าย โอบคอของเป่ยซีไว้

กลุ่มคนขึ้นรถไปยังอาคารหลัก

ตี้อู๋เว่ย ตี้อู๋โยว และพ่อบ้านช่วยกันจัดหาห้องให้แขก

ทุกคนไปล้างหน้าล้างตาเข้าห้องน้ำแล้วลงมาดื่มชาที่ห้องรับแขก

ตี้อู๋เว่ยถามด้วยความเอาใจใส่ “ปู่ย่าครับ ปู่ย่าซย่าโหว นั่งเครื่องบินมาตั้งนานเหนื่อยกันหรือเปล่าครับ ให้คนมานวดให้เอาไหมครับ”

ซย่าโหวโซ่วส่ายมือ “พวกเราสบายดี ปู่ย่าของเธอน่าจะเหนื่อยกว่าพวกเรานะ”

ปู่ตี้ยิ้ม “ไม่ต้องหรอก คืนนี้รีบพักผ่อนก็พอ พรุ่งนี้พวกเราไปเยี่ยมอู๋เสียที่บ้านตระกูลเซี่ย”

พวกเขาไม่ได้บอกหลานสาวว่ากลับมาวันนี้ เพราะกลัวหลานสาวจะอุ้มท้องโย้มาหา

อีกเดือนกว่าก็คลอดแล้ว อย่าให้ไปไหนมาไหนจะดีกว่า

คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูด “คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุงซย่าโหว คุณป้า อาหลั่ง เสี่ยวซี พักผ่อนก่อนสักสองสามวันเถอะค่ะ ไม่ต้องรีบไปเยี่ยมอู๋เสีย มีลุงหยวนอยู่บ้านตระกูลเซี่ย อู๋เสียสบายดีค่ะ”

มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะปู่ตี้ พักผ่อนกันสักวันก่อนนะคะ พรุ่งนี้หนูจะพาเสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยา ไปดูบ้านของหนูก่อน และจะทำความสะอาดด้วย ก่อนเปิดเทอมหนึ่งวันค่อยย้ายเข้าไปอยู่”

ย่าตี้ก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นไม่อยากขัดน้ำใจของลูกหลาน จึงพูดขึ้น “งั้นก็ได้ พรุ่งนี้ย่าจะให้คนไปช่วยทำความสะอาดนะ ไม่มีคนอยู่มาหลายปีต้องทำให้ละเอียดหน่อย”

“ได้ค่ะ”

คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มกว้าง “เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ ที่นั่นมีสามห้อง ป้าซื้อชุดเครื่องนอนไว้ให้เก้าชุด ซักตากหมดแล้ว ของใช้อื่นๆ ก็ซื้อไว้ให้แล้ว รอแค่เอาเข้าไปหลังทำความสะอาด”

“ขอบคุณค่ะคุณป้า”

คุณนายอวิ๋นเหอแสร้งทำเป็นโกรธ “เด็กคนนี้นี่ คนกันเองขอบคุณทำไม วันหน้าห้ามทำตัวเกรงใจแบบนี้นะ!”

ตระกูลเย่ว์กับตระกูลอวิ๋นเป็นญาติกันแล้ว แถมยังใกล้ชิดกับตระกูลตี้ พูดว่าคนกันเองก็ไม่ผิด

มู่เถาเยายิ้มพลางรับปาก

กู้เนี่ยนยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยากับกู้หานอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน วันนี้พวกเธอมาเมืองหลวงพี่เลยเรียกกู้หานให้มาทำความรู้จักกันมากขึ้น พอเปิดเทอมจะได้ให้พาไปทำความคุ้นเคยในมหา’ลัยนะ”

“ขอบคุณค่ะพี่กู้หาน”

กู้หานยิ้มมุมปาก ดวงตาโค้งมน “เสี่ยวเยาเยาไม่ต้องเกรงใจนะ พี่โตกว่าเธอแต่เพิ่งจะเรียนปริญญาโท เธอกลับจบดอกเตอร์แล้ว แถมยังมาเรียนดอกเตอร์เป็นใบที่สองอีก”

“เอ่อ…อาจเพราะชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กค่ะ”

ทุกคนพากันหัวเราะ

ย่าเย่ว์ยิ้มพลางพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องจริง เสี่ยวเยาเยาชอบอ่านหนังสือเหมือนอู๋เปียน แถมยังอ่านเร็วจำได้แม่น”

กู้หานได้ฟังก็รู้สึกชื่นชมมาก “หัวสมองของพี่สามเหมือนห้องสมุด เสี่ยวเยาเยาได้ใบประกอบโรคศิลปะแล้ว ไหนจะได้ใบรับรองวิชาชีพเภสัชกร สอบได้ตั๋วทนาย สอบใบประกอบวิชาชีพสถาปนิกแล้วอีก เก่งมากเลยนะ! เก่งพอๆ กับพี่สามเลย”

มู่เถาเยารู้ว่าที่กู้หานรู้เรื่องเธอดีแบบนี้เป็นเพราะคนตระกูลตี้พูดถึงเธอแบบไม่มีปิดบัง หรือไม่ก็ฟังจากพวกสามสาวอย่างอวิ๋นสุ่ยเหยา มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน

แต่กู้หานมาเป็นแขกที่วังตระกูลตี้บ่อยๆ ได้ ก็แสดงให้เห็นว่าคนตระกูลตี้ไว้ใจคนตระกูลกู้

ตระกูลกู้เหมือนตระกูลเซี่ย เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเป็นอย่างมาก

ในเมืองหลวงมีคำพูดที่ว่า เลือกภรรยาต้องตระกูลกู้ เลือกสามีต้องตระกูลเซี่ย

แค่คำพูดนี้ก็บ่งบอกแล้วว่าการอบรมสั่งสอนของทั้งสองตระกูลเป็นอย่างไร

ถึงแม้เสี่ยวหว่านกับเสี่ยวเหมียนจะใสซื่อ แต่ก็ไม่โง่ พวกเธอมักพูดถึงกู้หานบ่อยก็เป็นเพราะชอบพี่สาวคนนี้จากใจจริง

มู่เถาเยาย่อมอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น

“พี่กู้หานคะ ไม่ว่าจะวิชาอะไร ขอแค่หาวิธีเรียนให้ถูกก็จะเรียนได้ง่ายขึ้นค่ะ”

“ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ส่วนใหญ่ก็ต้องอาศัยความจำ อย่างพวกกฎหมาย มันต้องจำเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”

มู่เถาเยาส่ายหน้า “สอบกฎหมายอาศัยความเข้าใจค่ะ ถ้าไม่เข้าใจเอาแต่ท่องจำก็จะมีประสิทธิภาพต่ำ ถ้าเข้าใจพื้นฐานแล้วก็ฝึกทำโจทย์กับท่องให้มากหน่อย แต่การท่องจำก็ต้องมีทริก หลักๆ คือท่องพวกกฎหมายยิบย่อยกับการฟ้องร้องค่ะ…”

กู้หาน “แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยากอยู่ดี”

“มันดูยากสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนกฎหมาย แต่การสอบกฎหมายมีชุดความจำมาตรฐานในตัวเอง ก็คือ ‘ความคุ้นเคย’ จำพวกรายละเอียดให้ได้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องเขียนข้อความให้สมบูรณ์ จำแค่คำสำคัญ จากนั้นก็แยกเขียนหัวใจสำคัญออกมาอ่านบ่อยๆ…”

“เสี่ยวเยาเยา ‘หัวใจสำคัญ’ ที่ว่าก็ไม่น้อยเลยหรือเปล่า แบบนั้นก็ยังต้องท่องจำอยู่ดีไหม” มู่หว่านหัวไว รู้สึกว่าจุดนี้ต่างหากที่น่ากลัว

มู่เถาเยายิ้มพูด “ไม่มีใครจำความรู้ทั้งหมดของการสอบกฎหมายได้หรอก เพราะมันมีเยอะมาก เราถึงได้อย่าคิดแต่จะจำมันให้หมด มันดูไม่อยู่กับความเป็นจริง…” บลาๆๆ

กู้หาน มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา ฟังแล้วก็ตาลายเหมือนขดยากันยุง แต่พวกเธอก็มีสีหน้าเลื่อมใส

เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีมองลูกสาวที่เปล่งประกายเจิดจ้า รู้สึกภาคภูมิใจ

ลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาเก่งที่สุดในโลก!

ซย่าโหวโซ่วกับถังหยวนมีสีหน้าแบบเดียวกับสองสามีภรรยาคู่นี้

คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มอย่างอ่อนโยน “ฟังเสี่ยวเยาเยาพูดแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าเป็นนักกฎหมายไม่ง่ายเลยนะ”

ราชาตี้ยิ้ม “การสอบเป็นนักกฎหมายของประเทศถูกเรียกว่าเป็นการสอบที่ยากอันดับหนึ่ง ไม่ใช่คำพูดที่กล่าวกันลอยๆ สินะ”

ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย