บรรยากาศภายในสนามเริ่มร้อนแรงขึ้นมาก…
หมัดพุ่งไปที่หัวของออสติน แต่เขาก็หลบมันได้ หลังจากที่เขาหลบเสร็จ หมัดสะท้อนของไฟบริสุทธิ์ก็ปรากฏขึ้น และการเคลื่อนไหวอีกครั้งพุ่งมาตามหมัดเดิม
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เปลวไฟในตัวออสตินก็โผล่ออกมาจากในตัวเขาและรับการโจมตี หลังจากนั้นซอนที่อยู่ข้างๆ เขาก็โบกหมัดที่ปล่อยคลื่นไฟมาที่เขา
ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างเชี่ยวชาญ ออสตินจึงหลบมันไป แต่กลับถูกหมัดที่พุ่งมาที่ท้องของเขาแทน ออสตินใช้เปลวไฟเพื่อป้องกันการโจมตีอันรุนแรงโดยคลุมไว้เหนือท้องของเขา สร้างชั้นที่ช่วยปกป้องเขา แต่มันระเบิดเขาออกไปเล็กน้อยเมื่อมีเปลวไฟคล้ายดวงดาวหลายร้อยดวงล้อมรอบออสตินด้วยการโจมตีอีกครั้ง
ออสตินโบกมือขณะที่เปลวไฟของเขาลุกลามเพื่อสร้างบาเรีย ดวงดาวเพลิงพุ่งชนบาเรียก่อนที่พวกมันจะถูกผลักออกไป ความร้อนที่แผดเผากระทบร่างกายของเขา ในขณะเดียวกันซอนยังคงโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง โดยแต่ละครั้งมีอันตรายถึงชีวิตมากกว่าเดิม
ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ซอนก็มาอยู่ข้างหน้าออสติน เท้าของเขาสว่างขึ้นด้วยปีกเพลิง เร่งความเร็วของเขาไปอีกระดับหนึ่ง เปลวไฟสองดวงที่มีสีแดงและสีเทาเผาไหม้อยู่ในถุงมือและล้อมรอบเขาไว้ พวกมันต่างก็โจมตีด้วยจิตสำนึกของตนเอง
สำหรับออสติน มันเหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กับคนสามคนในเวลาเดียวกัน
หมัดของซอนเล็งไปที่หัวของเขา หนึ่งในเปลวไฟก่อตัวเป็นสว่านขณะที่มันเล็งไปที่หัวใจของเขา เปลวไฟสีเทาอีกลูกตกลงไปที่พื้น พยายามควบคุมการเคลื่อนไหวของเขาให้มากที่สุด การควบคุมธาตุไฟแบบพาสซีฟที่น่าทึ่งของซอน และความสามารถของเขาในการเพิ่มการปล่อยความร้อนของเปลวไฟทั้งหมด สร้างความกดดันอย่างมากให้กับออสติน
แต่ในตอนที่ดูเหมือนว่าการโจมตีกำลังจะถึงตัวออสติน ร่างของเขาก็ผันผวนก่อนที่จะหายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่และปรากฏตัวอีกครั้งที่ตำแหน่งอื่น การโจมตีร่วมของซอนพลาดออสตินไปหนึ่งนิ้ว
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นเป็นเวลา 3 นาทีแล้ว และซอนก็ดูเหมือนกำลังได้เปรียบกว่าอยู่ แต่เขาก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อออสตินได้เลย
‘อืมมม…ดีกว่าที่คิดไว้’
ออสตินครุ่นคิดขณะมองไปที่ซอน ตอนนี้ซอนจริงจังกับเขามากขึ้นกว่าเดิม หากออสตินต้องการ เขาก็สามารถโค่นซอนได้อย่างง่ายดาย แต่ครั้งหนึ่งเขาต้องการสนุกกับการต่อสู้และทำความเข้าใจระดับของคนเหล่านี้ ออสตินไม่ผิดหวังเลยกับผลการแข่งขัน
เป็นอีกครั้งที่ร่างของเขาหลบขณะที่เสาไฟลุกขึ้นจากจุดที่เขายืนอยู่ การเคลื่อนไหวของออสตินไม่แน่นอนและดักทางได้ยาก ทำให้ซอนให้ความสำคัญกับการโจมตีของเขามากขึ้น
“ฉันจะจบเรื่องนี้…”
จู่ๆ ซอนก็พูดขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่เขาพูดจบ พลังอันยิ่งใหญ่ก็ระเบิดออกมาจากภายในตัวเขา เปลวไฟทั้ง 2 ในตัวเขาพันกันรอบตัวเขาจนกลายเป็นร่างที่ลุกโชน พื้นที่ปัจจุบันก่อตัวเป็นควันสีแดงและสีเทาภายในเวลาไม่ถึงวินาที ทำให้ความร้อนในบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น 3 เท่า
คราวนี้ออสตินไม่ได้หลบ แต่สร้างเกราะคอนกรีตขึ้นมาล้อมรอบตัวเองแทน ดวงตาของเขาหรี่ลงขณะที่เขาจ้องมองไปที่ไฟที่ลุกไหม้อยู่รอบตัวเขา ตอนนี้ทุกทิศทางรอบตัวเขาลุกเป็นไฟ
ไฟสีแดงและสีเทาผสมกัน และผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางทั้งหมดนั่นก็คือซอน
‘ในที่สุดก็ใช้พลังทั้งหมดซะที’
ออสตินคิด เขารู้สึกถึงความร้อนที่อยู่รอบตัวเอง ดูเหมือนว่าเปลวเพลิงจะกัดกินโล่ของเขาอยู่ แม้จะส่งผลต่อความสามารถในการสัมผัสและควบคุมมานาที่อยู่รอบตัวเขาก็ตาม
แกร๊กก!
รอยแตกขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากหมัดที่กระทบกับบาเรีย ออสตินมองเห็นใครบางคนยืนอยู่ข้างหน้าเขาและกำลังเอามือทุบกำแพงอยู่ ความเร็วของซอนนั้นถึงระดับต้นกำเนิดขั้น 8 ทำให้เขาได้รับการเสริมพลังโดยรวมและร่างกายของเขาก็ไม่สามารถแตะต้องได้
“มันจบแล้ว”
ซอนที่ลุกเป็นไฟพูดขึ้น แต่เช่นเคย ออสตินยังคงสงบ ดวงตาของเขามองไปยังไฟที่ลุกไหม้ของซอนขณะที่เขาพูดขึ้นมา
“ใช่ มันจบแล้ว”
นั่นคือทั้งหมดที่เขาพูดในขณะที่ออสตินปล่อยผนึกอันหนึ่งที่อยู่ในเปลวไฟของเขา ทำให้พลังที่แท้จริงของมันได้ปรากฏออกมา
ออสตินเห็นความกลัวที่เริ่มเบ่งบานภายในของซอนได้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษของเขาที่ทำให้เขารู้เกี่ยวกับเปลวไฟที่กำลังจะปล่อยออกมาได้ น่าเศร้าสำหรับเขา สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือทนทุกข์ทรมาน
เปลวไฟแห่งการแก้แค้นแผดเผาแดงยิ่งกว่าเลือด บ่งบอกถึงเลือดทั้งหมดที่หลั่งไหลในนามของการแก้แค้น เปลวไฟสีแดงลุกโชนออกมาจากร่างของออสติน ระเบิดออกมาและปกคลุมทั่วทั้งสนาม และเข้าควบคุมทุกสิ่งที่อยู่ในการควบคุมของซอน
“อ๊ากกก!….ไม่!…”
เสียงกรีดร้องอันบีบคั้นออกจากปากของซอนขณะที่ร่างของเขาล้มลงกับพื้น เขาที่สร้างร่างกายที่ทนไฟได้ตอนนี้กำลังถูกเผาไหม้ เสียงร้องแห่งความสิ้นหวังดังไปทั่วสถานที่ ออสตินมองดูทั้งหมดนี้ด้วยสายตาที่สงบ ความสามารถที่ซอนอวดอ้างตอนนี้กลายเป็นนรกของเขาแล้ว
ตอนนี้ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะตายไปแล้ว แต่ภูมิต้านทานของเขาทำให้เขายังมีสติอยู่ในขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มถูกเผาไหม้อย่างช้าๆ เนื่องจากนี่เป็นการดวลอันศักดิ์สิทธิ์ มันจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะหมดสติหรือตายไป
นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ออสตินไม่ใจดีกับคนพวกนี้มากเกินไป เพราะพวกเขาไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าเขาหากมีโอกาส แต่ถึงอย่างนั้น เป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่การทำให้สภาสงครามเป็นศัตรูของเขา แม้ว่าพวกเขาอาจยึดติดกับกฎที่ว่าจะไม่แก้แค้นสำหรับการดวลอันศักดิ์สิทธิ์ แต่คงเอาเรื่องนี้มาใช้กับอาจารย์ของซอนไม่ได้
ออสตินรู้ดีกว่าใครๆ ว่าความใคร่ของอีกฝ่ายสามารถเอาชนะคำสัญญาใดๆ ได้อย่างไร
‘คิดว่าคงพอแล้ว’
ออสตินโบกมือแล้วไฟก็ดับลง เหลือแต่ซอนที่ปรุงสุกอย่างเข้มข้น
เขาเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยังคงนอนได้สติอยู่ก่อนจะเตะคอของซอนอย่างไม่ลังเล ทำให้เขาหมดสติไป จึงจบการประลอง ซึ่งทำให้เกิดความเงียบอย่างหนักในสนามประลองอีกครั้ง
ครั้งนี้ออสตินไม่เพียงแค่เอาชนะใครก็ได้เท่านั้น เขาเอาชนะอัครสาวก 1 ใน 12 คน ซึ่งเป็นใบหน้าและความภาคภูมิใจของสภาสงคราม เขาไม่ได้เอาชนะซอนในการต่อสู้ด้วยความยากลำบาก แต่ทำได้ค่อนข้างง่ายดาย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชื่อของสภาสงครามอีกครั้ง การต่อสู้เพื่อเกียรติยศสิ้นสุดลงแล้ว
สภาสงครามสูญเสียใบหน้าและความภาคภูมิใจไปทั้งหมด และถูกเหยียบย่ำภายใต้สายตาของมหาอำนาจทุกแห่งในโลก ในสถานการณ์ปกตินี่จะเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะนำไปสู่การกำเนิดผู้ทรงพลังเพื่อปกป้องโลกซึ่งเป็นหน้าที่หลักของสภาสงคราม แต่ไม่มีอะไรในชีวิตจะง่ายขนาดนั้น
กาลเวลาที่ผ่านไปทำให้เกิดความแตกต่างมากมาย เพาะพันธุ์อำนาจและอัตตา บางครั้งทำให้อำนาจเสื่อมลงไปสู่เส้นทางที่มืดมนยิ่งขึ้น แน่นอนว่าสภาสงครามยังไม่ถึงระดับนั้น แต่ได้พัฒนาอัตตาของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ออสตินได้เหยียบย่ำลงไปถึงพื้นแล้ว
“ส่งเธอไป”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสภาสงครามพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ความคิดของพวกเขาที่จะลดความภาคภูมิใจในดาร์กไนท์ส่งผลให้พวกเขากลับมา ประการแรกพวกเขาสูญเสียคุณค่า และตอนนี้พวกเขาสูญเสียใบหน้าไปหมดแล้ว หากพวกเขาพ่ายแพ้เป็นครั้งที่สาม มันจะเป็นหายนะ
แนวคิดของการแพ้ 3 นัดติดต่อกันในการดวลศักดิ์สิทธิ์มีความหมายที่ลึกซึ้งอีกอย่างหนึ่ง หากพวกเขาแพ้ 3 แมตช์ติดต่อกันกับคนเดียว มันจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการสร้างมันขึ้นมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเงื่อนไขบางประการที่สภาสงครามไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้
การประลองง่ายๆ ที่สนุกสนานได้กลายมาเป็นการประลองที่อันตรายสำหรับพวกเขาแล้ว
“เธออยู่นั่นแล้ว”
ผู้อาวุโสอีกคนพูดทำให้บรรยากาศทั้งหมดสว่างขึ้น ตอนนี้พวกเขาได้รับทราบแล้วว่าออสตินนั้นเป็นสัตว์ประหลาด ซึ่งหาได้ยากในโลกนี้ อัจฉริยะผู้ชั่วร้ายที่ทำลายสามัญสำนึกทั้งหมดปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว และวิธีจัดการกับมันหล่ะ?
ส่งสัตว์ประหลาดอีกตัวไปไงหล่ะ….
ออสตินมองด้วยสายตาสงบเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขา เด็กสาวที่ดูราวกับอยู่ในช่วงวัยรุ่นของเธอ เธอมีผมสีน้ำตาลทองเป็นประกายซึ่งดูเหมือนแผงคอ มีหูสิงโต, มีหางและมีผิวสีแทนสีน้ำตาล ร่างกายของเธอคือนิยามของความสมบูรณ์แบบของนักกีฬาพร้อมกับใบหน้าที่สวยงาม
ดวงตาแมวสีน้ำตาลทั้ง 2 ของเธอจับจ้อง,kที่เขาโดยสิ้นเชิงในขณะที่เธอปรากฏตัว และสัดส่วนร่างกายของเธอก็สมบูรณ์แบบ เธอสวมชุดนักรบแบบโบราณซึ่งตัดเย็บจากวัสดุคุณภาพสูงและประดับประดาด้วยการออกแบบที่ประณีต ชุดเดรสโอบรับส่วนโค้งเว้าของเธอและพลิ้วไหวอย่างสง่างามขณะที่เธอเคลื่อนไหว เผยให้เห็นแขนและขาที่กระชับของเธอ ผ้าที่ใช้ย้อมเป็นสีแดงเข้มซึ่งตัดกันอย่างสวยงามกับผิวสีแทนของเธอ
ลวดลายที่ซับซ้อนบนชุดถูกปักด้วยด้ายสีทองและสีเงิน แสดงถึงฉากการต่อสู้และตำนานในสมัยโบราณ ชายชุดประดับด้วยพู่สีทองที่พลิ้วไหวขณะที่เธอเดิน ส่งเสียงกริ๊งแผ่วเบาในแต่ละย่างก้าว รอบเอวของเธอมีเข็มขัดที่ทำจากข้อต่อสีทองซึ่งห้อยหอกเอาไว้
ขณะที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าออสติน ออร่าของผู้หญิงคนนั้นก็เปล่งออกมาด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง ท่าทางของเธอตั้งตรงและการจ้องมองของเธอก็แน่วแน่ หูสิงโตของเธอกระตุกเล็กน้อยราวกับฟังเสียงที่อยู่ห่างไกล ในขณะที่หางของเธอยังคงอยู่ ความงามของเธอช่างแปลกตาและน่าหลงใหล ด้วยกรามเชิงมุมและริมฝีปากอิ่มซึ่งแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ คิ้วของเธอโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ และโหนกแก้มของเธอที่อยู่สูงทำให้ใบหน้าของเธอดูมีระดับ และทันทีที่ดวงตาของออสตินจับจ้องไปที่เธอ ระบบแจ้งเตือนก็ดังขึ้นมา
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต