ตอนที่ 422 สิทธิ์ควบคุมโดยสมบูรณ์

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 422 สิทธิ์ควบคุมโดยสมบูรณ์

ตอนที่ 422 สิทธิ์ควบคุมโดยสมบูรณ์

เธอคิดทันทีว่าไม่ต้องรีบออกเดินทางไปยังฐานโส่วอันแล้ว

เธอต้องการเพียงผลึกนิวเคลียสหนึ่งอันเพื่อควบคุมพื้นที่ 100 ตารางเมตรใกล้กับโส่วอัน หรือในบริเวณที่ต้องการ จากนั้นก็สร้างประตูเคลื่อนย้าย เธอก็สามารถเข้าถึงสนามรบได้ในไม่กี่วินาที

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะลองใช้มันเมื่อเห็นปุ่มฟังก์ชันใหม่ที่มุมซ้ายบนของแผนที่ อย่างปุ่ม ‘ควบคุมโดยสมบูรณ์’ นี่เป็นฟังก์ชันที่สามที่ปลดล็อกโดยระบบหลังจากอัปเกรดเป็นเลเวล 8 แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกดีมาก

แต่ซูเถานึกไม่ออกว่าจะควบคุมมันภายใต้พื้นที่การควบคุมของเธอได้อย่างไร เพราะเถาหยางไม่เพียงแต่เฝ้าระวังอันตรายเท่านั้น แต่ยังจำกัดการใช้ความสามารถ ควบคุมน้ำและไฟฟ้าด้วยตนเอง สิทธิ์การจัดการบ้าน การขึ้นบัญชีดำ และอื่น ๆ

ที่มีอยู่มันสามารถตอบสนองการควบคุมและการจัดการพื้นที่ของเธอได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่แล้วความอยากรู้อยากเห็นกระตุ้นให้เธอคลิกเข้าไป ไม่นานกล่องคำแนะนำก็เด้งขึ้นมา ทำให้เธอสามารถเลือกพื้นที่ควบคุมได้

ซูเถาสุ่มเลือกพื้นที่หลักอย่างเถาหยาง จากนั้นข้อความแจ้งเตือนก็ทำให้เธอแทบสำลัก

[โฮสต์ต้องการใช้ผลึกนิวเคลียส 20,000 อันเพื่อควบคุมพื้นที่อย่างสมบูรณ์ในหนึ่งวันหรือไม่?]

ซูเถาไม่อยากจะเชื่อ และจ้องไปที่เลขศูนย์บนหน้าจอ นับแล้วนับอีก นับอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ใช่แล้วมันคือสองหมื่นอันจริง ๆ! สองหมื่น!

นี่มันปล้นกันชัด ๆ!

เธอรีบปิดหน้าจอระบบเพื่อสงบสติอารมณ์ และเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เธอก็เปิดระบบขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน

[หลังการดำเนินการ โฮสต์จะได้สิทธิ์ควบคุมโดยสมบูรณ์ และสามารถควบคุมงานทั้งหมดในพื้นที่หวงห้ามได้ โปรดยืนยัน]

จากนั้นซูเถาก็ปิดหน้าจอระบบลงอย่างรวดเร็ว

ผลึกนิวเคลียส 20,000 อัน …แม้ว่าระบบจะสามารถปล้นเธอได้โดยตรง แต่พวกมันก็มอบหน้าที่พิเศษให้กับเธอ

หลังจากสงบสติอารมณ์อีกครั้ง จู่ ๆ เธอก็คิดว่า เป็นเพราะพื้นที่ที่เธอเลือกนั้นใหญ่เกินไป ความต้องการผลึกนิวเคลียสเลยดูโอเวอร์เกินไปหน่อย เพราะว่าราคาของโดมครอบป้องกัน ห้องเรือนกระจกต่าง ๆ ก็คำนวณตามพื้นที่เช่นกัน ดังนั้นสิทธิ์ในการควบคุมโดยสมบูรณ์ก็น่าจะเหมือนกัน

ผลึกนิวเคลียส 20,000 อันทำเอาเธอใจหายใจคว่ำ เล่นซะเธอกลัวจนสมองคิดอะไรไม่ออก ล้อเล่นหรือเปล่า เธอเพิ่งได้ผลึกนิวเคลียสจำนวนมหาศาลถึง 8,000 อัน และเธอก็พอใจที่มันจะมากำจัดความยากจนของเธอ แต่เธอไม่คิดว่า หน้าที่ใหม่จะพาเธอกลับไปคงสถานะยากลำบากเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง และเธอยังต้องเป็นหนี้อีกมาก หากต้องเป็นหนี้ แบบนี้ใครจะรับได้

ดังนั้น เพื่อตรวจสอบการคาดเดาของตนเอง ซูเถาก็ได้นำผลึกนิวเคลียสออกมาหนึ่งอัน จากนั้นซูมเข้าไปในฐานโส่วอัน แล้วเลือกที่ดินส่วนหนึ่งตรงประตูทางเข้าของพื้นที่ใจกลางที่เหล่ากองกำลังแบ่งแยกดินแดนอาศัยอยู่

ทันใดนั้นระบบก็ตรวจพบพื้นที่ใหม่และขอให้เธอตั้งชื่อ

ซูเถาไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็แค่พื้นที่ชั่วคราวเธอเลยไม่ได้ตั้งชื่อ

จากนั้นซูเถาก็คลิกบนพื้นที่นี้เพื่อเปิดใช้งานการควบคุมโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าระบบแจ้งราคาที่แทบจะรับไม่ได้

[โฮสต์ต้องการใช้ผลึกนิวเคลียส 100 อันเพื่อควบคุมพื้นที่อย่างสมบูรณ์เป็นเวลาหนึ่งวันหรือไม่?]

100 อันนั้นไม่มากสำหรับเธอในตอนนี้ แต่มันก็ค่อนข้างแพงเช่นกัน เพราะต้องใช้ผลึกนิวเคลียสหนึ่งอันต่อหนึ่งตารางเมตรต่อวัน หากเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะมีขบวนชายฝั่ง เธอคงจะแอบบ่นว่าระบบช่างใจดำ และเพิกเฉยต่อฟังก์ชันนี้

[เปิดใช้งาน หมดเวลา 24:00:00 น.]

ซูเถาคิดกับตัวเอง หลังจากที่ทดลองแล้ว ถ้ามันไม่คุ้มกับราคา เธอจะ…

ทันทีที่เธอนึกถึงสิ่งนี้ก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่า ‘ตัวเอง’ อยู่บนท้องฟ้าเหนือพื้นที่ 100 ตารางเมตรของฐานโส่วอัน ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องวงจรปิด และไม่จำเป็นต้องเปิดแผนที่ระบบ เธอก็สามารถ ‘เห็น’ ภาพในหัวได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบนพื้นที่ 100 ตารางเมตร และที่นั่นกำลังเกิดสงคราม

ฐานโส่วอันถูกโจมตีแล้ว!

หัวใจของซูเถาเต้นระรัว โชคดีที่เหลยสิงและพวกออกจากที่นั่นได้ทันท่วงที! และดูจากสถานการณ์แล้ว ไม่ได้เป็นการโจมตีจากภายนอก ไม่อย่างนั้นฐานโดยรอบต้องสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวแล้ว

ไม่มีข่าวจากภายนอก ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าโส่วอันกำลังถูกโจมตีจากภายใน

เธอเป็นเหมือนผู้ที่มองดูแผ่นดินและทุกสิ่งรอบ ๆ จากมุมมองของพระเจ้าทางประตูเขตที่อยู่อาศัยของกองกำลังแบ่งแยกดินแดนโส่วอัน เธอเห็นแม่และลูกสาวที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเลือด ร่างกายสั่นระริกของทั้งสองกอดกันแน่น ข้าง ๆ พวกเธอมีศพเกลื่อนกลาด บางคนแขนขาขาด บางคนหายใจรวยรินนอนรอความตาย

ร่างกายคนตายและคนเจ็บเหล่านี้ถูกผ่าครึ่งโดยไม่มีข้อยกเว้น เผยให้เห็นกระดูกสีขาวตรงแกนกลางของร่างกาย ในเวลานี้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าเปื้อนเลือด ลากร่างกายผอมแห้งท่อนล่างเดินเข้ามาหาพวกเธออย่างช้า ๆ

สัดส่วนของรูปร่างของชายผู้นี้มองแล้วน่าสยดสยอง ร่าางกายส่วนบนของชายคนนี้แข็งแรงสมบูรณ์ แต่ท่อนล่างที่เหมือนถูกกดทับ เขามีขาที่ผอมซูบราวกับคนขาดสารอาหาร ดูเหมือนเป็นผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตมานานหลายปีและมีอาการกล้ามเนื้อลีบลุกขึ้นเดินได้ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกและน่าเหลือเชื่อมาก

หากมองจากด้านหลังจะเห็นได้ว่าตรงตำแหน่งของกระดูกสันหลัง มีรูเล็ก ๆ ค่อยขยายออกกว้าง และมีกระดูกอ่อนยื่นออกมา

ซูเถา ‘เห็น’ มันอย่างชัดเจน มันคือซอมบี้กลายพันธุ์!

ที่ยังไม่เคยปรากฏตัว! และมันน่าจะเป็น ‘พันธมิตร’ ที่ไซเรนพบ!

ซอมบี้กลายพันธุ์ไม่ได้เข้าไปฆ่าสองแม่ลูกนั้นทันที แต่มันเล่นกับเหยื่อที่ตายแล้วต่อหน้าพวกเธอทั้งสอง มันไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้น และจัดการใช้กระดูกอ่อนที่งอกออกมานั้นตัดตรงกลางลำตัวของมนุษย์ที่ยังมีชีวิต

มันกระทำทุกอย่างอย่าง่ายดายราวกับการฆ่ายุง

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูเถาเห็นถึงพลังของซอมบี้กลายพันธุ์ที่มีพลังมากขนาดนี้

พวกมันมีค่าพลังที่ทรงพลังอย่างยิ่ง นับประสาอะไรกับมนุษย์นับสิบชีวิต แม้แต่ผู้ที่มีพลังวิเศษอีกสิบคน พวกเขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับมันได้

ฉากที่โหดร้ายนี้ทำให้แม่และลูกสาวเดินกะเผลกอยู่กับพื้น ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะส่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ

แม่ปกป้องลูกสาวของเธอและโค้งคำนับอย่างต่อเนื่อง “ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด ปล่อยเราไปเถอะ…”

ซอมบี้กลายพันธุ์ดูเหมือนจะชอบฉากนี้มาก มันจึงกระตุกยิ้มขึ้นอย่างโหดเหี้ยม

“ฉันแค่อยากเห็นบรรดาภรรยาทหารและผู้หญิงมีฐานะอย่างพวกแกที่อ้อนวอนฉัน เมื่อก่อน… ฉันนั่งรถเข็น แกเคยชายตามองฉันบางไหม ก็ไม่ แถมยังขับไล่ฉันและอาเจียนใส่ฉัน ถ่มน้ำลาย เตะเก้าอี้รถเข็นของฉัน และตอนนี้แกก็กำลังคุกเข่าขอร้องให้ฉันแสดงความเมตตา ฮ่า ๆๆๆ”

น้ำตาของคนเป็นแม่หลั่งริน และส่ายหน้าอย่างเสียสติ “ไม่ เราไม่ได้…”

“พวกแกก็เหมือนกันหมด! มนุษย์อย่างพวกแกมันไม่มีอะไรดี โดยเฉพาะผู้หญิงที่เย่อหยิ่งถือตัว เห็นแก่ตัว และเจ้าเล่ห์ คอยแต่จะดูถูกพวกเราที่มีข้อบกพร่องทางร่างกาย ฉันสาบาน ฉันจะฆ่าผู้หญิงทุกคนที่ฉันเห็น แกต้องตาย!” สีหน้าของซอมบี้กลายพันธุ์เปลี่ยนไป

มันปล่อยกระดูกอ่อนสีแดงเลือดออกมาทางด้านหลังกระดูกสันหลัง และเล็งไปยังสองแม่ลูกคู่นั้น

เด็กหญิงเป็นลมหมดสติไปจากความหวาดกลัว ขณะที่แม่ของเธอหลับตาด้วยความสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม เมื่อมันกำลังจะถึงตัวพวกเธอ จู่ ๆ มันก็ถูกบางอย่างขวางเอาไว้

ซอมบี้กลายพันธุ์ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมองไปที่กระดูกอ่อนของมันด้วยความไม่เชื่อ จากนั้นมองไปที่ฉากกั้นล่องหน

เกิดอะไรขึ้น?

มันไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นและฟาดกระดูกอ่อนที่งอกยาวออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังถูกโจมตีกลับอีกครั้ง มันเบิกตากว้าง ความรู้สึกไม่ดีก่อตัวขึ้นในใจและผงะถอยหลังไปสองก้าว เพียงเพื่อจะพบว่าจู่ ๆ ก็มีกำแพงสูงปรากฏขึ้นรอบ ๆ และก่อนที่มันจะทันได้ตอบสนอง ก็ถูกขังอยู่ในความมืดมนเสียแล้ว