ครั้งแรกที่เจอคนที่ไม่รู้จักเขา?
เฉินฮวนฮวนตกใจจนถลึงตาโต น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังพูดว่า เขามีชื่อเสียงมากในประเทศจีน
เธอคิดไตร่ตรองไปมา ครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉัน…ปกติฉันยุ่งมาก ดังนั้นเลยไม่ค่อยได้ดูข่าว ฉัน…” เฉินฮวนฮวนเขินอายเกาหัว พูดจาสลับไปมา
ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร ยิ่งไม่ต้องถามเลยว่าเขาทำงานอะไร แต่เธอรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าหล่อเหลามาก เป็นนักแสดงในวงการบันเทิงหรือเปล่านะ?”
“ผมชื่อเวินซือเหยี่ยน” เวินซือเหยี่ยนยิ้มบาง รอยยิ้มสง่างามมาก มองดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ
ให้ความรู้สึกสบาย ดูไม่มีความก้าวร้าวเลยสักนิดเดียว
“เวินซือเหยี่ยน” เฉินฮวนฮวนอึ้งไปเลย แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
วัยรุ่นที่ได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมที่มีชื่อเสียงก้องฟ้า เวินซือเหยี่ยน
เพราะว่าเวินซือเหยี่ยนเดินสายภาพยนตร์ ภาพยนตร์ที่ถ่ายเป็นหนังโรงทั้งหมด ดังนั้นเธอไม่เคยดูมาก่อน
มิน่าเธอถึงได้รู้สึกว่าเวินซือเหยี่ยนหน้าคุ้น ๆ นึกได้ว่าเคยเห็นภาพของเวินซือเหยี่ยนบนหนังสือพิมพ์ เพียงแค่ไม่ได้ใส่ใจเท่านั้น
“ฉันรู้จักคุณ ฉันรู้ค่ะ คุณคือนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่อายุน้อยที่สุดในประเทศจีน ฉันรู้จักชื่อของคุณ…” เฉินฮวนฮวนรีบพูดขึ้น
เห็นท่าทางรีบร้อนอธิบายของเฉินฮวนฮวน เวินซือเหยี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ เขาประหลาดใจจึงถามออกมา “ในเมื่อคุณรู้ชื่อของผม ทำไมถึงไม่รู้จักผม?”
“ฉัน… ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ค่ะปกติฉันไม่ดูภาพยนตร์ ผลงานของคุณฉันไม่เคยดูเลย ดังนั้นจึงไม่คุ้นเคยกับตัวจริงของคุณ” ตอนนี้เฉินฮวนฮวนขายขี้หน้าจนเท้าจิกดิน เธอคิดไม่ถึงว่าแค่หาคนถามทาง ก็ได้พบกับนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
อีกอย่างเธอก็ไม่รู้จักเขา ปฏิบัติกับอีกฝ่ายเหมือนคนสัญจรไปมา ถึงว่าเมื่อครู่เวินซือเหยี่ยนดูประหลาดใจมาก
“ไม่เป็นไร ไม่รู้จักผมก็ไม่เป็นไรครับ เมื่อครู่เพียงแค่สงสัยจึงถามขึ้น ตอนแรกนึกว่าคุณคือแฟนคลับบ้าระห่ำ ตามมาถึงบ้านผม” เวินซือเหยี่ยนระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เผยความคิดในใจออกมา
เมื่อพูดจบ เขาเองก็ตกใจ ทำไมถึงได้พูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง
“แฟนคลับบ้าระห่ำ” เฉินฮวนฮวนรู้คำ ๆ นี้ เธอรีบโบกไม้โบกมือ พูดอธิบาย “ ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ค่ะ คุณเวิน คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันเป็นผู้อาศัยที่นี่ ไม่ใช่แฟนคลับบ้าระห่ำ ฉันไม่มีทางขายข้อมูลของคุณแน่นอน คุณวางใจได้ค่ะ”
“ครับ ผมวางใจ” เวินซือเหยี่ยนพยักหน้าช้า ๆ ความโล่งใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นก็หมุนตัวกลับเดินไปข้างหน้า
เขามีความรู้สึกไว้วางใจเฉินฮวนฮวนอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นเขาไม่ได้เป็นกังวลเลยสักนิดว่าเฉินฮวนฮวนจะขายข้อมูลของเขา
เฉินฮวนฮวนเห็นเวินซือเหยี่ยนเดินไปข้างหน้า ก็รีบ เดินตามไปทันที
ผ่านไปประมาณสิบนาที เฉินฮวนฮวนเห็นโซนคฤหาสน์
“ถึงแล้วค่ะ ถึงแล้ว! ขอบคุณคุณมากนะคะ คุณเวิน” เฉินฮวนฮวนพูดแสดงความขอบคุณเวินซือเหยี่ยนอย่างตื่นเต้น
เวินซือเหยี่ยน เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหน้าไปถาม “ คุณจะไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรอ? ประตูใหญ่ทางทิศตะวันตก มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่หนึ่ง ข้างในของค่อนข้างเยอะ ผักผลไม้ก็มีหมด”
“ ฉันเตรียมจะทำอาหารเช้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะซื้ออะไร เดี๋ยวค่อยไปดู” เฉินฮวนฮวน ยิ้มตอบ เธอถูมือ ทำท่าเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เธอแทบอยากจะวิ่งไปซูเปอร์มาร์เก็ต
“ บังเอิญจริงๆ ผมก็ออกมาซื้อวัตถุดิบ แล้วก็ถือโอกาสออกกำลังกายไปด้วย” เวินซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว ยิ้มบาง ๆ “ ซื้อของเสร็จแล้ว คุณรู้จักทางกลับไหมครับ?”
เดิมทีเฉินฮวนฮวนสาวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างเร็ว เดินนำเวินซือเหยี่ยนไปนิดหน่อยแล้ว ในตอนนี้เองจู่ ๆ เธอหยุดฝีเท้าลง แล้วเอ๋อไปในทันที
เวินซือเหยี่ยนเห็นท่าทางของเธอ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จึงพูดขึ้นอีก “ที่เรียกว่าส่งพระพุทธเจ้าต้องส่งให้ถึงทางทิศตะวันตก เดี๋ยวซื้อของเสร็จพร้อมกัน ผมสามารถไปส่งคุณได้”
“จริงเหรอคะ?” เฉินฮวนฮวนตาเป็นประกาย ทันใดนั้นรู้สึกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความหวัง
เมื่อคืน เธออารมณ์ไม่ค่อยดี นั่งอยู่บนรถของเฟิงหานชวนอย่างมึนงงก็ถึงประตูหน้าบ้านแล้ว บวกกับเส้นทางของที่นี่ค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นเธอจึงจำทางไม่ได้
ถ้าหากเธอมีคนพาเธอเดินสักรอบ งั้นเธอก็จำได้แล้ว ในเมื่อหัวสมองอันน้อยนิดของเธอฉลาดมาก
“ งั้นผมจะถือว่าเป็นการออกกำลังกาย” เวินซือเหยี่ยนพูดอย่างผ่อนคลาย
เฉินฮวนฮวน โค้งคำนับอย่างจริงจัง แล้วพูดขอบคุณ “คุณเวินคะ ขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ”
“ ไม่ต้องเกรงใจ อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ถือว่าเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว” เวินซือเหยี่ยนทำมือเชื้อเชิญ ให้เฉินฮวนฮวนเดินไปข้างหน้า
ทั้งสองจึงไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน
เฉินฮวนฮวนมองดูผลิตภัณฑ์อันตระการตา จึงเข้าสู่ความสับสนอีกครั้ง
เธอไม่รู้ความชอบของเฟิงหานชวน ไม่รู้ว่าเฟิงหานชวนชอบกินอะไร มีอะไรที่งดทานบ้าง หรือว่าเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเฟิงหานชวนเลยสักนิด
คิดได้ถึงเช้าวันที่ไปฝึกอบรมเฟิงหานชวน ทำสเต๊กกับแซนด์วิช งั้นแสดงว่าเฟิงหานชวนก็ชอบกินของพวกนี้ใช่ไหม?
หลังจากที่เฉินฮวนฮวนแยกแยะความคิด จึงรีบวิ่งไปที่ตู้แช่เนื้อ วัตถุดิบหลักคือสเต๊ก ขนมปังปิ้ง ผักกาด มะเขือเทศ ไข่ แฮม น้ำสลัด ฯลฯ สำหรับแซนด์วิช
เห็นเฉินฮวนฮวนเดินไป ๆ มา ๆ อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่หยุด ร่างเล็กที่กำลังยุ่งวุ่นวาย ดึงดูดสายตาของเวินซือเหยี่ยน
หลังจากที่เขาเลือกของที่ตัวเองจะซื้อเสร็จ จึงเดินไปหาเฉินฮวนฮวน ก็เห็นในรถเข็นของเฉินฮวนฮวน เต็มไปด้วยวัตถุดิบหลากหลายอย่าง
“ของที่จะซื้อเยอะอยู่นะ” เวินซือเหยี่ยนเอ่ยขึ้น
เฉินฮวนฮวน มองดูวัตถุดิบในรถเข็น แล้วตอบกลับ “ ซูเปอร์มาร์เก็ตค่อนข้างไกล ดังนั้นจึงวางแผนที่จะกักตุนนิดหน่อยค่ะ”
“ครับ” เวินซือเหยี่ยน ไม่ได้พูดอะไรเยอะ แล้วให้เฉินฮวนฮวนต่อแถวจ่ายเงินก่อน
ในตอนที่แคชเชียร์สแกนบาร์โค้ดอยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเฉินฮวนฮวนก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เป็นเฟิงหานชวนที่โทรหาเธอ
ในตอนที่เฟิงหานชวนตื่นมา เห็นว่าด้านข้างไม่มีคนแล้ว เขาหารอบบ้านก็ไม่เจอ ถึงได้นึกโทรศัพท์ขึ้นมาได้
“ฮวนฮวน คุณไปไหนเหรอ? “ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอาการหอบหนัก และฟังดูวิตกกังวลเป็นพิเศษ
“ ฉันมาซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ประตูใหญ่ ทำไมคุณตื่นเช้าขนาดนี้คะ ไม่นอนต่ออีกสักหน่อย” เฉินฮวนฮวนหัวเราะคิกคักตอบกลับเดิมที่เธอกะว่าหลังจากที่เฟิงหานชวนตื่นมา จะทำอาหารเช้าเซอร์ไพรส์เขา
เมื่อได้ยินว่าเฉินฮวนฮวนอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ประตูใหญ่ เฟิงหานชวนจึงถอนหายใจออกมายาว ๆ แล้วนั่งลงบนโซฟา เหมือนกับก้อนหินในหัวใจถูกปล่อยวางลง
เมื่อกี้เขาเกือบนึกว่า เฉินฮวนฮวนรู้ความจริงในคืนนั้นแล้ว จึงได้ไปแบบไม่ล่ำไม่ลา
“ผมไปรับคุณ” เฟิงหานชวนพูดจบก็วางสายไปทันที
เฉินฮวนฮวนมองดูหน้าจอที่ดับไป แล้วเกาหัว ตอนนี้เธอต้องรอเฟินหานชวนอยู่ที่นี่เหรอ?
“คนที่บ้านโทรมาเหรอครับ?” เวินซือเหยี่ยนที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินฮวนฮวนถามขึ้นอย่างสงสัย
เฉินฮวนฮวนหันหน้ากลับไป ใบหน้ายิ้มแย้ม ฟันขาวเรียงเผยให้เห็นความน่ารักเป็นอย่างมาก
เธอหยักหน้าอย่างแรง แล้วตอบกลับ “ใช่ค่ะ สามีของฉันเอง”