War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1734
ตอนที่ 1,734 : หอคุมกฏ ลัทธิบูชาไฟ
“เจ้าเป็นน้องสาวข้าไหนเลยยังต้องเกรงใจข้า…”
พี่สาวเค่อเอ๋อส่ายหัว ค่อยพูดต่อ “ตอนนี้ข้าพูดจบแล้วเจ้ายังยืนยันเรื่องออกจากลัทธิบูชาไฟไปภูมิภาคเบื้องล่างเพื่อหาชายคนรักของเจ้าหรือไม่…หากจะไปข้าจะพาเจ้าแม่ลูกลงไปส่งด้วยตัวเอง”
“ไม่! ข้ามิไป!”
เค่อเอ๋อเร่งส่ายหัวออกมาทันที
แม้นางจะคิดถึงนายน้อยของนางใจแทบขาด แต่พอคิดว่าหากนางแม่ลูกอาจชักนำหายนะเภทภัยไปสู่นายน้อย นางก็ยินดีตกตายอยู่ที่นี่เสียดีกว่า!
เพราะต่อให้นางต้องตาย นางก็ไม่อยากให้นายน้อยของนางต้องประสบเคราะห์!
ในสายตาของนาง…ชีวิตของนายน้อยมีค่ามากกว่าชีวิตของนางนัก!
นายน้อยเป็นชายคนรักที่นางยินดีสละให้กระทั่งชีวิต…
“ก่านหรูเยี่ยน! เจ้าช่างกล้านัก!!”
ในขณะที่พี่สาวของเค่อเอ๋อได้ยินคำตอบของเค่อเอ๋อนางก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างโลกอก ทว่าตอนนั้นเองพลันมีเสียงเปี่ยมโทสะโพล่งดังขึ้น!
และเมื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าก่านหรูเยี่ยนพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อก็เปลี่ยนไปอย่างมหันต์!
เพียงแค่ได้ฟัง นางก็บอกได้ทันทีว่านี่คือเสียงของ เจี่ยงชิน! หนึ่งในรองจ้าวหอ ของหอคุมกฏแห่งลัทธิบูชาไฟ!!
เมื่อเงยหน้ามองขึ้นมาก่านหรูเยี่ยนก็เห็นร่าง 4 ร่างลอยล่องอยู่กลางอากาศ!
ในบรรดาทั้ง 4 คนนั้นมีชายวัยกลางคนเป็นผู้นำ รูปร่างหน้าตาของมันแลดูธรรมดาสามัญ หากแต่แววตากลับเฉียบคมปานอินทรีย์ ยามจับจ้องมองมา พาลให้ร่างผู้คนอดไม่ได้ที่จะสะท้านไปด้วยความยำเกรง!
ชายวัยกลางคนผู้นี้ ก็คือ เจี่ยงชิน หนึ่งในรองจ้าวหอคุมกฏ!
ส่วนอีก 3 ร่างด้านหลังของเจี่ยงชินนั้น สองคนเป็นชายหนุ่มที่แลดูเย็นชาไร้แยแส ต่างกำลังจับจ้องมองก่านหรูเยี่ยนด้วยสายตาเฉยเมย เห็นชัดว่าพวกมันสมควรเป็นศิษย์ของหอคุมกฏ!
อย่างไรก็ตามเมื่อก่านหรูเยี่ยนเหลือบไปเห็นร่างสุดท้ายในบรรดาคนทั้ง 4สีหน้านางก็แปรเปลี่ยนไปทันใด
เพราะร่างสุดท้ายนี้ กับเป็นสตรีหน้าตาแลดูใช้ได้ เอวบางร่างน้อยเผยความเย้ายวนไม่ใช่เล่นๆ
แน่นอนว่าในแง่ของรูปโฉมแล้ว หากจะนำไปเทียบกับก่านหรูเยี่ยน สตรีนางนี้ยังนับว่าขาดอยู่เล็กน้อย…
ตอนนี้สตรีดังกล่าว กำลังเหลือบมองก่านหรูเยี่ยนด้วยสายตาสะใจ มุมปากยังยกยิ้มเย้ย “ก่านหรูเยี่ยน ขอแสดงความยินดีด้วยที่เจ้าตามหาน้องสาวที่พรัดพรากไปหลายสิบปีจนเจอ…ทว่าธิดาเทพที่อุตส่าห์หาเจอกลับเสียพรหมจรรย์ไปเช่นนี้! ข้ากลัวว่ากระทั่ง อาวุโสผู้พิทักษ์ชิงหั่ว อาจารย์ของเจ้าก็มิอาจสอดมือเข้ามาช่วยเหลือเจ้าได้!”
“อ๊า! จริงสิ ข้าแทบลืมไป น้องสาวเจ้าที่เป็นธิดาเทพ มิเพียงแต่จะสูญเสียพรหมจรรย์นางยังถึงขั้นให้กำเนิดลูก…นี่นับเป็นการดูหมิ่นลบหลู่เทพอัคคีถึงที่สุด! พวกเจ้าจักต้องรับโทษทัณฑ์หนักเป็น 2 เท่าตัว!!”
วาจาที่สตรีนางนั้นกล่าวต่อออกมาเต็มไปด้วยความสาสมใจนัก
“เหวินเยี่ยน เจ้าเป็นคนไปแจ้งรองจ้าวหอเจี่ยงงั้นหรือ?!”
แม้ไม่ทราบว่าไฉนสตรีนางนี้ถึงได้ล่วงรู้เรื่องนี้ได้ หากแต่ก่านหรูเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงไปกล่าวถาม และในน้ำเสียงที่ส่งไปก็เต็มไปด้วยเพลิงโทสะอันยากระงับ
“ทำไม? หรือเจ้าคิดว่าการที่ข้าไปแจ้งเรื่องนี้กับรองจ้าวหอเจี่ยงเป็นเพราะความแค้นส่วนตัวงั้นเหรอ?”
เสียงของเหวินเยี่ยนยังเปี่ยมล้นไปด้วยความสะใจ “ในฐานะศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ ทุกคนล้วนมีหน้าที่ต้องช่วยกันดูแลรักษากฏ…หากเจ้าคิดว่าข้าไปแจ้งเรื่องนี้กับรองจ้าวหอเจี่ยงเพราะความแค้นส่วนตัว เจ้าก็ไปฟ้องร้องให้ท่านรองจ้าวหอเจี่ยงปล่อยคนเองเถอะ!!”
กล่าวจบคำมุมปากของเหวินเยี่ยนก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความถูกใจ
นางกับก่านหรูเยี่ยนนั้นล้วนเป็นรุ่นเยาว์อัจฉริยะของลัทธิบูชาไฟ อนิจจานางกลับถูกก่านหรูเยี่ยนสะกดข่มเอาไว้ทุกเรื่อง เสมือนนางอยู่ใต้เงาของก่านหรูเยี่ยนมาโดยตลอด ทำให้นางคับแค้นทั้งจนปัญญาจะสู้นัก
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน นางกลับพบว่าก่านหรูเยี่ยนลอบนำพาคนผู้หนึ่งเข้ามาอยู่ในลัทธิ และหลังจากใช้เวลาสืบค้นเรื่องราวอยู่ถึง 2 ปีในที่สุดนางก็พบว่าคนที่อีกฝ่ายลอบพากลับมาคือใคร!
และด้วยวิธีนี้ มันทำให้นางมีโอกาสต่อกรกับก่านหรูเยี่ยน!
ก่อนหน้านี้ไม่ว่านางจะทำอย่างไร นางก็ไม่เคยชนะก่านหรูเยี่ยนสักครั้ง!
ทว่าวันนี้นางชนะแล้ว!
ถึงแม้ว่าการกระทำของนางจะต่ำช้าไปบ้าง แต่นางไม่เคยสนวิธีการ เพราะสำหรับนางมีเพียงผลลัพธ์เท่านั้นที่สำคัญ!
ฟุ่บ!
พร้อมกันกับที่บังเกิดเสียงแหวกฝ่าสายลมฉับไว ร่างรองจ้าวหอคุมกฏ เจี่ยงชินพลันวูบไปหยุดอยู่เบื้องหน้าเค่อเอ๋อในเสี้ยวพริบตา ดวงตาคมกล้าทอประกายจ้ามองจ้องเค่อเอ๋อเขม็ง “เจ้านับว่าดูเหมือนกันกับก่านหรูเยี่ยนไม่มีผิด…ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็น ก่านอวี๋เยี่ยน ธิดาเทพที่หายตัวไปเมื่อหลายปีที่แล้ว!!”
ก่านอวี๋เยี่ยน นามนี้ฟังกี่ครั้งเค่อเอ๋อก็ไม่คุ้นเคยเลยสักครั้ง
อย่างไรก็ตามในเมื่อนางติดตามพี่สาวฝาแฝดของนางกลับมาที่นี่ นางก็บังเกิดความอยากรู้ว่านางมีชื่อแท้จริงว่าอะไร จนในที่สุดก็รู้ว่ายามแรกเกิดนางถูกเรียกว่า ก่านอวี๋เยี่ยน ซึ่งต่างจากพี่สาวของนางแค่คำเดียวเท่านั้น
“ข้ามิใช่ก่านอวี๋เยี่ยน และข้ามิใช่ธิดาเทพอันใด ตั้งแต่ข้าจำความได้ ตัวข้าเรียกว่าเค่อเอ๋อ!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาคมกล้าที่จ้องมาของเจี่ยงชิน เค่อเอ๋อได้แต่ตอบกลับไปเสียงเรียบ
นางไม่ใช่ตัวโง่งม ไหนเลยยังไม่สังเกตเห็นว่ามีบางคนจงใจทำร้ายพี่สาวฝาแฝดของนาง นางจึงตัดสินใจเสแสร้งกระทำตัวโง่งมไม่รู้เรื่องออกไป…
แน่นอนว่าทุกสิ่งที่นางกล่าวออกมาล้วนเป็นความจริง เพราะตั้งแต่จำความได้นางถูกเรียกว่าเค่อเอ๋อจริงๆ…
และตั้งแต่ที่นางเริ่มจำความได้ นางก็อยู่กันสองคนกับแม่ที่ชายเมืองวายุโปรยเสมอมา ไหนเลยจะรู้เรื่องธิดาเทพอะไรนี่ได้!!
จนกระทั่งแม่ของนางป่วยจนตายตก นางที่ไร้ทรัพย์สินอันใด จึงได้แต่ไปขายตัวเป็นทาสเพื่อหาเงินทำศพมารดา สุดท้ายนางก็ได้พบเจอนายน้อย และนั่นประหนึ่งไก่บ้านได้กลับกลายเป็นหงส์ฟ้า ท่องทะยานขึ้นมาจนได้ใช้ชีวิตอย่างที่นางไม่เคยคิดฝันมาก่อน…
“เหอะ! เจ้าคิดว่าเพียงเจ้ากล่าววาจาเช่นนี้เจ้าจะปฏิเสธได้งั้นหรือว่าเจ้าคือ ก่านอวี๋เยี่ยน ธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟเรา! เจ้ากับก่านหรูเยี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน เรื่องนี้ลัทธิบูชาไฟล้วนรู้กันดี…และถึงแม้ว่าเจ้าจักมิยอมรับ อาศัยเพียงใบหน้านี้ของเจ้า ก็มากพอจะพิสูจน์ได้แล้วว่าเจ้าเป็นพี่น้องฝาแฝดของก่านหรูเยี่ยน และเป็นธิดาเทพของพวกเรา ก่านอวี๋เยี่ยน!!”
ตอนนี้เองเหวินเยี่ยนพลันก้าวออกมาในอากาศ สองตามองชมเค่อเอ๋ออย่างยิ้มแย้มแจ่มใส รอยยิ้มไม่ทราบผุดขึ้นที่มุมปากตั้งแต่เมื่อใด “น่าเสียดายที่เจ้ากลับหนีออกจากบ้านก่อนที่จะรู้ความ กระทั่งรักนวลสงวนตัวเป็นเช่นไรยังหารู้ไม่ สุดท้ายไปเสียตัวให้บุรุษตัวดีซะได้…ซ้ำร้ายยังถึงขั้นให้กำเนิดเดียรัจฉานน้อยนั่น”
เดียรัจฉานน้อย?
ได้ยินวาจานี้ของเหวินเยี่ยนเป็นธรรมดาที่เค่อเอ๋อจะมีโทสะ บุตรีของนางไหนเลยอนุญาตให้ผู้อื่นมาดูแคลนด่าว่าได้!
เค่อเอ๋อบันดาลโทสะ ระเบิดพลังชั่วชีวิตหมายพุ่งร่างเข้าใส่เหวินเยี่ยนอย่างเกรี้ยวกราด ไม่ต่างอะไรจากแม่เสือปกป้องลูกน้อย!
อนิจจาพลังฝีมือของนางไหนเลยจะเทียบกับเหวินเยี่ยนได้ เพียงแค่เหวินเยี่ยนพลิกฝ่ามือเบาๆ ก็ปรากฏพลังไร้สภาพขุมหนึ่งสะกดร่างเค่อเอ๋อให้แน่นิ่งหยุดกับที่ “จึกๆๆ ก่อนหน้านี้มีแต่ผู้คนกล่าวกันว่าพรสวรรค์ของธิดาเทพเหนือล้ำผู้ใดในแดนดิน จึงถูกเลือกให้เป็นธิดาเทพแห่งลัทธิบูชาไฟ! ข้ามิอยากเชื่อเลยว่าโลกภายนอกกลับหล่อหลอมให้เจ้าเป็นได้แค่ขยะ! ถึงขั้นสุ่มเลือกศิษย์ชั้นต่ำมาสักคน ก็ล้วนแต่แกร่งกล้ากว่าเจ้านับร้อยเท่า!”
“เหวินเยี่ยน!!”
ทันใดนั้นเสียงเปี่ยมโทสะหากแต่เสนาะหูพลันโพล่งดังขึ้น ไม่ทันที่เหวินเยี่ยนจะตอบสนองเรื่องราวใดๆ ก่านหรูเยี่ยนก็ซัดฝ่ามือทำร้ายนางจนร่างกระเด็นปลิดปลิวไปไม่เป็นท่า ยังแทบร่วงหล่นตกฟ้า!!
“ก่านหรูเยี่ยน!!”
เหวินเยี่ยนไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าก่านหรูเยี่ยนจะกล้าลงมืออุกอาจทำร้ายนางอย่างไม่เกรงกลัวใดๆเช่นนี้ ทำให้สีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องแปรเปลี่ยนเป็นโมโหทันที นางมองกล่าวกับก่านหรูเยี่ยนด้วยโทสะ มุมปากยังปรากฏเลือดไหลลงมาเป็นทาง…
“อะไร? เจ้าที่พ่ายแพ้ข้าในฝ่ามือเดียว คิดจะสู้ข้างั้นเหรอ?”
ก่านหรูเยี่ยนมองเหวินเยี่ยนด้วยสายตาดูถูก มุมปากยังยิมเย้ยออกมาซึ่งๆหน้า
ในบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของลัทธิบูชาไฟ แม้เหวินเยี่ยนจะนับเป็นชนชั้นแนวหน้าในบรรดารุ่นเยาว์เหมือนกับนาง แต่หากเทียบพลังฝีมือกับนางแล้วอีกฝ่ายก็ไม่อาจนับเป็นตัวอะไรได้…!
เหวินเยี่ยนที่ได้ยินวาจาดังกล่าวถึงกับหน้าเบี้ยว เต็มไปด้วยความหงุดหงิดนัก!
“ไปพาเด็กนั่นออกมาเสีย!”
ทันใดนั้นเอง เจี่ยงชินพลันกล่าวสั่งออกมา
ครู่ต่อมาร่างชาย 2 คน ศิษย์หอคุมกฎที่ติดตามเจี่ยงชินมาด้วย ก็คล้ายแปรเปลี่ยนเป็นเส้นสายอัสนี พุ่งหายเข้าไปในบ้านของก่านหรูเยี่ยนทันที!
“รองจ้าวหอเจี่ยง นางยังเป็นแค่เด็ก!!”
ก่านหรูเยี่ยนที่ได้ยินคำสั่งนี้ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีไปทันที นางยังคิดจะหยุดศิษย์หอคุมกฏทั้ง 2 ทว่ากลับถูกเจี่ยงชินใช้พลังสะกดร่างเอาไว้เสียก่อน “ก่านหรูเยี่ยน เจ้ามิเพียงซุกซ่อนตัวธิดาเทพที่ละเมิดกฏจนมีความผิดติดตัว ยังกล้าคิดลงมือกับคนหอคุมกฏ…แต่เพราะเจ้าเป็นศิษย์ของท่านอาวุโสผู้พิทักษ์ชิงหั่ว ตอนนี้ข้าจักมิทำให้เจ้าต้องลำบาก!”
“อย่างไรเสีย หอคุมกฏของข้าจำต้องดำรงไว้ซึ่งกฏเกณฑ์มิอาจละเว้น หลังจากนี้พวกเราจักไปรับฟังคำอธิบายของอาวุโสพิทักษ์ชิงหั่ว!”
เจี่ยงชินกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “สำหรับธิดาเทพและลูกนอกสมรสของนาง ข้าจักนำพาไปยังหอคุมกฏ และหลังจากที่ข้าหารือกับจ้าวลัทธิเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะจัดการนางตามกฏของลัทธิ!”
ทันทีที่เจี่ยงชินกล่าวจบคำ ก็พอดีกันกับศิษย์หอคุมกฏที่พุ่งเข้าบ้านก่านหรูเยี่ยนไปกลับออกมา ในอ้อมแขนของหนึ่งในนั้นยังอุ้มร่างเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลั้งดิ้นขัดขืนเอาไว้
“โจรชั่ว! ปล่อยข้านะ…ถ้ายังไม่ปล่อยข้าๆจะไปฟ้องท่านป้าให้มาตีพวกเจ้าให้ตาย! ท่านป้าข้าร้ายกาจมากนะ!!”
เด็กหญิงตัวน้อยดิ้นพล่านไม่หยุด ตะโกนออกมาเสียงเจื้อยแจ้ว
“ซือหลิง!!”
หน้าเค่อเอ๋อถอดสีไปทันใด ยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกทั้งร้อนรนหมายไปช่วยบุตรีให้เร็วที่สุด อนิจจานางกลับถูกเหวินเยี่ยนที่เหินกลับมาแล้วเปล่งพลังหยุดร่างเอาไว้อีกครั้ง! และตอนนี้ใบหน้าของเหวินเยี่ยนก็ไร้ซึ่งอาการบิดเบี้ยวมากโทสะอะไรอีก ยังแย้มยิ้มออกมาหน้าระรื่น “ธิดาเทพ ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้ากับเดียรัจฉานน้อยจะไปเที่ยวหอคุมกฏแล้ว!”
“รองจ้าวหอเจี่ยง หรือกระทั่งกับเด็กน้อยท่านยังไร้เมตตาได้ลงคอ?”
ก่านหรูเยี่ยนมองเจี่ยงชินด้วยสองตาแดงฉาน น้ำใสๆล้นออกตา เสียงกล่าวสั่นเครือ
ถึงแม้พลังฝีมือของนางจะดี แต่ให้เทียบกับรองจ้าวหหอคุมกฏแล้ว ยังขาดอยู่บ้าง
เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะชิงตัวผู้ใดหลบหนี ต่อหน้าอีกฝ่าย!
“ไปกันเถอะ”
เจี่ยงชินไม่สนใจวาจาทัดทานของก่านหรูเยี่ยน สิ้นคำกล่าว ร่างมันก็เหินลอยขึ้นไปในอากาศ ขณะเดียวกันก็ปรากฏพลังไร้สภาพดั่งมือที่มองไม่เห็นตรึงร่างเค่อเอ๋อและหอบหิ้วนางให้ลอยติดตามมันขึ้นไป
ศิษย์หอคุมกฏทั้ง 2 ที่หนึ่งในนั้นอุ้มซือหลิงเอาไว้ก็เหินร่างตามขึ้นมาไม่ห่าง
“ท่านพี่หญิงได้โปรดช่วยชีวิตซือหลิงด้วย…! มิว่าข้าจะถูกลงทัณฑ์อันใดก็ช่าง ขอเพียงให้ซือหลิงอยู่รอดปลอดภัยก็พอ นางแค่ 2 ขวบเท่านั้น ยังมิมีโอกาสได้พบหน้าบิดากับปู่ย่าของนางสักครั้ง!!”
เสียงสั่นเครือที่คล้ายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเค่อเอ๋อดั่งเข้าหูให้ก่านหรูเยี่ยนได้ยินชัดเจน
ฟุ่บ!
หลังจากที่ได้ยินวาจานี้สิ้นหวังนี้ของเค่อเอ๋อ ดวงตาที่แดงฉานอยู่แล้วของก่านหรูเยี่ยก็ยิ่งแดงจนคล้ายจะคั้นได้เป็นหยดโลหิต สุดท้ายนางก็ไม่อาจทานทนไหวสืบไป จับจ้องมองไปยังศิษย์หอคุมกฏทั้ง 2 เขม็ง พลังทั่วร่างโคจรดั่งสายธารเชี่ยว! คนทะยานขึ้นฟ้าไปปานมังกรสมุทรโผล่พ้นนที!!
อย่างไรก็ตามก่านหรูเยี่ยนเพียงทะยานขึ้นฟ้าปรี่ตรงเข้าใส่ศิษย์หอคุมกฏทั้ง 2ได้ไม่ทันไร พลันมีพลังอันน่ากลัวขุมหนึ่งทะลวงผ่านความว่างมาฉับไว ซัดปะทะเข้าร่างของนางอย่างจัง จนคนผงะกระเด็นกลับไปอย่างไม่ยินยอม!!
พร้อมกันนั้นเอง เสียงอันเย็นชาไร้แยแสถึงขีดสุดหนึ่งดังขึ้น “ก่านหรูเยี่ยน หากเจ้ายังคิดขัดขวางการทำงานของหอคุมกฏข้าอีกครั้ง ต่อให้เจ้าเป็นศิษย์รักของท่านอาวุโสพิทักษ์ชิงหั่ว ข้าก็ไม่คิดจะไว้ไมตรีอีก!”
เมื่อมองก่านหรูเยี่ยนที่ปลิวกระเด็นถอยไปด้วยสายตา ทั้งกล่าววาจาทิ้งทายเสียงเย็นจบคำ เจี่ยงชินก็จากไปพร้อมศิษย์หอคุมกฏทั้ง 2 พร้อม โดยมีเค่อเอ๋อซือหลิงแม่ลูกถูกจับไปด้วยกัน
เหวินเยี่ยนที่หยุดลอยรั้งท้ายมองก่านหรูเยี่ยนด้วยรอยยิ้มสาสมใจ กล่าวคำเย้ยเยาะอย่างสนุกสนาน “ก่านหรูเยี่ยนหนอก่านหรูเยี่ยน…ตอนนี้แทนที่เจ้าจะเอาเวลาไปห่วงผู้อื่นเจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ! ครั้งนี้ความผิดของเจ้าไม่น้อยเลยทีเดียว!!”