บทที่ 396 รับประกันได้เลยว่าน่าสัมผัสกว่าคนอ้วนเสียอีก!

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เป็นเบอร์ของสือมูเฉินโทรเข้ามา: “ชิงเจ๋อ เรื่องของสือจิ่นเป็นอย่างไรบ้าง?”

หยานชิงเจ๋อเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับสือมูเฉิน และรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ผมอยู่ด้วยกันเสี่ยวจิ่นแล้ว พี่เฉินครับ เดี๋ยววันหน้าเราจะเชิญพี่มาทานข้าวด้วยกันนะครับ!”

สือมูเฉินเลิกคิ้ว: “ไม่เลวนะเนี่ย พี่เคยบอกนายแล้ว? ถ้ารักก็ต้องรีบแย่งทันที! ใช่สิ ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลได้ติดต่อไว้แล้วนะ และในสัปดาห์หน้านายสามารถไปตรวจได้เลย นายลองหาเวลาปรึกษากับสือจิ่นดูนะ”

“ตกลง ขอบคุณครับพี่เฉิน!” หยานชิงเจ๋อกล่าว

เขาวางสาย และพูดกับซูสือจิ่นว่า:”เสี่ยวจิ่น ในสัปดาห์หน้าผมจะพาคุณไปพบแพทย์ เพื่อตรวจบาดแผลที่หลังของคุณดูให้ละเอียด”

อันที่จริงเมื่อคืนเขาก็เคยลูบโดนแผลนั้นแล้ว บาดแผลนั้นดีขึ้นมาก ถ้าหากมีปัญหา อาจเป็นเพราะแผลในตอนนั้นไม่ได้รับการดูแลดีเท่าที่ควร ในสัปดาห์หน้าหลังจากตรวจดูอย่างถี่ถ้วนแล้วก็สามารถระบุได้แล้วว่าจะทำการรักษายังไงต่อไป

“ตกลง” ซูสือจิ่นพยักหน้า ดวงตาของเธอหันไปมองด้านนอกรถ และเธอก็บังเอิญเห็นร้านขายยาร้านหนึ่ง

เธอย่อตัวลงเล็กน้อย: “เมื่อคืนนี้มีอะไรกันโดยไม่ได้ป้องกัน ฉันลงไปซื้อยาเองนะ ……”

หยานชิงเจ๋อเหลือบมองก็เห็นร้านขายยาร้านนั้นเช่นกัน เขาหยุดรถแล้วจับมือซูสือจิ่นเข้าไปด้วยกัน: “ไป ซื้อยา”

เขา……

ซูสือจิ่นมองไปที่หยานชิงเจ๋อ และหัวใจของเธอก็มืดมนทันที

ความคิดของเขาก็เป็นเช่นเดิมไม่อยากมีลูกกับเธออย่างนั้นเหรอ? แม้ว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะมีลูก แต่การที่เขาทำเช่นนี้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก

ในขณะนี้ หยานชิงเจ๋อจับมือของเธอเดินเข้าไปในร้านยา ซูสือจิ่นกำลังจะเดินไปดูแผนกยาคุมกำเนิด หยานชิงเจ๋อถามพนักงานร้านขายยาโดยตรงว่า: “มีกรดโฟลิกไหมครับ?”

พนักงานรีบพูดอย่างรวดเร็ว: “มีค่ะ ร้านเรามีกรดโฟลิกและยังมีวิตามินอื่น ๆ ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงท่านนี้กำลังวางแผนที่จะมีลูกหรือคะ หรือว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่แล้ว?”

หยานชิงเจ๋อกล่าวว่า “วางแผนอยู่ครับ กินล่วงหน้าครับ”

พนักงานพยักหน้าทันที: “โอ้ ได้ค่ะ คุณผู้ชายคะ คุณซื้อก่อนหนึ่งขวดแล้วกินตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์นะคะ ยังมีวิตามินตัวนี้ก็ไม่เลวนะคะ คุณลองศึกษาดูได้นะคะ!”

เมื่อซูสือจิ่นได้ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสองคนแล้ว เธอจ้องมองหยานชิงเจ๋อด้วยความงุนงง

ดังนั้นเมื่อกี้นี้เธอเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ เขากำลังวางแผนจะมีลูกเหรอ?

แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่คน! ซูสือจิ่นนึกถึงนี่ ก็รีบเดินเข้าไปยืนเขย่งเท้าและกระซิบข้างหูของหยานชิงเจ๋อ: “ฉันไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ และไม่ต้องการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน……”

ซูสือจิ่นเอนตัวเข้ามาใกล้มาก และหยานชิงเจ๋อรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ซึ่งกระตุ้นความปรารถนาในหัวใจของเขา

เขาโอบเอวซูสือจิ่นให้เธอเข้ามาแนบกาย และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาว่า: “ผมกำลังคิดว่า ถ้าหากเมื่อคืนนี้เกิดมีขึ้นมาแล้วล่ะ?”

แก้มของซูสือจิ่นแดงระเรื่อ และเธอก็ดึงเสื้อผ้าของหยานชิงเจ๋อ: “ฉันไม่อยากมีเร็วเกินไปนี่นา!”

เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงที่ออดอ้อนของเธอ หัวใจของเขาก็รู้สึกละลายทันที หยานชิงเจ๋อพยักหน้า: “โอเค ถ้าเช่นนั้นรอจนกว่าคุณต้องการมีค่อยว่ากันอีกที แต่เสี่ยวจิ่น ครั้งนี้คุณห้ามกินยาคุมกำเนิดแล้วนะ!”

ซูสือจิ่นรู้ดีว่าหยานชิงเจ๋อหมายถึงอะไร แต่เธอจงใจทำหน้ามุ่ย: “ก่อนหน้านั้นคุณบังคับให้ฉันต้องกินมัน!”

หัวใจของหยานชิงเจ๋อเจ็บแปลบชั่วขณะ และความเสียใจความรู้สึกผิดได้หวนกลับมาอีกครั้ง

เขาจับมือซูสือจิ่น น้ำเสียงของเขาเจ็บปวด: “เสี่ยวจิ่น ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมทั้งหมดเอง”

เดิมทีซูสือจิ่นไม่ต้องการให้เขายอมรับผิดจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงดึงมือของหยานชิงเจ๋อ และโบกมือเพื่อให้เขาหยุดพูดต่อได้แล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม เขาพาเธอไปที่ชั้นวางด้านข้างอันเงียบสงบและพูดขึ้นว่า: “ที่จริงแล้ว หลังจากที่คุณจากไป ผมเคยเห็นลูกของคนอื่นอยู่ในอ้อมแขนของพ่อแม่ ตอนนั้นผมอยากจะย้อนเวลากลับไป ถ้าหากคุณไม่ได้ทานยาพวกนั้น ผมก็จะมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว แบบนี้……”

เหมือนกับตอนอยู่ที่บ้านของสือมูเฉินในวันนั้น เธอกำลังอุ้มหวันหว่านขณะที่เขากำลังโอบไหล่ของเธอ

ซูสือจิ่นถอนหายใจออกมา แท้จริงแล้วในเวลานั้นการที่เขาบังคับให้เธอกินยา เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป เธอได้เปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิงและเธอสามารถเข้าใจในตัวเขาแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น

ที่แท้ความรัก เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้คนเราสามารถทำทุกอย่างได้ นอกจากนี้ความรักยังช่วยต้านความเจ็บปวดได้อย่างไม่น่าเชื่อ?

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังเด็กอยู่” ซูสือจิ่นยิ้ม: “ฉันอายุน้อยกว่าคุณสี่หรือห้าปีเชียวนะ ฉันไม่รีบ!”

หยานชิงเจ๋อรู้ว่าเธอกำลังปลอบโยนเขาอยู่ เขารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เขาก้มลงจูบซูสือจิ่น: “เสี่ยวจิ่น คุณนี่ดีเหลือเกิน”

เขาจับมือเธอกลับไปหาพนักงาน เขาซื้อยาและวิตามิน แล้วซื้อหน้ากากเพิ่ม ชำระเงินเสร็จก็ขับรถไปทางซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน

เมื่อซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อจอดอยู่หน้าซูเปอร์มาร์เก็ต ซูสือจิ่นก็พูดขึ้นว่า: “พี่ชิงเจ๋อ พี่ต้องการซื้อผักเหรอคะ?”

หยานชิงเจ๋อพยักหน้า หยุดรถ สวมหน้ากาก และมองไปที่เธอพร้อมพูดขึ้นว่า: “เสี่ยวจิ่น ลบคำว่า ‘พี่’ ออกได้ไหม”

ซูสือจิ่นก็นึกขึ้นได้ว่าในอดีตที่พวกเขาแต่งงานกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้น เธอเรียกเขาว่า “ชิงเจ๋อ”

แต่ต่อมา พอหย่ากันแล้วดังนั้นจึงเปลี่ยนสถานะเหลือแค่พี่น้อง แต่ตอนนี้ การเพิ่มคำว่า ‘พี่’ ดูเหมือนจะกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว

……

ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

บางทีแม้ว่าคุณจะไม่สนใจช่วงเวลานั้น แต่ในจิตใต้สำนึกยังคงมีอิทธิพลต่อสิ่งนั้นอยู่

บางทีเธออาจต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการปรับตัว

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไร หยานชิงเจ๋อรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในใจ แต่อย่างไรก็ตาม รอยบาดแผลนั้นเขาเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นเอง และนอกจากการตำหนิตัวเองแล้ว ก็ไม่สามารถไปโทษใครได้อีก

เขาเอื้อมมือไปกอดซูสือจิ่น ปล่อยให้เธอซบหน้าอกของเขา เอานิ้วสัมผัสผมของเธอ แล้วพูดอยู่เหนือหัวเธอว่า: “เสี่ยวจิ่น ไม่เป็นไร ผมจะให้เวลาคุณปรับตัวและค่อย ๆคุ้นเคยกับมันอย่างช้า ๆ ขอเพียงคุณอย่าทิ้งผมไปก็พอ”

ซูสือจิ่นพยักหน้า เธอพะอืดพะอมและพูดไม่ออก

ทั้งสองกอดกันครู่หนึ่งก่อนจะลงจากรถและเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน

ซูสือจิ่นคิดย้อนกลับไป ก่อนหน้าหน้าตอนที่พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ พวกเขาก็เคยมาซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกันแบบนี้

ในเวลานั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะดีขึ้น และแม้ว่าพวกเขาจะออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต หยานชิงเจ๋อยังคงจับมือของเธอ

ในเวลานี้ เมื่อเดินเข้ามาอีกครั้ง ก็มีความรู้สึกผิดปรกติราวกับอยู่คนละโลก ซึ่งทำให้เธอหยุดเดินชั่วขณะและลืมที่จะก้าวไปข้างหน้า

ด้านข้าง หยานชิงเจ๋อจับไหล่ของเธอพร้อมถามว่า: “เสี่ยวจิ่น บอกผมสิคุณอยากทานอะไร ”

ซูสือจิ่นกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง: “เดินสำรวจไปก่อนเถอะ!”

ใบหน้าของหยานชิงเจ๋อทำให้เจอผู้คนไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อผักและเนื้อสัตว์จำนวนมากพอที่จะกินได้สามหรือสี่วัน

ตลอดการเลือกซื้อของ หยานชิงเจ๋อดันตะกร้าสินค้าด้วยมือข้างหนึ่งและจับมือของซูสือจิ่นด้วยมืออีกข้าง ทั้งสองมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ชำระเงิน

เดิมซูสือจิ่นเห็นว่าแถวนั้นมีคนต่อแถวน้อยมาก แต่กลับเห็นหยานชิงเจ๋อเดินตรงไปยังแถวที่มีคนต่อแถวเป็นจำนวนมาก

เธอกำลังจะเรียกเขาไปด้านข้าง ก็เห็นหยานชิงเจ๋อหยิบกล่องถุงยางกลิ่นดอกไม้ขึ้นมาจากชั้นวาง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูสือจิ่นก็เหลือบมองไปทางอื่นทันที

แต่อย่างไรก็ตาม หยานชิงเจ๋อไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆแน่ และเขานำตัวเธอมายืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมพูดว่า: “เสี่ยวจิ่น คุณชอบกลิ่นไหน?”

สีหน้าของซูสือจิ่นเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที: “ฉันไม่รู้!”

หยานชิงเจ๋อแสร้งทำเป็นพึมพำกับตัวเอง: “คุณบอกว่าคุณไม่อยากมีลูกเร็วนัก ถ้าอย่างนั้นเราก็ซื้อเตรียมไว้หน่อย ถ้าหากคุณไม่ต้องการซื้อ ผมก็จะไม่ซื้อแล้ว ตอนกลางคืน ……”

เมื่อซูสือจิ่นได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันที: “คุณต้องซื้อมัน!”

ดวงตาของหยานชิงเจ๋อเป็นประกายและมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์: “เอาล่ะ ซื้อซื้อซื้อ!”

ซูสือจิ่นแทบรอไม่ไหวที่จะต่อยหยานชิงเจ๋อ แต่อดีตสามีตรงหน้าคนนี้เขาหล่อมากจนไม่กล้าที่จะลงมือทำร้าย……

ในที่สุดก็ซื้อของเสร็จออกมา หยานชิงเจ๋อถือของทุกอย่าง และจับมือซูสือจิ่นกลับบ้าน

เขาวางของลง แล้วพูดกับซูสือจิ่นว่า:“เสี่ยวจิ่น ผมจะไปอาบน้ำก่อนนะ”

ซูสือจิ่นพยักหน้า ในตอนเช้าก่อนออกจากบ้านเธออาบน้ำแล้ว แต่สำหรับตัวเขานั้นแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าหลังจากตื่นนอนก็ตามออกมาทันที ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ส่องกระจก และแม้แต่หน้ายังไม่กล้าให้ใครเห็นเลยด้วยซ้ำ

หยานชิงเจ๋อเป็นคนรักความสะอาดมาโดยตลอด แต่ตอนนี้คาดว่าคงอึดอัดน่าดู?

เธอฝืนยิ้ม: “โอเค ระวังอย่าให้โดนแผลล่ะ”

หยานชิงเจ๋อพยักหน้า: “ไม่เป็นไร ลัวฝานหวาได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าผม แผลของผมไม่ได้ถลอกเลยสักนิด”

ซูสือจิ่นมองไปที่หยานชิงเจ๋อซึ่งดูบอบบางและถอนหายใจออกมาพร้อมพูดว่า: “พี่ชิงเจ๋อ ฉันคาดไม่ถึงเลยว่าพี่จะชำนาญด้านการชกต่อยขนาดนี้ เดิมทีฉันคิดว่าฝานหวาเชี่ยวชาญการชกต่อยเก่งกว่าพี่เสียอีกนะ……”

หยานชิงเจ๋อเลิกคิ้ว: “ผมมีความศรัทธา”

“ศรัทธาอะไร?” ซูสือจิ่นหน้ามุ่ย และแม้แต่การชกต่อยยังถูกยกย่องสูงส่งขนาดนี้เชียวหรือ?

“คุณคือความศรัทธาของผม” เดี๋ยวนี้หยานชิงเจ๋อเรียนรู้ที่จะหยอดคำพูดหวาน ๆทุกเวลาแล้วเหรอ

แก้มของซูสือจิ่นแดงระเรื่อขึ้น: “ทันใดนั้นด้วยคำพูดที่กะล่อนขนาดนี้ ไม่รู้ว่าประโยคไหนพูดจริงประโยคไหนพูดโกหก!”

หยานชิงเจ๋อเดินเข้าไปกอดซูสือจิ่น: “เสี่ยวจิ่น ทุกสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง เมื่อก่อนผมไม่เคยพูดมาก่อน ผมแค่คิดว่าผมยังมีเวลาอีกมาก แต่หลังจากที่คุณจากไป ผมอยากจะพูดแต่ผมกลับหาคุณไม่เจอแล้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงสิ่งที่ชายชราคนหนึ่งได้พูดกับผมตอนที่ผมเดินทางไปทำธุรกิจที่สหรัฐอเมริกา”

“พูดเกี่ยวกับอะไร?” ซูสือจิ่นถามอย่างสงสัย

“ยามดอกไม้เบ่งบานรีบเด็ดเอา อย่ารอจนเหี่ยวเฉาทิ้งกิ่งไป” หยานชิงเจ๋อซบหัววางไว้บนไหล่ของซูสือจิ่น และถอนหายใจออกมาเบา ๆ: “หลังจากที่คุณจากไป ผมคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเสียใจจนนอนไม่หลับทุกคืน ดังนั้นคุณเห็นผมผอมลง ไม่ใช่เพราะผมทำงานหนัก แต่เป็นเพราะผมคิดถึงคุณต่างหาก”

หัวใจของซูสือจิ่นเต้นเร็วถี่ขึ้นเรื่อยๆเป็นเพราะคำพูดหวาน ๆของเขา เธอยิ้มออกมาเป็นเวลานานแล้วเปลี่ยนกลับมาทำหน้าจริงจัง: “ถ้าอย่างนั้นฉันกลับมาแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากแล้ว ฉันจะพยายามทำให้คุณอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้มากที่สุด!”

หยานชิงเจ๋อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก: “เสี่ยวจิ่น คุณแน่ใจหรือว่าคุณชอบคนอ้วน ๆ?”

ซูสือจิ่นยิ้ม: “ใช่ค่ะ คนอ้วนน่าสัมผัส หนุนขึ้นมาเหมือนหมอนนุ่ม ๆ สัมผัสแล้วรู้สึกดี!”

หยานชิงเจ๋อหรี่ตา :”คุณเคยหนุนคนอ้วนอย่างนั้นเหรอ?”

“อา——” ซูสือจิ่นตระหนักว่าได้กระตุ้นความหึงหวงของเขาอีกครั้ง และรีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว: “ฉันจินตนาการต่างหากล่ะ!”

“เสี่ยวจิ่นคุณวางใจเถอะ ผมจะไปออกกำลังกายทุกวัน และได้รูปร่างเดิมของผมกลับคืนมา!” ดวงตาของซูสือจิ่นเข้มขึ้น: “รับประกันได้เลยว่าน่าสัมผัสกว่าคนอ้วนเสียอีก!”

ลูกกระเดือกของเขาขยับ เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มทนต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่สองวันที่ผ่านมานี้เขาไม่ได้อาบน้ำและรู้สึกอึดอัดอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงปล่อยซูสือจิ่นออก และพูดด้วยเสียงแหบว่า: “ผมจะไปอาบน้ำก่อน คุณรอผมด้วยนะ”

ซูสือจิ่นพยักหน้า: “โอเค ฉันจะโทรหาฝานหวาพอดี และถามว่าเขาอาการเป็นยังไงบ้างแล้ว แล้วฉันก็จะกล่าวคำขอโทษด้วย”

เดิมหยานชิงเจ๋อเดินไปถึงหน้าประตูห้องน้ำแล้ว เมื่อได้ยินซูสือจิ่นพูดเช่นนั้น เขาก็อยู่ไม่นิ่งรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที

เขาหันกลับมา และแย่งโทรศัพท์ของซูสือจิ่น: “ไม่อนุญาตให้คุณติดต่อเขาเพียงลำพัง!”

“หือ?” ซูสือจิ่นพูดว่า: “บอกคุณไปแล้วว่าเขาไม่ได้หมั้นกับฉัน”

“ผู้ชายคนนั้นต้องคิดไม่ซื่ออย่างแน่นอน เสี่ยวจิ่น คุณไร้เดียงสาเกินไป คุณจะถูกเขาหลอกได้ง่าย ๆนะ!” หยานชิงเจ๋อตั้งใจพูดโอเว่อร์เพื่อล้างสมองซูสือจิ่น: “ดังนั้นในเมื่อจะกล่าวคำขอโทษ ก็ต้องให้ผมเป็นคนกล่าวดีกว่านะ! ห้ามคุณพูดกับเขาเด็ดขาด กลัวว่าเขาจะแย่งภรรยาของผมไป และผมคงทนไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้กับเขาอีกครั้ง!”

ซูสือจิ่นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก: “…”