ตอนที่ 428 กล่องเล็ก ๆ

ตอนที่ 428 กล่องเล็ก ๆ

เวลา 18:38 น. อดีตแม่ทัพเลี่ยว ผู้นำอาวุโสของสหพันธ์ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลทั่วไปฉางจิง ข่าวนี้ทำให้ประชาชนต่างตกอยู่ในสภาวะโศกเศร้า

หลายคนเสี่ยงชีวิตออกจากฐาน เพื่อเดินทางไปเคารพศพของอดีตแม่ทัพเลี่ยวที่ฉางจิง

ซูเถาเป็นคนสนับสนุนอดีตผู้นำกองทัพโดยการส่งเขาไปที่ฉางจิงเพื่อร่วมส่งอดีตแม่ทัพเลี่ยวในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขา

ทุกคนมองไปที่กล่องเล็ก ๆ ที่บรรจุขี้เถ้าอย่างเงียบสงบ ซึ่งกล่องนั้นถูกห่อด้วยธงของรัฐบาลกลางและร่วมส่งเขาให้จากไปอย่างสู่สุขติ

หลานสาววัยสี่ขวบของอดีตแม่ทัพเลี่ยวน้ำตาไหลออกมา เธอคว้ามุมเสื้อผ้าของมารดาแล้วถามอย่างใสซื่อ

“แม่คะ คุณปู่กลายเป็นกล่องเล็ก ๆ ได้ยังไง”

คำพูดที่ไร้เดียงสานี้ทำลายบรรยากาศรอบข้างเงียบลงในทันที หลายคนร้องไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้า ลูก ๆ ของอดีตแม่ทัพคุกเข่าต่อหน้าอนุสาวรีย์ และหลั่งน้ำตาอย่างควบคุมไม่ได้

ดวงตาของซูเถาเอ่อไปด้วยหยาดน้ำตาอุ่นร้อน อดีตผู้นำกองทัพที่อยู่ข้าง ๆ เธอใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองก้าวเดินไปทีละก้าว และก้มศีรษะอยู่หน้าศิลาจารึกแล้วร้องไห้ออกมาเงียบ

……

หลังจากร่วมงานศพ ไม่มีผู้บริหารคนใดในฉางจิงมาถามว่าซูเถามาที่นี่ได้อย่างไร และเธอพาอดีตผู้นำกองทัพมาได้อย่างไร พวกเขาทั้งหมดปิดปากเงียบอย่างน่าประหลาดใจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้หายไปจากการติดต่อกับเธอ

ในช่วงสามหรือสี่วันที่ผ่านมา ซูเถาได้รับเชิญจากเจ้าหน้าที่และผู้นำหลายคนจากฉางจิงในฐานะแขก

เธอผลักประตูเคลื่อนย้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อจะต้องไปกลับระหว่างเถาหยางกับฉางจิง

ไม่นานหลังจากที่เขากลับมาตงหยาง อดีตผู้นำกองทัพเผชิญกับความเศร้าโศกเสียใจและล้มป่วย ซูเถารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอจึงพาจงเกาอี้ไปให้ช่วยดูอาการเขา

จงเกาอี้มองไปที่เขาและพูดว่า

“เป็นแค่หวัดธรรมดามีไข้ ไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อกินยาและพักผ่อนมาก ๆ ก็จะดีขึ้น แต่ผมก็อยากให้คุณรับรู้เอาไว้ว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ อดีตผู้นำกองทัพอายุไม่น้อยแล้ว และอวัยวะทั้งหมดเริ่มเสื่อมสภาพลง ซึ่งความสามารถของผม…คุณก็น่าจะรู้ดี”

หัวใจของซูเถากระตุกวูบ

หลังจากจงเกาอี้จ่ายยาให้และกำชับกับพยาบาลข้างกายเขาแล้ว จงเกาอี้ก็หันกลับมาและพูดกับซูเถาว่า

“เถ้าแก่ สองสามวันก่อนที่คุณอยู่ที่ฉางจิง เราไม่ได้แจ้งให้คุณทราบว่าคุณย่าของเจิ้งซิงได้จากไปแล้ว”

ซูเถาตกตะลึง

คุณย่าของลูกศิษย์ผู้อาวุโสเหม่ย

ความทรงจำเพียงอย่างเดียวของซูเถาที่มีต่อหญิงชราคนนี้คือตอนที่เธอมาถึงเถาหยางครั้งแรก ร่างกายของหญิงชราอ่อนแอมาก เธอบังคับให้เจิ้งซิงคารวะผู้อาวุโสเหม่ยเป็นอาจารย์ และให้หลานชายของเธอสาบานว่าเขาจะต้องตั้งใจเรียนอย่างหนัก

จงเกาอี้ส่ายหัวเดินออกจากวอร์ด แล้วพูดว่า

“อาการป่วยของเธอยืดเยื้อมากว่าครึ่งปี ไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ หลายครั้งแล้วที่เธอแอบหยุดยาและไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระให้กับหลานชาย สุดท้ายเธอก็จากหลานชายไปจริง ๆ แต่เด็กคนนี้เข้มแข็งและไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ไม่ทำให้การเรียนและงานล่าช้า ผู้อาวุโสเหม่ยมีคนที่จะรับช่วงต่อจากเขาแล้วจริง ๆ”

ซูเถาถามว่าเผาแล้วเหรอ?

“อืม เธอจากไปอย่างสงบและไม่มีอะไรติดค้าง”

“ขอบคุณนะคะ” ซูเถาพยักหน้า

เธอรู้ว่าจงเกาอี้กำลังพยายามปลอบโยนตนเอง การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การจากไปอย่างหมดห่วงก็ถือว่าเป็นพรจากสวรรค์

เมื่อมองดูท้องฟ้าสีคราม จู่ ๆ เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

ตอนนี้ย่างเข้าสู่เดือนสิบเอ็ดแล้ว แผนการสรรหาผู้มีความสามารถพิเศษของเถาหยางได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ขั้นตอนแรกคือการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยาง และกลุ่มกองพลอิสระ

และเธอจะนำปืนพลังงานนิวเคลียสของเหล่าอวี๋ผอให้หัวหน้าหน่วยต่าง ๆ และส่วนที่เหลือเป็นรางวัลแก่นายทหารระดับสูง

ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นี้เปรียบเหมือนลูกระเบิดที่พัดถล่มฐานเหนือใต้ให้หัวโกร๋น

พวกเขาบ้าไปหรือเปล่า? ปืนพลังงานนิวเคลียสกลายเป็นผักเป็นปลาตั้งแต่เมื่อไร ที่สามารถแจกจ่ายให้ผู้คนได้คนละกระบอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานโส่วอัน ซึ่งแต่เดิมเป็นแหล่งผลิตอาวุธ เป็นสิ่งที่สร้างความมั่งคั่งให้กับพวกเขา แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

แต่ที่บอกเลยว่าช็อกที่สุดก็ต้องเป็นตั่งเหวยหราน เขาชี้ไปที่ผู้บังคับกองพันและเสนาธิการที่อยู่ข้างหน้า มือข้างนั้นสั่นระริกอย่างห้ามไม่หยุด

“พวกนายรู้เรื่องนี้กันนานแล้วใช่ไหม?”

ตอนนั้นพวกเขาเหล่านี้เลยปฏิเสธปืนพลังงานนิวเคลียสที่เขาหยิบยื่นให้! หมายความว่ายังไง? ซูเถามีปืนพลังงานนิวเคลียสจำนวนมากที่ซ่อนไว้และไม่ได้นำมาใช้เหรอ ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ว่าเธอมีปืนพลังงานนิวเคลียสอยู่ข้างกาย เขาคงจะไม่ไปฝึกฝนอย่างหนักหน่วงแบบนั้น

ด้วยปืนพลังงานนิวเคลียสในมือ ตราบใดที่ซอมบี้กลายพันธุ์ไม่รวมตัวกันเพื่อโจมตี การจัดการกับซอมบี้ตัวอื่น ๆ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา

เขาเพิ่งค้นพบเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าหากกลับไปที่ฉางจิงก็จะไม่สามารถนั่งในตำแหน่งเดิมได้อีกต่อไป เขาทำได้แค่ไปนำทัพที่แนวหน้า และเขาก็รู้แล้วว่าเถาหยางไม่ได้พึ่งพาฉางจิง แต่ว่าเถาหยางมีความแข็งแกร่งเช่นกัน ศักยภาพไม่มีที่สิ้นสุด การอยู่ในเถาหยางนั้นดีกว่าการกลับไปที่ฉางจิงหมื่นเท่า!

กลับไปฉางจิงเขาก็ไม่มีอนาคต ในเถาหยางก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้!

เขาเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?

ทุกคนก้มหน้างุดมองปลายเท้าของตัวเอง ไม่มีใครแม้แต่จะกล้าปริปากตอบคำถามเขา

ตั่งเหวานหรานโกรธมาก โกรธยิ่งกว่าตอนที่ซูเถาใส่ร้ายเขา เขาอดไม่ได้ที่จะรีบตรงไปที่ห้องทำงานของซูเถา แต่เมื่อไปถึงประตูร่างกายก็แข็งทื่อ ได้แต่ยืนโง่งมตรงนั้น

เขาจะทำอะไรกับซูเถาได้บ้าง?

คนที่ร้องจะกลับไปที่ฉางจิงก็คือเขา และเขาเป็นคนที่ดูถูกเถาหยางเอง

เขาต้องทำหน้าแบบไหน ต้องถามซูเถาว่ายังไงที่ปิดบังบางอย่างจากเขา?

ตั่งเหวยหรานยิ้มเจื่อนจากนั้นก็หันหลังกลับไป

เลือกเดินไปทางไหนก็ผิด

ซูเถาไม่รู้เรื่องนี้ เธอรู้ข่าวว่าตั่งเหวยหรานออกไปนำทัพที่ชายแดนในอีกสามวันต่อมา และกลุ่มกองพลอิสระเถาหยางก็ได้เริ่มชีวิตใหม่อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากขาดผู้นำทัพ ฉางจิงก็ไม่สามารถหาผู้ที่มีความสามารถมาดูแลได้สักระยะหนึ่ง ดังนั้นหนิงอวี้ซานจะเป็นหัวหน้ากองทหารคนใหม่ชั่วคราวขณะนี้

ส่วนกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยางดั้งเดิมที่มีสวีฉี เนี่ยซือป๋อ เมิ่งเสี่ยวป๋อ มี๋อู้ และคนอื่น ๆ ก็ถูกรวมเข้ากับกลุ่มกองพลอิสระเช่นกัน

เหล่าอวี๋ผอจะตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อดูการฝึกซ้อมตอนเช้าของหนุ่ม ๆ เสียงเฮฮาทำให้เธอมีพลังฮึกเหิม มีบางครั้งที่เธออยากที่จะผลักดันให้เสี่ยวอวี๋เข้าร่วมกองทัพ

“…ผมทำหน้าที่ติดตามพี่จวงหว่านดีกว่า” เสี่ยวอวี๋

เหล่าอวี๋ผอกำลังจะตำหนิหลานชาย แต่จู่ ๆ เสี่ยวอวี๋ก็เอ่ยออกมาเบา ๆ

“ย่า ใกล้ถึงวันเกิดเถ้าแก่ซูแล้ว พี่จวงหว่านวางแผนมาสักพักแล้ว เธอบอกว่าอยากจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ ย่าคิดว่าไงบ้าง?”

เหล่าอวี๋ผอเสียสมาธิทันที

ใช่ เราต้องจัดงานใหญ่ให้ซูเถา!

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พนักงานเถาหยางก็แอบเตรียมการเรื่องนี้อย่างลับ ๆ

ซูเถาก็เลยไม่เข้าใจว่าเธอได้คัดเลือกพนักงานดูแลเรื่องเสบียงมาเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมฟางจือถึงยังยุ่งมากอยู่ มันไม่ได้ผลเหรอ หรือเธอต้องไปกระตุ้นให้จวงหว่านทำงานอย่างหนักเพื่อคัดเลือกคนอีกครั้ง

จวงหว่านปวดร้าวหัวใจแต่ไม่สามารถเอ่ยไปได้

ท่ามกลางตารางงานที่ยุ่ง กำหนดคลอดของล่าเจียวก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาทุกที ท้องของมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนซูเถายังแอบกลัวว่าท้องของมันจะระเบิดออกมา

หากสัตวแพทย์ไม่ได้บอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ซูเถาคงจะเครียดตายก่อนที่มันจะคลอด

เวินม่านที่ได้ยินข่าวก็รีบเดินทางไปที่เถาหยางทันที เพื่อติดตามการคลอดของล่าเจียว และระหว่างการเดินทางเธอก็โทรคุยกับซูเถา

“ไม่กี่วันหลังจากงานเลี้ยงแต่งงานจบลง ฉันได้ยินมาว่าฉู่หมิงสูญเสียลูกไปแล้ว… แต่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ มันเป็นความผิดของตระกูลเซียวที่โดนซอมบี้กลายพันธุ์โจมตีทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”

“ทำไมไม่มีข่าวเลย” ซูเถาสำลัก

“ตระกูลเซียวถูกโจมตี เพราะซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้เป็นหนึ่งในคนรักของคุณชายใหญ่เซียว ทำให้สมาชิกตระกูลเซียวมากกว่า 60 คนเสียชีวิต เช่นเดียวกับคนในท้องถิ่นเกือบพันคนก็ไม่รอด” เวินม่านมุ่นคิ้วกล่าว