บทที่ 399 ตามหาอาจารย์ให้ซานเป่า

ถังหลี่และเว่ยฉิงเข้าไปในสนามที่จวน เห็นซานเป่าและท่านอู่โหวหันหลังให้กัน แก้มของซานเป่าพองออก ดวงตาของนางกลมโต ส่วนท่านอู่โหวก็เป่าเคราของตัวเองอย่างโมโหเช่นกัน ทั้งคู่ต่างโมโหกันไม่มีใครยอมลงให้กันก่อน ผู้เฒ่าอู่โหวแอบหันไปมองซานเป่าเมื่อเห็นศีรษะน้อยๆ ของซานเป่าขยับเขาก็รีบหันกลับอย่างรวดเร็ว

ซานเป่าเองก็หันไปมอง ดวงตาสีดำของนางกลอกไปมา นางแอบมองท่านปู่จากหางตาเช่นกัน ก่อนหน้านี้นางโมโหแต่ตอนนี้นางหายโมโหเขาแล้ว หากท่านปู่หันมามองนางก่อน นางจะให้อภัยเขา แต่ท่านปู่ไม่ยอมหันหน้ากลับมายิ่งทำให้แก้มของซานเป่าพองขึ้นอีกรอบ

ท่านปู่พูดจาใจร้ายกับนาง แล้วยังไม่ยอมง้อนางก่อนอีกด้วย!

ถังหลี่และเว่ยฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับท่าทีที่ดูน่าขันของทั้งสองคน

“ซานเป่า ท่านพ่อ” ถังหลี่เรียก

อู่โหวเยว่หันไปมองทั้งสองคน ใบหน้าของเขาอ่อนลง เขาเผลอหันไปสบกับดวงตาของซานเป่าโดยบังเอิญ เด็กหญิงหันหนีทันทีนายท่านอู่จึงจิ๊ปากเบาๆ

“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ถังหลี่ถามด้วยรอยยิ้ม ทั้งคนแก่และเด็กต่างไม่ยอมปริปาก

“ท่านพ่อ…ท่านเป็นผู้อาวุโส ท่านควรพูดก่อนนะเจ้าคะ” ถังหลี่กล่าว

จากนั้นอู่โหวเยว่จึงเริ่มอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นว่าซานเป่าชอบศิลปะการต่อสู้จึงจัดหาอาจารย์ให้กับนาง เขาต้องการอาจารย์ที่เก่งกาจให้หลานสาวตัวน้อย หลังจากที่หาตัวเป็นเวลานานในที่สุดเขาก็พบ ชายผู้นี้เป็นอาจารย์ของบุตรชายสหายเก่าเขาเอง เป็นคนที่มีฝีมือมาก อู่โหวเยว่ใช้เส้นสายความสัมพันธ์ติดต่อสหายเก่าหลายต่อหลายครั้งเพื่อที่จะเชื้อเชิญอาจารยผู้นี้มา แต่เขาสอนได้เพียงสองวันเท่านั้น เขาก็ถูกซานเป่าไล่ออก

“นางแอบเอาแมลงใส่เสื้ออาจารย์ทางด้านหลัง แล้วนางถูกอาจารย์จับได้!” อู่โหวเยว่เล่าให้ฟัง

ซานเป่ายังเด็ก ท่านอู่โหวเยว่ทนไม่ได้ที่จะตีสั่งสอนนาง จึงได้แต่ดุว่านางเท่านั้น คิดไม่ถึงว่านอกจากนางจะโกรธไม่ฟังเขาซ้ำยังสะบัดหน้าใส่เขาอีกด้วย

ท่านอู่โหวเยว่โกรธมาก อารมณ์เดือดพล่าน เขาจึงหันหลังให้นางเช่นกัน นั่นเป็นภาพที่ถังหลี่และเว่ยฉิงกลับมาเห็นเข้าพอดี

ถังหลี่ย่อตัวลงสบตากับบุตรสาว นางบีบแก้มอ้วนๆ ของซานเป่า

“ซานเป่าของแม่เป็นเด็กมีเหตุผล หนูจะไม่เอาแมลงใส่เสื้อของคนอื่นอย่างไม่มีสาเหตุแน่นอน ซานเป่าบอกแม่ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” เสียงของถังหลี่อ่อนโยนมาก

ซานเป่ากะพริบดวงตาสีเข้มของนาง กางแขนออก กอดมารดาเอาไว้ เด็กหญิงฝังหน้าไปที่คอของถังหลี่ถูไปมา

ท่านแม่ใจดี ท่านเดาได้ว่าซานเป่ากำลังคิดอะไรไม่เหมือนท่านปู่ ท่านปู่ตัวเหม็น!

“ท่านแม่ เขาไม่ใช่อาจารย์ข้า” ซานเป่าพูดเสียงอู้อี้

“ได้ๆ เจ้ายังไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเขา ยังไม่นับว่าเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน” ถังหลี่พูด “บอกแม่มาเถอะ ทำไมเจ้าถึงไม่ชอบเขา?”

ซานเป่าอู้อี้พูด นางไม่ชอบวิธีที่เขาพูด

ทำไมเด็กผู้หญิงจะฝึกศิลปะการต่อสู้ไม่ได้?

นางไม่เพียงแค่จะฝึกศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่นางอยากจะเป็นถึงปรมาจารย์ด้วย!

ท่านแม่ของนางไม่เคยห้ามหากนางต้องการฝึกวรยุทธ์ นางเพียงแต่พูดเตือนให้ซานเป่าระวังตัว อย่าได้เป็นอันตรายก็พอ แล้วทำไมคนผู้นั้นถึงได้มาตำหนินาง

ซานเป่าเสียใจมาก นางจึงโยนแมลงใส่เสื้อของเขา

ถังหลี่จึงได้เข้าใจ คนผู้นี้คิดว่าซานเป่าเป็นเด็กผู้หญิงไม่ควรฝึกศิลปะการต่อสู้

นั่นเป็นความคิดที่ล้าสมัยมาก

ใครว่าผู้หญิงจะด้อยกว่าผู้ชายกัน ในภายหน้าซานเป่าของนางจะเป็นถึงแม่ทัพหญิง เป็นวีรสตรีที่เก่งกาจกว่าผู้ชายหลายคน!

“ทำไมซานเป่าจะฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ล่ะ? ดูแขนดูขาที่แข็งแรงของเจ้าสิ เจ้าจะเป็นปรมาจารย์ที่เก่งในภายหน้าอย่างแน่นอน” ถังหลี่พูดชมบุตรสาว

ซานเป่ามีความสุขมากเมื่อได้รับคำชมจากมารดา นางพยักหน้าทันที

“ใช่!”

“ซานเป่า..” ผู้เฒ่าอู่เดินไปหาซานเป่า

“ปู่ขอโทษนะ”

อู่โหวเยว่ได้ยินคำพูดของซานเป่า เขาไม่คิดเลยว่าอาจารย์ที่มีฝีมือขนาดนั้นจะแต่นิสัยแย่ พูดจาไม่ดีกับหลานสาวเขา ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้ดูผิดหวังเมื่อเจอซานเป่า ถึงเอ่ยถามเขาว่า เหตุใดจึงไม่บอกว่านางเป็นเด็กผู้หญิง ราวกับว่าถ้าเขารู้เขาจะไม่มาสอนให้ แต่เป็นเพราะเขาสัญญากับท่านอู่โหวเยว่ไว้แล้วเขาจึงจำต้องสอนนาง

เขากล้าบอกว่าหลานสาวของเขาซนและไม่เคารพอาจารย์ได้อย่างไร แถมยังสะบัดแขนเสื้อจากไปอย่างโมโห

ท่านอู่โหวเยว่ไม่รู้ว่ามีเบื้องหลังซ่อนอยู่จึงคิดว่าซานเป่าซุกซนจนถึงกลับโกรธนาง …เรื่องนี้เขาผิดเอง

“ปู่ไม่ได้ถามเหตุผลของเจ้า จึงดุเจ้าไปแบบนั้น ปู่ขอโทษนะซานเป่า”

อู่โหวเยว่ขอโทษอย่างจริงจัง ซานเป่ายื่นมือไปคว้าเสื้อของท่านปู่เอาไว้และพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา

“ท่านปู่ ซานเป่าก็ผิดที่โกรธท่านปู่เช่นกัน” ทั้งสองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม อู่โหวเยว่ลูบหัวซานเป่า

“ข้าอยากกินขนมหรูอี้กับขนมเหมยกุ้ย..” เด็กหญิงนับนิ้วร่ายรายการขนมห้าหกอย่างออกมาในคราวเดียว

“เจ้ากินขนมหวานมากไม่ได้ฟันจะผุ” ถังหลี่พูดขัดบุตรสาว

ซานเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟังละนับนิ้วของนางอีกครั้งหลังจากที่คิดเป็นเวลานาน

“งั้นขนมเหมยกุ้ย!”

ผู้เฒ่าอู่โหวจึงออกไปซื้อขนมกับซานเป่าอย่างมีความสุข ถังหลี่และเว่ยฉิงมองพวกเขาหายออกไปจากประตู จากนั้นจึงได้หันมายิ้มให้กัน

“ตอนที่พวกเราพบกันครั้งแรกซานเป่าอายุยังไม่ถึงสามขวบเลย สูงแค่เหนือเข่าข้าเอง ตอนนี้นางอายุแปดขวบสูงเท่าเอวข้าแล้ว” ถังหลี่อดพูดขึ้นมาไม่ได้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เกือบหกปีแล้วที่นางมายังโลกแห่งนี้

“ใช่หกปีแล้ว” เว่ยฉิงถอนหายใจ

หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลาหกปีที่ผ่านมา เวลาที่เขาได้ใช้กับภรรยาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฮูหยินของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย หกปีที่แล้วนางยังเป็นเด็กสาวมีใบหน้าอ่อนเยาว์ เว่ยฉิงคิดว่านางน่ารักมาก ตอนนี้ถังหลี่โตขึ้นแต่บางครั้งนางก็ยังทำตัวเหมือนเด็กสาวๆอยู่

เขามองไปภรรยารู้สึกคันยุบยิบขึ้นมาในหัวใจ พอหันซ้ายแลขวาไม่เห็นใคร เขาจึงแอบจูบนาง หญิงสาวหน้าแดง

“ไม่มีใครเห็น” เว่ยฉิงกระซิบ

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ ถังหลี่จึงเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ริมฝีปากของเขา

เผอิญมีบ่าวรับใช้เดินผ่านมาอย่างกระทันหัน พวกเขาหน้าแดงพากันจับมือเดินเข้าเรือน

บ่าวรับใช้เห็นดังนั้นก็อดถอนหายใจไม่ได้เมื่อคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายน้อยและฮูหยินช่างดีเหลือเกิน

“ข้าจะหาอาจารย์ให้ซานเป่าดีหรือไม่?” เว่ยฉิงพูด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่สอนบุตรสาวได้ดีที่สุดก็ตามแต่เขาก็ยุ่งเกินกว่าจะสอนนาง

“คืนนี้ข้าจะคุยกับลูกว่าต้องการอาจารย์แบบไหน”

ซานเป่าอายุแปดขวบแล้ว นางมีความคิดเป็นของตัวเอง ต้องเคารพความคิดของนาง มิฉะนั้นเจ้าตัวน้อยจะต่อต้าน เว่ยฉิงพยักหน้ารับ

ในตอนเย็นถังหลี่เรียกซานเป่าเข้าไปในห้อง เว่ยฉิงมองอย่างใจจดใจจ่อแต่ถังหลี่ก็โบกมือให้เขา คืนนี้นางจะนอนกับซานเป่า