ตอนที่ 399 เมื่อไหร่นักเขียนเนื้อเพลงจะมีหน้ามีตากับเขาบ้าง
เรียกเจียงขุยว่านักร้องตัวเล็กๆ อันที่จริงก็มากไปหน่อย
ต่อให้ในตอนนี้ยังไม่ใช่นักร้องแถวหน้า แต่เจียงขุยก็นับว่ากำลังจะได้เป็นนักร้องแถวหน้าที่ขอเพียงบริษัทแค่ผลักดันเบาๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จ สถานะในวงการดนตรีนับว่าสูงมากแล้ว
ถ้าหากทุกคนไม่เข้าใจ ก็สามารถใช้เฉินจื้ออวี่มาเป็นการอ้างอิงได้
เจียงขุยในตอนนี้ มีฝีมือระดับสี่ในห้าของเฉินจื้ออวี่ก่อนจะเป็นลูกคนรองตลอดกาลแล้ว
ชื่อเสียงก็มี
ความสามารถก็มีเช่นกัน
แต่ในแง่หนึ่ง ที่ทุกคนบอกว่าเจียงขุยเป็นนักร้องตัวเล็กๆ นั้นไม่มีอะไรผิด
เนื่องจากในตอนนี้การอ้างอิงของเจียงขุยไม่ใช่เฉินจื้ออวี่ แต่เป็นเหล่าราชาราชินีเพลงซึ่งมีเฟ่ยหยางเป็นตัวแทน!
เซี่ยนอวี๋และพ่อเพลงมีคุณสมบัติเทียบชั้นกันได้ มหาสงครามเทพเซียนในปีที่แล้วเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด
แต่เจียงขุยล่ะ?
เธอจะไปเทียบกับราชาราชินีเพลงได้อย่างไร?
เพราะฉะนั้นเมื่อผู้คนในวงการเห็นโพสต์ทางการของสตาร์ไลท์ ต่างก็รู้สึกตกตะลึงจนแว่นตาแทบหลุดลงมาจากดั้ง
ต้องมีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน
มหาสงครามเทพเซียนเชียวนะ ทำไมถึงส่งเจียงขุยไป
ภายใต้สถานการณ์ที่ราชาราชินีเพลงเบียดเสียดกัน นักร้องตัวกระจิริดอย่างเจียงขุยจะสู้ใครได้
ไม่ทันไร ในวงการก็ถกเถียงกันอย่างเซ็งแซ่
“เจียงขุยอะไรฟระเนี่ย บริษัทระดับท็อปแบบนี้ไม่มีราชาราชินีเพลงให้เลือกสักคนเลยเหรอ”
“เจียงขุยนี่ใคร เบื้องหลังต้องไม่ธรรมดา”
“สตาร์ไลท์มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า”
“เซี่ยนอวี๋ถ้าคุณถูกสตาร์ไลท์ข่มขู่ ให้กะพริบตาขอความช่วยเหลือ”
“ไม่ต้องเดา สตาร์ไลท์ไม่มีทางกล้าบังคับเซี่ยนอวี๋หรอก นอกซะจากว่าสมองของพวกเขาเหลวเป็นน้ำจนคิดวิเคราะห์แยกแยะไม่ได้น่ะ ด้วยสถานะของเซี่ยนอวี๋ เขาสามารถเลือกราชาราชินีเพลงในสตาร์ไลท์เองได้ด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นบริษัทดนตรีนอกเหนือจากสตาร์ไลท์ ก็ยังมีราชาราชินีเพลงอีกหลายคนที่ยินดีเป็นตัวเลือกของเซี่ยนอวี๋ ความเป็นไปได้เดียวที่เลือกเจียงขุยก็เพราะเซี่ยนอวี๋เองอยากเล่นแบบนี้!”
“เขาบ้าไปแล้ว?”
“ถึงกับจัดให้เจียงขุยเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียน ไม่สมเหตุสมผลพอๆ กับการส่งซุนเย่าหั่วเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียน ถึงฉันจะยอมรับว่าความสามารถด้านการร้องของเจียงขุยดีมากก็เถอะ”
“พวกขาใหญ่ในมหาสงครามเทพเซียนคงอึ้งเลยล่ะมั้ง”
“…”
คำพูดไม่น่าฟังแต่กลับมีเหตุผล
นอกเสียจากว่าผู้บริหารระดับสูงของสตาร์ไลท์สมองพัง ไม่มีใครบังคับให้เซี่ยนอวี๋ทำอะไรหรอก
ถ้าพวกเขากล้าทำเช่นนั้น ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง คงมีบุคลากรระดับผู้จัดการหรือไม่ก็ประธานกรรมการของบริษัทดนตรีแห่งอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนแห่กันมาเชิญเซี่ยนอวี๋ไปยังบริษัทของตน!
ให้เกียรติได้มากเท่าไหร่ก็ต้องให้เกียรติมากเท่านั้น
ในจุดนี้ไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นต้องเป็นเซี่ยนอวี๋ที่เล่นแบบนี้เองแน่ๆ
สตาร์ไลท์กลายเป็นผู้เคราะห์ร้าย
และเป็นเพราะพวกเขาไม่กล้าชี้นิ้วสั่งเซี่ยนอวี๋ ทำให้นักร้องซึ่งมาผิดที่ผิดเวลาอย่างเจียงขุยไปปรากฏอยู่ในมหาสงครามเทพเซียน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีบริษัทไหนจัดไลน์อัปที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนี้หรอก
และยามที่ทางการของสตาร์ไลท์เผยแพร่ข่าวนี้ออกไป ชาวเน็ตก็มีการถกเถียงเช่นกัน
‘เซี่ยนอวี๋ทำแบบนี้หมายความว่าไง’
‘มหาสงครามเทพเซียนทั้งที แต่ไม่ร่วมงานกับราชาราชินีเพลงเนี่ยนะ?’
‘ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้แหละ ว่าทำไมคนในวงการถึงบอกว่าเซี่ยนอวี๋ชอบปั้นศิลปินหน้าใหม่ แม้แต่มหาสงครามเทพยังใช้ปั้นศิลปินหน้าใหม่ได้!’
‘ทำขนาดนี้เพื่อปั้นเด็กใหม่’
‘เป็นไปได้ไหมว่าเซี่ยนอวี๋กำลังหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองอยู่ จัดสรรให้เจียงขุยเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียน ถ้าชนะก็เป็นการแสดงฝีมือของเซี่ยนอวี๋ ถ้าแพ้ก็โยนความรับผิดชอบให้เจียงขุย เหตุผลก็คือเขาไม่ได้ร่วมงานกับราชาราชินีเพลง จึงเสียเปรียบเป็นธรรมดา’
มีคนคาดเดาไปในทางลบ
ในความเป็นจริง ตั้งแต่ที่สตาร์ไลท์ประกาศว่าในเดือนธันวาคมเจียงขุยและเซี่ยนอวี๋จะร่วมงานกัน การคาดเดาในแง่ลบทำนองนี้ก็ปรากฏขึ้นทันที
ทว่าการคาดเดาเช่นนี้ถูกลิขิตมาให้ไม่ได้มีตลาดมากนัก
มีคนโต้กลับทันที
‘ถึงเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูที่เจ้าแก่เซี่ยนอวี๋ผลิตจะทำให้คนทั้งรักทั้งเกลียด แต่ในมหาสงครามเทพเซียนไม่จำเป็นต้องได้แชมป์สักหน่อยนี่ พ่อเพลงยังไม่ต้องแบกรับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น นับประสาอะไรกับเซี่ยนอวี๋’
‘เซี่ยนอวี๋ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นหรอก’
‘ทำไมคุณไม่คิดบ้างล่ะว่าครั้งนี้ที่เซี่ยนอวี๋ทำก็เพราะความมั่นใจล้วนๆ เพราะเขามั่นใจในเพลงของตัวเอง ถึงได้คิดว่าต่อให้ไม่ร่วมงานกับราชาราชินีเพลง ก็ยังจะทำผลงานได้ดี’
‘แต่นี่เป็นมหาสงครามเทพเซียนเชียวนะ’
‘มหาสงครามเทพเซียนแล้วยังไง เซี่ยนอวี๋เคยเป็นแชมป์มาแล้ว แถมปีที่แล้วก็เป็นแชมป์อย่างไรข้อกังขา ปีนี้ถ้าเขาจะเพิ่มระดับความยากให้ตัวเองอีกก็เข้าใจได้นะ’
‘…’
การปรากฏตัวของเจียงชุยช่างพิลึกพิลั่น
ไม่ทันไรก็เกิดการตีความสารพัดรูปแบบ
และข้อเท็จจริงก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่บุคลากรในวงการจินตนาการไว้ บรรดาขาใหญ่ซึ่งเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคมเป็นต้องขยี้ตาเมื่อเห็นข่าวนี้
ฮะ?
ตามหลักแล้ว ขาใหญ่ที่เข้าร่วมสังเวียนเดือนธันวาคมล้วนเป็นเทพสงครามผู้เจนสนามรบ มีประสบการณ์โชกโชนมากกว่าคนทั่วไป ฝ่าลมฝนของฤดูกาลการแข่งขันมานานหลายปี มีสังเวียนรูปแบบใดบ้างที่พวกเขาไม่เคยเผชิญ
ทว่าสังเวียนเบื้องหน้านี้ พวกเขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
ความรู้สึกนี้เหมือนกับว่า ทุกคนกำลังถูมือรอกินซุปหัวปลาแสนโอชะ ปรากฏว่าครัวหลังร้านกลับนำลูกปลาตัวเล็กมาเสิร์ฟให้แทน
ไหนบอกว่าเป็นซุปหัวปลาไม่ใช่หรือ?
นี่มันปลาตัวจิ๋วเดียว แม้แต่แมวยังไม่แตะเลย
เราไม่ต้องการแม้แต่จะสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น เราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความจืดชืดแล้ว!
อึก!
บริษัทเซวี่ยนล่านเอนเตอร์เทนเมนต์
เฟ่ยหยางเห็นโพสต์ทางการของสตาร์ไลท์บนปู้ลั่วแล้ว เดิมทีเขาเกือบทุบโต๊ะแล้ว แต่ปรากฏว่าท้ายที่สุดก็หันขวับกลับมา ทุบลงบนเก้าอี้หนังเนื้อนุ่มแทน
“เซี่ยนอวี๋ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง!”
แม้ว่าเสียงของฟองน้ำจะเบาและฟังดูเกรี้ยวกราดน้อยว่าเสียงทุบโต๊ะ ทว่าความเดือดดาลของเฟ่ยหยางก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน “ดูถูกฉันหรือไง ถึงขนาดเรียกเจียงขุยมาลงสนาม?”
“ไม่มีใครเดาใจของนักประพันธ์เพลงพวกนี้ได้”
วันนี้หนีหงอู่แห่งเซวี่ยนล่านเอนเตอร์เทนเมนต์กล่าวเสียงเรียบ
สายตาของเธอเหลือบมองอิ่นตง ราวกับกำลังเล่นมุกแฝงความนัย
หนีหงอู่นับว่าเป็นนักเขียนเนื้อเพลงระดับสุดยอดในวงการ ทว่าการร่วมงานกับอิ่นตงในครั้งนี้กลับไม่ราบรื่นนัก ตนเขียนเนื้อเพลงออกมาตั้งเยอะแยะ แต่อิ่นตงกลับไม่พอใจ อดตาหลับขับตานอนแก้แล้วแก้อีก พานให้ผมเธอร่วงจนตีนผมถอยร่นลงไปเรื่อยๆ
ที่นับว่าเป็นการแสดงความไม่พอใจแล้ว
พ่อเพลงยิ่งใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว
ฉันก็เป็นพ่อเนื้อเพลงได้โว้ย!
เมื่อไหร่นักเขียนเนื้อเพลงจะมีหน้ามีตากับเขาบ้างนะ!
พ่อเพลงพวกนี้จะได้มาขอร้องให้ฉันลงมือเขียนเนื้อเพลงบ้าง!
อิ่นตงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ประหนึ่งฟังความขุ่นเคืองในคำพูดของหนีหงอู่ไม่ออก
“คุณสนใจเซี่ยนอวี๋มากเกินไปแล้ว แน่นอนว่าผมอยากเอาชนะเซี่ยนอวี๋ แต่แทนที่จะบอกว่าเป้าหมายสูงสุดของผมคือเซี่ยนอวี๋ ไม่สู้บอกว่าเป้าหมายสูงสุดของผมคือแชมป์เดือนธันวาคมจะดีกว่า”
เฟ่ยหยางชะงักไป ก่อนจะผงกศีรษะอย่างไว
“ไม่ว่าเซี่ยนอวี๋จะคิดยังไง ขอแค่ผมคว้าแชมป์เดือนธันวาได้ก็พอแล้ว เซี่ยนอวี๋จะต้องชดใช้กับความประมาทและเย่อหยิ่งของเขาเอง!”
“อืม”
อิ่นตงยังคงสีหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นที่ผ่านมา
หนีหงอู่ซึ่งอยู่ด้านข้างยักไหล่ “ประพันธ์เพลงกับขับร้องเป็นเรื่องของพวกคุณ นี่เป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจไม่ได้ เรื่องเดียวที่ฉันรับรองกับพวกคุณทั้งสองคนได้ก็คือ เนื้อเพลงที่ฉันเขียนจะไม่เป็นตัวถ่วงพวกคุณอย่างแน่นอน นี่จะเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในมหาสงครามเทพเซียนเดือนธันวานี้!”
“เนื้อเพลงที่อาจารย์หนีหงอู่เขียน ผมเชื่อมั่นอยู่แล้ว”
เฟ่ยหยางคลี่ยิ้ม “และแน่นอนว่าผมก็เชื่อมั่นในเพลงของอาจารย์อิ่นตงกับการร้องของผมมากเช่นเดียวกัน”
ฉากทัศน์ในใจของเฟ่ยหยางถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
ตนยังคงคว้าอันดับหนึ่ง แต่เซี่ยนอวี๋อาจเอื้อมไม่ถึงอันดับสองเสียแล้ว
นั่นทำให้เฟ่ยหยางรู้สึกเสียดายเหลือเกิน
เขารู้สึกเปล่าเปลี่ยวด้วยซ้ำไป
กำปั้นซึ่งอุตส่าห์รวบรวมพลังมาเกือบหนึ่งปี ท้ายที่สุดแล้วกลับต้องไปต่อยลงบนสำลี แน่นอนว่าเฟ่ยหยางทั้งเปล่าเปลี่ยวและเสียดาย อันที่จริงบรรดาขาใหญ่ทั้งหลายที่ลงสนามในเดือนธันวาคมล้วนแต่รู้สึกเหมือนกัน
ชนะโดยที่แทบไม่ต้องต่อสู้เลยด้วยซ้ำ!
……………………………………………………………