ซูสือจิ่นไม่เคยเห็นหยานชิงเจ๋อที่เป็นแบบนี้มาก่อน
เธอยื่นมือออกไป หยิกแก้มหยานชิงเจ๋อ และดึงผมของเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นท่าทางที่ยอมให้เธอกระทำ เธอทนไม่ได้อีกแล้ว!
“โทรศัพท์ล่ะ?” ซูสือจิ่นถาม
หยานชิงเจ๋อยื่นให้: “เสี่ยวจิ่น จะโทรหาใคร?” เขาโอบแขนของเธอ ดวงตาของเขาจ้องไปที่หน้าจอ
ซูสือจิ่นโทรหาฟู่สีเกอ
ในขณะนี้ ฟู่สีเกอพาเฉียวโยวโยวมาตรวจครรภ์ เนื่องจากห้องตรวจผู้ชายไม่สามารถเข้าได้ เขาจึงนั่งรอเฉียวโยวโยวข้างนอก
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์จากซูสือจิ่น เขาจึงเลื่อนรับสาย: “ซู่สือจิ่น?”
“พี่สีเย็นเน่า พี่พาพี่ชิงเจ๋อเสียคน!” ซูสือจิ่นพูดด้วยเสียงสูง: “มันเป็นความผิดของพี่ เมื่อก่อนเขาเป็นคนดี ตั้งแต่รู้จักพี่ตอนนี้กลายเป็นคนเลวไปแล้ว!”
“ซู่สือจิ่น พี่เปล่าซะหน่อย! เลวตรงไหน? อย่ากล่าวหาพี่แบบนี้สิ…” ฟู่สีเกอพูดด้วยเสียงต่ำเพราะเขาอยู่ในที่สาธารณะ
เนื่องจากเสียงของซูสือจิ่นนั้นดังมาก แต่รอบข้างฟู่สีเกอนั้นเงียบสงบ ทุกคนรอบตัวเขาได้ยินว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งโทรหาเขา และเขาเหมือนกำลังปลอบผู้หญิงคนนั้น!
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนเริ่มมีความคิดที่แตกต่างกัน
ภรรยาตรวจครรภ์อยู่ข้างใน แต่เขากลับยังไม่จัดการกับคนรักหรือเมียน้อย แถมยังโทรมาทะเลาะอีก!
“บัดซบ ผู้ชายเลว!” ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่กำลังรอคิวตรงนั้น โพล่งออกมา
คนอื่นในระแวกนั้น ถือโทรศัพท์และคุยกับเพื่อนในวีแชท: “เมื่อกี้กำลังรอคิวตรวจครรภ์ เจอผู้ชายคนหนึ่งหล่อมาก ตอนแรกฉันยังแอบมองเขาตลอด แต่ปรากฏว่า ภรรยาตรวจครรภ์อยู่ข้างใน เขากลับปลอบเมียน้อยอยู่ข้างนอก แย่มาก!”
ทางโทรศัพท์ ซูสือจิ่นกำลังจะคิดบัญชีกับฟู่สีเกอ เธอรู้สึกว่ามีมือมาวางที่หน้าอกของเธอ และใบหูส่วนล่างของเธอถูกล้อมด้วยริมฝีปากอ่อนนุ่มของหยานชิงเจ๋อ เธอตัวแข็งและเกือบจะกรีดร้อง!
หยานชิงเจ๋อใช้จังหวะนี้รีบพูดกับฟู่สีเกอว่า: “สีเกอ วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ว่างไหม ฉันกับเสี่ยวจิ่นจะชวนทุกคนมารวมตัว!”
ฟู่สีเกอหัวเราะ: “โอเค ไปที่ไหน?”
“Royal Empier 4โมงเย็น โอเคไหม?” หยานชิงเจ๋อกล่าวขณะยั่วโมโหซูสือจิ่น
“โอเค แล้วเจอกัน!” ฟู่สีเกอวางสายอย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาวางโทรศัพท์ เขาก็รู้สึกผิดปกติกับบรรยากาศโดยรอบ
ในตอนแรก ฟู่สีเกอรู้ว่าผู้หญิงรอบตัวเขากำลังแอบมองเขาด้วยความชื่นชอบ แต่ในเวลานี้ สายตาที่คนมองราวกับมองศัตรู!
เขาแค่รับโทรศัพท์เฉยๆ มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
ฟู่สีเกอมองดูตัวเอง ไม่พบสิ่งผิดปกติกับเขา ขณะที่สงสัย เฉียวโยวโยวก็ออกมาจากห้องตรวจ
เขารีบเดินไปจับเอวเธอ:“เจ้าโง่โยว หมอบอกอะไรหรือเปล่า?”
เฉียวโยวโยวเงยหน้าขึ้นมองฟู่สีเกอ และพูดด้วยความดีใจ: “หมอบอกว่าเด็กทั้งสองมีพัฒนาการที่ดี ให้ฉันดูแลตัวเองและพักผ่อนให้เพียงพอ”
“ดีมาก!” ฟู่สีเกอดีใจ ก้มศีรษะลง และจูบหน้าผากเฉียวโยวโยว
ทันใดนั้น ผู้หญิงที่อยู่รอบๆก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป! ผู้ชายเลว แสดงละครเก่ง! ทำไมถึงไม่มีใครมาเปิดเผยธาตุแท้ของเขา?!
“งั้นเราไปกันเถอะ!” เฉียวโยวโยวกำลังจะหยิบกระเป๋า ฟู่สีเกอก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาก่อน: “ใครจะกล้าให้คุณภรรยาถือกระเป๋าเองล่ะ?”
เฉียวโยวโยวยิ้ม: “ดีมาก เดี๋ยวกลับบ้านจะจุ้บเป็นรางวัล!”
ฟู่สีเกอหรี่ตาและพูดว่า:”ผมไม่อยากได้แค่จุ้บ ผมต้องการบริการที่ครบครัน!”
“ได้คืบจะเอาศอก!” เฉียวโยวโยวกลอกตาให้เขา ฟู่สีเกอพยุงเธอออกไปข้างนอก แต่พบว่าสายตาของคนรอบข้างมีความผิดปกติ
“สีเย็น ดูสิ ทำไมคนรอบข้างถึงมองมาที่เรา?” เฉียวโยวโยวกล่าว
“อาจจะเพราะพวกเขารู้สึกว่าสามีของคุณหล่อ รู้สึกตื้นตันในใจ!” ฟู่สีเกอขี้โม้
“ใครบอก? มีแต่ผู้หญิงที่มอง แถมสายตาอย่างกับมองศัตรู!” เฉียวโยวโยวกลอกตา: “ไม่สิ พวกเธอมองคุณ ไม่ได้มองฉัน!”
ฟู่สีเกอยกคิ้ว: “พวกเธออาจจะโกรธ เพราะสามีของพวกเธอหล่อสู้ผมไม่ได้!”
ขณะที่พูด ก็พยุงเฉียวโยวโยวออกไปอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ มีคนเดินมาข้างหลังพวกเขา
เป็นสองแม่ลูก ผู้หญิงอุ้มท้อง ส่วนแม่ถือเอกสาร ทั้งสองเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นฟู่สีเกอ พวกเธอก็มองเขาอย่างดุเดือด
ฟู่สีเกอตระหนักว่าเขาดูเหมือนจะทำให้ผู้หญิงทุกคนในแผนกสูติกรรมขุ่นเคือง
ในขณะที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ก็ได้ยินแม่คนนั้นพูดกับลูกสาว และสายตาจ้องไปที่ฟู่สีเกอ: “เป็นเพราะมีพวกขยะแขยงแบบนี้ สังคมถึงแย่ขนาดนี้! เหมือนสามีของลูกเลย! หล่อแล้วมีประโยชน์อะไร ของสาธารณประโยชน์!”
เมื่อฟู่สีเกอเห็นทั้งสองวิพากษ์วิจารณ์อย่างเห็นได้ชัด เขาก็สงบลง: “ในที่สาธารณะ โปรดระมัดระวังคำพูดด้วย!”
เมื่อผู้หญิงเห็นเขาพูด ผู้หญิงคนนั้นก็ระบายความคับข้องใจของลูกสาวที่ถูกผู้ชายหลอกใส่ฟู่สีเกอ ด่าอย่างดุเดือด: “ผู้ชายเลวๆอย่างพวกนาย ไม่รู้จักพอ! สวะ! ”
ในเวลานี้ ฟู่สีเกอไม่ได้พูด เฉียวโยวโยวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย: “คุณกำลังด่าใครเหรอคะ? สามีของฉันเป็นคนเลวหรือไม่เลว มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินของพวกคุณ!”
เมื่อเห็นว่าเฉียวโยวโยวมากล่าวหาเธอ หญิงสาวโมโหขึ้นทันที: “พวกเรากำลังช่วยคุณมันผิดเหรอ? ไม่น่าแปลกใจ! คนแบบคุณ สมควรที่จะถูกหลอก!”
ฟู่สีเกอต้องการจะพูด เฉียวโยวโยวหยุดเขาไว้และพูดด้วยพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง: “ทำไม ก็ฉันชอบ แล้วคุณจะทำไม! ต่อให้เขาจะเลว ฉันก็เชื่อเขา เชิญคุณอิจฉาและเกลียดชังเขาตามสบายเลย!”
ขณะที่เธอพูด เธอเกี่ยวคอของฟู่สีเกอ จากนั้นเอนตัวไปจูบฟู่สีเกอ!
หลังการจูบเสร็จ เฉียวโยวโยวพูดอย่างมีชัยว่า: “ไม่มีปัญญาหาสามีหล่อ ก็อย่ามาเบียดเบียนแถวนี้ คนของฉัน ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่งสอน!”
แม่ลูกได้ยินคำพูดของเฉียวโยวโยวแล้วถึงกับพูดไม่ออก ลิฟต์มาถึงชั้น1พอดี ผู้หญิงคนนั้นกระทืบเท้าแล้วพูดอย่างโกรธเคือง ‘งั้นคุณก็สมควรแล้วล่ะ’ แล้วก้าวออกไปข้างนอก
เมื่อเห็นสิ่งนี้เฉียวโยวโยวรู้สึกขำ
ด้านข้าง ฟู่สีเกอคิดว่ามันตลก แต่มันอบอุ่น เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่ได้รับการปกป้องจากภรรยาที่กำลังตั้งท้อง อย่างไรก็ตาม รสชาติแบบนี้ช่างอุ่นใจจริงๆ!
“ภรรยาคนเก่ง ดูเหมือนว่าคืนนี้สามีจะต้องให้บริการอย่างดีแล้ว!” ฟู่สีเกอหรี่ตา เอนตัวเข้าไปที่หูของเฉียวโยวโยว และกล่าวว่า: “คุณทำให้ผมหิวมาหลายวันแล้ว ควรจะ…”
เฉียวโยวโยวต่อยเขาด้วยศอก: “รำคาญจัง คิดแต่เรื่องแบบนี้!”
หลังจากผ่านไปสองวินาที เธอกล่าวเสริมว่า: “เมื่อถึงเวลา!”
ฟู่สีเกอรู้สึกเหมือนเป็นขันที ดวงตาของเขาเป็นประกาย: “รับทราบ!”
หลังจากที่หยานชิงเจ๋อวางสาย ซูสือจิ่นก็ไม่สงบ ปากของเธองอมากกว่าเดิม: “พี่เป็นพวกเดียวกับพี่สีเย็นเน่า!”
หยานชิงเจ๋อไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร เขานึกย้อน เขามักจะอยู่กับสือมูเฉินมากกว่า ตั้งแต่เฉียวโยวโยวตั้งท้อง ฟู่สีเกอยุ่งมาก ทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกัน!
อย่างไรก็ตาม เขาจำได้ว่าสือมูเฉินเคยบอกหลักการหนึ่งกับเขา นั่นคือไม่ว่าจะผิดหรือไม่ผิดให้ยอมรับความผิดไว้ก่อน ดังนั้นเขาจึงก้มศีรษะลงทันที จูบซูสือจิ่นพร้อมพูดว่า: “เสี่ยวจิ่น ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง หายโกรธนะ! ต่อไปเธอชอบแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น!”
ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อทำอะไรไม่ถูก เธออยากโกรธแต่โกรธไม่ลง
เธอขยับตัวและกล่าวว่า: “รู้แล้ว ปล่อยฉัน ฉันจะไปอาบน้ำ!”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอมองไปที่หยานชิงเจ๋อด้วยความตกใจ
ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว แถมยังกดแน่นที่ตัวเธอ! เธอขยับ มันยังกระตุกใส่เธอหนึ่งครั้ง!
หยานชิงเจ๋อจ้องไปที่ตาซูสือจิ่น ด้วยดวงตาที่โค้งมนและพูดอย่างไร้เดียงสา: “เสี่ยวจิ่น เพราะเธอน่าดึงดูดใจมาก ไม่แปลกทำไมพี่ถึง… ”
ซูสือจิ่นพูดไม่ออกบอกไม่ถูก: “พี่ จริงๆแล้วพี่…”
ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงไม่สังเกตเห็นว่าเขา…
หยานชิงเจ๋อกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา: “เสี่ยวจิ่น พี่ทรมานมาก ช่วยพี่หน่อย!”
ขณะที่พูด เขาไม่รอให้เธอตอบ เขาโน้มตัวแล้วจูบริมฝีปากของเธอ
ซูสือจิ่นดิ้นรน แต่สู้แรงของหยานชิงเจ๋อไม่ได้ ในไม่ช้าเธอก็หมดแรงต่อต้าน
เดิมทีตัวเขาใกล้เธออยู่แล้ว ในตอนนี้ ประชิดเข้ามาใกล้มากขึ้น เธอไม่เหลือแรงต่อต้านอีกต่อไป จึงปล่อยให้หยานชิงเจ๋อลูบไล้…
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ซูสือจิ่นก็หาวและผล็อยหลับไป
หยานชิงเจ๋อมองไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา ด้วยแววตาที่นุ่มนวล
ดีจัง เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา ได้สัมผัสและรู้สึกถึง ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจมากจริงๆ
อันที่จริง เขาไม่รู้ว่าตัวเองฝืนขนาดนั้น เขาเคยได้ยินว่าถ้าผู้ชายชอบผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากจะมีความต้องการทางจิตวิญญาณแล้ว ยังมีแรงกระตุ้นทางร่างกายอีกด้วย
ในอดีต เขาเผชิญหน้ากับซูสือจิ่น เพราะเขาถูกจิตใต้สำนึกต่อต้านหรือเปล่า เขาไม่รู้ แต่ตอนนี้เขาอยากตัวติดกับเธอ!
หยานชิงเจ๋อก้มศีรษะลงและจูบซูสือจิ่น จากนั้นกอดเธอสักครู่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหาร
ซูสือจิ่นเหนื่อยมาก เธอจึงนอนเกือบสามชั่วโมงและตื่นขึ้น
เธอคิดว่าจะปวดเมื่อย แต่ไม่คาดคิด เธอกลับรู้สึกกระฉับกระเฉง หรือเพราะทำจากความรัก?
ทันทีที่ความคิดออกมา เธอก็หน้าแดง รีบสวมชุดนอนและไปอาบน้ำ ทันทีที่ออกมาก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร
“เสี่ยวจิ่น ตื่นแล้วเหรอ?” หยานชิงเจ๋อดึงเธอ: “ไปทานมื้อเย็นกันเถอะ!”
ซูสือจิ่นพยักหน้า นั่งลงที่โต๊ะ มีอาหารสี่จานและซุปหนึ่งถ้วย อุดมสมบูรณ์มาก
เมื่อก่อนเธอเคยลิ้มรสฝีมือของหยานชิงเจ๋อ ขณะนี้เธอหยิบตะเกียบและชิมมันก่อน ปรากฏว่ารสชาติดีกว่าเมื่อก่อน!
เธอประหลาดใจและคีบชิมจานอื่นๆอีกสองสามอย่าง แต่ละจานรสชาติดีมาก เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นและพูดว่า: “พี่ชิงเจ๋อ ทำไมฝีมือการทำอาหารของพี่พัฒนาขึ้นขนาดนี้?!”
“ก็บอกแล้วว่าถ้าจะมัดใจสาว ต้องเอาใจด้วยรสชาติ” หยานชิงเจ๋อมองที่ซูสือจิ่นด้วยสายตาที่แผดเผา: “หลังจากที่เธอจากไป พี่ก็ฝึกฝนที่บ้าน”
ซูสือจิ่นกลืนอาหารลงคอ และหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น: “ขอบคุณนะ ชิงเจ๋อ”