บทที่ 487 ที่คาดไม่ถึงก็คือ…
บทที่ 487 ที่คาดไม่ถึงก็คือ…
ฉู่เหินจัดการก๊อปปี้หนังสือทุกเล่ม! เขาคิดไว้แล้วว่าการมาคลังสมบัติในนี้วันนี้จะต้องเอาให้คุ้ม ครั้งหน้าเขาจะได้ไม่ต้องมาอีก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉู่เหินยิ่งรู้สึกได้ใจ เพียงแต่น่าเสียดายที่ทั้งชั้น 2 และ 1 นั้นไม่มีหนังสือที่เหมาะกับเขาเลย! ชายหนุ่มเลยจำต้องขึ้นไปชั้น 3 อย่างจนใจแล้ว! ซึ่งพอมีตราอันนี้ มันก็ทำให้เขาผ่านม่านพลังไปได้อย่างง่ายดาย!
เขาขึ้นมาชั้น 3 อย่างราบรื่น แต่ทันทีที่ก้าวขึ้นมาเหยียบชั้น 3 หัวใจที่กำลังฮึกเหิมของฉู่เหินก็หายไปในทันที เพราะที่ชั้น 3 นั้น มันกลับเต็มไปด้วยหยากไย่! บนพื้นเต็มไปด้วยฝุ่นสีเทา ๆ ปกคลุมไปทั่ว ดูแล้วน่าจะหลายสิบปีแล้วที่ไม่มีคนขึ้นมาบนนี้ และก็ทำให้เดาได้เลยว่าชั้น 3 จะต้องไม่มีของดีอะไร
เขากะจะหมุนตัวกลับไปที่ชั้น 2 และเลือกวิธีฝึกฝนง่าย ๆ มาสักหนึ่งเล่ม! แต่เมื่อคิดอีกทีฉู่เหินก็ละทิ้งความคิดนั้นไป ก็ในเมื่อตัวเองมาถึงที่นี่แล้ว เขาก็ควรจะเดินดูชั้น 3 ดูสักหน่อยว่ามีของดีอะไรอยู่บ้าง!
บนชั้น 3 มีเพียงชั้นตำราเล็ก ๆ อยู่เพียงชั้นเดียวเท่านั้น บนชั้นพวกนั้นมีตำราหนา ๆ วางอยู่ 10 กว่าเล่ม ซึ่งแต่ละเล่มก็ล้วนแล้วแต่มีฝุ่นเกาะหนาเตอะบนหน้าปก ฉู่เหินหยิบเสื้อตัวหนึ่งออกมาจากแหวนมิติตัวเองอย่างจนใจ! ไหน ๆ เสื้อตัวนี้ก็ขาดเป็นรู ๆ แล้ว ถ้างั้นเขาก็ถือโอกาสเอามันมาทำเป็นผ้าขี้ริ้วซะเลยล่ะกัน
คิดอยากจะอ่านตำราที่นี่ทั้งที เห็นที่ว่าควรจะทำความสะอาดเสียก่อน ไม่งั้นด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ใครจะทนอยู่ไหว ! ว่าแล้วเขาก็ใช้พลังเรียกน้ำออกมาทำให้ผ้าขี้ริ้วเปียกหมาด ๆ ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดทั่วทั้งชั้น 3 ในทันที หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อย ในที่สุดชั้นที่ 3 ก็ค่อย ๆ เผยให้เห็นถึงสภาพที่แท้จริงของมัน!
แม้ว่าที่นี่จะมีพื้นที่ไม่กว้างนัก แต่กลับวิจิตรงดงามมาก โดยเฉพาะชั้นตำรายิ่งไม่อาจดูเบา เพราะมันคล้ายจะทำมาจากไม้ชนิดพิเศษบางอย่าง ถ้าเอาไม้แบบนี้มาทำเก้าอี้นั่งไม่เพียงแต่จะทำให้จิตใจผ่อนคลาย อีกทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการรับรู้พลังฟ้าดินอีกด้วย!
ในมือของเขาถือผ้าขี้ริ้วที่สกปรกจนไม่เหลือสภาพเดิม และหยิบผ้าเหล่านั้นไปใส่ไว้ในภาชนะอีกรอบ ไว้ออกไปก่อนค่อยหยิบไปด้วย ! จากนั้นฉู่เหินจึงเดินมาหยุดที่หน้าชั้นวาง และหยิบตำราทั้ง 10 เล่มมาทำการศึกษาทันที!
วิชาจักรพรรดิอัสนี ฉู่เหินคิดไม่ถึงว่าตัวเองหยิบมาเล่มแรกก็เป็นหนังสือพลังธาตุสายฟ้าเลย! พอเขาอ่านอย่างละเอียดเขาก็พบว่านี้เป็นวิชาที่เจ๋งมาก ถ้าฝึกฝนตามวิธีที่ว่านี้ล่ะก็สายฟ้าแค่อันเดียวก็สามารถทำลายดวงดาวได้ดวงหนึ่งแล้ว! เพียงแต่น่าเสียดายที่ตำราเล่มนี้ยังขาดเนื้อหาไปบางส่วน มีเพียงฝึกถึงขั้นเทพดาราเท่านั้นหลังจากนั้นก็ไม่มีแล้ว
แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น แต่ฉู่เหินก็ยังเลือกที่จะก๊อปปี้วิธีฝึกเอาไว้ ก่อนจะเริ่มเปิดเล่มที่ 2 ต่อในทันที! จากที่เขาเปิดทีละเล่มไปเรื่อย ๆ มันก็ทำให้เขารู้ว่าตำราพวกนี้นั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน เสียดายเพียงอย่างเดียวก็คือพวกมันคล้ายจะขาดเนื้อหาไปบางส่วนทั้งสิ้น!
หลังอ่านไปรอบหนึ่ง ชายหนุ่มก็เริ่มทำการศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้ว ! ซึ่งต้นเหตุนั้นก็มาจากตำราที่เขากำลังอ่านอยู่นี้ มันมีชื่อเรียกว่าวิชาพลังกิเลน! อีกทั้งตำราวิชาพลังกิเลนนี้ก็เป็นแบบฉบับไม่ค่อยสมบูรณ์ด้วย! สิ่งที่มันขาดหายไปก็คือส่วนด้านหน้าและด้านหลัง!
โดยหนังสือเล่มนี้จะเริ่มแนะนำจากขั้นจักรพรรดิดาราจนถึงขั้นเทพดาราระดับสูงสุด! อีกทั้งเมื่ออ่านวิธีฝึกอีกรอบหนึ่ง ก็จะพบแต่เรื่องน่าเหลือเชื่อ ว่าแล้วเขาจึงก๊อปปี้ตามเนื้อหาที่กล่าวไว้! ถ้ามีคนที่สำเร็จวิชาได้จริง ๆ ล่ะก็ แค่เพียงลมหายใจเดียวก็สามารถทำลายดาวดวงหนึ่งได้แล้ว
พลังอำนาจแบบนี้ไม่มีใครกล้านึกถึง! และก็เป็นในตอนนี้เองที่ฉู่เหินรู้สึกว่าวิชาที่ตัวเองใช้ฝึกนั้นขั้นเทพขนาดไหน! หลังจากนั้นเขาก็รีบศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง!
นอกจากนี้แล้วชายหนุ่มยังได้ก๊อปปี้ตำราเล่มอื่น ๆ ไปด้วย! และเล่มที่เขากำลังคัดก๊อปปี้อยู่นั้น ฉู่เหินก็ได้พบกับวิชาดี ๆ ไม่น้อย ในนั้นมีวิชาหนึ่งที่เกี่ยวกับธนู ตามที่ในตำราเล่มนี้บอก เมื่อยิงลูกธนูออกไปดอกหนึ่ง ก็จะสามารถทำให้เกิดสายฝนแห่งไฟได้เต็มท้องฟ้า!
แน่นอนว่าต้องอาศัยพลังธาตุของผู้ใช้ด้วย ถ้าคุณพลังธาตุสายฟ้าก็จะปรากฏห่าฝนสายฟ้าแทน! ฉู่เหินสนใจวิชานี้เป็นพิเศษ น่าเสียดายที่ไม่มีเนื้อหาตอนเริ่มตอน ดังนั้นการจะสำเร็จจึงทำได้ยากมาก!
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก ฉู่เหินเลยคัดลอกมันไปก่อนค่อยว่ากัน! หลังจากเขาคัดลอกหนังสือทั้งหมดจนครบแล้วรอบหนึ่ง เขาก็นั่งขัดสมาดลงที่ข้างชั้นวางตำรา และเริ่มฝึกฝนทันที! ต้องเข้าใจว่าการฝึกฝนข้างชั้นตำราอันนี้ จะทำให้เขาย่นเวลาการฝึกได้ถึงครึ่ง!
ฉู่เหินเริ่มการฝึกจากพลังกิเลนก่อน ต้องเข้าใจว่าพลังกิเลนส่งผลดีกับพลังวรยุทธ์ของเขาเป็นอย่างมาก ขนาดเพียงแค่ทะลวงขั้นพลังมา 2 ขั้นก็ทำให้ช่วงล่างของเขาแข็งราวกับหินจนตัวงอ! และเพราะแบบนี้ชายหนุ่มถึงต้องรีบฝึกฝนพลังกิเลนให้สำเร็จ เขาอยากลองดูเหมือนกันว่าในตำรานี้จะมีวิธีแก้ไขปัญหานั่นไหม
ที่จริงผลข้างเคียงนี้ของเขา ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ! ซึ่งฉู่เหินก็ได้ใช้มันในการปลอบใจตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ยังไงเขาก็ไม่อาจสลัดมันออกไปได้อย่างแท้จริง ไม่รู้ว่าเพราะในใจคิดอย่างนี้หรือเปล่า ทว่าทุกครั้งที่เขาอยากจะออกไปหาผู้หญิงข้างนอก จัดการมันให้จบ ๆ ก็มักจะมีหน้าเสี่ยวชิงลอยมาทุกครั้ง
หลังชายหนุ่มศึกษาอย่างละเอียด เขาก็พบว่าแม้วิชานี้จะมีผลข้างเคียงเช่นกัน แต่มันก็เบากว่าก่อนหน้านี้มาก ! เป็นเพราะแก่นแท้ของวิชาเปลี่ยนไป ผลข้างเคียงจึงเปลี่ยนตามเช่นกัน ตอนนี้ส่วนที่แข็งของเขาเปลี่ยนมาเป็นหน้าอกและหลังแทน !
หรือก็คือต่อไปเมื่อเขาเลื่อนระดับพลัง หน้าอกกับหลังจะเป็นส่วนที่แข็งแทน แบบนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือป้องกันเขาที่ไม่ต้องพูดมากก็คงทราบกันดี! ข้อเสียก็คือจะทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงไม่น้อย แบบนี้แน่นอนว่าไม่เป็นผลดีกับเขาเท่าไร
แต่ก็โชคดีที่เขามีหมาป่าเป็นเพื่อนร่วมทาง เพราะความเร็วของหมาป่าจะชดเชยส่วนที่หายไปได้ ! เพียงแต่ถ้าเขาเลื่อนขั้นพลังอย่างต่อเนื่อง แล้วเจ้าหมาป่าฝึกตามเขาไม่ทันล่ะก็ แบบนั้นจุดบกพร่องที่ว่าก็คงจะกลายเป็นจุดอ่อนแทน! ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างจนปัญญา ช่างมันเถอะ มาคิดเรื่องนี้ตอนนี้ก็ออกจะเร็วไปหน่อย
เขาเก็บความคิดเอาไว้ในใจและเริ่มฝึกฝนพลังต่อ ซึ่งฉู่เหินก็สามารถสัมผัสได้ในทันทีเมื่อกำลังจะทะลวงขั้นพลัง ร่างกายส่วนล่างของเขานั้นดูเหมือนจะอ่อนลงไม่น้อยแล้ว! พอเห็นแบบนั้นเขาก็พอใจ ! หลังจากผ่านการฝึกฝนมาสักพัก ฉู่เหินก็สัมผัสได้ว่าอีกก้าวเดียวตัวเองก็จะเข้าสู้ขั้นจักรพรรดิดาราระดับสูงสุดแล้ว!
แต่แล้วเขาก็คล้ายจะพบคอขวดอะไรสักอย่าง ถึงตอนนี้จะฝึกฝนยังไงก็เปล่าประโยชน์แล้ว ชายหนุ่มเลยหยุดการฝึกฝนเพียงเท่านี้ และเตรียมจะเดินออกไป! ต้องเข้าใจว่าความดีความชอบเขาก็ได้รับมาพอแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะไปรับโทษจากอาจารย์คนนั้นบ้างแล้ว !
พอฉู่เหินเดินออกมาจากคลังสมบัติ ก็เห็นชายชราเฝ้าหน้าคลังสมบัติหรี่ตามองเขา! อาศัยพลังของชายแก่ เขาจึงสามารถมองออกว่าตอนนี้พลังวรยุทธ์ของฉู่เหินก้าวหน้าไปไม่น้อยแล้ว! แต่พอเขาเห็นว่าในมือของฉู่เหินถือห่อผ้าบางอย่างมาด้วย ชายชราก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้!
อาศัยพลังจิตของเขา จึงได้รู้ว่าของในห่อนั้นคือผ้าขี้ริ้วเทา ๆ ! ฝุ่นบางที่อาจสามารถเช็ดได้ แต่ฝุ่นบางที่นั้นกลับห้ามเช็ดออกเด็ดขาด!
“นายอย่าบอกนะว่านายเช็ดฝุ่นชั้น 3 หมดแล้ว!” ชายชราพูดด้วยสายตาสั่นระริก!
“ใช่น่ะสิ บนนั้นสกปรกจะตาย ฉันต้องสละเสื้อตัวหนึ่งมาทำผ้าขี้ริ้ว และก็ทำความสะอาดชั้นสามทั้งหมดเนี่ย!” ฉู่เหินพูดอย่างภูมิใจ!
“หนุ่มน้อย นายมีความรู้สึกเวียนหัวอยากอ้วกบ้างไหม หรือว่ารู้สึกไม่สบายที่ตรงไหนรึเปล่า!” ชายชราเฝ้าคลังสมบัติสำรวจร่างกายของฉู่เหินและถามออกไปแบบนั้น!