“เสี่ยวซี เธอไม่เข้าใจความคิดของฟางฟาง”
อันเยว่ส่งเสียงออกมา เธอยิ้มเล็กน้อย และเมื่อเธอยิ้มทีไรก็ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความมีเสน่ห์
อย่างไรก็ตามรูปร่างหน้าตาสวยหวานก็จริง แต่จิตใจนั้นไม่ใช่
เธอพูดเบา ๆ : “ตอนนี้ติงเซียงคือคนที่อยู่ข้างเฉินฮวนฮวน ถ้าเพราะฟางฟางยังคงสอนเฉินฮวนฮวนต่อไป ตัวของเธอก็จะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ แต่เฉินฮวนฮวนสามารถหนีไปได้ เธอลองเดาสิว่าติงเซียงจะคิดยังไง?
จ้าวซีตระหนักในทันทีและยกนิ้วให้กับฉินฟางฟาง และพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “ฉลาดสุดๆ! ฟางฟาง เธอฉลาดมาก! วางแผนให้แตกแยก! ”
“เหอะ! ในบรรดากลุ่มเด็กฝึก นอกเหนือจากเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับหลินอวี่หยาง ก็ยังมีติงเซียงนี่แหละ”ฉินฟางฟางหัวเราะเยาะ เธอเหยียดนิ้วออกและมองดูเล็บที่เธอเพิ่งไปทำมา จากนั้นก็พูดต่อว่า: “หลินอวี่หยางเราทำอะไรไม่ได้ แต่พื้นฐานของติงเซียงเราก็รู้นี่ว่าเป็นยังไง งั้นเรามาเริ่มกันที่เธอก่อนแล้วกัน ใครให้เธอยืนผิดทีมกัน!”
……
เฉินฮวนฮวนมาถึงห้องซ้อมเหวินหรานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เตรียมไว้สำหรับพวกเธอแล้ว เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังใจลอย เธอจึงไม่ได้สังเกตว่าติงเซียงไม่ได้ตามเธอมาแล้ว
หลังจากที่เธอรู้ เธอก็รีบโทรหาติงเซียง แต่ติงเซียงก็ตัดสาย
เธอหันหน้าและเดินออกจากห้องซ้อมไป แล้วพบเข้ากับฉินฟางฟางที่อยู่กันสามคน
เฉินฮวนฮวนไม่ได้สนใจพวกเธอ แต่เดินเลี่ยงพวกเขาไปทางลิฟต์แทน
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนเดินออกไป จ้าวซีก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ: “ฟางฟาง ถ้าติงเซียงบอกเฉินฮวนฮวนล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้ ถ้าเฉินฮวนฮวนสั่งสอนเธออีกจะทำยังไง?”
“นี่คือจุดที่สำคัญที่สุด”ฉินฟางฟางแอบยิ้มอย่างลับๆและอธิบายว่า: “ถ้าเฉินฮวนฮวนไม่มาหาฉัน มันก็จะพิสูจน์ว่าได้ว่าติงเซียงไม่ได้บอกอะไรเธอ ดังนั้นฉันหวังว่าเฉินฮวนฮวนจะไม่มาหาฉัน ~”
อันเยว่นั่งขัดสมาธิบนพื้น เพราะอยู่ในห้องซ้อมของบริษัทเธอ การกระทำของเธอจึงดูผ่อนคลายมาก
เธอบีบขวดน้ำ จากนั้นก็จิบน้ำแล้วพูดว่า: “นิสัยของติงเซียงก็เหมือนกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี ไม่มีใครอยากยุ่งกับเธอหรอก ฉันเดาว่าเธอคงไม่บอกเฉินฮวนฮวน”
จ้าวซีนั่งลงข้างๆอันเยว่ ราวกับว่ากำลังดูการแสดงที่ยอดเยี่ยม: “คำตอบจะถูกเปิดเผยในไม่ช้านี้”
……
เฉินฮวนฮวนลงลิฟต์ไปที่ชั้นหนึ่ง ติงเซียงไม่ใช่เด็กฝึกของเหวินหรานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เธอกังวลว่าติงเซียงจะไม่รู้ว่าห้องซ้อมอยู่ที่ไหน เธอจึงตัดสินใจลงไปหาเธอ
เธอเองก็เพิ่งถามหลายต่อหลายคนมาเหมือนกัน จนถึงได้รู้ว่าห้องซ้อมอยู่ที่ไหน
เมื่อประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก เธอก็เห็นติงเซียงยืนอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
“เซียงเซียง”เฉินฮวนฮวนเรียกหาเธอและพูดอย่างรวดเร็ว: “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันรีบไปหาห้องซ้อมเลยทิ้งเธอไว้”
“โอ้ะ”ติงเซียงอุทานตอบกลับ
“เข้ามาสิ ฉันเจอห้องซ้อมแล้ว ตามฉันมา”เฉินฮวนฮวนจับมือติงเซียงแล้วดึงเธอเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นก็กดปุ่มลิฟต์ขึ้นไปชั้นเจ็ด
ในพื้นที่เล็กๆมีเพียงเฉินฮวนฮวนและติงเซียงแค่สองคนเท่านั้นที่กำลังขึ้นลิฟต์ แอบรู้สึกน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน
ส่วนใหญ่เป็นเพราะบรรยากาศที่ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าจู่ๆติงเซียงก็พูดน้อย คงน่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์ของเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่เธอเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะช่วยเหลือจริงๆ แค่นี้เธอก็รู้สึกไม่มีเวลาให้ผ่อนคลายอยู่แล้ว
หลังจากมาถึงห้องซ้อมแล้ว ครูฝึกที่ถูกจ้างโดยเหวินหรานก็มาถึงแล้ว
“ไม่ได้มีหกคนเหรอ? ทำไมมีแค่ห้า? “ครูหญิงมีผมสั้นสีแดงเอ่ยขึ้น เธอขมวดคิ้วแลดูโมโห
“ครูจีจี้ จริงๆมีสมาชิกอีกคนด้วย แต่พวกเราไม่ค่อยสนิทกับเธอ เดี๋ยวฉันขอถามเธอในกลุ่มก่อนนะคะ”อันเยว่ยิ้มหวาน น้ำเสียงของเธอไพเราะน่าฟังมาก และเธอก็มีความกระตือรือร้นทุกครั้ง ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกพอใจมาก
ก็เหมือนนักเรียนที่เต็มใจช่วยเหลือครูในเรื่องต่างๆเสมอ
“อันเยว่ เธออยู่ตำแหน่งซีใช่ไหม? งั้นฉันขอจัดตำแหน่งก่อน”จีจี้ดูคุ้นเคยกับอันเยว่มาก
อันเยว่ส่ายหัวทันทีและปฏิเสธ: “ครูจีจี้คะ ฉันไม่ได้อยู่ตำแหน่งซี ในรายการต้องให้หัวหน้าเป็นตำแหน่งซี และหัวหน้าของเราคือเพื่อนร่วมชั้นของเรา เฉินฮวนฮวน”
ในขณะที่อันเยว่พูด เธอก็ชี้ไปทางเฉินฮวนฮวนที่อยู่ข้างหลังเธอ
เฉินฮวนฮวนโค้งคำนับจีจี้และกล่าวสวัสดี: “สวัสดีค่ะครู”
“เธอ? หัวหน้า? ตำแหน่งซี? “จีจี้ขมวดคิ้วแน่นและถามอย่างน่ารังเกียจ: “เธอเก่งกว่าอันเยว่เหรอ? ฉันเคยสอนอันเยว่มาก่อน ภาพโดยรวมของเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก”
อันที่จริงจีจี้และอันเยว่ รวมถึงฉินฟางฟางนั้นคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และพวกเขาก็รับรู้สถานการณ์ในครั้งนี้อยู่แล้วด้วย
เธอรู้ว่าตำแหน่งเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างการแสดง ดังนั้นอันเยว่และฉินฟางฟางจึงไม่เต็มใจที่จะเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์
ด้วยเหตุนี้ฉินฟางฟาง อันเยว่และคนอื่นๆจึงให้เฉินฮวนฮวนเป็นหัวหน้าแค่ชั่วคราว และกลายเป็นหัวหน้าอย่างเป็นทางการ และอยู่ตำแหน่งเซ็นเตอร์ของการแสดงครั้งแรกนี้
จีจี้รู้ข้อเท็จจริงนี้ดี แต่เธอพูดอย่างจงใจ เธอแค่อยากจะแสดงอำนาจใส่เฉินฮวนฮวน อย่างไรก็ตามเธออยู่ข้างอันเยว่และฉินฟางฟางอยู่แล้ว
“ครูจีจี้ ฉันไม่สามารถเทียบกับอันเยว่ได้หรอกค่ะ แต่เพราะพวกเธอไม่ต้องการเป็นหัวหน้าและยืนตรงตำแหน่งเซ็นเตอร์ ดังนั้นพวกเธอจึงผลักมันมาให้ฉัน”เฉินฮวนฮวนบอกข้อเท็จจริงอย่างมั่นใจ
เดิมเธอเป็นแค่หัวหน้าชั่วคราว แต่เธอก็เต็มใจที่จะสละตำแหน่งหัวหน้าในภายหลัง เป็นฉินฟางฟางและคนอื่นๆกังวลว่าตำแหน่งเซ็นเตอร์ในครั้งนี้จะส่งผลต่อสิ่งที่ตามมา นั่นเป็นเหตุผลที่มันกลายเป็นแบบนี้
ไม่มีใครเต็มใจอยากเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ มีแต่เธอเท่านั้น
“แต่ถ้าเธอไม่แข็งแกร่งพอ การยืนตรงกลางจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของทั้งกลุ่ม”จีจี้จ้องไปที่เฉินฮวนฮวนอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “แสดงความแข็งแกร่งของเธอให้ฉันดูซิ ถ้าเธอไม่มีสมบัติพอ ฉันจะลดระดับความยากในการเต้นของตำแหน่งเซ็นเตอร์”
เธอเคยได้ยินจากอันเยว่มาก่อนว่า ความแข็งแกร่งของเฉินฮวนฮวนนั้นธรรมดา ความหมายของอันเยว่ในตอนนั้นทำให้เธอฝึกซ้อมต่อ แม้ว่าเฉินฮวนฮวนจะเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ แต่เธอก็จะเหลือการแสดงที่สำคัญที่สุดให้กับอันเยว่อยู่ดี
นอกจากนี้ เธอยังรับกระเป๋าแบรนด์หลีว์ที่อันเยว่มอบให้เธอ ซึ่งมีมูลค่าถึงห้าหลัก ดังนั้นเธอจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับเฉินฮวนฮวน และเพื่อทำให้การแสดงของตำแหน่งเซ็นเตอร์นั้นเด่นน้อยลง ตอนนั้นเฉินฮวนฮวนก็คงไม่มีทางคัดค้านใดๆ
ท้ายที่สุดแล้วถ้าตำแหน่งเซ็นเตอร์ไม่มีความความแข็งแกร่งมากพอ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้การแสดงนั้นออกมาไม่ดี
อันเยว่ที่อยู่ข้างๆเริ่มกระวนกระวายใจ เธอต้องการหยุดจีจี้แต่มันก็สายเกินไป
ก่อนที่เธอจะได้พบกับซ่งหลิงเอ่อร์ เธอคิดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นมือใหม่ และเมื่อรู้ว่าจีจี้เป็นครูฝึก เธอก็แทบรอไม่ไหวที่จะติดต่อกับจีจี้
เพื่อให้ตัวเองเด่นในการแข่งขัน ดังนั้นในครั้งนี้เธอจึงไม่สามารถเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์ได้ แต่เธอหวังว่าครั้งแรกในการแข่งขันเธอจะได้ซีนเยอะๆ ดังนั้นเธอจึงติดต่อกับจีจี้
แต่จีจี้ขอให้เฉินฮวนฮวนแสดงศักยภาพต่อหน้าผู้คน ถ้าเฉินฮวนฮวนแสดงความสามารถที่แท้จริงของเธอออกมา จีจี้ก็จะไม่มีเหตุผลที่จะลดท่าการแสดงของเฉินฮวนฮวนได้
ตอนนี้อันเยว่ปวดหัวมากๆ สายตาของเธอจ้องมองไปที่เฉินฮวนฮวนโดยไม่กะพริบตา แต่กลับพบว่าเฉินฮวนฮวนนั้นนิ่งสงบมาก