บทที่ 401 กังวลว่าซานเป่าจะทุกข์ใจ

นายท่านอู่โหวเยว่เคยเห็นคนเช่นนี้มามาก หากทำดีกับคนพวกนี้ก็มีแต่จะอยากได้มากขึ้น ในตอนที่นายท่านอู่กำลังจะพูด ซานเป่าก็เดินไปพร้อมกับไหสุรา

“รอข้าที่นี่ อย่าไปไหนนะ ไม่เช่นนั้นข้าจะหาท่านไม่เจอ”

ซานเป่าพูดกำชับอย่างจริงจัง จากนั้นจึงได้ลุกขึ้นวิ่งไปหาท่านอู่โหวเยว่

“ท่านปู่ไปกับข้านะเจ้าคะ” นายท่านอู่มองใบหน้าของหลานสาว เมื่อเห็นว่านางมีความตั้งใจ เขาจึงได้แต่ตามใจ คนแก่หนึ่งเด็กน้อยหนึ่งจึงได้พากันเดินไปตลาดกัน หลานของเขาช่างเป็นเด็กที่ใจดีเสียจริง แต่เด็กที่จิตใจดีเช่นนี้มักจะถูกหลอกลวงได้ง่าย

“ซานเป่า…ปู่ขอถามเจ้าหน่อย หากคนเมื่อครู่เป็นคนเลวเล่า?” อู่โหวเยว่ถาม

“ท่านปู่ เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรอกเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่รู้จักเขาเลย จะรู้ได้เช่นไรว่าเขาไม่ใช่คนเลว? เจ้าช่วยเขาไป เขาไม่เพียงไม่ขอบคุณเจ้า แต่ยังขออาหารจากเจ้าอีก เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?” เขาถาม

ซานเป่าเอียงศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง หากเป็นตามที่ท่านปู่พูด คนผู้นี้ก็ไม่ใช่คนที่ดีนะสิ แต่…

“ท่านปู่ ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับเขาเจ้าค่ะ ข้าว่าเขาเป็นคนดี เพียงแต่หิวและกระหายน้ำเท่านั้น จึงได้มาขออาหารจากข้า” ซานเป่ากล่าว

อู่โหวเยว่มองไปที่ใบหน้าไร้เดียงสาของนาง เด็กคนนี้มีจิตใจดี อาจไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้ที่คิดร้ายในใจ

นายท่านอู่ไม่พูดอะไรอีก เขาพาเด็กหญิงไปยังหน้าโรงเตี๊ยมและนำสุราใส่ขวด ก่อนทั้งสองจะเดินกลับไปที่เดิม

หลังจากที่กลับไปแล้วก็พบว่าขอทานคนเมื่อครู่ยังนั่งรออยู่ที่เดิม ทันทีที่เขาได้กลิ่นสุราก็รีบเงยหน้ามองไปยังซานเป่าทันที จากนั้นสายตาของเขาก็ไปหยุดที่ไหสุราในมือของนาง เขาเอื้อมมือไปคว้ามา ซานเป่ายื่นไหสุราให้แก่เขา ขอทานรีบหยิบมาดื่มจนหมดในคราวเดียว หลังจากดื่มจนหมดไห เขาก็สะอึกออกมา จากนั้นจึงได้นอนลงกับพื้นผล็อยกลับไปทันที ซานเป่ามองไปที่เสื้อขาดรุ่งริ่งของเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นอนที่นี่คงจะหนาวนะ” ซานเป่าเอ่ยปาก

ชายคนนั้นหลับสนิทจนไม่ได้ยินเสียงพูดของนาง เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะตื่น ซานเป่าไม่มีทางเลือกนอกจากบอกว่า

“ไว้ พรุ่งนี้ข้าจะมาหาท่านใหม่”

จากนั้นนางก็กลับไปยังจวนพร้อมกับท่านปู่

….

กลางดึก ในห้องนอนของจวนอู่โหว

อู่โหวเยว่ถอนหายใจ จนภรรยาของเขาถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ท่านพี่ เป็นอะไรไปหรือ เกิดอะไรขึ้น?”

“มันค่อนข้างพูดยาก…” เขาเอ่ยอย่างมีชั้นเชิง

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นอย่าพูดถึงมันเลย” ฮูหยินอู่กล่าว

“…..” นี่จะให้เขาหยุดพูดจริงๆ หรือ? ไม่เห็นว่าเขาหน้าบึ้งหรืออย่างไร ฮูหยินไม่สนใจเขาแล้วหรือ?

“ให้ตายเถอะ!” นายท่านอู่ถอนหายใจอย่างแรง ฮูหยินอู่กลั้นยิ้มมองสามี

“เอาล่ะ พูดมาสิว่าท่านคิดอะไรอยู่”

“ในเมื่อฮูหยินเป็นห่วงข้าขนาดนี้ ข้าจะเล่าให้ฟังแล้วกัน” นายท่านอู่พูดขึ้น

“วันนี้ข้ากับซานเป่าพบขอทานผู้หนึ่ง เขาดูไม่ใช่คนดีเลย ขนาดซานเป่าช่วยเขาเอาไว้เขายังไม่ขอบคุณสักคำ เขาเอาแต่ถามว่าซานเป่ามีอาหารไหม หลานเราก็ใจดีนำอาหารและสุรามาให้เขา แต่ก็ยังไม่ได้ยินคำขอบคุณสักคำ พรุ่งนี้นางจะไปหาเขาอีก” นายท่านอู่ถอนหายใจ

“เด็กคนนี้ใจดีมากเกินไป นางไม่เข้าใจจิตใจที่ชั่วร้ายของมนุษย์ ข้ากลัวว่านางจะถูกหลอก แต่นางกลับบอกข้าว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี ข้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมนางได้…ฮูหยิน หากเป็นเจ้าจะทำอย่างไรหรือ?”

ฮูหยินอู่คิดอย่างจริงจัง

“ข้าคิดว่าคงปล่อยไป”

“ปล่อยหรือ? หากหลานโดนหลอกล่ะ? ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีซานเป่าจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน”

“หากซานเป่าได้เจอประสบการณ์เช่นนั้น นั่นจะทำให้นางโตขึ้น นางยังเล็กไม่มีประโยชน์ที่ท่านจะไปเคร่งเครียดกับนาง ท่านต้องปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้และสัมผัสด้วยตัวของเขาเอง” ฮูหยินอู่กล่าว

อู่โหวเยว่พยักหน้า ภรรยาของเขาพูดถูก เขาแค่คอยดูให้นางอยู่ในสายตาเท่านั้น แต่อย่าปล่อยให้นางต้องทนทุกข์อย่างโดดเดี่ยว ให้นางได้ลองเรียนรู้ก็พอ

…..

ห้องนอนของซานเป่า

ตอนนี้นางซุกตัวอยู่ในผ้านวมมีเพียงศีรษะกลมๆ เท่านั้นที่โผล่ออกมา เด็กหญิงกำลังหลับสบาย จมอยู่ในห้วงความฝัน นางฝันว่าในตอนที่นางยังเล็กและอาศัยอยู่ในเมืองเหยาสุ่ย มีท่านลุงคนหนึ่งที่ใจร้าย เขาชอบแกล้งนาง สอนมวย สอนชกต่อยให้ เขาหยุดนางได้ด้วยมือเดียวจนเด็กหญิงล้มไปลงกับพื้น

ลุงคนนั้นชอบแกล้งมาก ในตอนนั้นซาเป่าสาบานว่าหากโตกว่านี้นางจะเอาชนะลุงนิสัยไม่ดีคนนั้นให้ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งลุงคนนั้นหายไป ทำให้นางเศร้าใจไม่น้อยเลยทีเดียว นางจำไม่ได้ว่าท่านลุงหน้าตาเป็นเช่นไร จำได้แต่เพียงดวงตาของเขา

วันต่อมา

เมื่อซานเป่าตื่นขึ้นนางก็รู้สึกว่าดวงตาของขอทานคนนั้นคล้ายกับลุงใจร้ายมาก นี่เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดซานเป่าจึงเข้าไปพัวพันใกล้ขอทานผู้นี้ หลังจากที่ซานเป่าอาบน้ำและทานข้าวเรียบร้อย นางก็ขอให้บ่าวรับใช้นำอาหารมากมายมาบรรจุใส่กล่อง

“ไปเอาสุรามาให้ข้าอีกไหสิ”

“ขอรับคุณหนู”

เมื่อของทุกอย่างพร้อมแล้ว ในตอนนั้นเองนายท่านอู่ก็เดินมาช้าๆ พร้อมกับกรงนกในมือ

“ซานเป่า จะไปหาชายคนเมื่อวานหรือ?” นายท่านอู่ถาม และเด็กหญิงพยักหน้ารับทันที

“ปู่จะไปกับเจ้าด้วย” นายท่านอู่บอก จากนั้นทั้งปู่และหลานก็ออกเดินไปด้วยกัน เมื่อพวกเขาเดินไปยังสถานที่คุ้นเคยก็เห็นขอทานคนเดิมกำลังนั่งอยู่ คราวนี้เขานั่งพิงกำแพงหลับตานิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนราวกับไร้ชีวิต

ซานเป่าตกใจมากนางรีบวิ่งไปเขย่าชายคนนั้นทันที เขาลืมตาขึ้น เด็กหญิงลูบอกเล็กๆ ของนาง ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาจ้องซานเป่าหรี่แล้วตาลง

“ท่านหิวไหม ข้าเอาของกินมาให้” ซานเป่าหยิบข้าวออกมายื่นให้เขา เขารีบคว้าไปกินทันที

“ค่อยๆ กิน จะได้ไม่สำลัก มีสุราด้วยนะ” ซานเป่ายื่นสุราให้เขา อีกฝ่ายรับไปยกขึ้นดื่มทันที

นางมองดูใบหน้าที่มีแต่หนวดเคราของเขา

“เหตุใดท่านมาขอทานตรงนี้?”

“ท่านเป็นใคร?”

“เหตุใดจึงไม่ขัดขืนตอนที่พวกเขาทำร้ายท่าน?”

“ท่านเจ็บไหม ไปหาหมอกันเถอะ?”

“ไม่ต้องกังวลนะ ข้ามีเงิน”

ซานเป่าพูดไม่หยุด เขาหรี่ตามองนางอย่างรำคาญ

“หนวกหูจริงๆ”

ซานเป่าหุบปากลงอย่างไม่พอใจ นายท่านอู่มองอยู่ข้างๆ อย่างโกรธเคือง เด็กคนนี้คือหลานสาวตัวน้อยแสนล้ำค่าของเขา ชายคนนี้ใช้ประโยชน์จากนางแต่กลับบอกว่ารำคาญที่นางเสียงดัง!

เขาโกรธจนอยากจะชกหน้าขอทาน แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของภรรยาจึงทำได้เพียงอดทนไว้ ซานเป่าเก็บกล่องข้าว ศีรษะเล็กๆ ของนางก้มต่ำหลบสายตาเขา ความเศร้าโศกปกคลุมไปทั่วร่างของนาง ชายคนนั้นเอาแต่ใช้หางตามองเด็กหญิงก่อนจะกล่าวขึ้น

“ยัยหนู”

ซานเป่ารีบมองไปที่เขา

“ข้าไม่ได้ตั้งใจ” เขาพูดขึ้น

“หือ?” ซานเป่าชะงัก

“ไอ้พวกบ้านั่น” เขาพูดด้วยความขยะแขยง ทำให้ซานเป่าตระหนักได้ว่าเขากำลังตอบคำถามที่สองของนาง แล้วเหตุใดจึงไม่ขัดขืนล่ะ? ช่างเป็นคนที่แปลกจริงๆ

“อย่าร้องไห้”

“ข้าไม่ได้ร้องไห้” ซานเป่าเงยหน้าขึ้นและพูดเบาๆ