ตอนที่ 367 ทำให้คู่หมั้นประหลาดใจ

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 367 ทำให้คู่หมั้นประหลาดใจ

“ข้าเข้าใจ ก็แค่…อยากหาเวลาคุยกับเจ้าให้มากกว่าเดิมเท่านั้น ! ” เนื่องจากวันส่งท้ายปีเก่าในชาติก่อน ถือเป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของเขา

สูญเสียคนในครอบครัว อู๋ปัวเข้ามาซ้ำเติม และยังเป็นเพราะความหยิ่งยโสของตนจึงทำให้ค่อย ๆ เหินห่างจากสหาย…ค่ำคืนอันหนาวเหน็บ แสงไฟกลับเยือกเย็น ความอ้างว้างซึมเข้ากระดูก มันแทบทำลายความกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อของเขา หากไม่ใช่เพราะมีความแค้นช่วยให้เขายืนต่อไปได้ เขาก็คงยอมแพ้ในการมีชีวิตอยู่ต่อตั้งนานแล้ว

บรรยากาศของห้องที่อบอุ่นเมื่อครู่ เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว คืนส่งท้ายปีเก่าที่แสนคึกคักและสตรีที่กำลังเงยหน้ามองดาวอยู่ด้านข้าง…ทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ความจริง

เขาคิดว่าตนใช้ชีวิตมาชาติหนึ่งแล้วจึงชินชากับทุกอย่าง แต่บัดนี้เขากลับหวาดกลัว…กลัวว่าทุกอย่างจะเป็นเพียงความฝันฉากหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเขาจะยังอยู่บนคมดาบและมีชีวิตโดดเดี่ยวดังเดิม…

เหมือนว่าหลินเว่ยเว่ยจะเห็นเขาเปลี่ยนไป นางจึงกะพริบตาสองสามหนเพื่อมองเขาและพูดด้วยสีหน้าทะเล้น “อยากคุยกับข้าให้มากหรือ ? ง่ายมาก ! ไป ไปที่ห้องข้า เจ้าอยากคุยถึงเมื่อใด ข้าก็จะอยู่คุยเป็นเพื่อน หรือว่า…เจ้าอยากทำอย่างอื่น ? ”

เป็นอย่างที่คิด พอเด็กน้อยเปิดปากพูด ความเสียใจ ความเศร้าโศกและความลังเลทั้งหมดที่เขามีก็หายไปเพราะความใจกล้าของนาง

ในระหว่างมองรอยยิ้มของนาง เจียงโม่หานก็หัวเราะออกมา ! หลินเว่ยเว่ยได้ยินเหมือนภาษาดอกไม้ ในฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่นมีดอกไม้ผลิบานเรียงราย ละลานตาไปหมด…

“เด็กโง่ ! ” นางเอาแต่จ้องหน้าเขาอีกแล้ว ไม่รู้จักเก็บอาการเลยสักนิด ต่อจากนั้นเขาก็ยัดกล่องใบหนึ่งใส่มือ “ของขวัญปีใหม่ ข้าแกะเองกับมือ ! ”

หลินเว่ยเว่ยมองตามแผ่นหลังอันสง่างามของเขาจนกระทั่งเขาเดินออกไปจากประตู นางจึงก้มมองกล่องในมือและพบว่ามันเป็นกล่องไม้ยาว ๆ ธรรมดาใบหนึ่ง เมื่อเปิดออกก็พบว่ามีปิ่นไม้ประดับหยกแดงอยู่ด้านใน

ในเวลานี้หยกยังไม่เป็นที่แพร่หลายในภาคเหนือ เขาสามารถหาซื้อหยกแดงที่มีเนื้อบริสุทธิ์และโปร่งใสขนาดนี้ได้ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ยังแกะสลักตัวปิ่นด้วยตัวเอง ผีเสื้อไม้ 2 ตัวนั้นมีชีวิตชีวาราวกับของจริง…คาดไม่ถึงว่าบัณฑิตหนุ่มจะมีฝีมือขนาดนี้ !

วันรุ่งขึ้นหลินเว่ยเว่ยใส่เสื้อสีแดงปักลายผีเสื้อและดอกกล้วยไม้ตัวใหม่ กระโปรงสีชมพูอ่อนปักลายเมฆมงคล บนศีรษะประดับปิ่นผีเสื้อหยกแดงซึ่งดูเข้ากับเสื้อผ้าสุด ๆ พวกเสื้อผ้าเป็นของขวัญปีใหม่ที่นางเฝิงมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้นั่นเอง

พอนางเฝิงเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “ว้าว ! ไปซื้อปิ่นปักผมนี้มาจากไหน เหมือนตั้งใจจะซื้อให้เหมือนเสื้อผ้าชุดนี้ไม่มีผิด ! เสี่ยวเว่ยแต่งตัวแบบนี้แล้วเหมือนหญิงงามที่เดินออกมาจากภาพวาดเลย ! ”

หลินเว่ยเว่ยหันไปมองบัณฑิตหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วทันใดนั้นนางก็เห็นเขาใช้เสื้อคลุมขนกระต่ายที่ตนถักให้ รูปแบบคอเป็นทรงสูง ช่วยเก็บความอุ่นและดูมีชีวิตชีวา…คนต้องการเสื้อผ้า เสื้อผ้าก็ต้องการคนใส่ !

“ปิ่นนี้ข้าไม่ได้ซื้อมา แต่คู่หมั้นทำให้ข้าเองกับมือ ! ” หลินเว่ยเว่ยอวดอย่างออกหน้าออกตา

พี่สาวคนโตมุ่ยปากด้วยความเจ็บใจ…เจ้ามีคู่หมั้นคนเดียวหรือ ? ข้าก็มีเหมือนกัน ! แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหนอนหนังสือนั่นจะเตรียมของขวัญปีใหม่อะไรไว้ให้นางหรือเปล่า !

นางเฝิงจงใจถามต่างหากเล่า ! เพราะเจ้าตัวแสบของบ้านนาง เมื่อก่อนไม่เคยสนใจว่ามารดาจะปักเสื้อผ้าเป็นลายอะไร แต่แล้วก็มีวันหนึ่งที่เขามามองอยู่นานสองนาน จากนั้นก็ชอบหมกตัวอยู่ในห้อง คิดว่านางไม่รู้หรือไรว่าเขากำลังแอบทำอะไรอยู่ ! ก็ไม่ได้ทำปิ่นหรือ ? ต้องทำลับ ๆ ล่อ ๆ ถึงเพียงนั้น

ดูท่าแล้วเขาอยากจะทำให้คู่หมั้นประหลาดใจ จึงกลัวนางเผลอพูดออกไปก่อนสิท่า !

นางหวงและนางเฝิงตื่นเช้า พวกนางจึงเตรียมเกี๊ยวไว้ตั้งนานแล้ว นอกจากนี้ยังอุ่นซาลาเปาไส้ถั่ว เวลาที่ภาคเหนือฉลองปีใหม่จะต้องกินเกี๊ยวแทบทุกมื้อ

เพิ่งรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็มีเด็กมาตะโกนอยู่หน้าบ้านตระกูลหลิน พวกเขาจับกลุ่มมาด้วยกัน เด็กโตจับมือพวกน้อง ๆ และท้ายที่สุดก็มารวมตัวกันหน้าบ้านสกุลหลินอย่างไม่ได้นัดกันเลยสักกลุ่ม

“สวัสดีปีใหม่ท่านป้าทั้งสอง ! ”

“สวัสดีปีใหม่ พี่รองหลิน ! ”

เด็กที่มาอวยพรนี้มีตั้งแต่เพิ่งเดินได้จนถึงเด็กอายุ 10 กว่าขวบ ! พวกเขาพูดคำมงคลเพื่ออวยพรปีใหม่แด่ผู้อาวุโส เพราะหลินเว่ยเว่ยเก่งมาก เก่งจนเป็นเหมือนพ่อแม่ของพวกตนก็เลยมาสวัสดีปีใหม่นางด้วย

นางหวงและนางเฝิงใช้ซองอั่งเปาห่อเหรียญหนึ่งอีแปะแล้วแจก ‘ยาซุ่ย1’ ให้พวกเด็ก ๆ ที่มาอวยพรปีใหม่ !

เด็กที่โตหน่อยแล้วออกแรงโบกมือ “ท่านป้า ! พวกเรารับไว้ไม่ได้ ! ” เด็กทั้งหมู่บ้านรวมกันแล้วอย่างน้อยก็มีหลายสิบคน ถ้าแจกให้หมดล่ะก็ จะเป็นเงินหลายสิบอีแปะ !

ในหมู่บ้านอื่นก็มีแค่ผู้ใหญ่ในครอบครัวให้เงินยาซุ่ยเป็นเหรียญอีแปะ ตอนเด็กบ้านอื่นมาอวยพรก็ให้แค่ถั่วลิสง เมล็ดสนหรือลูกอมเล็กน้อยเท่านั้น ! สาเหตุที่พวกเขามาบ้านสกุลหลินก็เพราะได้ยินมาจากพวกมู่เกินเอ๋อร์ว่าบ้านสกุลหลินทำขนมไว้ไม่น้อย มีเด็กคนไหนจะไม่อยากกินบ้างล่ะ ?

“ให้เจ้าก็รับไป ! นี่เป็นเงินยาซุ่ยจะปฏิเสธไม่ได้ ! ” นางหวงยิ้มขณะพูดกับพวกเด็ก ๆ นอกจากยาซุ่ยแล้ว บ้านสกุลหลินยังให้ลูกอม ถั่วลิสง เมล็ดแตงโมแล้วยังมีพวกขนมอีกเล็กน้อย โดยทุกอย่างล้วนวางอยู่ในตะกร้าเพื่อให้พวกเด็ก ๆ หยิบได้อย่างสะดวก

เสี่ยวโต้วติงที่เดินเซไปเซมาตลอดทางพลางปล่อยมือพี่ชายออกแล้วเดินเซเข้ามาหานางหวง หลังจากรับอั่งเปาไปแล้ว เขาก็หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข แค่มองก็รู้สึกถึงความเป็นมงคล หลินเว่ยเว่ยเดินเข้าไปอุ้มเขาแล้วพามาที่หน้าตะกร้าบรรจุของหวาน เจ้าตัวน้อยเอื้อมมือไปหยิบ แต่มือของเขาเล็กเกินไป แม้จะคว้าอยู่นานสองนานก็หยิบได้แค่ลูกอมเม็ดเดียว

หลินเว่ยเว่ยใช้กระดาษน้ำมันม้วนเป็นกรวยแล้วใส่ลูกอมลงไปสองสามเม็ด คุกกี้สองสามชิ้นและยังมีพวกถั่วลิสง เมล็ดแตงโมอะไรเหล่านั้น ก่อนจะยัดใส่มือเจ้าตัวน้อยซึ่งมือที่หยิบลูกอมเม็ดนั้นขึ้นมาได้เต็มไปด้วยน้ำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พี่ชายของเขากลัวน้องชายจะทำเสื้อผ้าชุดใหม่ของพี่รองหลินเปื้อนจึงรีบรับเจ้าตัวน้อยมาอุ้มไว้ พวกเด็ก ๆ ถูกห้ามไม่ให้หยิบของในตะกร้าเพิ่ม หลังขอบคุณบ้านตระกูลหลินแล้วก็พากันไปสวัสดีปีใหม่อีกบ้านหนึ่ง

พวกเพื่อน ๆ ของเจ้าหนูน้อยโบกมือให้เขา “เอ้อร์ฮว๋า เสี่ยวร่าง ไป ไปสวัสดีปีใหม่ด้วยกัน ! ”

เจ้าหนูน้อยหยิบกระเป๋าของตนแล้วจูงมือเสี่ยวร่างไปรวมกลุ่มสวัสดีปีใหม่

ช่วงสายของวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านตระกูลหลินหรือบ้านอื่นในฉือหลี่โกวล้วนมีกลุ่มเด็กน้อยไปทักทายและกล่าวสวัสดีปีใหม่

เจ้าหนูน้อยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะไปถึงบ้านใครก็ได้รับของอร่อยกำใหญ่ ส่วนเด็กคนอื่นก็ใช้เสื้อผ้าของตนห่อของ พวกผลไม้ทอดต่าง ๆ หรือลูกอมชนิดอื่นทำให้เสื้อผ้าของพวกเขาเปื้อนไปหมด

ส่วนกระเป๋าใบน้อยของเจ้าหนูน้อยก็ได้ช่วยปกป้องเสื้อผ้าของเขาไว้และใส่ของได้มากด้วย หลังรอให้ใส่ของจนเต็มแล้ว เขาก็วิ่งกลับบ้าน เอาของทุกอย่างเทออกแล้ววิ่งร้องตะโกนไปเข้ารวมกลุ่มสวัสดีปีใหม่อีกรอบ…

ปีใหม่แรกนับตั้งแต่หลินเว่ยเว่ยได้ทะลุมิติมาก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานและการดื่มกินกันอย่างมีความสุข

[i]
1 ยาซุ่ย หมายถึง เงินขับไล่วิญญาณชั่วร้าย อวยพรให้อายุยืนยาว