ตอนที่ 246 ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่ (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 246 ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่? (2)

หากไม่ใช่เพราะว่าสถานที่นั้นเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในโลกบรรพกาลกับมีภูมิหลังที่ซับซ้อนได้รับการปกป้องจากเหล่าเซียนจินที่ดูแลเมืองนี้ อีกทั้งผู้คนยังต้องปฏิบัติตามกฎห้ามที่ไม่ให้มีต่อสู้และการสังหารผู้คนโดยรอบ…

เมื่อหลงเอ้อร์และหลงซานโจมตี พวกเขาก็สามารถสังหารปีศาจใหญ่ในห้องนี้ทั้งหมดได้โดยตรง

หลี่ฉางโซ่วเฝ้าดูจากด้านข้างอย่างเพลิดเพลินยิ่ง ในขณะที่เจียงหลินเอ๋อร์พูดไม่ออก

ว่องไวดุจกระต่าย รวดเร็วราวเหยี่ยวโฉบ พวกเขาฉับไวปานสายฟ้า สมควรแล้วที่พวกเขาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของราชามังกร นี่คือปรมาจารย์แห่งการสังหารที่แท้จริง

ปีศาจใหญ่เหล่านี้ไม่กลัวตายจริงๆ…

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงอย่างฉับพลันของศัตรูที่ไม่รู้จัก ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาไม่ใช่การหลบหนีทันทีแต่กลับเป็นการตอบโต้

ปีศาจใหญ่เหล่านี้ไม่ได้คิดให้ละเอียดถี่ถ้วนเลยว่า หากพวกเขาไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของปีศาจใหญ่ในห้องเหล่านี้ พวกเขาจะกล้าโจมตีแบบตัวต่อตัวทันทีได้อย่างไร?

หากหลงอี้ หลงเอ้อร์ หลงซาน และหลงซื่อ มีความกดดันเล็กน้อย หลี่ฉางโซ่วจะต้องคิดวางแผนขึ้นมาอย่างแน่นอน…

ในอีกด้านหนึ่งนั้น เข่อเล่อเอ๋อร์ก็แทงทะลุไหล่ของเจ้าตัวปลอมด้วยกระบี่ของนางแล้วตะโกนด้วยท่าทีกระตุ้งกระติ้งอย่างอิสตรีว่า “เจ้าคนใจร้าย! เชื่อว่าพี่ซื่อเอ๋อร์ของข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดียิ่ง แต่เจ้ากลับมาที่นี่เพื่อสนุกกับคนชั้นต่ำเหล่านี้!”

ในขณะนั้นเจ้าตัวปลอมอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แม้แต่ลำคอของเขาก็ถูกผนึกเอาไว้ เขาไม่อาจเอ่ยวาจาใดและไม่อาจขยับนิ้วได้ ทำได้เพียงอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยดวงตาของเขาเท่านั้น

บรรดาสตรีที่เคยยิ้มแย้มและรับใช้เขา พลันหน้าซีดและตัวอ่อนยวบทรุดลงไปทั่วทุกที่

เดิมทีฐานพลังปราณของพวกเขาก็ไม่สูงอยู่แล้ว บัดนี้ เมื่อเซียนจินระเบิดพลังลมปราณออกมา พวกเขาก็กลัวจนขาอ่อนแรงและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

หลี่ฉางโซ่วส่งข้อความเสียงไปยังอ๋าวอี่ให้สงบสติอารมณ์ลงทันที ชั่วขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หญิงชราของหลี่ฉางโซ่วก็ปรากฏตัวขึ้นในท้ายที่สุด…

“คุณหนู โปรดสงบใจไว้ก่อนเจ้าค่ะ! เหตุใดท่านถึงทำร้ายองค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพาเช่นนี้? แล้วตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรกันดี!?!”

เข่อเล่อเอ๋อร์เม้มปากและกล่าวว่า “ข้าแค่อยากล้างแค้นให้พี่ซื่อเอ๋อร์! ซื่อเอ๋อร์ของข้าก็เป็นองค์หญิงเผ่าเงือกเช่นกัน นางไปตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกัน!”

ทันใดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หญิงชราของหลี่ฉางโซ่วก็แสร้งถอนหายใจเบาๆ แล้วขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “คุณหนู ดูเหมือนกลิ่นอายของเขา จะมีบางอย่างผิดปกติ ไฉนถึงมีไอปีศาจอยู่?”

“หือ?”

เข่อเล่อเอ๋อร์มองเข้าไปใกล้มากขึ้นในขณะที่หลงอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ นางได้ทำลายภาพลวงตาของตัวปลอมอย่างรวดเร็วและเผยให้เห็นรูปลักษณ์แท้จริงของปีศาจตัวปลอมนี้

มันเป็นปีศาจหนุ่มหน้าซีดซึ่งอยู่ในขอบเขตเซียนเทียน

เข่อเล่อเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “ตัวปลอม?”

หลงอี้ยังเพิ่มฉากละครเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเองและตะโกนด้วยท่าทางเกินจริงว่า “อ่า! นี่ไม่ใช่ฝ่าบาท อ๋าวอี่!”

ตัวปลอมกะพริบตาปริบๆ แล้วน้ำตาก็รินไหลอาบหน้า…

จากนั้นเข่อเล่อเอ๋อร์ก็ตวาดว่า “เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงแกล้งทำตัวเป็นพี่เขยในอนาคตของข้า!?! ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้แล้วจริงๆ!”

ในขณะนั้น มีสัมผัสเซียนรับรู้นับไม่ถ้วนกำลังเฝ้าดูสถานที่นี้อยู่

เมื่อเห็นว่า เข่อเล่อเอ๋อร์กำลังสังหารปีศาจด้วยกระบี่ของนาง ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังมาจากนอกอาคาร

“ช้าก่อน! เมืองนี้มีกฎห้าม ไม่ให้ต่อสู้กัน!”

มีกระแสแสงวาบออกมาโดยพลัน ทันใดนั้น ผู้พิทักษ์ในชุดเกราะเซียนหลายร้อยคนก็เข้าปิดล้อมรอบอาคารสูงนี้ แล้วผู้อาวุโสเซียนจินสองคนก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับแผ่พลังกดดันของพวกเขาออกมา

นี่คือผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองนี้

ทว่าพวกของหลงอี้ทั้งสี่คนได้ระเบิดพลังออกมาพร้อมๆ กันและกำราบเซียนจินสองคนที่อยู่ด้านนอกได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น ชายชราทั้งสองคนจึงเปลี่ยนความคิดทันทีแล้วประสานมือโค้งคารวะให้เพื่อขออภัยก่อนจะก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มแหยและถามถึงเหตุผล

แน่นอนว่า ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ออกมาเป็นคนอธิบาย

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า พวกเขาเป็นแขกที่ได้รับเชิญให้มาเข้าร่วมงานอภิเษกที่วังมังกรทะเลบูรพาจัดขึ้น พร้อมกันนั้นเขาก็เอาเทียบเชิญที่ ‘ว่างเปล่า’ ออกมาเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน

จากนั้น เขาก็ชี้แจงคร่าวๆ ว่า พวกเขาไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน แต่มีคนที่นี่ปลอมตัวเป็นองค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา อ๋าวอี่…

หลังจากผ่านไปไม่กี่ประโยค เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ของเมืองเทียนหยาเหล่านี้ ก็ถามว่า พวกเขาจะออกไปนอกเมืองเพื่อจัดการปัญหาเรื่องนี้ได้หรือไม่

แม้หลี่ฉางโซ่วจะบรรลุเป้าหมายอย่างง่ายดาย แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็รู้สึกมีอารมณ์ในใจเล็กน้อย…

กฎที่ว่านั้น เป็นเพียงการยับยั้งผู้อ่อนแอเท่านั้น โลกบรรพกาลเป็นสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งดำรงอยู่ได้ดีกว่า

หากอยากพบความรู้สึกปลอดภัยในโลกบรรพกาล ต้องทรงพลัง

ใช่แล้ว ข้าไม่อาจลืมหลักการพื้นฐานสี่ประการที่ต้องสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจอมปราชญ์เทพและกอดต้นขาของเขาให้แน่นแม้แต่ขณะจิตเดียว!

เรื่องนี้ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ อ๋าวอี่ที่ปลอมตัวเป็นเข่อเล่อเอ๋อร์ ก็ลากปีศาจเซียนเทียน ซึ่งปลอมตัวเป็นอ๋าวอี่ไปตามถนนตลอดทางจนมาถึงสุดทางด้านนอกของค่ายกลใหญ่ในเมือง

ปรมาจารย์เผ่ามังกรทั้งสี่คนคอยคุ้มกันพาพวกเขาไปตลอดทางโดยมีทหารผู้พิทักษ์หลายร้อยคนตามไปด้วย

ในขณะนั้นปรมาจารย์หนุ่มที่ชั่วร้าย[1]อย่างยิ่งก็เริ่มเข้ามามีบทบาท

นางซ่อนกายอยู่ในฝูงชนและแสดงท่าทางของ ‘ผู้สัญจรผ่านมาเท่านั้น’ เพื่อบอกทุกคนว่า นางไม่ชอบอ๋าวอี่เลย และเพียงแค่ให้ข้อสังเกตและแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลาง ดังนั้นนางจึงสามารถกระจายข่าวถึงเรื่องอ๋าวอี่ตัวปลอมไปทั่วถนนที่นี่

ไม่นานหลังจากนั้น บรรดาผู้ฝึกบำเพ็ญจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ต่างก็มารวมตัวกันทางตะวันออกของเมืองใหญ่นี้

แม้จะมีผู้คนมากมายอยู่รอบๆ ที่นี่ แต่หลี่ฉางโซ่วและ เจียงหลินเอ๋อร์ก็แอบควบคุมความคิดเห็นของสาธารณชน พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องการอภิเษกระหว่างองค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา อ๋าวอี่และองค์หญิงน้อยแห่งเผ่าเงือก เจียงซื่อเอ๋อร์

เมื่อมาถึงนอกเมือง เข่อเล่อเอ๋อร์ก็โยนเจ้าตัวปลอมออกไปสิบจั้งและก่นด่าว่า “ข้ากับพี่ซื่อเอ๋อร์สนิทกันมาก และในสารที่นางส่งถึงข้า นางก็บอกว่า นางและว่าที่พี่เขยของข้า ต่างก็พึ่งพาอาศัยกันและเคารพให้เกียรติซึ่งกันซึ่งกันและกันอย่างไร! แต่วันนี้วันนี้ เจ้าทำลายชื่อเสียงของพี่เขยของข้าที่นี่ ย่อมไม่อาจยกโทษให้ได้จริงๆ !”

ที่ด้านข้างนั้น หลงอี้ก็ร่ายเวทและชี้ออกไป ทันใดนั้น ปีศาจหนุ่มก็กลายเป็นปลาดุกตัวใหญ่และตัวสั่นไปทั้งตัวทันที

จากนั้น เข่อเล่อเอ๋อร์ก็ชูกระบี่ขึ้นแล้วฟาดลงไป กระบี่สั้นในมือของนางพลันเปล่งประกายด้วยแสงเซียน และนางก็ตัดหัวปลาออกอย่างง่ายดาย…

หลี่ฉางโซ่วส่งข้อความเสียงไปที่หลงอี้ทันที แล้วหลงอี้ก็ใช้พลังเซียนห่อซากปลาปีศาจก่อนจะโยนมันขึ้นไปในอากาศแล้วทำลายมันเป็นชิ้น ๆ เจียงหลินเอ๋อร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนก็ร้องตะโกนออกมาว่า “เอาล่ะ!” มีคนจำนวนมากที่อยู่รอบๆ ที่ร้องตะโกนและทันใดนั้น ก็เกิดเหตุวุ่นวาย

จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ชี้แนะเข่อเล่อเอ๋อร์ผ่านการส่งข้อความเสียงออกไป

“อย่าเศร้าใจไปเลย หากเจ้าอยากแสดงให้เต็มที่ เจ้าต้องทำหน้าเย็นชาและกล่าวคำพูดของเจ้าต่อไป”

เข่อเล่อเอ๋อร์หันกลับมาทันทีแล้วเผชิญหน้ากับร่างมากมายในท้องฟ้าและบนพื้นดิน จากนั้นก็ยืนขึ้นอย่างภาคภูมิใจด้วยท่าทางเย็นชา

เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงสตรีที่เขาวางตัวเอาไว้ก่อนหน้านี้ “วันนี้ ข้า เข่อเล่อเอ๋อร์มาที่นี่เพื่อรักษาชื่อเสียงให้สหายสนิทของข้า เจียงซื่อเอ๋อร์! พี่เจียงซื่อเอ๋อร์ตกหลุมรักกับว่าที่พี่เขยของข้า องค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา อ๋าวอี่ มาตั้งแต่แรกพบ ทั้งคู่ต่างก็รักกันจริง ๆ พวกเขาจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ พวกเขาได้เชิญสหายและแขกจากทั่วทุกมุมโลกมาเพื่อทำพิธีกรรมทั้งหก! วันนี้ ปีศาจกำลังพยายามทำให้ชื่อเสียงของว่าที่พี่เขยของข้าต้องเสื่อมเสีย พวกเขาปลอมตัวแสร้งทำเป็นว่าที่พี่เขยของข้าและแสวงหาความสุขที่นี่อย่างเปิดเผยเจตนาร้ายของพวกเขา สหายเต๋า โปรดเป็นพยานว่า พวกเขาชั่วร้ายเพียงใด! วันนี้ ข้าสังหารเจ้าโจรชั่วคนนี้และข้าจะนำปีศาจที่มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงของว่าที่พี่เขยของข้าเหล่านี้ไปที่วังมังกรเพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดี!”

จากนั้น เข่อเล่อเอ๋อร์ก็โค้งคำนับ หันหลังไปแล้วกำลังจะกระโดดลงไปในทะเล จากนั้น องครักษ์หญิงทั้งสี่คนก็เดินตามหลังไปอย่างใกล้ชิด

ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงคนพูดตะกุกตะกักดังขึ้นมาจากในเมืองนั้น

“เทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์ โปรดช้าก่อน!” เข่อเล่อเอ๋อร์หันกลับมามอง และเห็นเด็กหนุ่มกระโดดออกมาจากเมือง

เด็กหนุ่มผู้นั้นมีสีหน้าแดงก่ำขณะกล่าวตะกุกตะกัก และอดจะเอามือปิดหน้าไม่ได้เมื่อถามว่า “ข้าขอบังอาจถามนามของเทพธิดาเข่อเล่อเอ๋อร์สักหน่อยได้หรือไม่? วันนี้ข้าได้ยลความงดงามขอเจ้าแล้ว ข้า… โปรดอภัย เจ้ามีคู่บำเพ็ญเต๋าแล้วหรือไม่…” หือ?

“แค่กๆ” เข่อเล่อเอ๋อร์กระแอมไอและอ๋าวอี่ผงะงันทันที

ในขณะนั้น เจียงหลินเอ๋อร์ซึ่งปะปนอยู่ในฝูงชนก็เกือบจะหัวเราะออกมา แล้วรีบปิดปาก ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว

…………………………………………………………………

[1] หมายถึงเจียงหลินเอ๋อร์ที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ