บทที่ 493 ใจกล้า

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 493 ใจกล้า

บทที่ 493 ใจกล้า

ที่ฉู่เหินไม่รู้ก็คือทันทีที่หางนั้นหลุด พวกทหารยามก็รู้ตัวด้วยเช่นกัน ! ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ซ่อนตัว ทหารพวกนั้นก็วิ่งมาที่นี่แล้วใช้จมูกดมกลิ่น พอฉู่เหินได้ยินคำว่ามนุษย์ออกมาจากปากพวกนั้น เขาก็เห็นทหารนับ 10 คนที่มุ่งหน้าไปทางออกของฝั่งมนุษย์อย่างรวดเร็ว !

ฉู่เหินซ่อนลมปราณได้ดีมากทีเดียว และก็เพราะแบบนี้พวกนั้นถึงหาตำแหน่งของเขาไม่พบ ดังนั้นพวกมันถึงได้เปลี่ยนไปดักทางออกฝั่งมนุษย์แทน ! พอเห็นพวกนั้นจากไปไกลแล้ว ฉู่เหินก็รีบวิ่งออกมาไปที่รูปปั้นอีกตัวหนึ่ง และเริ่มเจาะอย่างไว !

ครั้งนี้เขาทำอย่างเร่งรีบทำให้เวลาไม่นาน หางหนูอีกอันก็ถูกเขาเก็บมาได้ ! พอเก็บหางหนูเสร็จเขาก็กลับมาที่ซ่อนตัวเดิมและหลบอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง !

ชายหนุ่มที่เพิ่งจะเข้าที่ซ่อนตัว เขาก็ได้เห็นเข้ากับสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่มีไฟลุกท่วมตัวเดินมา ! ด้วยไฟที่ลุกท่วมตัวทำให้มองหน้าตาของมันไม่ออก รู้เพียงอย่างเดียวว่ามันมีสี่ขานอกเหนือจากนั้นก็ไม่รู้อีก !

เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นดูเหมือนจะโกรธมาก เพราะมันเอาแต่คำรามอยู่อย่างนั้นมาครึ่งวันแล้ว ก่อนจะหายไปอีกทางหนึ่ง ! ฉู่เหินที่เห็นดังนั้นพลันกรอกตาคิดหาแผนการ ! ว่าแล้วก็เขาพุ่งมาที่รูปปั้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้พลั่วนั้นเจาะอีกแล้ว

ชายหนุ่มโบกมือครั้งหนึ่ง ก่อนที่รูปปั้นทั้งหมดจะถูกดูดเข้าไปในหม้อทองคำสามขา ! เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเขาก็เรียกหมาป่ามาและให้มันเปลี่ยนร่างให้ใหญ่ขึ้น จากนั้นตัวเองก็กระโดดขึ้นหลังหมาป่า ในขณะที่โคจรไฟเย็นไปด้วย ก่อนที่จากนั้นเจ้าสัตว์ประหลาดไฟลุกตัวหนึ่งจะปรากฏขึ้นที่นี่อีกครั้ง !

เห็นดังนั้นฉู่เหินจึงเลียนแบบเจ้าสัตว์ประหลาดไฟลุกตัวนั้น เขาทำทีคำรามแล้วพุ่งไปยังทางออกฝั่งมนุษย์อย่างรวดเร็ว ! ชายหนุ่มออกตัวไปนานแล้ว ส่วนเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็ได้แต่มองเงาร่างที่ไกลออกไปด้วยความงงงวย !

ทำไมเจ้าสิ่งมีชีวิตนั้นถึงได้เหมือนกับตัวเองแบบนี้ มันสัมผัสได้ว่าพลังลมปราณอีกฝ่ายไม่เหมือนกับตัวเองเล็กน้อย แต่ขณะที่เจ้าสัตว์ร้ายกำลังงุนงงอยู่นั้น ฉู่เหินก็ได้จากไปไกลแล้ว !

เรียกได้ว่าสิ่งที่ฉู่เหินทำใจกล้าบ้าบิ่นมาก แม้ว่าดูภายนอกแล้วจะแยกแยะไม่ค่อยออก แต่ถ้าคนที่พลังวรยุทธ์สูงจริง ๆ มองล่ะก็ เพียงปรายตามองก็รู้แล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้มีสิบปีกก็หนีไม่พ้น !

กลับมาที่ฉู่เหิน แม้ว่าเขาจะไม่อยากชักช้า แต่ชายหนุ่มก็ไม่สามารถมุ่งหน้ากลับไปตรง ๆ ได้ เขาได้แต่วนรอบครั้งหนึ่งก่อนถึงค่อยกลับ ! ที่ทำแบบนี้เพราะชายหนุ่มกลัวว่าทหารยามที่ไล่ตามไปก่อนหน้าจะเจอเข้า! แต่ก็เพราะแบบนี้ ดินแดนปีศาจถึงได้เกิดความโกลาหลขึ้นมาแล้ว !

การกระทำนี้ใจกล้าเกินไป ขโมยหางหนูไปอันหนึ่งก็ว่าหยามกันพอแล้ว ! ตอนนี้กลับขโมยรูปปั้นไปทั้งอัน ด้วยเหตุนี้จึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ตอนนี้ชนชั้นสูงของดินแดนปีศาจพากันตื่นตัวไปตาม ๆ กัน พวกเขาไล่หาตัวฉู่เหินไปทั่ว ส่งผลให้ดินแดนปีศาจเต็มไปด้วยแรงสังหาร !

หลังจากฉู่เหินวิ่งหนีมาสักพัก เขาก็ได้พบเข้ากับสัตว์อเวจีที่กำลังยืนเฝ้ายาม เมื่อชายหนุ่มสังเกตสัตว์อเวจีพวกนั้น เขาก็พบว่าสัตว์อเวจีเหล่านี้กับสัตว์ด้านนอกไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ! ถ้าจะบอกว่าตรงไหนที่ต่างกันล่ะก็ คงจะเป็นความโหดเหี้ยมที่คล้ายจะมากกว่าอยู่หน่อย

ฉู่เหินเดินเข้าใกล้กลุ่มสัตว์อเวจีด้วยอาการอกสั่นขวัญแขวน ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว เพื่อรับมือกับสัตว์อเวจีข้าง ๆ ฉู่เหินจำต้องรวบรวมปราณปีศาจออกมาร่างกายตัวเอง ด้วยวิธีนี้ก็จะทำให้สัตว์อเวจีที่ยังสงสัยในตัวเขาคลายความกังขา !

และก็เพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงปราณปีศาจบริสุทธิ์ที่ฉู่เหินปล่อยออกมา จนคิดว่าฉู่เหินเป็นพวกเดียวกัน เจ้าสัตว์พวกนี้ไม่รู้ตัวสักนิดว่าแท้จริงแล้วคนตรงหน้าไม่ใช่แบบที่มันคิด ! ยิ่งฉู่เหินเข้าใกล้ประตูทางออกมากเท่าไหร่ หัวใจของเขาก็ยิ่งทำงานหนักมากขึ้น เพราะเหมือนว่าสัตว์อเวจีที่ยืนอยู่รอบ ๆ จะหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว

ยิ่งใกล้ทางออกมากเท่าไหร่ แสงจากดวงอาทิตย์ก็ยิ่งสว่างมากเท่านั้น สำหรับพวกสัตว์อเวจี แสงพวกนี้สามารถทำร้ายพวกมันได้ ดังนั้นพวกมันเลยไม่คิดจะเข้ามาใกล้ แต่ทว่าฉู่เหินกลับพุ่งออกไป ดังนั้นจึงทำให้พวกมันมองอย่างสงสัย !

ฉู่เหินมองเห็นชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะหยุดอย่างแน่นอน ไม่งั้นเขาต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปแน่! หลังจากพุ่งตัวไปข้างหน้าสักพัก ทางออกก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดวงอาทิตย์จากข้างนอกสาดแสงลงมา ทำให้สัตว์อเวจีเบาบางไปไม่น้อย !

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เอง ฉู่เหินก็ได้ยินเสียงคำรามดังมาจากด้านหลังว่า “มนุษย์ใจกล้าตัวหนึ่ง กล้าก่อเรื่องวุ่นวายในดินแดนปีศาจ ยังไม่รีบจับมันไว้อีก!” พอได้ยินเสียงนี้ฉู่เหินก็ไม่คิดจะหยุด กลับให้หมาป่าเร่งความเร็วขึ้นอีก !

ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้พลังธาตุฉาบร่างกายด้านนอกของตัวเองไว้ สร้างเป็นเกราะป้องกันพลังธาตุทั้งสามธาตุ เกราะป้องกันที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไม่ทันไร ฉู่เหินก็ได้ยินเสียงสัตว์อเวจีพุ่งมาโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง !

การโจมตีของสัตว์อเวจีนั้นรุนแรงมาก พวกมันเพียงอ้าปากก็สร้างลูกบอลพลังขนาดใหญ่ออกมาแล้ว ! เสียงคำรามต่าง ๆ ดังเข้ามาในหู เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เหินใช้พลังทั้งหมดที่มีขวางเอาไว้ ก่อนจะเร่งให้เจ้าหมาป่าเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีก !

จาก 50 เมตรเหลือ 30 เมตร ก่อนจะเหลือเพียง 10 เมตรสุดท้ายในพริบตา ฉู่เหินจวนจะถึงหน้าทางออกแล้ว ซึ่งมันก็เป็นตอนนี้เช่นกัน ที่พลังโจมตีต่าง ๆ ได้เข้าล้อมเขาเอาไว้ ! ต่อมาก็เห็นเพียงกำปั้นขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมากลางอากาศ และพุ่งไปทางฉู่เหินอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดเลยแม้แต่น้อย !

ทันทีที่กำปั้นนั้นกำลังจะต่อยเข้าที่หลังของฉู่เหิน หมาป่าก็ใช้จังหวะนั้นกระโดดตัวลอยข้ามพ้นทางออกพอดี ! พอออกมาแล้วมันก็ไม่คิดจะหยุด วิ่งต่อไปด้วยความเร็วสูง ! ซึ่งมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่กำปั้นขนาดใหญ่ลอยตามออกมาจากด้านใน

ก่อนที่กำปั้นที่ว่าจะพุ่งเข้ากลางหลังของฉู่เหิน โชคดีที่เจ้าหมาป่าหมุนตัวหลบได้ทัน ! แต่ถึงจะอย่างงั้นกำปั้นนั้นก็เฉียดโดนหลังของเขาอยู่ดี และถึงจะเพียงแค่เฉียด หากแต่ฉู่เหินก็รู้สึกว่ากระดูกของตัวเองคล้ายจะแตกละเอียดเป็นชิ้น ๆ !

ดีที่ชีวิตน้อย ๆ ของเขายังไม่หลุดลอย ! แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น สภาพของเขาก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก หลังจากถูกกำปั้นนั้นเฉียดโดน กระดูกทั่วตัวของเขาก็แตกยับนับร้อยชิ้น ! โชคดีที่เขาผ่านการฝึกพลังกายมา ร่างกายเลยแข็งแรงมากกว่าคนปกติ ไม่งั้นถ้าเปลี่ยนร่างเป็นอีกคน เกรงว่าคงเอาชีวิตไม่รอดแล้ว !

หลังจากกระอักเลือกออกมา ชายหนุ่มก็กัดฟันแน่นเพื่ออดทนกับความเจ็บปวด ก่อนจะสั่งให้หมาป่าวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านเล็กนั้น ! ซึ่งในระหว่างทางเขาก็โคจรพลังกิเลนกับพลังกายสองวิชาเพื่อให้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้เร็วยิ่งขึ้นไปด้วย ! อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาก็รับบาดเจ็บหนักเกินไปจริง ๆ ดังนั้นเมื่อมาถึงหมู่บ้านใบหน้าเขาก็ขาวซีดไปหมดแล้ว !

ถึงแม้เขาจะดูย่ำแย่มากขนาดไหน หากแต่ตอนนี้ที่ดินแดนปีศาจนั้นคล้ายจะแย่ยิ่งกว่า ตอนนี้ที่แห่งนั้นมันเหมือนกลายเป็นวันสิ้นโลกไปแล้ว ! หลายปีแล้วที่ระหว่างปีศาจสองเผ่าไม่อาจทำร้ายกันได้ ซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับรูปปั้นหนูบนแท่งบูชาพวกนั้น ! ตอนนี้จู่ ๆ รูปปั้นหนูก็ขาดหายไปตัวหนึ่ง ทำให้แท่นบูชาของพวกปีศาจไม่สมบูรณ์แบบอีกต่อไป !

แท้ที่จริงแล้วนั้นรูปปั้นหนูทั้ง 48 ตัวที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดเป็นของผู้มีความสามารถคนหนึ่งที่มอบมันให้แก่พวกเขาเป็นของขวัญ ! อีกทั้งคนผู้นั้นยังกำชับอีกว่าห้ามทำสูญหายเด็ดขาด ไม่งั้นเมื่อรูปปั้นเจอแสงอาทิตย์เมื่อไหร่ คำสาปก็จะทำงานทันที