บทที่ 444 ได้ทีขี่แพะไล่

ฟุมิโอะคว้าลูกสมุนข้างกายมาบังเอาไว้ทันที แต่หน้าไม้นั่นเดิมก็ทรงพลังกว่าธนูธรรมดาอยู่แล้ว จึงทำให้แม้แต่ฟุมิโอะที่สวมชุดเกราะก็ถูกยิงจนกระเด็นออกไป มวยผมคลายออก มีสภาพสะบักสะบอมเป็นอย่างมาก เกราะป้องกันถูกกระแทกจนแตกเป็นชิ้น ๆ

ฟุมิโอะตกลงไปในทะเล และพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะถูกคลื่นลูกหนึ่งซัดเข้าที่หน้า

ส่วนทหารเรือของกองทัพเรือยิ่งฆ่าก็ยิ่งกล้าหาญ โดยเฉพาะเมื่อมีกองทัพทหารเกราะเหล็กคอยเปิดทางอยู่ด้านหน้า บุกโจมตีเหมือนผ่าลำไผ่!

“ฆ่ามัน!”

การสู้รบเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาก้าวขึ้นมาบนฝั่ง แต่เพียงแค่ดูก็รู้ได้แล้วว่าพวกโจรสลัดต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!

ฟุมิโอะ มัตสึโมโตะสู้กับพวกเขามานับสิบปี แต่ไม่เคยประสบกับช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย และไม่เคยมีสักครั้งที่จะถูกกองทัพเรือล้อมเอาไว้เช่นนี้!

พวกกองทัพเรือรู้ร่องรอยของพวกเขาได้อย่างไรกัน! เหตุใดถึงคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะมาขึ้นฝั่งที่บริเวณนี้ อีกทั้งยังเอาเรือรบมาล้อมปิดทางที่พวกเขาจะใช้หลบหนีเอาไว้ล่วงหน้าอีกด้วย!

ลมในฤดูหนาวที่เย็นจนทิ่มแทงเข้ากระดูก ก็ยังเทียบกับความหนาวเหน็บในใจของโจรสลัดเหล่านี้ไม่ได้ คลื่นกระทบขาของพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แทบจะสูงขึ้นไปถึงเอวอยู่แล้ว ทุกย่างก้าวล้วนยากลำบากอย่างเห็นได้ชัด และทหารเรือเหล่านั้น วันนี้ก็สู้อย่างเอาเป็นเอาตาย บุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง โจรสลัดบางคนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงโยนอาวุธทิ้งแล้วดำลงไปในน้ำ สุดท้ายก็ถูกอวนจับปลาที่ดักรอเอาไว้ตั้งแต่แรกดึงขึ้นมากลางอากาศ จากนั้นทหารเรือหลายคนก็เอาหอกแทงซ้ำ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือ ชะตากรรมที่ต้องถูกเชือดราวกับสัตว์ก็มิปาน!

เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าโจรสลัดก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าในที่สุดวันหนึ่งพวกเขาก็จะถูกคนเข่นฆ่าและรังแกอย่างไม่มีทางสู้ราวกับผักปลาเช่นนี้!

ความอัปยศอดสูปะทุขึ้นมาในใจ พวกเขาจึงไม่สนใจหัวหน้าใหญ่อย่างฟุมิโอะอีก และต้องการหาทางรอดให้ตัวเองเท่านั้น

โจรสลัดก็คือโจรสลัด เมื่อถึงช่วงเวลาคับขันจะมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะปกป้องเจ้านายได้อย่างไร การเอาชีวิตรอดไปให้ได้ต่างหากคือสิ่งที่พวกเขาคิด

เวลานี้ฟุมิโอะเองก็ฆ่าคนจนสติหลุดไปแล้ว

ทันใดนั้นเสียงลมก็ปะปนกับเสียงการต่อสู้ น้ำทะเลบนชายฝั่งถูกย้อมจนแดงฉาน กลิ่นคาวเลือดอันรุนแรงฟุ้งกระจาย

ในตอนที่ฟุมิโอะเตรียมจะพุ่งเข้าไปเพื่อจับแม่ทัพของกองทัพเรือเป็นตัวประกันนั้น ก็มีคมดาบที่แหลมคมตวัดและฟาดฟันลงมา

ฟุมิโอะพลิกตัวหลบในทันที พลางกุมหน้าอกเอาไว้แล้วถอยไปด้านหลัง คนที่มาหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพเจ้า ใบหน้าที่อ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ดาบยาวในมือเล่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเบา ๆ ออกมา ผมยาวของเผยยวนปลิวไสวไปตามสายลม เขายกริมฝีปากขึ้นพลางปรายตามอง

“เจ้าเป็นใคร! เฉินไห่คั่วเล่า” ฟุมิโอะตะคอกออกมา

“คนชั่วอย่างพวกเจ้าคู่ควรจะรู้ชื่อข้าอย่างนั้นหรือ ตายซะเถอะ!” เผยยวนเอ่ยจบ ก็โจมตีฟุมิโอะอย่างรุนแรงอีกครั้ง

ทุกที่ที่ดาบยาวฟันไป ก็จะมีหัวคนกระเด็นขึ้นมา คนข้างกายของฟุมิโอะเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ

สมุนที่กล้าหาญข้างกายฟุมิโอะสองคนพยายามพุ่งเข้าโจมตีเผยยวน ผลัดกันโจมตีหมายที่จะกำจัดเผยยวนให้จงได้ ทว่ากลับไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

เผยยวนไม่แม้แต่จะสนใจพวกเขา บุกตะลุยไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

พูดมากจริง ๆ สู้ไม่ได้ก็ยังจะพูดพล่ามไม่หยุด

ฟุมิโอะเห็นเขาพุ่งเข้ามาหาก็แสยะยิ้มออกมา ตอนนี้เองเมื่อเผยยวนกระโดดขึ้นปล่อยกระบวนท่า ฟุมิโอะก็หยิบดาวกระจายที่อาบยาพิษชนิดรุนแรงออกมาจากอกเสื้อ และซัดไปทางเผยยวน

จากนั้นก็เตรียมที่จะหนี! ทว่าในตอนนั้นเอง ก็เกิดเสียงราวกับสายฟ้าฟาด ฟุมิโอะมองดูไหล่ของตัวเองที่ถูกเล่นงาน เพราะเผยยวนซัดอาวุธลับเหล่านั้นกลับมาจนหมด เกราะเหล็กที่ฟุมิโอะบอกว่าฟันแทงไม่เข้าถูกกำลังภายในของเผยยวนทำลายจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่างของเขาจึงร่วงลงไปในทะเลอย่างแรง

มู่เหยากวงส่งเสียงชิออกมาหนึ่งครั้ง แล้วเล็งไปที่เหล่าหัวหน้าโจรสลัดตัวเล็ก ๆ บนชายฝั่งอีกหน อย่างไรเสียนี่ก็คือการต่อสู้จริง ๆ ครั้งแรกของนาง เมื่อครู่ไม่ได้ยิงโดนหัวภายในนัดเดียว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

ฟุมิโอะยังคิดจะอาศัยการดำลงไปในทะเลเพื่อหลบหนี แต่คิดไม่ถึงว่าเผยยวนจะไม่ยอมปล่อยเขาไป ตอนที่เขาถูกหิ้วขึ้นมาจากน้ำอย่างสุนัขที่ตายแล้ว ฟุมิโอะก็รู้สึกว่ากระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเขาล้วนราวกับแตกเป็นเสี่ยง ๆ ก็มิปาน

เผยยวนลากเขาขึ้นมา ก่อนจะตัดแขนทั้งสองข้าง และหักขาทั้งสองข้างของเขา จากนั้นก็ยืนตระหง่านอยู่บนเรือโจรสลัด สั่งโจรสลัดเหล่านั้นเสียงดังลั่นว่า ยอมให้จับแต่โดยดีจะดีกว่า!

“หัวหน้าใหญ่!”

พวกโจรสลัดต่อให้ตายไปก็คงคิดไม่ถึงว่า การต่อสู้ในวันนี้พวกเขาจะพ่ายแพ้ยับเยินเช่นนี้!

และสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ เรือรบและหน้าไม้เหล่านั้นเป็นเพียงแค่ละครฉากใหญ่ เพราะแท้ที่จริงแล้วบนเรือมีทหารเรือเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น หลังจากที่ทำให้ฟุมิโอะสับสนแล้ว เรือเหล่านั้นก็ได้มุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะ อาศัยหมอกหนาทึบและลมแล่นฝ่าคลื่นไป

คืนนี้ต้องยึดหมู่เกาะได้อย่างแน่นอน! ลบล้างความอัปยศที่ผ่านมา!

เหล่าโจรสลัดที่ยอมวางอาวุธมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พลางก้มหัวลงกลายเป็นเชลย

“ท่านแม่ทัพจงเจริญ! ท่านแม่ทัพจงเจริญ!” เหล่าทหารของกองทัพทหารเกราะเหล็กตะโกนขึ้นมาด้วยความดีใจ

เหล่าทหารเรือยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วย พร้อมกับตะโกนตามขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าคนรับใช้ของกลุ่มกองเรือผู้นี้ เหตุใดถึงกลายเป็นแม่ทัพไปได้?

ในเวลาเดียวกัน เหล่าสมุนที่ถูกทิ้งให้เฝ้าหมู่เกาะแต่ละคนก็เริ่มเกียจคร้าน

มีทหารยามกำลังเฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้จากที่สูง แต่ควันไฟที่คาดว่าจะถูกจุดในเมืองจินหลิงกลับไม่ปรากฏขึ้น และพบเพียงเงาสีดำของเรือรบขนาดใหญ่ท่ามกลางหมอกหนาทึบ

เรือรบที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ มีเพียงกองทัพเรือต้าจิ้นเท่านั้นที่มี!

ทหารยามคิดว่าตัวเองมองผิดไป แต่เมื่อเขามองดูดี ๆ อีกครั้ง เงาสีดำนั่นก็มีขนาดใหญ่มากจริง ๆ ไม่ใช่ภาพลวงตาอย่างแน่นอน

“ท่านรองหัวหน้า! กองทัพเรือบุกขอรับ!”

คาโอริที่กำลังนอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของไป๋จิ่น และหลับตาปล่อยให้เขานวดอย่างสบายอยู่นั้น จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น โดยที่ไม่ทันสังเกตจิตสังหารที่วาบผ่านดวงตาของชายที่อยู่ข้างหลังเลยสักนิด ก่อนจะคว้าอาวุธจากที่แขวนเสื้อผ้าทันที “สั่งการลงไป ทั้งเกาะเตรียมพร้อม เตรียมปืนใหญ่!

ยามากุจิเล่า! ให้เขาพาคนไปสกัดกั้นและจมเรือรบก่อน!” คาโอริไม่มีเวลาสนใจไป๋จิ่นอีก และออกจากเรือนไปทันที

ไป๋จิ่นยืนพิงประตูอย่างเกียจคร้าน มองดูเหล่าโจรสลัดในลานบ้านที่วิ่งวุ่นไปทั่ว

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบของคาโอริเขาก็ค่อย ๆ ยกยิ้มออกมา ยิ่งตื่นตระหนกพิษก็จะยิ่งกำเริบเร็วขึ้นเท่านั้น เฮ้อ ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวทหารต้าจิ้นที่จะขึ้นฝั่งมาถูกพิษไปด้วยล่ะก็ เขาคงโปรยยาพิษกำมือหนึ่งไปในหมอกหนาทึบแล้ว ให้พวกเขาตายไปให้หมด

ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบวิ่งไปใกล้ ๆ ห้องของเยว่พั่วหลัว ก่อนจะเห็นว่านางถูกยามากุจิแบกออกมา และยังทำมือส่งสัญญาณบอกว่าให้เขาวางใจอีกด้วย

ไป๋จิ่นมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที สตรีโง่นี่ ใครเป็นห่วงนางกัน!

คาโอริขึ้นมาบนเรือรบ รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นก็สั่งคนให้รีบยิงธนูส่งสัญญาณให้ฟุมิโอะทันที

นางกุมหน้าอกเอาไว้ บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลง เพราะเรือของทหารเรือได้เข้ามาใกล้จนถึงตรงหน้านางแล้ว

นี่คือเรือรบที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

ก่อนหน้านี้คาโอริมักจะคอยหลบอยู่ด้านหลังฟุมิโอะเสมอ ทว่าตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้าเพียงลำพัง จึงอดไม่ได้ที่จะเดือดดาลขึ้นมา นางคว้าตัวลูกสมุนข้าง ๆ มา “เหตุใดถึงมีเพียงพวกเรา เจ้าสารเลวยามากุจิเล่า?”

“ยามากุจิชิงหนีไปแล้วขอรับ ตอนนี้คาดว่าคงจะกลับเกาะงูไปแล้ว!”

“บัดซบ!” คาโอริจ้องเรือรบขนาดใหญ่นั่น พร้อมกับเอ่ยอย่างดุดันขึ้นมา “ห้ามหนีแม้แต่คนเดียว ใครก็หนีไม่รอด สั่งการลงไป ให้ปกป้องจนตัวตาย”

จี้จือฮวนยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือรบพร้อมกับถือกล้องส่องทางไกลอยู่ในมือ ก่อนจะเห็นว่าเรือรบของพวกโจรสลัดมีขนาดเล็กและว่องไว ด้านหลังของเรือใช้หนังวัวดิบทำเป็นใบเรือ มีคนพายเรืออยู่ทั้งสองด้านของกราบเรือ ด้านหน้าและด้านหลังมีช่องเล็ก ๆ สำหรับแทงหอกและยิงธนู นี่คือเรือแนวหน้าที่จะใช้จมเรือรบของพวกนาง

“กองปืนไฟ พลธนูเตรียมตัว”

“ขอรับ!”