ตอนที่ 408 ชาวฉู่ผู้อาภัพ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

เป็นอีกฝ่ายที่ลงมือก่อนจริงๆ!

ก่อนหน้านี้นักวาดการ์ตูนชาวฉู่เล่นมุกว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจาง สร้างความฮือฮาบนโลกออนไลน์ไม่น้อย

และถึงแม้หลินเยวียนจะไม่ได้จงใจใช้ตัวตนของอิ่งจือตอบโต้ แต่การเปิดตัวเรื่องบันทึกมรณะก็คว้าชัยชนะในความขัดแย้งระหว่างทั้งสองพื้นที่ให้แก่ชาวฉิน

และที่บังเอิญยิ่งไปกว่านั้น ก็คือในตอนนี้หลินเยวียนได้รับทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์มาแล้ว

ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรทุกคนคงรู้ดี

ถึงความเหี้ยมโหดของภาพเหตุการณ์นี้

และสิ่งที่เหล่าโจวกล่าว ก็แทงใจดำชาวฉู่เข้าพอดี

วงการดนตรีของฉู่คิดจริงๆ ว่าเซี่ยนอวี๋มีเจตนาหาเรื่องพวกเขา

เมื่อช่วงต้นปี คนคนนี้ใช้บทเพลงเปียโนโจมตีดนตรีของชาวฉู่จากตำแหน่งที่สูงกว่า ทว่านั่นยังไม่เพียงพอ ปลายปีจึงฉวยโอกาสในมหาสงครามเทพเซียน ใช้ผลงานระดับกลอนสือโบราณมาโจมตีนักเขียนเนื้อร้องซึ่งช่ำชองการเขียนเนื้อร้องที่สุดคนหนึ่งของฉู่อย่างหนีหงอู่ และกระทำการดับเบิลคิลล์ได้สำเร็จ!

‘แบบนี้ถ้าบอกว่าไม่มีความเคืองแค้นเลยก็คงเกินจริง’

‘ผมสงสัยว่าเป็นเพราะสื่อของฉู่เราทำให้อาจารย์เซี่ยนอวี๋ขุ่นเคือง ตอนนั้นสื่อหลายแห่งถือโอกาสนี้ใช้วิธีทับถมเซี่ยนอวี๋ เพื่อยกภาพลักษณ์ของคนดนตรีชาวฉู่ เซี่ยนอวี๋เลยคับแค้นใจ ตบหน้าครั้งเดียวยังไม่พอ ต้องตบอีกสักครั้ง ผิดที่หนีหงอู่เองก็ไปวิจารณ์ฝีมือการเขียนเนื้อเพลงคนเขาในหนังสือพิมพ์วรรณศิลป์ด้วย นี่มันใช่เรื่องที่ควรไปวิจารณ์ไหมล่ะ?’

‘สื่อพวกนั้นก็ควรออกมาขอโทษ เลือกเล่นกับใครไม่เล่น เลือกเล่นกับเซี่ยนอวี๋!’

‘ตอนนั้นเราก็บ่นกันเรื่องนี้ แต่เรื่องก็บานปลายมาถึงขนาดนี้แล้ว ตอนนี้เซี่ยนอวี๋เล็งเล่นงานพวกเราแล้ว!’

‘บ้าชะมัด ต่อไปเราต้องหนีเขาใช่ไหมเนี่ย’

‘พวกแกว่าคนคนนี้ขายวิญญาณให้ซาตานหรือเปล่าฟระ ประพันธ์เพลงว่าโหดแล้ว เขียนเนื้อเพลงยังฝีมือล้ำไปอีก ใจคอจะไม่ให้คนอื่นทำมาหากินเลยหรือไง!’

‘ทำไมเขาไม่เกิดมาเป็นคนฉู่ให้มันจบๆ ไป’

‘พวกคุณก็ลำเอียงเกินไป ยังสนใจเรื่องความขัดแย้งระหว่างพื้นที่กันอยู่อีก บลูสตาร์กำลังอยู่ในกระบวนการผนวกรวม เรากับเซี่ยนอวี๋ก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน ห่างพันลี้ร่วมชมจันทร์อะไรประมาณนั้น!’

‘พูดก็ฟังดูดีอยู่หรอก ก่อนหน้านี้พวกคุณเชียร์ซะสนุก ตอนนี้เพิ่งมานึกได้ว่าเราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน?’

‘ฉินฉีฉู่เยี่ยนหานจ้าวเว่ยครอบครัวเดียวกัน ขอบคุณค่าาาา!’

‘…’

มีการพูดคุยกันมากมายบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้คนมากมายสนับสนุนการโต้กลับของเซี่ยนอวี๋ต่อคนฉู่ ทว่าเหตุผลที่ให้นั้นกับแตกต่างจากข้อสรุปของวงการดนตรีฉู่

‘ต้นเหตุของหายนะไม่ได้อยู่ที่สื่อจากฉู่หรอก แต่อยู่ที่วงการการ์ตูนต่างหาก!’

‘ใช่แล้ว ที่เซี่ยนอวี๋โกรธเคืองคนฉู่อธิบายได้เพียงอย่างเดียว ก็คือคนฉู่รังแกอิ่งจือก่อน!’

‘เซี่ยนอวี๋ ฉู่ขวง อิ่งจือ เป็นสามเพื่อนสนิทกัน มิตรภาพแน่นแฟ้น ครั้งนี้อิ่งจือโดนรังแก เซี่ยนอวี๋ช่วยแก้แค้น ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?’

‘เฮ้อ ดูท่าก่อนหน้านี้ฉันจะเข้าใจผิดแล้ว ฉันเข้าใจว่าในบรรดาเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อทั้งสามคน ฉู่ขวงสนิทกับเซี่ยนอวี๋มากที่สุด นึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋จะมีความรู้สึกลึกซึ้งต่ออิ่งจือเหมือนกัน’

‘คำถามคือ แล้วอิ่งจือไม่แก้แค้นเองเหรอ’

‘อิ่งจื่อน่ะแก้แค้นเองไปแล้ว แต่เซี่ยนอวี๋ยังไม่หายโกรธ เรื่องนี้มีอะไรผิดหรือ?’

‘มีเหตุผล…’

ข้อโต้แย้งนี้ทำให้วงการดนตรีของฉู่อึ้งไปตามๆ กัน

ฮะ?

ต้นตอของปัญหามาจากวงการการ์ตูน?

ส่วนวงการการ์ตูนก็ไม่พอใจขึ้นมา ในตอนนั้นมีนักวาดการ์ตูนลุกขึ้นยืนและโต้แย้ง ‘พวกเราไม่ได้หาเรื่องเซี่ยนอวี๋ คนที่หาเรื่องเซี่ยนอวี๋ก่อนคือวงการดนตรีของพวกคุณชัดๆ’

‘เหลวไหล!’

วงการดนตรีไม่พอใจ ‘สื่อต่างหากที่เริ่ม!’

วงการสื่อมวลชนของฉู่ก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาเช่นกัน

มีคนในวงการสื่อบ่นกันลับหลัง “ยุแยงตะแคงรั่วเก่งเหลือเกินนะ รู้อยู่แล้วว่าใส่ความ คนเขาก็แค่จัดการทั้งแค้นเก่าแค้นใหม่รวมกันทีเดียว”

ชาวฉู่สงบลงชั่วขณะ

แค้นเก่าและแค้นใหม่ล้วนต้องแบกรับหายนะคนละครึ่ง สิ่งสำคัญคือหลังจากนี้จะต้องพยายามประนีประนอมกับชาวฉิน และเรียนรู้ที่จะผูกมิตรกับสามเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ

……

หลังจากเหล่าโจวออกไป หลินเยวียนก็อ่านสัญญาฉบับใหม่ซึ่งสตาร์ไลท์ให้มาทั้งหมดอีกครั้ง และรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดเขาก็ทำภารกิจสำคัญสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว

จากกฎเกณฑ์ของสัญญาใหม่

หลังจากนี้หากหลินเยวียนร่วมงานกับนักร้องระดับต่ำกว่าราชาราชินีเพลงลงไป เขาจะได้รับส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดทั้งหมด บริษัทและนักร้องจะไม่มีส่วนร่วมในรายได้นี้

ณ ที่นี้ยังหมายรวมถึงนักร้องแถวหน้าด้วย

อย่างไรก็ดี ราชาราชินีเพลงเป็นข้อยกเว้น ประเด็นหลักเนื่องจากสถานะของราชาราชินีเพลงนั้นสูงมากในอุตสาหกรรมดนตรี เพราะฉะนั้นถ้าหากหลินเยวียนเลือกร่วมงานกับราชาราชินีเพลงระดับหลานเหยียน ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องหารือกันเรื่องผลประโยชน์เสียก่อน โดยทั่วไปแล้วหลินเยวียนจะมีอำนาจในการต่อรองมากกว่า และหลังจากนั้นถึงอย่างไรก็ต้องเหลือส่วนแบ่งให้คนเขาด้วย

“หลังจากนี้จะพยายามร่วมงานกับนักร้องแถวหน้าเป็นหลัก”

หลินเยวียนกำหนดยุทธศาสตร์ในการร่วมงาน เขาไม่ต้องแบ่งรายรับกับนักร้องแถวหน้าแล้ว!

เขาไม่ได้ยึดติดอะไรกับราชาราชินีเพลง เพราะที่จริงแล้วความสามารถของนักร้องแถวหน้าหลายคนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าราชาราชินีเพลงเลย บางคนเพียงแต่ขาดแรงสนับสนุนด้านผลงานก็เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นนักร้องอย่างเจียงขุย…

ทว่าสิ่งที่เหล่าโจวเตือนนั้นถูกต้อง

ตนต้องคว้าตำแหน่งพ่อเพลงมาให้ได้

อันที่จริงก่อนที่เหล่าโจวจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ เจิ้งจิงเคยเตือนหลินเยวียนไว้ ว่าเขาสามารถขบคิดถึงการเข้าชิงตำแหน่งพ่อเพลงในงานสังคีตสมโภช และได้รับการการันตีด้วยรางวัลสูงสุดในอุตสาหกรรมดนตรี ต่อให้คนอย่างหลินเยวียนจะไม่ได้หลงใหลในชื่อเสียงก็ตาม

แต่แน่นอน

เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า เขาจะหาเงินได้มากขึ้น ถ้าหากได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในฐานะพ่อเพลง

ความต้องการหาเงินยังคงเป็นสัญชาตญาณของหลินเยวียน และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินที่เขามีอยู่แล้วในปัจจุบันนี้ หากแต่เป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในกระดูก

ส่วนจะชิงตำแหน่งพ่อเพลงมาได้อย่างไรน่ะหรือ?

เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าเกณฑ์ใดจะเป็นจริงได้มากกว่ากัน

กู้ตงเคยบอกกับหลินเยวียนไว้ ว่ามีสามวิธีในการเป็นพ่อเพลง

วิธีแรก ปั้นนักร้องระดับราชาราชินีเพลงให้ได้สองคน โดยท้ายที่สุดแล้วนักประพันธ์เพลงสามารถปั้นราชาราชินีเพลงออกมาได้หรือไม่ เกณฑ์การตัดสินโดยละเอียดอยู่ในมือของทางสังคีตสมโภช

วิธีที่สอง คว้ารางวัลปราชญ์ดนตรีซึ่งเป็นรางวัลที่งานสังคีตสมโภชตั้งขึ้นมาเพื่อมอบให้แก่นักประพันธ์เพลงโดยเฉพาะ และยังคงมีทางสังคีตสมโภชเป็นผู้ตัดสิน

วิธีที่สาม หนึ่งปีมีสิบสองเดือน ต้องคว้าแชมป์ให้ได้ทุกเดือน จนกระทั่งครบฤดูกาลแข่งขันทั้งปี นี่เป็นเพียงเกณฑ์เดียวซึ่งสามารถทำสำเร็จได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการตัดสินจากทางสังคีตสมโภช แต่จะค่อนไปทางใช้แรงกายแรงใจเป็นเครื่องพิสูจน์เสียมากกว่า

ในแง่ของระดับความยาก วิธีแรกง่ายที่สุด

ขอเพียงหลินเยวียนปั้นให้ซุนเย่าหั่วและเจียงขุยเป็นราชาราชินีเพลงได้ ภารกิจนี้ก็เป็นอันสำเร็จ

วิธีที่สองค่อนข้างยากทีเดียว

ใครจะไปรู้ว่าเกณฑ์ของรางวัลปราชญ์ดนตรีคืออะไร ไม่มีใครได้รับรางวัลปราชญ์ดนตรีจากงานสังคีตสมโภชมาหลายปีแล้ว นี่มันใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ซะที่ไหนกัน?

ส่วนวิธีที่สามนั้นยากระดับตกนรกแล้วเกิดใหม่ก็ยังทำไม่ไหว

เมื่อก่อนมีคนทำได้ แต่นั่นเป็นเพราะยังไม่มีการผนวกรวมของทวีปต่างๆ

ตอนนี้หลายทวีปผนวกรวมกันแล้ว จำนวนของพ่อเพลงและราชาราชินีเพลงเพิ่มขึ้นสามเท่า การคว้าแชมป์ทุกเดือนจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?

หลินเยวียนไม่ได้เลือกวิธีใดวิธีหนึ่งในทันที

ไม่แน่ว่าอาจมีสักวันหนึ่งที่เขาได้รับรางวัลปราชญ์ดนตรีก็ได้?

นี่ไม่ใช่วิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ประหยัดแรงมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้

เหล่าโจวยังบอกว่า เรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพายจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมการอีกสักระยะหนึ่ง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หลินเยวียนวางแผนว่าจะสร้างภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง

แต่ควรเลือกเรื่องไหนดีล่ะ

หลินเยวียนตัดสินใจไตร่ตรองกันก่อน

ถึงอย่างไรก็ใกล้จะถึงสิ้นปีแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นจะมีวันหยุดประจำปี ต่อให้เขานำบทภาพยนตร์ออกมาในตอนนี้ บริษัทก็คงเตรียมการไม่ทัน

เมื่อคิดเช่นนี้ หลินเยวียนจึงเก็บของเตรียมเลิกงาน

อย่าถามว่ายังไม่ถึงเวลาเลิกงาน ทำไมถึงกลับซะแล้ว เพราะคำตอบก็คือไปหาแรงบันดาลใจ

……………………………………………………