บทที่ 496 เข้าพรรควายุอัสนี

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 496 เข้าพรรควายุอัสนี

บทที่ 496 เข้าพรรควายุอัสนี

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ฉู่เหินก็เข้าใจแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านต้องการให้ตัวเองเตรียมเข้าพรรควายุอัสนี อีกทั้งดูเหมือนว่าแท้จริงแล้วหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ของพรรควายุอัสนีอีกด้วย ! ถ้าตัวเองถูกเลือกให้เข้าพรรควายุอัสนีล่ะก็ นี่ย่อมมีแต่จะเป็นผลดีต่อหมู่บ้านอย่างแน่นอน ! เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็ตัดสินใจได้

คนเดินขึ้นสูง น้ำไหลลงที่ต่ำ* ถ้ามีหนทางให้พัฒนาต่อได้ ไม่ต้องหยุดอยู่แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ตัวเขาเองก็คงเลือกที่จะทำมันอย่างไม่ลังเล ! เหตุที่มายังต่างโลกเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะก้าวหน้าหรือไง ! ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะเข้าพรรควายุอัสนีเลยแม้แต่น้อย

*หมายถึง เกิดเป็นคนควรที่จะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

หลังจากหัวหน้าหมู่บ้านโม้ถึงพรรควายุอัสนีอยู่ครึ่งค่อนวัน เขาก็พูดปิดท้ายกับฉู่เหินเอาไว้ว่า “ฉันจะให้นายเป็นคนของพรรควายุอัสนี ถ้านายสามารถเข้าไปได้ล่ะก็อย่าลืมหมู่บ้านเล็ก ๆ ของพวกเรานะ ! อย่าลืมแวะเวียนกลับมาหาพวกเราบ้าง !”

ฉู่เหินพยักหน้าให้หัวหน้าหมู่บ้านวางใจ อีกทั้งเขาก็ถือว่าตัวเองเป็นคนของหมู่บ้านนี้ครึ่งหนึ่ง ถ้าในอนาคตตนพบคนหมู่บ้านเดียวกันจะดูแลพวกเขาให้ดี !

หัวหน้าหมู่บ้านเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าชื่นชม ก่อนจะปล่อยฉู่เหินเดินไปที่ทิศตะวันตก ! จนกระทั่งเขามาหยุดอยู่ที่หน้าของหน้าผาคุณธรรม ! ยังไม่ทันที่หัวหน้าหมู่บ้านจะพูดอะไร กลางอากาศก็พลันปรากฏเงาถึงสองร่างขึ้นตรงหน้า !

พอเห็นคน ฉู่เหินไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาต้องเป็นคนของพรรควายุอัสนีแน่ ! คนพวกนั้นมีอายุไม่เยอะ น่าจะประมาณ 30 ปี แต่อันที่จริงฉู่เหินก็รู้ดีว่าผู้ฝึกวรยุทธ์นั้นไม่สามารถคาดเดาอายุที่แท้จริงได้ บางคนอายุ 100 ปีแล้ว หากแต่ก็ดูเหมือน 70-80 ได้เหมือนกัน

ยิ่งพลังวรยุทธ์มากเท่าไหร่อายุก็จะยิ่งยืนยาวมากเท่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้ดูไม่แก่ ! อย่าดูภายนอกว่าคน ๆ นี้ดูเหมือนคนอายุ 30 ปี เพราะฉู่เหินคิดว่าคน ๆ นี้น่าจะอายุ 100 กว่าปีเข้าไปแล้ว !

“หน่วยก้านไม่เลว ฉันชอบ! แต่สุดท้ายจะได้เข้าพรรควายุอัสนีหรือไม่ยังต้องดูที่ความสามารถของเธอ! ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าพรรควายุอัสนีได้ ตอนนี้เธอเป็นเพียงผู้ถูกคัดเลือก สำหรับว่าสุดท้ายจะได้เข้าพรรครึเปล่า ยังต้องดูว่าเธอมีคุณสมบัติขนาดไหน” หนึ่งในสองคนนั้นพูดด้วยท่าทีหยิ่งยโส!

ซึ่งฉู่เหินก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายควรที่จะหยิ่งอย่างนี้อยู่แล้ว ! ไม่ใช่อะไรอื่น ! เพราะถ้าฉู่เหินเดาไม่ผิดล่ะก็ คน ๆ นี้จะต้องเป็นยอดฝีมือขั้นเทพดาราอย่างแน่นอน ขั้นเทพดาราคนหนึ่งถ้าไปอยู่ในโลกเดิมของเขาก็ต้องเป็นเทพเซียนแล้ว เกรงว่าจะไม่ชายตามองคนธรรมดาเลยด้วยซ้ำ !

หลังจากได้ยินคนระดับนี้พูด ฉู่เหินก็แสดงออกมาอย่างเคารพ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายมองตัวเองไม่ดี ไม่งั้นตอนทดสอบเขาคงถูกกดคะแนนเอาแน่ ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ออกจะน่าสงสารไปหน่อย บททดสอบนั้นความเป็นความตายเท่ากันเลยนะ !

“ฉู่เหินน้อมรับทุกอย่างที่ท่านผู้กล้าตัดสินใจ ! วันนี้ได้รับความกรุณาจากท่านผู้กล้า ฉู่เหินจะจำใส่ใจเอาไว้ตลอดไป ! ” เมื่อพูดจบเขาก็คารวะอีกฝ่ายไปอีกหนึ่งที เพื่อให้ผู้กล้าคนนี้รู้สึกถึงความจริงใจ !

หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็บอกให้ฉู่เหินกลับไปเตรียมตัว อีก 3 วันพวกเขาค่อยออกเดินทาง ! พูดว่าเตรียมตัวที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรต้องเตรียมมาก เพราะของทั้งหมดก็อยู่ในแหวนหมดแล้ว เพียงแต่ตอนเดินทางต้องพาหมาป่าไปด้วยดี ๆ ! แต่เมื่อผู้กล้าได้ยินว่าฉู่เหินต้องการจะเอาหมาป่าไปด้วย เขากลับคัดค้านขึ้นมา !

ผู้กล้านั่นกล่าวว่าหมาป่าตัวนี้ธรรมดาเกินไป ! เมื่อเข้าพรรควายุอัสนีไปแล้วก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์หน้าขนธรรมดาตัวหนึ่ง จะหาหมาป่าระดับเดียวกันมีเยอะมากมาย ! อีกอย่างอาศัยคนของพรรควายุอัสนีไม่มีใครเอาหมาป่านี้มาเป็นสัตว์พาหนะหรอก

แต่ฉู่เหินพูดเพียงหนึ่งประโยคก็ทำให้ผู้กล้าเงียบได้ “ผู้กล้าคงไม่รู้ แม้ว่าหมาป่านี้จะธรรมดา แต่มันเคยช่วยชีวิตผมไว้ เพราะแบบนี้ผมถึงทิ้งมันไม่ได้ ! ” ผู้กล้าได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา ก่อนที่สุดท้ายจะยอมตามใจฉู่เหิน

เดิมทีฉู่เหินนึกว่ามีเพียงตัวเองที่ถูกคัดเลือก ! แต่สามวันให้หลังเขาก็พบว่าตรงหน้าตัวเองกลับมีคนถึง 30 คน ทั้ง 30 กว่าคนตรงหน้านี้ พวกเขาล้วนแล้วแต่มีพลังวรยุทธ์อยู่ในขั้นปราชญ์ดาราระดับสูงสุด ! มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีพลังวรยุทธ์อยู่ในขั้นจักรพรรดิดาราระดับสูงสุด

และอย่างเขาเองที่เป็นขั้นปราชญ์ดาราระดับต้นขั้นกลางก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยเกินไป ! แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ชายหนุ่มจะได้ไม่ดูสะดุดตามากนัก เพราะต่อให้เกิดต้องสู้กันขึ้นมา ขั้นสูงสุดก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเช่นกัน ! ต้องเข้าใจว่ากล้ามเนื้อของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งพอ ๆ กับขั้นปราชญ์ดาราระดับสูงสุดแล้ว

ถ้าต่อสู้กัน ฉู่เหินไม่กลัวคนพวกนี้แม้แต่น้อย ! แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่ควรแสดงออกมาอย่างสะดุดตาเกินไป ถ้ายังอยากจะมีชีวิตรอดนาน ๆ ก็ต้องหัดอดทนรอบ้าง !

พอผู้กล้าเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว เขาก็โบกมือทีหนึ่ง ก่อนที่กลางฝ่ามือของเขาจะปรากฏแพไม้ไผ่ขึ้นหนึ่งอัน ดูเผิน ๆ แพไม้ไผ่ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่เมื่อผู้กล้าโยนมันออกไปกลางอากาศ จากแพเล็ก ๆ ก็ยื่นยาวขึ้น ! เพียงพริบตาก็มีขนาดกว่า 10 เมตรแล้ว ต่อมาผู้กล้าก็ได้ส่งสัญญาณและทุกคนก็ขึ้นไปยืนบนนั้น !

ทุกคนนั่งขัดสมาดนิ่ง ๆ บนแพไม้ไผ่ไม่กล้าที่จะขยับตัวตามอำเภอใจ ต้องเข้าใจว่าถ้าทำอะไรไม่ดีขึ้นมา ด้านข้างที่ไม่มีอะไรป้องกันแบบนี้ เกิดพวกเขาตกลงไปจะทำยังไง ! ด้านฉู่เหินเองก็นั่งนิ่ง ๆ เขากล้าไม่ทำอะไรแปลกแยกเช่นกัน

เมื่อทุกคนนั่งดีกันแล้ว แพไม้ไผ่ก็เหาะออกเดินทางทันที ! ทว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ เพราะแม้ว่าแพกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่พวกเขากลับไม่รับรู้ถึงลมเลยสักนิดเดียว ตอนนี้ทุกคนกำลังรู้สึกดีมากทีเดียว ซึ่งฉู่เหินเองก็ไม่ต่างกัน ! เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเหาะด้วยของวิเศษแบบนี้ !

แพไม้ไผ่เหาะอยู่กลางอากาศด้วยความเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ห่างออกไปกว่าหลาย 100 เมตรแล้ว สำหรับของวิเศษที่เหาะเหินเดินอากาศได้แบบนี้ไม่เพียงแต่ฉู่เหิน คนอื่น ๆ ก็รู้สึกอิจฉาไม่ต่างกัน ! แต่พวกเขาก็รู้ดีว่ามีเพียงผู้กล้าเท่านั้นที่ทำให้มันเคลื่อนไหวได้ ถ้าให้พวกเขาทำคงไม่ได้เช่นนี้แน่ !

ทว่าฉู่เหินกลับไม่ได้คิดอย่างงั้น ขอเพียงให้เวลาปรับเปลี่ยนสร้างค่ายกลเล็ก ๆ สักครู่ ไม่แน่ว่าอาจทำให้มันเคลื่อนไหวได้ แต่ทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ไหมต้องดูว่าในอนาคตเขาจะมีของวิเศษเหาะได้หรือเปล่าค่อยว่ากัน !

เดิมทีฉู่เหินนึกว่าพรรควายุอัสนีไม่ได้ใหญ่อะไร แต่ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือหลังจากแพไม้ไผ่เหาะมาด้วยความเร็วกว่า 1 ชั่วโมง ในที่สุดก็หยุดลง !

ตอนนี้แพไม้ไผ่หยุดอยู่ที่เทือกเขา จากข้างบนมองลงไปข้างล่างเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจนเลย ! ต่อมาแพไม้ก็ลดระดับลงและทุกคนก็ค่อย ๆ ลงมา

เทือกเขานี้ใหญ่มาก บนเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ไกลจากบนเทือกเขามาก ก็ยังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังลมปราณที่ให้ความรู้สึกหายใจไม่ออก !

หลังจากแพไม้ลงจอด ในที่สุดพวกเขาทุกคนก็ลงกันหมดแล้ว และเห็นว่าด้านล่างมีเงาดำ ๆ ! ซึ่งเมื่อมองลงไปกะคราว ๆ แล้วก็น่าจะมีประมาณ 100,000 คนเห็นจะได้ !

เพียงเท่านี้ก็ทำให้ฉู่เหินเริ่มรู้สึกตกใจแล้ว ในใจอดคิดไม่ได้ว่าคนพวกนี้คนจะมาคัดเลือกด้วยเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างงั้นเกรงว่ามาตรฐานการรับศิษย์ของที่นี่คงยากมาก ๆ !

เขาเพิ่งคิดอยู่ได้ไม่ทันไร ก็มีเสียงของผู้กล้าดังเขามาในหู “ครั้งนี้พวกนายต้องรับศึกหนักทีเดียว กลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านล่างคือคนที่เข้ารับการคัดเลือกเข้าพรรควายุอัสนี ในครั้งนี้พวกเราจะคัดเลือกเพียง 600 คนเท่านั้น กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของพวกนายจะถูกคัดออก ! ดังนั้นพวกนายต้องตั้งใจ ! ”

พอพวกเขาได้ยินแบบนั้นก็ตกใจไปตาม ๆ กัน พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะต้องมารับศึกหนักแบบนี้ ส่วนทางด้านฉู่เหินเอง เขาก็คิดในใจว่าถ้าต้องสู้กับอีก 100,000 คน เดือนไหนถึงจะคัดเลือกเสร็จละเนี่ย