บทที่ 381 อิทธิพลขององค์ชาย

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

​“​องค์​ชาย​สาม​จะ​แต่ง​อนุภรรยา​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ร้องไห้​อย่างหนัก​ ​“​ต่อให้​เขา​จะ​เลือก​ใคร​สัก​คน​มา​จริง​ ​แต่​ข้า​จะ​ยัง​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ได้​หรือ​”

​หลังจาก​สูด​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​ในที่สุด​ซู​เหยี​ยน​โม่​ก็​สงบ​จิตใจ​ลง​ได้​ ​“​แน่นอน​ ​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​เจ้า​คง​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​จักรวรรดิ​จ้าน​หลง​ของ​เรา​มีบัญ​ญัติ​ว่า​องค์​รัชทายาท​จะ​ต้อง​เลือก​หญิงสาว​ผู้​เพียบพร้อม​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​ก่อน​อายุ​ครบ​ยี่สิบ​ ​นัง​ตัว​กาลกิณี​อย่าง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อาจจะ​ไม่ได้​ไร้ความสามารถ​เช่น​ก่อนหน้านี้​เพราะ​นาง​ได้​พลัง​ปราณ​ของ​ตน​กลับคืน​มา​แล้ว​ ​แต่​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ยังอยู่​ห่างไกล​จาก​คุณสมบัติ​ที่​ยอดเยี่ยม​อยู่ดี​ ​ยิ่งกว่านั้น​องค์​ชาย​สาม​ก็​ยัง​เป็น​ผู้​ที่​อดีต​ฮ่องเต้​เลือก​ให้​เป็น​รัชทายาท​ ​ถ้า​เขา​ไม่​เลือก​ผู้หญิง​ที่​สมบูรณ์แบบ​เป็น​พระ​ชายา​ ​เช่นนั้น​เขา​ก็​จะ​ต้อง​สละ​บัลลังก์​!​ ​และ​เขา​คง​ไม่ได้​โง่​ถึง​เพียงนั้น​แน่​!​”

​ทันทีที่​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ได้​ฟัง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เริ่ม​เป็นประกาย​ไป​ด้วย​ความหวัง​ ​“​แต่​ชื่อเสียง​ปัจจุบัน​ของ​ข้า​…​”

​“​เจียว​เอ๋อร​์​ ​จำไว้​ว่า​เจ้า​คือ​พระ​ชายา​ที่สี่​ตระกูล​ใหญ่​ระบุ​ตัว​เอาไว้​ ​ชื่อเสียง​แย่​ๆ​ ​พวก​นี้​อยู่​กับ​เรา​ได้​เพียงแค่​ประเดี๋ยวเดียว​เท่านั้น​ ​เมื่อถึง​พิธี​คัดเลือก​ ​พวกเรา​จะ​ตอบแทน​ความอัปยศ​ทั้งหมด​ที่​เรา​จำต้อง​ทน​ให้​นัง​ตัว​กาลกิณี​นั่น​ได้​ลิ้มรส​อย่าง​สาสม​”​ ​ใบหน้า​ของฮู​หยิน​ซูดำ​ทะมึน​ขึ้น​ใน​ทุกครั้งที่​นาง​พูด​ ​นิ้ว​ของ​นาง​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น​จน​เล็บ​จิก​เข้าไป​กลางฝ่ามือ​ของ​ตน

​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ยังคง​สะอื้น​อยู่​ ​“​แล้ว​ตอนนี้​ล่ะ​เจ้า​คะ​ ​ทุกคน​จะ​ต้อง​ว่าร้าย​ข้า​ ​ทันทีที่​ข้า​ก้าว​เท้า​ออกจาก​บ้าน​แน่​”

​“​นัง​ผู้หญิง​ปากตำแย​พวก​นั้น​!​”​ ฮู​หยิน​ซู​ขึ้นเสียง​ ​แม้​เรื่อง​นี้​จะ​กวนใจ​นาง​พอ​ๆ​ ​กับ​ที่​มัน​กวนใจ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ ​แต่​หลังจาก​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ก็​ลด​สายตา​ลง​ ​แล้ว​เสริม​ว่า​ ​“​พวกเรา​จะ​ไป​อยู่​ที่​เฉิง​เต​๋​อกัน​สัก​สอง​วัน​ ​ท่าน​ตาของ​เจ้า​มี​จวน​อีก​หลัง​อยู่​ที่นั่น​ ​เหลือ​อีก​เพียง​ไม่​กี่​วัน​องค์​ชาย​สาม​ก็​อายุ​ใกล้​จะ​ครบ​ยี่สิบ​แล้ว​ ​พวกเรา​ค่อย​กลับมา​ตอนที่​เรื่องราว​ใน​เมืองหลวง​สงบ​ลง​ก็แล้วกัน​”

​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​คิด​ว่านั​่น​เป็นความ​คิด​ที่​ดี​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​นาง​จึง​พยักหน้า​เล็กน้อย

​แต่​ความเกลียดชัง​ใน​ดวงตา​ของ​ซู​เหยี​ยน​โม่​ไม่​คลาย​ลง​เลย​แม้แต่น้อย​ใน​ระหว่าง​ที่นา​งกำ​ลัง​ลูบ​ผม​ยาว​ของ​บุตรสาว​สุดที่รัก

​หลังจากที่​ปลอบ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​เสร็จ​ ​นาง​ก็​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ลอง​ติดสินบน​คน​จาก​วัง​หลวง​ด้วย​เงิน​จำนวน​หนึ่ง​ดู​ ​หวัง​ว่า​คน​คน​นั้น​จะ​สามารถ​ช่วย​ร้องขอ​ความเมตตา​ให้​กับ​อัคร​เสนาบดี​ซู​ได้

​อย่า​ว่าแต่​จะ​รับข้อเสนอ​ของ​นาง​เลย​ ​ไม่มีใคร​ยอม​พบ​นาง​เลย​ด้วยซ้ำ

​ซู​เหยี​ยน​โม่​เริ่ม​รู้สึก​ร้อนใจ​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​เรียกตัว​พ่อบ้าน​ของ​ตน​มา​แล้ว​บอก​ให้​เขา​ไปหา​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า

​ในเวลานั้น​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​กำลัง​โอบ​หลาน​เหลียน​พลาง​ดื่ม​สังสรรค์​อยู่​ที่​หอ​เล็ก​ๆ​ ​พร้อมกับ​ขุนนาง​ที่​เขา​สนิท​ด้วย​จำนวน​หนึ่ง​ ​ทันใดนั้น​ก็​มี​คน​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง

​เมื่อ​เห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​กำลัง​ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสบาย​ ​ขุนนาง​ที่​เกลียดชัง​เขา​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้วจึง​เอ่ยปาก​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​ประหลาดใจ​ว่า​ ​“​อย่า​บอก​นะ​ขอรับ​ว่า​ท่าน​พี่​กวง​เย​่า​ยัง​ไม่ทราบ​เรื่อง​นั้น​”

​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​หัวเราะ​เย็นชา​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่​ข้า​ควรจะ​ต้อง​รู้​ด้วย​หรือ​”​ ​เขา​ถาม​กลับ​ด้วย​ท่าทาง​อวดดี

​“​ภรรยา​ตามกฎหมาย​ของ​ท่าน​ ​ซู​เหยี​ยน​โม่​เพิ่ง​ถูก​แห่​ประจาน​รอบ​เมือง​ไป​ขอรับ​”​ ​เขา​ส่งเสียง​หัวเราะ​ขึ้น​ขณะ​เอ่ย​ตอบ​ ​“​มี​คน​มายื​นมุ​งดู​ภรรยา​ของ​ท่าน​กล่าว​คำ​สำนึกผิด​กัน​เป็น​จำนวนมาก​ทีเดียว​ขอรับ​…​”

​ทันทีที่​ได้ยิน​คำ​ว่า​ ​’​แห่​ประจาน​รอบ​เมือง​’​ ​บรรดา​ขุนนาง​ที่อยู่​ที่นั่น​ต่าง​ก็​หูผึ่ง​ในทันที​ ​พวกเขา​ฟัง​ชาย​คน​นั้น​เล่า​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ทั้งหมด​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ​ ​หลังจากนั้น​พวกเขา​จึง​หันหน้า​ไป​ทาง​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ ​สายตา​ที่​พวกเขา​มอง​เขา​นั้น​เต็มไปด้วย​ความคับ​ข้องใจ

​สมอง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ว่างเปล่า​ไป​ชั่วขณะ​ ​ทันใดนั้น​มือ​ของ​เขา​ที่​วาง​อยู่​บน​ตัก​ก็​ค่อยๆ​ ​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น

​ในที่สุด​เขา​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น

​ผู้หญิง​คน​นั้น​ตัดสินใจ​เอง​โดยพลการ​อีกแล้ว​!

​ทั้งที่​เขา​เตือน​ให้​นางห้าม​ตัวเอง​เอาไว้​ไม่รู้​กี่​ครั้ง​ต่อ​กี่​ครั้ง​แล้ว​แท้ๆ​!

​แต่​นาง​กลับ​ไม่​ฟัง​คำพูด​ของ​เขา​ ​และ​เลือก​ที่จะ​ทำให้​เรื่อง​วุ่นวาย​ขึ้น​มาถึง​เพียงนี้​แทน​!

​อีกทั้ง​นาง​ยัง​ทำให้​เขา​ต้อง​พลอย​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ไป​ด้วย​ ​ใน​จำนวน​ขุนนาง​ที่อยู่​ที่นี่​ทั้งหมด​ ​ไม่มี​สัก​คนที​่​มี​ภรรยา​ถูก​แห่​ประจาน​รอบ​เมือง​เช่นนั้น​!

​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​เขา​แทบจะ​กำ​จอก​ที่อยู่​ใน​มือ​แตก​เป็น​เสี่ยง​ ​และ​สาเหตุ​หลัก​นั้น​ก็​มาจาก​บรรยากาศ​เสียดสี​ที่เกิด​ขึ้น​ทั้ง​อย่างจงใจ​และ​ไม่​จงใจ​นั้น

​ก่อนหน้านี้​ขุนนาง​พวก​นี้​ยอม​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อให้​ได้​อยู่​ข้าง​เขา​ ​ไม่มีใคร​กล้า​พอที่​จะ​ทำตัว​เสียมารยาท​กับ​เขา​แม้แต่​คนเดียว

​แต่​ตอนนี้​พวกเขา​กลับ​มอง​เขา​ราวกับ​เป็น​ลิง​ใน​คณะ​ละครสัตว์​ก็​ไม่​ปาน​!

​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​รู้​ว่า​ในเวลานี้​เขา​จะ​สูญเสีย​ความเยือกเย็น​ของ​ตน​ไป​ไม่ได้​เด็ดขาด​ ​มิฉะนั้น​เขา​คงได้​กลายเป็น​ตัวตลก​ใน​สายตา​ของ​ขุนนาง​เหล่านี้​แน่

​เขา​ลุกขึ้น​ยืน​ด้วย​ใบหน้า​ที่ราบ​เรียบ​ ​แล้ว​กล่าว​ขอตัว​กับ​คนอื่นๆ

​ทันใดนั้น​เด็กสาว​ที่​ชื่อ​หลาน​เหลียน​ก็​คว้า​เขา​เอาไว้​ ​“​ใต้เท้า​ ​อย่า​คิดมาก​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​เอียงอาย

​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​คิด​ว่า​เขา​คง​ไม่ต้อง​เสียชื่อเสียง​ต่อหน้า​คนอื่น​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​หาก​ยายแก่​นั่น​คิดถึง​ความรู้สึก​ของ​คนอื่น​ได้​สัก​ครึ่งหนึ่ง​ของ​เหลียน​เอ๋อร​์​ ​เขา​รวบ​เด็กสาว​ที่อยู่​ตรงหน้า​เข้าสู่​อ้อมกอด​ของ​เขา​อีกครั้ง​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุมตัว​เอง​ได้

​ความมืด​ยามค่ำคืน​คืบคลาน​เข้ามา

​ซู​เหยี​ยน​โม่​นอนไม่หลับ​เมื่อ​รู้​ว่า​อัคร​เสนาบดี​ซู​ยังคง​คุกเข่า​อยู่​นอก​วัง​หลวง​ ​นาง​ทำได้​เพียง​รอคอย​อย่าง​มีความหวัง​ว่าการ​การก​ลับ​มา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​จะ​ช่วย​นาง​ได้

​ในที่สุด​ความหวัง​ของ​นาง​ที่จะ​ให้​เขา​กลับมา​ก็​เป็นจริง​ ​แต่​นาง​กลับ​ได้รับ​ฝ่ามือ​หนัก​ๆ​ ​เป็นการ​ต้อนรับ​!

​“​ข้า​บอก​เจ้า​กี่​ครั้ง​กี่​หน​แล้ว​ว่า​ทันทีที่​การประชุม​ของ​ตระกูล​สิ้นสุดลง​ ​นัง​เด็ก​กาลกิณี​นั่น​ก็​จะ​ได้​พบจุดจบ​ของ​ตัวเอง​!​ ​แต่​เจ้า​กลับ​เลือก​ที่จะ​ทำให้​มัน​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​โต​ ​ตอนนี้​เจ้า​คงมี​ความสุข​แล้ว​ใช่​หรือเปล่า​ที่​สร้าง​ปัญหา​ให้​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​?​!​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ระบาย​โทสะ​อัน​เกิด​จาก​ความอัปยศ​ที่​เขา​เจอ​ใน​วันนี้​ใส่​ซู​เหยี​ยน​โม่

​แม้​ใบหน้า​ของ​ซู​เหยี​ยน​โม่​จะ​บวม​เพราะ​ถูก​ตบ​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่กล้า​ปริปาก​บ่น​ ​แทนที่จะ​เป็น​เช่นนั้น​นาง​กลับ​คว้า​มือ​ของ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​ยัง​คุกเข่า​อยู่​ที่​วัง​หลวง​ ​ข้า​เป็นห่วง​เขา​ ​ข้า​เกรง​ว่า​เขา​ก็​อายุ​ปูน​นั้นแล​้ว​ ​เขา​อาจจะ​ไม่​สามารถ​ผ่าน​บทลงโทษ​นี้​ไป​ได้​”

​ความโกรธ​ที่อยู่​ใน​อก​ของ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​สงบ​ลง​แล้ว​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​รำคาญ​เสียงสะอื้น​ของ​ซู​เหยี​ยน​โม่​อยู่​ ​แม้​เขา​จะ​รู้ดี​ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​พวกเขา​ก็​ยัง​เกี่ยวดอง​กัน​ ​หาก​มี​ใครคนหนึ่ง​ชนะ​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​พวกเขา​จะ​ได้รับ​ชัยชนะ​นั้น​ไป​ด้วย​ ​เช่นเดียวกัน​ ​หาก​มี​ใครคนหนึ่ง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ ​ทั้ง​นาง​กับ​เขา​ก็​จะ​พลอย​เสื่อมเสีย​ไป​ด้วย

​ยิ่งกว่านั้น​ ​ต่อให้​สายลับ​ของ​พวกเขา​จะ​ถูก​กำจัด​ไป​จน​หมด​แล้ว​ ​แต่​ตระกูล​ซู​ก็​ยัง​มีอำนาจ​ทางทหาร​ของ​เมืองหลวง​อยู่​ใน​มือ

​เขา​ย่อม​ไม่​ปฏิเสธ​คำขอ​ร้อง​ให้​ช่วยเหลือ​อัคร​เสนาบดี​ซู​ ​เพราะ​เขา​ยัง​จำเป็นต้อง​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​อีก​ฝ่าย​อยู่​ ​แต่​อย่างน้อย​เขา​ก็​ต้อง​ทำ​อะไร​ให้​เป็นรูปเป็นร่าง​เพื่อให้​ซู​เหยี​ยน​โม่​ได้​เห็น​ว่า​เขา​ทุ่มเท​ความพยายาม​ของ​ตน​เพื่อ​ช่วยเหลือ​อัคร​เสนาบดี​ซู​จริง

​ซู​เหยี​ยน​โม่​เห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​นำ​เงิน​ออกมา​เป็น​จำนวนมาก​ ​นาง​ไม่รู้​เจตนา​ที่แท้​จริง​ของ​เขา​ ​และ​เชื่อ​ว่า​เขา​พร้อม​ที่จะ​สละ​เงิน​มาก​ถึง​เพียงนั้น​เพื่อ​ซื้อใจ​บรรดา​ขุนนาง​ให้​ช่วย​บิดา​ของ​ตน

​นาง​ไม่​ฉุกใจ​คิด​แม้แต่​นิดเดียว​เลย​ว่า​มีเงิน​เพียง​หยิบ​มือ​เดียว​เท่านั้น​ที่​ถูก​ใช้​เพื่อ​การ​นั้น​จริง​ ​แต่​เงิน​ที่​เหลือ​ส่วนมาก​นั้น​กลับกลาย​เป็น​ของขวัญ​ให้​กับ​หลาน​เหลียน​ที่อยู่​ใน​หอ​เล็ก​ๆ​ ​แห่ง​นั้น​ต่างหาก​…

​ที่​ด้านนอก​นั้น​เมฆฝน​ก้อน​ใหญ่​กำลัง​ก่อตัว​ในขณะที่​อัคร​เสนาบดี​ซู​ยังคง​คุกเข่า​อยู่​ที่​เดิม​ ​ลมหายใจ​ของ​เขา​แผ่วเบา​ลง​ทุกขณะ​พร้อมกับ​สีสัน​บน​ใบหน้า​ที่​ซีด​ลง​เรื่อยๆ

​สุดท้าย​เขา​ก็​ลงเอย​ด้วย​การนั่งคุกเข่า​อยู่​จนถึง​รุ่งสาง​ใน​วัน​ถัดมา

​บรรดา​เพื่อนร่วมงาน​ของ​เขา​ต่าง​ส่ายหน้า​เมื่อ​เดินผ่าน​มา​เห็น​เขา​ระหว่างทาง​ไป​ประชุม​ราชสำนัก​ใน​ตอนเช้า

​อัคร​เสนาบดี​ซู​ไม่เคย​คิดมาก​่อ​นว​่า​คนชั้นสูง​อย่าง​เขา​ที่​ควรจะ​ได้​ใช้ชีวิต​อัน​สงบสุข​ใน​ช่วง​บั้นปลาย​ของ​ชีวิต​กลับ​ต้อง​มา​พบ​กับ​การ​ลงโทษ​และ​ความอัปยศ​เช่นนี้

​เขา​หมดสติ​ไป​เพราะ​อารมณ์​รุนแรง​ที่​ก่อตัว​ขึ้น​ ​เมื่อ​เขา​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​ขา​ข้าง​ซ้าย​ของ​เขา​ก็​ไร้ความรู้สึก​ไป​เสีย​แล้ว​ ​ต่อไป​ในอนาคต​ ​เวลา​ที่​เขา​จะ​เดิน​ไป​ไหน​ก็​คง​หนี​ไม่​พ้น​ต้อง​ใช้​ไม้เท้า​ช่วย​เป็นแน่​!

​อัคร​เสนาบดี​ซู​จะ​กล้ำกลืน​ฝืนทน​กับ​ความอับ​อาย​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​!

​แต่​มัน​ก็​ไม่มีทาง​เลือก​ ​เพราะ​วิธีการ​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยนั​้น​ชั่วร้าย​เกินไป​ ​ต่อให้​อัคร​เสนาบดี​ซูนำ​เรื่อง​นี้​เข้าไป​โต้เถียง​ใน​การประชุม​ของ​ราชสำนัก​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ระบุ​ความผิด​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​แม้แต่​ข้อ​เดียว

​แม้​เขา​จะ​รู้สึก​เจ็บใจ​ ​แต่​ก็​ทำได้​แค่​อดทน​เท่านั้น​!

​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​เป็น​คนที​่​รู้​ว่า​ตน​ควรจะ​ปฏิบัติตัว​อย่างไร​ ​เขา​รีบ​ไปหา​อัคร​เสนาบดี​ซู​ที่​จวน​ทันทีที่​เขา​ถูก​ปล่อยตัว

​“​ข้า​ประเมิน​นัง​เด็ก​นั่น​จาก​จวน​ของ​เจ้า​ผิด​ไป​จริงๆ​”​ ​อัคร​เสนาบดี​ซู​หายใจเข้า​ลึก​พลาง​มอง​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า

​“​ข้า​ ​เฮ่อ​เหลียน​กวง​เย​่า​ไม่เคย​มีตั​วกา​ลกิ​ณี​ที่​ไร้มารยาท​เช่นนั้น​อยู่​ใน​ครอบครัว​ขอรับ​”​ ​เขา​ระเบิด​เสียงหัวเราะ​อัน​เย็นชา​และ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความเกลียดชัง​ออกมา​ ​พร้อมกับ​พูด​ต่อ​ ​“​ท่าน​พ่อตา​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​นะ​ขอรับ​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​พยายาม​มาก​เพียงใด​ ​แต่​นาง​ก็​จะ​ไม่มีวัน​ได้​ใน​สิ่ง​ที่​ต้องการ​แน่นอน​ขอรับ​ ​หลังจาก​การประชุม​ของ​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​จบ​ลง​ ​นาง​ก็​จะ​ได้​รู้ซึ้ง​ถึง​ชะตากรรม​อัน​เลวร้าย​ที่​รอคอย​นาง​อยู่​ใน​ข้อหา​กล้ามา​ทำตัว​เสียมารยาท​กับ​พวกเรา​ขอรับ​…​”