บทที่ 267 คุณนายสาม ฉันมาแล้ว

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“อาหาน ที่นี่ใหญ่โคตรโตเลยนะ”

เฉินฮวนฮวนหมุนตัวกลับมา ก่อนจะยกมือขึ้นมาเกาศีรษะและพูดว่า : “แม่บ้านหลี่ก็อายุมากแล้ว เธอทำความสะอาดบ้านและห้องน้ำหนักอยู่แล้ว ไม่ควรเพิ่มงานให้เธออีก ถ้าแค่เสี่ยวลี่เพียงคนเดียวก็พอ เธอลำบากมาก เธอมีความกดดันสูงมาก ซึ่งฉันรู้สึกว่า…..”

“ฮวนฮวน”

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เฟิงหานชวนก็พูดตัดบทเธอ จากนั้นก็เดินไปหาเธอทันที

“อื้อ” เฉินฮวนฮวนตอบรับสั้น ๆ

“ผมรู้ความหมายของคุณ ความคิดของผมเหมือนกับคุณ” เดิมทีเฟิงหานชวนไม่ได้คิดมากแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาคิดแล้ว

เขาเอื้อมมือไปตบไหล่ของเฉินฮวนฮวนเบา ๆ และพูดว่า : “ผมให้แม่บ้านหลี่เลือกคนใช้อีกสองคน จากนั้นก็เดินทางมาพร้อมกัน”

“ดีเลย” เฉินฮวนฮวนกระตุกยิ้มมุมปาก พร้อมกับพยักหน้า

……

เพราะแม่บ้านหลี่ยังไม่มา ดังนั้นเฟิงหานชวนจึงต้องเป็นคนเตรียมอาหารเช้าด้วยตัวเอง

เฟิงหานชวนถามเธอว่าอยากจะกินอะไร เฉินฮวนฮวนอยากกินโจ๊กและหมูหย็อง ดังนั้นอาหารมื้อเช้าจึงต้องเป็นสองอย่างนี้

หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จ เฉินฮวนฮวนก็เร่งให้เฟิงหานชวนไปบริษัท ส่วนตัวเองก็กลับมายังห้องนอน เตรียมตัวจะนอนหลับอีกสักตื่น

ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เธอถูกเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ปลุกให้ตื่นขึ้น

เธอเอื้อมมือออกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง จากนั้นก็หรี่ตาเล็กน้อย ในตอนที่เห็นรายชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์นั้น เธอก็ตาสว่างโพลงในทันที

นั้นคือสายจากเกาเหวิน

เฉินฮวนฮวนรีบลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็กดรับสายอย่างรวดเร็ว

“ฮวนฮวน เธอแน่ใจว่าจะถอนตัวจากการแข่งขันจริง ๆ ใช่ไหม? เมื่อเช้าฉันได้รับสายจากประธานเฟิงแล้ว บอกว่าเธอตั้งท้อง” น้ำเสียงของเกาเหวินดูลำบากใจเล็กน้อย ไม่ได้กังวานเหมือนอย่างเคย แต่กังวลใจอย่างเห็นได้ชัด

เธอแค่คิดไม่ถึงว่า เฉินฮวนฮวนจะตั้งท้องทายาทของตระกูลเฟิงเร็วขนาดนี้ ถ้าคลอดออกมาเป็นลูกชาย งั้นก็เข้าข่ายที่ว่าแม่ได้ดีเพราะลูก ได้ครองตำแหน่งคุณนายสามประจำตระกูลเฟิงอย่างสบาย ๆ

เธออิจฉาเฉินฮวนฮวน และก็ดีใจกับเฉินฮวนฮวนในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ไม่ค่อยชินกับการเปลี่ยนแปลงสถานะอย่างกะทันหันของทั้งสองคน

ก่อนหน้านั้นเธอเป็นเจ้านายของเฉินฮวนฮวน เฉินฮวนฮวนก็ยังเป็นแค่เด็กฝึกผู้หญิงที่ขยันทำงานและประหยัดมัธยัสถ์ มีภูมิหลังในครอบครัวที่ค่อนข้างซับซ้อน ต่างก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันกับยายแค่สองคน ซึ่งเธอก็ได้ทำงานอยู่ในร้านชานมด้วยความขยันขันแข็งและซื่อสัตย์มาก

แต่ตอนนี้ ระยะเวลาแค่ครึ่งเดือน เธอไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ตำแหน่งของเฉินฮวนฮวนกลับเลื่อนสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว

ดั่งสำนวนที่ว่า นกกระจอกเปลี่ยนเป็นหงส์

เดิมทีเมื่ออยู่ต่อหน้าของเฉินฮวนฮวน เพราะสถานะของเธอ จริง ๆ ก็พูดได้ว่าสูงกว่าเฉินฮวนฮวนระดับหนึ่ง ไม่ว่ายังไงตัวเองก็เป็นเจ้านายคนหนึ่ง ย่อมปฏิบัติต่อพนักงานด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เธอไม่สามารถใช้น้ำเสียงของเจ้านายสั่งหรือวางแผนงานให้กับเฉินฮวนฮวนได้อีกแล้ว

“พี่เหวิน ขอโทษนะคะ ฉัน…..ฉันต้องถอนตัวจากการแข่งขันจริง ๆ” เฉินฮวนฮวนเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สับสนอย่างเห็นได้ชัด : “อาการแพ้ท้องตอนนี้ก็ยังไม่คงที่ ฉันเป็นห่วงว่าการฝึกจะหนักเกินไปแล้วส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ ดังนั้นฉันจึงปรึกษากับเฟิงหานชวนแล้ว ว่าจะขอถอนตัวออกชั่วคราว”

“จริง ๆแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้ถอนตัวหรอกนะ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็คงต้องถอนตัว”

เฉินฮวนฮวนรู้สึกเสียดายจริง ๆ เธออยากทะนุถนอมโอกาสแบบนี้ไว้ แต่เธอกลับไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

“เฮ้อ น่าเสียดายจริง ๆ!” เกาเหวินทอดถอนใจอย่างหนักหน่วง

ถึงแม้ว่าเฟิงหานชวนจะรับผิดชอบในส่วนของค่าชดเชยจากการผิดสัญญาให้กับเกาเหวิน อีกทั้งยังไม่ยอมให้ซงหลิงเอ่อร์มาแทนตำแหน่งของเฉินฮวนฮวนด้วย แต่เธอไม่ได้ต้องการเงิน ซึ่งเธอทำได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน

เธอบอกกับจางฟานไปแล้วว่าเฉินฮวนฮวนเป็นภรรยาของเฟิงหานชวน จางฟานคิดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นคนของเกาเหวิน และคิดว่าเธอสามารถมากพอที่จะสานสัมพันธ์กับตระกูลเฟิงได้ ดังนั้นสองวันมานี้จึงยอมเชื่อฟังเธอ ไม่ได้สนใจซงหลิงเอ่อร์อีก

และยังรับปากกับเธอว่าจะไม่กลับไปสนใจซงหลิงเอ่อร์อีก

แต่ตอนนี้ ถ้าเฉินฮวนฮวนถอนตัวออกจากการแข่งขัน เธอจะไม่มีเฉินฮวนฮวนในฐานะภรรยาของตระกูลเฟิงอยู่ในกำมืออีก จางฟานก็คงคิดว่าเธอคงไม่สามารถสานสัมพันธ์กับตระกูลเฟิงได้อีก และอาจจะต้องกลับไปหาซงหลิงเอ่อร์อีกครั้งก็ได้

ดังนั้นตอนนี้เกาเหวินไม่แคร์เงินค่าเสียหาย ไม่แคร์เรื่องเงิน แต่แคร์แค่เฉินฮวนฮวนคนเดียวเท่านั้น

ทว่าตอนนี้สถานการณ์การตั้งท้องของเฉินฮวนฮวนทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ ถ้ายังฝืนโน้มน้าวให้เฉินฮวนฮวนทำการแข่งขันต่อ เกิดเฉินฮวนฮวนไปบอกเฟิงหานชวน เธออาจจะเข้าไปล่วงเกินเฟิงหานชวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สมองในตอนนี้ของเกาเหวินสับสนมาก อารมณ์ของเธอดำดิ่งมากเช่นกัน

“พี่เหวิน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะ ที่ทำลายความหวังของพี่” เฉินฮวนฮวนเองก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย

เกาเหวินเชื่อใจเธอ ดังนั้นจึงให้เธอมาแทนที่ของตัวเอง แต่เธอกลับทรยศเกาเหวิน

“เธอไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอก เธอไม่มีอะไรต้องมาขอโทษฉัน อีกอย่างเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกะทันหันด้วย ประธานเฟิงก็บอกแล้วว่าพวกเธอสองคนก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย” เกาเหวินเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร แค่รู้สึกลำบากใจเท่านั้น

ถ้าเฉินฮวนฮวนถอนตัวอย่างเป็นทางการ ก็เท่ากับว่าถอนตัวออกจากบริษัทของเธอและจางฟานด้วย หลังจากนั้นจางฟานก็จะกำเริบเสิบสานขึ้นมาอีกครั้ง

เดิมทีคิดว่าจะแค่พึ่งพาสถานะของเฉินฮวนฮวน ก็สามารถจับจางฟานให้อยู่มัดได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า…..

“ฮวนฮวน เธอตัดสินใจจะถอนตัวจริง ๆ แล้วใช่ไหม? จริง ๆ แล้วถ้าเธอยัง……..” เกาเหวินหยุดชะงักไปในทันที ก่อนจะถามขึ้นว่า : “กู้ไหว่รู้เรื่องนี้ไหม? เขาให้ความสำคัญกับเธอมากไม่ใช่เหรอ? บอกว่าจะฝึกเธอให้ไปอยู่กลุ่มร้องให้ได้”

“ยังเลยค่ะ พี่เหวิน ฉันไม่มีเบอร์ติดต่อครูกู้ เลยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้า พร้อมกับปฏิเสธออกไป

ตอนที่อยู่ในค่ายเธอและกู้ไหว่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะครูและเด็กฝึก คอยชื่นชมกันและกัน แต่ด้วยเวลาและห้องเรียนที่จำกัด จึงไม่มีใครล้ำเส้นกัน

เมื่อเกาเหวินได้ยิน เธอก็ตระหนักได้ทันที จึงทำการยื้ออีกครั้ง : “ถ้ากู้ไหว่รู้เรื่องที่เธอถอนตัวละก็ จะต้องผิดหวังมากแน่ ๆ เพียงแต่เธอไม่สามารถบอกเขาเรื่องที่เธอตั้งท้องได้ ถึงอย่างไรก็คงจะไม่สะดวกจะให้คนอื่นรู้เรื่องนี้”

เมื่อได้ยิน เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกอึดอัดใจทันที สีหน้าหม่นหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับกู้ไหว่นั้น เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเขาเหมือนครูผู้มีพระคุณของตัวเอง เขาคาดหวังในตัวเธอสูงมาก และเพราะแบบนี้ จึงได้ไปหาเรื่องฉินฟางฟางตอนที่คนเหล่านั้นมารุมเธอ

“ไอหยา ฮวนฮวน ฉันไม่อยากบังคับเธอหรอกนะ ถึงอย่างไรเด็กในท้องก็สำคัญ ตระกูลเฟิงก็คงจะไม่อนุญาตให้เธอลงแข่งขันต่อแน่ ๆ เอาแบบนี้ละกัน วันนี้ตอนบ่ายฉันจะช่วยยื่นเรื่องถอนตัวให้กับเธอ ถึงตอนนั้นฉันจะบอกว่าเธอตกบันได สมองได้รับความกระทบกระเทือนและกระดูกหัก เธอจะถือสาไหม?”

“ไม่อย่างนั้นถ้าไม่มีข้ออ้างที่ดีมากพอ อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ต่อไป ตรงกันข้ามเกิดเด็กฝึกคนอื่นรู้เข้า คงได้มีข่าวลือเรื่องเธอแน่” เกาเหวินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

หลังจากที่เฉินฮวนฮวนได้ยินที่เกาเหวินพูด หัวคิ้วก็ได้ขมวดเข้าหากันทันที

“พี่เหวิน สถานการณ์ในตอนนี้ของฉันไม่สามารถฝึกซ้อมท่าเต้นที่ยากเกินไปได้ ถ้าขาได้รับบาดเจ็บ ฉันจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันต่อได้ไหม?” เฉินฮวนฮวนเอยถามขึ้น

หลังจากที่ถามจบ เธอก็คิดขึ้นได้ เกาเหวินเองก็เคยได้รับบาดเจ็บที่ขาจึงต้องถอนตัว ไม่เช่นนั้นโอกาสคงไม่มีทางตกมาอยู่ที่เฉินฮวนฮวนหรอก

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ละ? แต่ตอนนั้นความต้องการของฉันมันสูงมาก คิดว่าถ้าเขาร่วมการแข่งขันโดยไม่มีการเต้น ก็เหมือนกับการแสดงที่ไร้วิญญาณ ดังนั้นฉันจึงได้ถอนตัว” ตอนนี้เกาเหวินพยายามรั้งเฉินฮวนฮวนไว้

เธอโน้มน้าวต่อว่า : “จริง ๆ แล้วถึงเธอจะตั้งท้อง แต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้สักหน่อย เธอไม่ต้องเต้นท่ายากที่ต้องกระโดดสูงอะไรแบบนั้นก็ได้ เต้น ๆ ไปตามกลุ่ม ถือซะว่าเป็นการออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย คนท้องยังไง ๆ ก็คงจะให้นอนเฉย ๆ อยู่บนเตียงไม่ได้ เมื่อก่อนตอนที่แม่ของเราตั้งท้องก็ยังดำนาทำงานเป็นปกติเลย!”

หลังจากที่เกาเหวินพูดปลุกระดมแล้ว ก็พบว่าเฉินฮวนฮวนนั้นเงียบไป ซึ่งนั้นก็ทำให้ตระหนักได้ถึงการกระทำของตัวเอง จึงรีบอธิบายทันทีว่า : “ฮวนฮวน ฉันไม่ได้อยากจะโน้มน้าวอะไรเธอนะ เธออย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดนะ เธอถอนตัวได้ ฉันสนับสนุนเธอเต็มที่”

“พี่เหวิน ฉันขอกลับไปคิดดูก่อนนะ” เฉินฮวนฮวนกำลังสับสนมาก

จริง ๆ แล้วเธอไม่ใช่คนที่สบายเหมือนอย่างคนอื่น ตั้งแต่เด็กจนโต เธอยุ่งตลอดเวลา ไม่เคยได้หยุดพักเลย

จู่ ๆ จะให้เธอมานอนเฉย ๆ อยู่บนเตียงนอน สำหรับเธอแล้ว คงจะทรมานน่าดู

เมื่อเฉินฮวนฮวนพูดประโยคนี้จบ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขยายออกมาจากหน้าห้องนอน และยังดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดด้วย

“คุณนายสาม ฉันมาแล้ว…”

เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ยิน เธอก็เห็นหลิวหลี่ถงในชุดกระโปรงฟูฟ่องเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้ามาหาเธอ