พอแสดงโชว์แรกเสร็จ มีการทดสอบการเต้นเป็นทีม แล้วจากช่วงเวลาที่เรียนเต้นกับความสามารถ ก็ประเมินอันดับอีกครั้ง
นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไม เฉินฮวนฮวนจึงลังเล
“ส่วนของการเต้นทีม ถ้าคุณไม่สามารถฝึกซ้อมได้จริงๆ ก็ละไปได้เลย แต่ก็อาจจะ……ถูกแบ่งให้เข้าห้องD”
เสียงของกู้ไหว่หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอีกว่า “ถ้าคุณมั่นใจว่าสามารถแซงขึ้นมาได้ ผมขอแนะนำแบบนี้ดีกว่า อย่ายอมแพ้ง่ายๆ มันน่าเสียดาย”
การจัดลำดับในรายการ จะแบ่งจากการโชว์ความสามารถแต่ละครั้ง แล้วแบ่งห้องให้ มีทั้งหมดสี่อันดับก็คือ ABCD ห้องDก็แสดงว่าเป็นเด็กฝึกไม่มีความสามารถ เป็นลำดับที่แย่ที่สุด
“ครูกู้คะ หนู……หนูอยากร่วมรายการด้วยวิธีแบบนี้ค่ะ แต่หนูอยากปรึกษากับครอบครัวก่อน เดี๋ยวค่อยโทรกลับครูกู้ ได้ไหมคะ?” เฉินฮวนฮวนพยายามควบคุมเสียงตัวเองไว้
ไม่ว่าสุดท้ายเธอจะได้เดบิวต์หรือเปล่า แต่ก็รู้ว่าสถานการณ์ของเธอตอนนี้คงเดบิวต์ไม่ได้ แต่ถ้าได้ลองมาด้วยตัวเอง เธอก็ไม่เสียใจ
อย่างน้อย เธอก็จะไม่รู้สึกผิดกับเกาเหวิน คุ้มกับที่ฝึกหนักมาครึ่งเดือน คุ้มกับความคาดหวังของกู้ไหว่
“ได้ เดี๋ยวผมรอคำตอบคุณ” กู้ไหว่เอ่ยตอบ
“งั้นหนูวางก่อนนะคะ ครูกู้”
“อื้อ”
พอเฉินฮวนฮวนกดวางสายแล้ว กำลังจะโทรหาเฟิงหานชวน จะปรึกษากับเขาเรื่องที่ยังไม่ถอนตัวออก แต่ยังไม่ทันโทรไป หน้าประตูก็มีเสียงของหลิวหลี่ถงดังขึ้นมา
“คุณหญิงสามคะ แม่บ้านหลี่ให้ฉันมาเรียกคุณไปทานมื้อเที่ยงค่ะ” หลิวหลี่ถงยืนรออยู่หน้าประตู ไม่ได้เดินเข้ามา มือทั้งสองข้างประสานกันไว้ข้างหน้า ดูมีมารยาทมาก
เมื่อกี้ตอนที่เฉินฮวนฮวนคุยโทรศัพท์ เธอก็มาถึงหน้าประตูแล้ว แค่รอให้เธอกดวางสาย แล้วค่อยเอ่ยพูด
เพราะตอนนี้ เธอไม่กล้าทำตัวเหิมเกริม กลัวว่าตัวเองจะโดนเฉินฮวนฮวนไล่ออก แล้วเสียงานนี้ไป
“เดี๋ยวฉันค่อยลงไป ตอนนี้มีธุระจะคุยโทรศัพท์ เธอลงไปก่อนแล้วกัน” เฉินฮวนฮวนทำตัวนิ่งเฉย น้ำเสียงก็กลับมาอ่อนโยนเหมือนปกติ
“ได้ค่ะ” หลิวหลี่ถงพยักหน้า แล้วเดินถอยออกไป
แต่ว่า เธอไม่ได้ไปไหน กลับยืนอยู่ที่บันไดชั้นสาม เพราะประตูห้องนอนหลักไม่ได้ปิด เธอยืนอยู่ที่บันได จึงได้ยินเสียงของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนรีบโทรหาเฟิหานชวนทันที เฟิงหานชวนกำลังประชุมอยู่ พอเห็นโทรศัพท์สั่น แล้วหน้าจอขึ้นว่า”คุณภรรยา” จึงรีบทำมือให้หยุด
เขารีบลุกขึ้น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก้าวเดินออกจากห้องประชุมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกดรับสาย
“อาหาน คุณรับโทรศัพท์สักที ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เฉินฮวนฮวนรีบเอ่ยพูดอย่างตื่นเต้น
เขาฟังออกว่าน้ำเสียงเธอแฝงไปด้วยความดีใจ เฟิงหานชวนจึงโล่งอก เมื่อกี้เขาเกร็งมาก กังวลว่าเกิดเรื่องอะไรกับเฉินฮวนฮวนหรือเปล่า
“เรื่องอะไรเหรอ? น่าจะเป็นเรื่องดีใช่ไหม? ฟังดูแล้วคุณมีความสุขมาก” เฟิงหานชวนถามอย่างใจเย็น
“สำหรับฉันถือเป็นเรื่องดี แต่ว่า……ฉันกังวลว่าคุณจะไม่ตกลง” เฉินฮวนฮวนเม้มปาก แต่ก็พูดออกมา
“หื้อ? ผมไม่ตกลง?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามอย่างสงสัย “พูดเถอะ เรื่องอะไร?”
“คือคุณครูกู้ของฉันตอนที่ฝึกอบรม ช่วยฉันให้ร่วมรายการเพราะบาดเจ็บได้ ไม่ต้องเต้น ขอแค่ร้องเพลงก็พอแล้ว ฉันรู้สึกว่าแบบนี้ไม่กระทบกับลูก คุณน่าจะตกลงใช่ไหม?”
ตอนที่เฉินฮวนฮวนพูด ในใจเกร็งมาก อยู่ๆก็รู้สึกเกร็ง กลัวว่าเฟิงหานชวนจะไม่ตกลง
ตามคาด พอเฉินฮวนฮวนพูดจบ สีหน้าเฟิงหานชวนจึงเข้มขรึมทันที แค่เฉินฮวนฮวนไม่เห็นสีหน้าเขา
“กู้ไหว่?” เสียงของเขาทุ้มต่ำ แล้วเอ่ยถามว่า “ผมจำได้ เขาเป็นผู้ชาย ทำไมต้องดีกับคุณขนาดนี้ด้วย?”
“ไม่ใช่นะอาหาน คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันกับครูกู้เป็นแค่ศิษย์กับคุณครู ฉันเคารพเขามาก เขาก็ฝากความหวังกับฉัน เขาเลยไม่อยากให้ฉันถอนตัวออกแบบนี้” เฉินฮวนฮวนรีบอธิบาย เธอกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไป จะทำให้เฟิงหานชวนเข้าใจผิด
“สถานการณ์ตอนนี้ของร่างกายคุณ ไม่ควรไปร่วมรายการ” เสียงเฟิงหานชวนเย็นชามาก เหมือนไม่อยากให้ปฏิเสธ
ความเข้มขรึมของเขา ทำให้เฉินฮวนฮวนเริ่มใจร้อน เธอรู้ว่าเฟิงหานชวนทำเพื่อเธอ แต่เธอไม่อยากปล่อยโอกาสแบบนี้ไป
ถ้าอยู่บำรุงครรภ์ที่บ้าน เธอคงเบื่อตายแน่ๆ
แล้วอีกอย่าง เด็กคนนี้ ต้องทำให้เธอคิดมากแน่นอน ถ้าไม่หาอะไรทำ เธอกลัวว่าตัวเองจะคิดสั้น
“อาหาน ฉันอยากไปลองจริงๆ ถ้าฉันรู้สึกว่ากระทบกับลูก ฉันจะรีบถอนตัวออกจากรายการ ได้ไหม?” เฉินฮวนฮวนใช้น้ำเสียงที่ปรึกษา แล้วเอ่ยถามเขา
มือของเฟิงหานชวนที่จับโทรศัพท์ จับแน่นขึ้นกว่าเดิม เฉินฮวนฮวนขอร้องเขา เขาทำใจปฏิเสธไม่ได้เลย ไม่กล้าใช้น้ำเสียงบังคับ แล้วให้เธอบำรุงครรภ์ที่บ้านดีๆ
แต่ว่า เขาถามหรงจิ่นซิวแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ของเธอนอนพักผ่อนบำรุงครรภ์ดีที่สุด รอให้ทุกอย่างคงที่แล้ว ค่อยทำกิจกรรมได้
“อาหาน ฉันกลัว ฉันกลัวว่าถ้าเอาแต่อยู่บ้าน ฉันจะคิดมาก คิดมากเกี่ยวกับที่มาของเด็กคนนี้ เพราะฉะนั้นฉัน……ฉันก็เลยอยากหาอะไรทำ……” เฉินฮวนฮวนเห็นเฟิงหานชวนไม่ตอบ จึงรวบรวมความกล้า แล้วพูดเรื่องนี้
ที่บันไดชั้นสาม คนที่แอบยืนอยู่ที่นั่นได้ยินคำนี้ จึงเบิกตาโตอย่างตกใจ แล้วอ้าปากค้าง กลัวว่าตัวเองจะส่งเสียงออกมา จึงรีบปิดปากตัวเองไว้
หลิวหลี่ถงเข้าใจแล้วว่า อะไรคือได้มาฟรีๆโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้ เฉินฮวนฮวนก็พูดเรื่องนี้ออกมาเอง เฉินฮวนฮวนคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าตอนนี้เธอแอบฟังอยู่ข้างนอก
แต่ว่า หลิวหลี่ถงก็รีบตั้งสติ สิ่งที่เฉินฮวนฮวนพูดเมื่อกี้ คือพูดกับคุณชายสาม หรือว่า……คุณชายสามรู้ว่าเด็กไม่ใช่ของเขา แต่ก็ยังยอมเป็นพ่อ?
พระเจ้า!
หลิวหลี่ถงอึ้งนิ่งอยู่กับที่
ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างล่างบันได เธอรีบหันกลับไป แล้วเดินลงไปอย่างลนลาน แล้วที่บันไดชั้นสอง ก็เจอกับแม่บ้านหลี่ที่กำลังขึ้นมาพอดี
“ให้เธอไปเรียกคุณหญิงลงมาทานข้าวไม่ใช่เหรอ? คุณหญิงล่ะ?” เห็นว่าหลังหลิวหลี่ถงไม่มีใครเลย แม่บ้านหลี่จึงอารมณ์ขึ้น แล้วพูดเสียงดังใส่หลิวหลี่ถง
ที่เธอพาหลิวหลี่ถงมาด้วย ก็คิดว่าอายุหลิวหลี่ถงกับเฉินฮวนฮวนไม่ห่างกันมาก บวกกับหลิวหลี่ถงบอกว่าคุยกับเฉินฮวนฮวนถูกคอ แล้วหวังว่าเธอจะช่วยอะไรได้ แต่ไม่คิดเลยว่าช่วยอะไรไม่ได้เลย ยังทำให้เฉินฮวนฮวนอารมณ์เสียอีก
“ไม่ใช่ค่ะแม่บ้านหลี่ คุณหญิงสามกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ค่ะ บอกว่าเดี๋ยวลงมา”
ครั้งนี้หลิวหลี่ถงน้อยใจมาก ทั้งๆที่เธอไปแจ้งแล้ว แต่เฉินฮวนฮวนไม่ลงมาสักที แล้วแม่บ้านหลี่ก็โทษเธอ
ถึงตอนนี้เธอโมโหจะเป็นบ้า แต่ในใจก็สงสัยมาก เธอยังไม่รู้เลยว่าระหว่างเฉินฮวนฮวนกับคุณชายสาม เกิดเรื่องอะไรกันแน่ คุณชายสามถึงยอมเลี้ยงลูกคนอื่น?
หรือว่า ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่า เขาโดนสวมเขา?
แต่ว่า คุณชายสามไม่ต้องแคร์เรื่องนี้เลย ถ้าจากนิสัยเมื่อก่อนของคุณชายสาม เฉินฮวนฮวนท้องลูกของคนอื่น คุณชายสามก็มีโอกาสพอดี แล้วเตะเฉินฮวนฮวนทิ้ง
หรือว่าคุณชายสามหลงรักเฉินฮวนฮวนจริงๆ? ก็เลยยอมเลี้ยงลูกของคนอื่น เพื่อรั้งเฉินฮวนฮวนไว้?
หลิวหลี่ถงงงมาก ในสมองตีกันวุ่น คิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจสักที
“ในเมื่อคุณหญิงคุยโทรศัพท์อยู่ งั้นเราก็ลงไปรอข้างล่าง” แม่บ้านหลี่ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วหันหลังเดินลงไป
หลิวหลี่ถงแอบเหลือบมองชั้นบน กำมือแน่น แล้วกัดฟัน จากนั้นจึงเดินตามแม่บ้านหลี่ลงไป
ห้องนอนหลักชั้นสาม เฉินฮวนฮวนกำลังรอคำตอบของเฟิงหานชวน เหมือนเฟิงหานชวนจะยอมแล้ว แต่ต้องถามหรงจิ่นซิวก่อน
ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้รับสายโทรกลับจากเฟิงหานชวน เสียงของเขาทุ้มต่ำมาก แล้วเหมือนทำอะไรไม่ได้ “ถ้าไม่ต้องเต้น แค่ร้องเพลง น่าจะไม่มีปัญหาอะไร กี่วันนี้ก็กินยาบำรุงครรภ์ดีๆ เดี๋ยวอีกสองสามวันผมพาคุณไปตรวจ ถ้าแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร คุณก็ไปร่วมรายการต่อได้”
“รอก่อนอาหาน ครูกู้ยังรอให้ฉันตอบกลับ ในเมื่อหรงจิ่นซิวบอกว่าแค่ร้องเพลงไม่เป็นอะไร งั้นฉันตอบตกลงครูกู้ก่อนว่าจะร่วมรายการต่อ ได้ไหม?” เสียงของเฉินฮวนฮวนอ้อนมาก แล้วขอร้องอ้อนวอนเขา
ถึงแม้เฟิงหานชวนไม่อยากให้เฉินฮวนฮวนไปร่วมรายการ แต่ก็คิดได้ว่าร่วมรายการอาจจะทำให้เธอสดใสขึ้น แล้วลืมหลิวตงรุ่ยไปซะ เขาจึงกัดฟัน แล้วจำใจตกลง
“ได้”
พอเฟิงหานชวนตกลงแล้ว เฉินฮวนฮวนยังไม่ทันดีใจ ก็ได้ยินเขาย้ำอีกว่า “แต่ว่า ระหว่างร่วมรายการ ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหน ต้องรีบบอกผม รู้ไหม?”
“รู้แล้ว” เฉินฮวนฮวนรีบพยักหน้า
“กินมื้อเที่ยงหรือยัง?” เฟิงหานชวนถามอย่างเป็นห่วง
“ยัง เดี๋ยวค่อยไป แม่บ้านหลี่ทำเสร็จแล้ว” เฉินฮวนฮวนตอบ
“อย่าทนหิว รีบไปกินข้าวเลย เดี๋ยวต้องกินยาอีก” เฟิงหานชวนพูดย้ำ
“ฉันรู้แล้ว รู้แล้ว” เฉินฮวนฮวนเหมือนเด็กที่กำลังโดนอบรม ทำได้แค่ตอบตกลง
“อื้อ เดี๋ยวผมต้องประชุมต่อ เจอกันตอนเย็น” เฟิงหานชวนค่อยนึกถึงการประชุมที่ตัวเองหยุดไปกลางคัน
เฉินฮวนฮวนรีบตอบว่า “คุณรีบไปประชุมเถอะ ประชุมสำคัญกว่า เจอกันตอนเย็นนะ”
ตอนที่เฉินฮวนฮวนกำลังจะกดวางสาย เสียงที่เข้มขรึมของเขาจึงดังขึ้นว่า “ไม่ คุณสำคัญกว่าการประชุม”
“อือ……วางละนะ!” พูดจบ เฉินฮวนฮวนก็รีบวางสายทันที
มองหน้าจอที่ดับไปแล้ว เธอรู้สึกแค่ว่าใจเต้นแรงมาก เธอทาบหน้าอก แล้วแก้มก็แดงทั้งสองข้าง
เฟิงหานชวนนี่หนา ตอนที่ทำตัวจริงจังยังจะหยอกคนอื่นอีก