ตอนที่ 260 ปฏิญญาต้าเต๋า หนึ่งแผนการ ห้าหลอกลวง (2)
แค่กๆ มาลงมือจัดการงานให้ถูกต้องกันเถิด
กลอุบายที่หลี่ฉางโซ่วมอบให้จ้าวกงหมิงนั้น มีข้อบกพร่องร้ายแรงอยู่เสมอ และมีข้อบกพร่องมากกว่าหนึ่งข้อ
เหตุผลที่จ้าวกงหมิงและฉยงเซียวประสบความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เป็นเพราะพวกเขาทั้งสอง แข็งแกร่งเพียงพอ
หากเป็นผู้อื่น พวกเขาก็คงถูกทำลาย กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
ครั้งนี้ ปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคิดว่า เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน ก็จะเอาชนะหวงหลงเจินเหรินได้…
เมื่อจ้าวกงหมิงปรากฏกายขึ้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพียงแค่เป็นพยานให้กับหวงหลงเจินเหรินเท่านั้น อีกฝ่ายย่อมจะถอยหนีกลับไปอย่างผิดหวัง
ทว่าจ้าวกงหมิงไม่อาจทนเห็นสหายของเขาต้องรับความเจ็บปวดทรมาน จึงทำร้ายทั้งสองคนนั้นด้วยความโกรธ ซึ่ง ทำให้การจัดการสถานการณ์ยุ่งยากขึ้นเล็กน้อย
ในขณะนั้น อีกฝ่ายหนึ่งย่อมสมควรจะเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง และไม่อยากปล่อยให้เรื่องนี้สงบลงอย่างแน่นอน เต๋าของพวกเขาได้รับความเสียหาย และจบลงด้วยชะตากรรมที่เลวร้ายอย่างแท้จริง…
และนั่นก็ได้เพิ่มความลำบากมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่อาจสังหารศิษย์ของจอมปราชญ์เทพได้ การใช้กำลังย่อมไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน
ในระหว่างทางนั้น หลี่ฉางโซ่วก็คิดกลอุบายบางอย่างขึ้นมาได้ในใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการโจมตีที่ตอบโต้ต่อการหลอกลวง
เมื่อมาถึงที่นี่ เขาก็ได้เลือกแผนกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว และรีบส่งข้อความเสียงไปให้หวงหลงเจินเหริน และจ้าวกงหมิงทันที…
แผนนั้นเรียกว่า การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด – ลักขื่อเปลี่ยนเสา[1] หนึ่งแผนการ ห้าหลอกลวง[2]- บิดเบือน-ความคิด – เต๋าสวรรค์ – ให้สัตย์ปฏิญญาต้าเต๋าที่ชัดเจน!
แล้วเขาก็พึมพำไปเรื่อย ภายใต้ลมหายใจของเขา
เมื่อหลี่ฉางโซ่วเห็นว่า หวงหลงเจินเหรินยังลังเล เขาก็กล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงไปอีกครั้ง
“หากข้าไม่อาจจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ก็เกรงว่าผู้อาวุโสและอาวุโสกงหมิงอาจจะมีปัญหา
“ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่สำนักบำเพ็ญประจิมจะจัดการกับผู้อาวุโส”
หวงหลงเจินเหรินพยักหน้าหนักแน่น เขาตัดสินใจที่จะวางแผนต่อต้านปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนนั้น
จากนั้นเขาก็กล่าวกับหลี่ฉางโซ่วว่า “ข้าหลอกน้องกงหมิงไม่ได้!” หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้ว หวงหลงเจินเหรินก็ทำตามที่หลี่ฉางโซ่วชี้แนะ เขาเผยท่าทีไม่พอใจและเริ่มก้าวออกไปข้างหน้า… ช่วยดึงจ้าวกงหมิงขึ้น ในขณะนั้น จ้าวกงหมิงก็ยังคงงุนงงอยู่บ้าง
เพราะเขาเพิ่งได้ยินเสียงของเทพแห่งท้องทะเลบอกเขาว่า อย่าเพิ่งอ้าปากพูดอะไร ให้รอสังเกตสถานการณ์เงียบๆ ก่อน ในตอนนี้ เขาจะปล่อยเรื่องนี้ให้หวงหลงเจินเหรินจัดการแก้ปัญหาชั่วคราว…
จ้าวกงหมิงจึงลุกยืนขึ้นอย่างสงบและเฝ้าดูวิธีจัดการของพี่หวงหลงก่อน
“เฮ้อ!”
หวงหลงเจินเหรินเดินบนคลื่นไปหาปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นพลางถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้าล่วงเกินสหายเต๋าทั้งสองให้ขุ่นเคืองเมื่อใดกัน?”
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสองก็กะพริบตาปริบๆ ไม่หยุด แต่ไม่อาจขยับได้เลย
หวงหลงเจินเหรินกล่าวต่อว่า “น้องกงหมิง โปรดนำไข่มุกกลับคืนมาเถิด”
“หือ?” จ้าวกงหมิงกังวลเล็กน้อย ทว่าหลี่ฉางโซ่วเอ่ยเตือนเขาอีกครั้ง เขาจึงพยักหน้าและนำไข่มุกเทพทะเลออกไป ปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนนั้นพลันกระโดดขึ้นและจ้องมองไปที่จ้าวกงหมิงทันที
“จ้าวกงหมิง! เจ้าทำลายเต๋าของข้า ข้าต้องการคำอธิบายอย่างชัดเจนสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้! ไปที่วังปี้โหยวกันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ต้องลำบากถึงเพียงนั้นหรอก” หวงหลงเจินเหรินกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ “ข้ายังขอให้สหายเต๋าทั้งสองและน้องกงหมิง โปรดตามข้ากลับไปที่วังอวี้ซวี ข้าจะไปขอให้ท่านอาจารย์ช่วยจัดการเรื่องนี้”
ทั้งสองคนนั้น ล้วนตะลึงงัน เหตุใด…
เหตุใดพวกเขาถึงไม่ทำตามแผนการหลอกลวงตามปกติเล่า?
ในตอนนี้ พวกเขาเป็นคนที่ได้รับความเจ็บปวดมากที่สุดไม่ใช่หรือ?
หวงหลงเจินเหรินสร้างเมฆขาวพลางถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ทุกคนไปกันเถิด ข้าจะคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้นหยกของท่านอาจารย์ของข้า วันนี้ข้าจะเชิญท่านอาจารย์ให้ช่วยออกมาตัดสินใจในเรื่องนี้ด้วย ข้าขอให้สัตย์สาบานว่า จะรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บของน้องกงหมิง! ต่อให้ท่านอาจารย์จะสังหารข้า ข้าก็จะไม่บ่นแม้แต่น้อย!”
ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังก้องกังวาน มันเป็นคำตอบแห่งเต๋าสวรรค์
ปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนต่างขมวดคิ้ว และตระหนักว่า… พวกเขาไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
ไม่ใช่ว่า หวงหลงคนนี้ทำเหมือนว่า เขาซื่อสัตย์และไม่ได้วางแผนร้ายหรอกหรือ?
แล้วเขาจะแตกต่างไปจากเมื่อก่อนได้อย่างไร?
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วที่ซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อของหวงหลงเจินเหรินก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้
วิธีที่ดีที่สุดในการยับยั้งตัวเองไม่ให้หลอกลวงคือ การไปหาตำรวจ แค่กๆ … จอมปราชญ์เทพ
เคล็ดลับของการหลอกลวงคือ การใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่า อีกฝ่ายจะไม่อาจเอาชนะเขาได้ ต่อให้จะต่อสู้ก็ตาม หากบอกผู้อื่น ย่อมเกรงว่าจะทำให้ตัวเองต้องอับอาย จึงไม่อยากให้ผู้ใดได้รู้เรื่องนี้
เหตุผลที่เขาต้องทำลายกลอุบายนั้น ก็เพื่อทำให้คนที่หลอกลวงเชื่อว่า เหยื่อจะทำลายตัวเองดีกว่าจะยอมทนรับความผิด…
วันนี้ ปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนกำลังวางแผนทำร้ายเขา และหากมาอยู่ต่อหน้าจอมปราชญ์เทพจริงๆ พวกเขาจะปิดบังจอมปราชญ์เทพได้อย่างไร?
ในขณะนั้น เขาเพียงแค่ต้องอาศัยจังหวะเล็กน้อยและอธิบายลักษณะของเรื่องนี้
ในยามนั้น เขาแค่ต้องทำตามขั้นตอนบางอย่างและชี้แจงความจริงของเรื่องนั้น ในเมื่อปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนนั้นพยายามจะหลอกเขา แต่ไม่ชำนาญ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บจากสหายของเหยื่ออีกด้วย
จอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมจะต้องเสียหน้าและรู้สึกอับอายอย่างแน่นอน!
ในเมื่อสำนักบำเพ็ญประจิมเป็นฝ่ายผิด จอมปราชญ์เทพก็ทำได้เพียงแอบสั่งสอนศิษย์ของพวกเขาหลังประตูปิด[3]เท่านั้น…
นักพรตเต๋าชราสองคนในชุดชุดมอมแมมรุ่งริ่งต่างก็สบตากัน ดวงตาของพวกเขาทั้งสองคนล้วนเผยแววหวาดกลัวออกมา พวกเขาย่อมคิดถึงเรื่องนี้เช่นนั้นอย่างแน่นอน
หวงหลงเจินเหรินทำตามที่หลี่ฉางโซ่วชี้แนะและกล่าวว่า “ท่านทั้งสองโปรดมากับข้าด้วย ไม่เช่นนั้น พวกเราก็ยังไปที่เขาหลิงซานแห่งสำนักบำเพ็ญประจิม วังปี้โหยว และแม้แต่วังดุสิตแห่งศาลสวรรค์ หากท่านทั้งสองยังคงลำบากใจ เช่นนั้น ไยพวกเราทั้งสามคนไม่ทำปฏิญญาต้าเต๋ากันเล่า? ข้าจะทำก่อนนะ…”
หวงหลงเจินเหรินกระแอมไอก่อนจะโค้งคำนับให้ท้องฟ้าจากระยะไกลแล้วร้องตะโกนว่า “ศิษย์หวงหลงขอแสดงความเคารพต่อเต๋าสวรรค์ หากข้าจงใจทำร้ายหรือวางแผนทำร้ายสหายเต๋าสองคนนี้มาก่อน ข้าก็ยินดีรับโทษทัณฑ์แห่งสายฟ้าเทพสวรรค์ม่วง!”
ในขณะนั้น โลกก็สงบสุข
ถ้อยคำสำคัญคือ ‘ก่อน’
หวงหลงเจินเหรินหันกลับมาพลางถอนหายใจและกล่าวว่า “ถึงคราวของสหายเต๋าแล้ว”
“พวกเราสัญญากันแต่เมื่อใดว่าจะให้สาบานเช่นนั้น”
“สหายเต๋าหวงหลง พวกเราพียงแค่…ช่างมันเถิด เรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ แน่นอนว่า จะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ขออำลา!”
ปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนล่าถอยไปในทันที
“ช้าก่อน!”
จ้าวกงหมิงไม่ได้รอให้หลี่ฉางโซ่วส่งข้อความเสียง เขาเข้าใจวิธีการร่วมมือในการแสดงสดของหวงหลงเจินเหรินแล้ว จึงลุกขึ้นยืนหยัดในทันที!
“พวกเจ้าทั้งสองคนไม่อยากสาบานในวันนี้ ก็จะจากไป เป็นเพราะว่ามีบางอย่างผิดปกติปิดบังไว้ในใจหรือไม่?”
ทั้งสองคนนั้นล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขากำลังจะใช้วิชาหลบหนี แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ แล้วไข่มุกเทพทะเลทั้งยี่สิบสี่เม็ดก็ปรากฏขึ้นไปทั่วทุกที่ และจัดการพวกเขาอย่างรวดเร็ว…
หวงหลงเจินเหรินซึ่งกำลังเฝ้าดูอยู่ข้างๆ พลันตกตะลึงเล็กน้อย ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ส่งข้อความเสียงไปให้เขาอีกครั้ง…
“ผู้อาวุโส มาคอยดูกันเถิด หลังจากนี้ เราจะปล่อยให้ผู้อาวุโสกงหมิงจัดการ”
หวงหลงเจินเหรินพยักหน้าอย่างสงบและเฝ้าสังเกตเงียบๆ จากด้านข้าง มันเป็นการเปิดหูเปิดตาสำหรับเขา
ครึ่งชั่วยามต่อมา ปรมาจารย์แห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนก็ถอนหายใจ พวกเขาให้สัตย์สาบานปฏิญญาต้าเต๋าโดยเริ่มสร้างแม่แบบใหม่ พวกเขาสาบานว่าจะเก็บเป็นความลับ และหลังจากนี้ จะไม่ออกไปอีกเป็นเวลาห้าร้อยปี…
และในวันนี้ พลังแห่งเต๋าสวรรค์เหนือทะเลทักษิณก็แข็งแกร่งมากกว่าปกติอีกหลายเท่า
…………………………………………………………………
[1] หนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ในวรรณกรรมสามก๊ก (เป็นกลยุทธ์ร่วมรบกับปล้นฟ้าเปลี่ยนดวงอาทิตย์) ที่ใช้กลอุบายในการนำของเทียมแทนที่ของจริง หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเรื่องราว โดยหาหนทางเปลี่ยนแปลงการจัดเตรียมแนวรบของศัตรูอยู่เสมอ การถอดถอนเคลื่อนย้ายจุดยุทธศาสตร์และกองกำลังสำคัญของศัตรูไป รอให้ศัตรูเกิดความอ่อนแอ เสียขวัญและกำลังใจ ประสบกับความพ่ายแพ้ จึงฉกฉวยโอกาสพลิกสถานการณ์ที่ศัตรูเกิดความย่ำแย่ให้เป็นประโยชน์แก่ตน นำกำลังบุกเข้าโจมตี ยึดครองและควบคุมกองทัพของศัตรูไว้เพื่อประโยชน์ต่อไปในภายหน้า
[2] แผนหลอกลวงหรือแผนกลั่นแกล้ง ผู้เขียนปรับมาจากพฤติกรรมออนไลน์ ซึ่งจะมีห้าอย่างคือ กดไลค์ เข้าไปส่องดู แชร์ ข้อความ และสุดท้ายก็คือ ชื่นชมมาก เห็นด้วยสุดๆ หรืออวยมาก
[3] ทำเป็นความลับหรือ เป็นเรื่องที่ไม่เปิดเผย