บทที่ 335 หากเจ้าแพ้ ไสหัวออกไปจากจวนซื่อจื่อ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 335 หากเจ้าแพ้ ไสหัวออกไปจากจวนซื่อจื่อ

ภายในพื้นที่ล่าสัตว์

หยุนถิงเดินไปตามอำเภอใจ เมื่อเห็นเหยื่อก็เพียงแค่แสร้งทำเป็นเล็งเท่านั้น ไม่ได้จะยิงเหยื่อจริงๆ และยังยิงพลาดไปหลายครั้ง

ถึงแม้จะเป็นพวกไก่ป่า กระต่ายป่า ถูกสร้างมาเพื่อให้ผ่อนคลายอารมณ์ในการล่าสัตว์โดยเฉพาะ แต่หยุนถิงก็ไม่อยากฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าอยู่ดี

ในยุคปัจจุบัน ล้วนสนับสนุนให้มีการคุ้มครองสัตว์ป่า หากไม่ใช่ความจำเป็นในการอยู่รอด หยุนถิงจะไม่ยิงตามอำเภอใจหรอก

“ทักษะการยิงธนูแค่นี้ก็ยังมีหน้ามาเข้าร่วมการล่าสัตว์ หยุนถิงเจ้ากล้าแข่งขันกับข้าหรือไม่?” องค์หญิงหลันรั่วกล่าวท้าทายอย่างดูถูกเหยียดหยาม

หยุนถิงมองนางอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง“หากเจ้าแพ้ ก็ไสหัวออกไปจากจวนซื่อจื่อ ต่อไปห้ามคิดวางแผนในตัวซื่อจื่ออีก!”

หลันรั่วโกรธจนสีหน้าดำมืดในทันที“น่าชิงชังนัก ข้าไม่มีทางแพ้หรอก หากเจ้าแพ้ก็หย่าร้างกับพี่ซื่อจื่อทันที”

“เรื่องนี้ข้าไม่รับปาก ข้ากับซื่อจื่อรักใคร่กันอย่างยิ่ง เราต่างก็เคารพนบนอบกันและกัน ข้าจะไม่เอาชีวิตแต่งงานของเรามาเดิมพันหรอก!” หยุนถิงปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ

หลันรั่วโกรธสุดขีด“ฮึ แค่สนมคนหนึ่งพูดซะทรงเกียรติสง่าผ่าเผยขนาดนั้นทำไม ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งของจวนซื่อจื่อหรอกหรือ”

“ถูกต้อง ข้าชอบเสวยสุขนี่แหละ อาหารเลิศรสกับกินรำข้าวกลืนผักป่าเมื่อเทียบกันแล้ว ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ก็จะเลือกอย่างแรกอยู่แล้ว” หยุนถิงตอกกลับ

“เจ้ายอมรับเองก็ดีแล้ว พี่ซื่อจื่อได้ยินแล้วใช่ไหม” องค์หญิงหลันรั่วมองไปทางจวินหย่วนโยวทันที

แต่คิดไม่ถึงว่าจวินหย่วนโยวจะไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย“ฮูหยินของข้า รู้จักเสวยสุขก็เพียงพอแล้ว จวนซื่อจื่อตระกูลใหญ่กิจการมากมาย หากไม่มีคนล้างผลาญ หาเงินมากมายขนาดนั้นก็ไม่มีความหมาย”

องค์หญิงหลันรั่วได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มองไปทางจวินหย่วนโยวด้วยความน้อยใจ เหตุใดพี่ซื่อจื่อถึงได้โปรดปรานนางสนมคนนี้คนเดียวเช่นนี้ ช่างตาบอดจริงๆ

“น่าชิงชังนัก เช่นนั้นหากเจ้าแพ้ก็คุกเข่าคารวะหน้าผากแตะพื้นข้าสามครั้ง จากนั้นก็บอกทุกคนว่าเจ้าสวยสู้ข้าไม่ได้ รูปร่างดีสู้ข้าไม่ได้ เหมาะสมกับพี่ซื่อจื่อสู้กับข้าไม่ได้!” องค์หญิงหลันรั่วกล่าวด้วยความโกรธแค้น

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา นับตั้งแต่ตอนนี้จนจบสิ้นตอนกลางคืน ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด สุดท้ายใครเป็นคนได้เหยื่อมากที่สุด ถือเป็นผู้ชนะ เป็นอย่างไร?” หยุนถิงเสนอแนะ

“ตกลง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะสามารถชนะได้”

องค์ชายสี่กับหลีอ๋องเดินเข้ามาพอดี หยุนถิงเหลือบมองทั้งสองคนครู่หนึ่ง“เช่นนั้นก็ให้องค์ชายสี่กับหลีอ๋องเป็นพยานให้เรา เป็นเช่นไร?”

“องค์ชายสี่กับเจ้ามีความสัมพันธ์ดีอย่างมาก เขาต้องเข้าข้างเจ้าแน่นอน” องค์หญิงหลันรั่วโต้แย้ง

“ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนต่างก็รู้ว่าหลีอ๋องเกลียดชังและรังเกียจข้า ไม่ลังเลที่จะหย่าร้างกับข้า เขาคงจะไม่เข้าข้างข้าหรอกใช่ไหม” หยุนถิงถามกลับ

องค์หญิงหลันรั่วย่อมรู้เรื่องของหยุนถิงกับหลีอ๋องอยู่แล้ว ถึงได้รู้สึกพึงพอใจ“ตกลง เช่นนั้นก็เริ่มกันเลย” ขณะที่พูดก็ควบม้าจากไป ออกล่าสัตว์ทันที

หยุนถิงก็ควบม้าเดินเข้าไปข้างหน้าเช่นกัน

หลันรั่วเห็นนางเดินเข้าไปในป่าลึก ดวงตาคู่สวยมีแสงสีดำและได้ใจแว๊บผ่านไปเล็กน้อย หลังจากวันนี้ไปพี่ซื่อจื่อก็จะเป็นของนางแล้ว ดูสิว่าต่อไปนางสนมคนนี้จะโอหังอย่างไร

จวินหย่วนโยวย่อมตามหลังหยุนถิงไปอยู่แล้ว องค์ชายสี่ก็ตามไปเช่นกัน และโม่ฉือหานเพียงแค่รักษาระยะห่างเอาไว้เล็กน้อย

ชาวโลกต่างก็รู้ว่าเขาเกลียดชังหยุนถิง หากเขาติดตามไปด้วย มันจะไม่ดูตั้งใจไปหรอกหรือ

หลันรั่วอารมณ์ดีอย่างยิ่ง นางไม่ได้ไปไล่ตามหยุนถิง แต่เดินไปอีกทางหนึ่ง เมื่อนึกถึงฉากรุนแรงที่คนพวกนั้นฆ่ารัดคอหยุนถิง หลันรั่วก็ตื่นเต้นอย่างมาก

เพียงแต่ว่าเมื่อหยุนถิงไปถึงส่วนลึกในป่า ไม่ได้มีความไม่เหมาะหรือผิดปกติใดๆ หยุนถิงรีบหาที่โล่งกว้างนั่งลงทันที

โม่ฉือหานที่อยู่ไม่ไกลออกไป มองสำรวจบริเวณรอบๆด้วยสีหน้าเย็นชา

องครักษ์ของเขารายงานว่า คนพวกนั้นดักซุ่มอยู่บริเวณนี้นี่แหละ ทำไมไม่เห็นมีใครลงมือเลย?

จากนั้นโม่ฉือหานก็ได้ยินเสียงต่อสู้กรีดร้องจากที่ไม่ไกลออกไป สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงมาทันที

“หลีอ๋องรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของการล่าสัตว์ในครั้งนี้ไม่ใช่หรือ จะไม่ไปดูหน่อยหรือ?” หยุนถิงกล่าวอย่างราบเรียบ

โม่ฉือหานมองดูท่าทางเฉยเมยของหยุนถิง หรือว่าหยุนถิงรู้อยู่แล้วว่ามีคนวางแผนทำร้ายนาง ดังนั้นถึงได้ใช้แผนซ้อนแผน

เสียงกรีดร้องดังมาอีกครั้ง หว่างคิ้วของโม่ฉือหานขมวดกันเป็นอักษรชวน หันหลังพาคนเข้าไป

“หยุนถิง เสียงร้องฝั่งโน้นอนาถขนาดนั้น หรือว่าถูกคนลอบโจมตี ที่นี่เป็นถึงพื้นที่ล่าสัตว์ของราชวงศ์ จะมีมือสังหารได้อย่างไร?” องค์ชายสี่ตกใจกลัวจนตัวสั่น

“พวกเขารับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นเอง ท่านอยู่ไปอย่างสบายใจก็พอ” หยุนถิงกล่าวตอบ

หยุนถิงคาดเดาอยู่แล้วว่าองค์หญิงหลันรั่วต้องให้คนดักซุ่มในพื้นที่ล่าสัตว์ วางแผนทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงติดต่อจ้าวเม่ยเอ๋อร์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว นางไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวังจริงๆ สะกดจิตคนขององค์หญิงหลันรั่ว ให้พวกเขาจู่โจมเจ้านายของตัวเอง จ้าวเม่ยเอ๋อร์คนนี้ช่างถูกใจนางมากจริงๆ

และทางด้านนี้องค์หญิงหลันรั่ว เพิ่งจะได้ใจไม่นาน กำลังยิงไก่ป่าตัวหนึ่ง แต่แล้วจู่ๆในป่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งจู่โจมมาทางนาง

“อ๊าก!” องค์หญิงหลันรั่วตกใจจนกรีดร้องขึ้นมา รีบหนีไปทันที

คนพวกนั้นเยอะเกินไปจริงๆ มีคนถึงสามสี่สิบคน ล้อมรอบนางและบรรดาผู้ติดตามเอาไว้ กระบี่และดาบฟาดฟันมาทางพวกเขา ไม่มีปรานีเลยแม้แต่น้อย

“ช่วยด้วย มีคนลอบสังหาร ทหาร รีบมาช่วยข้าเร็ว ทหาร!” องค์หญิงหลันรั่วกล่าวตะโกน

ผู้ติดตามต่อสู้กับคนเหล่านั้นทันที เพียงแต่ว่าเมื่อพวกเขาต่อสู้กันไปไม่กี่กระบวนท่าถึงได้พบว่า คนพวกนี้ล้วนเป็นคนของพวกเขาเอง

“พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ ถึงกับกล้าลอบสังหารองค์หญิง องค์หญิงให้พวกเจ้าลอบสังหารหยุนถิง” หนึ่งในผู้ติดตามกล่าวด้วยความโกรธ

คนชุดดำที่ต่อสู้กับเขาคนนั้นไม่ได้สนใจเขาเลย กระบี่ยาวที่อยู่ในมือแทงเข้ามาอย่างแรง แทงไปถูกแขนของผู้ติดตามพอดี เจ็บจนเขาแยกเขี้ยวยิงฟัน

คนอื่นๆก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน คนพวกนี้คือมือสังหารที่ไหน เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของพวกเขาเองแท้ๆ

“หยุดเดี๋ยวนี้ นี่พวกเจ้ากินดีหมีหัวใจเสือไม่รู้จักรักตัวกลัวตายแล้วหรือ ถึงกับกล้าลงมือกับข้า!” หลันรั่วคำรามด้วยความโกรธ

แต่คนพวกนี้เหมือนไม่รู้จักหลันรั่ว ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย กระบี่ยาวที่อยู่ในมือโบกเข้ามาอย่างแรง

องค์หญิงหลันรั่วหลบออกไปไม่ทัน แก้มถูกบาดเป็นแผล เจ็บจนนางตะโกนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด รีบหนีไปทันที

“บ้าไปแล้ว บ้ากันไปหมดแล้ว ทหาร รีบมาปกป้องข้าเดี๋ยวนี้ ช่วยด้วย มีใครอยู่บ้างไหม รีบมาช่วยข้าเร็ว!” หลันรั่วกรีดร้องและวิ่งหนี

คนชุดดำพวกนั้นกลับตามไล่ล่าอย่างหนัก ไม่มีปรานีเลยแม้แต่น้อย ลงมืออย่างโหดเหี้ยม

โม่ฉือหานที่อยู่ไม่ไกลออกไปเร่งมาถึง ได้ยินคำสนทนาทั้งหมดของพวกเขาอย่างชัดเจน นัยน์ตาสีดำที่ลึกล้ำหรี่ลงเล็กน้อย

คนพวกนี้ก็คือคนที่จะไปลอบสังหารหยุนถิง ทำไมถึงหันกลับมาสังหารเจ้านายของตัวเอง และดูพวกเขาเหมือนจะไม่มีสติ หรือว่าหยุนถิงทำอะไรพวกเขา?

นอกจากความเป็นไปได้แบบนี้แล้ว โม่ฉือหานคิดอย่างที่สองไม่ออก

นาทีนี้ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าตัวเองน่าขำเล็กน้อย เดิมทียังคิดจะใช้โอกาสนี้วีรบุรุษช่วยสาวงาม ให้หยุนถิงเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อตนเอง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคนอื่นเขาจะใช้แผนซ้อนแผน หันกลับมาเฆี่ยนตีองค์หญิงหลันรั่ว

“ท่านอ๋อง เราจะเข้าไปช่วยเหลือไหม คนขององค์หญิงหลันรั่วใกล้จะต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว?” องครักษ์เหลยถิงถาม

“กรรมใดใครก่อกรรมนั่นย่อมตามสนอง ไม่ต้องไปสนใจ!” โม่ฉือหานกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

“ขอรับ!”

ดังนั้นโม่ฉือหานและบรรดาองครักษ์มองดูหลันรั่วและคนอื่นๆถูกตีจนเหยี่ยวรดตดหาย ทุลักทุเลเหลือที่จะทน ได้รับบาดเจ็บนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่ให้ความช่วยเหลือ

จนกระทั่งหลันรั่วเกือบจะถูกคนฟันตาย โม่ฉือหานถึงได้นำกำลังคนเข้ามา

ทันที่หลันรั่วเห็นก็รู้สึกเหมือนเห็นผู้มาช่วยชีวิต“หลีอ๋องช่วยข้าด้วย ข้าถูกคนลอบสังหาร!”

“ทหาร จับตัวมือสังหารกลุ่มนี้เอาไว้ให้หมด!” โม่ฉือหานออกคำสั่ง