บทที่ 376 มีจุดมุ่งหมาย

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 376 มีจุดมุ่งหมาย

บทที่ 376 มีจุดมุ่งหมาย

หลังจากทราบข่าว ไป๋ชิวหรานกับไป๋ลี่รีบตรงมายังทางเข้าหมู่บ้านทันที

นักเล่าเรื่องอยู่ที่นั่น เขารวบรวมเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นและเรื่องตลกมากมายในเจียงหูเมื่อเร็ว ๆ นี้ไว้ในสมุดเล่มหนึ่ง แต่คราวนี้แตกต่างออกไป ข้างกายเขามีหญิงน่ารักยืนโดดเด่นเป็นสง่าคนหนึ่งเคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ

ไป๋ลี่มองรูปลักษณ์สาวงามก่อนลอบกระซิบกับไป๋ชิวหราน

“ท่านอาจารย์ รับชมดูเถิด แม้หญิงสาวจะแต่งกายสุภาพเรียบร้อย แล้วยังกล่าววาจาอ่อนหวาน มือเรียวยาวแลดูสะอาดสะอ้าน เห็นได้ชัดว่าไม่มีรอยเหี่ยวย่น นางย่อมไม่เคยทำงานบ้าน แน่นอนว่าคงจะมาจากตระกูลใหญ่”

“นั่นคือ…”

ไป๋ชิวหรานรู้สึกภูมิใจ

ไป๋ลี่เหลือบมองเขาอีกครั้ง

“ตามที่คาด สตรีผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการไล่ตามท่านอาจารย์ หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ทศวรรษ นางช่างร้ายเหลือเกิน!”

“ไอ้หนู เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ไป๋ชิวหรานยกมือขึ้นเคาะศีรษะของเขา ก่อนเดินนำไปพร้อมกับไป๋ลี่ที่เอามือกุมศีรษะเอาไว้

“โอ้ ท่านพี่ไป๋ สหายตัวน้อยหวยลี่”

เมื่อเห็นไป๋ลี่และไป๋ชิวหรานเข้ามาใกล้ นักเล่าเรื่องเผยรอยยิ้มประหลาดใจ

เขาโค้งคำนับต่อไป๋ชิวหรานพร้อมกล่าวว่า

“พี่ไป๋ ยินดีที่ได้พบท่าน อ่า เข้ามาก่อนเถิด ให้ข้าแนะนำ นี่คือภรรยาของข้า ‘เสี่ยวหลิง’ ส่วนนี่เป็นพี่ชายที่ช่วยเหลือข้า”

หญิงสาวผู้นั้นรับฟังจบ จึงโค้งคำนับต่อพวกเขาทั้งสองด้วยท่าทีสุภาพ แม้รูปลักษณ์ไม่ได้งดงามที่สุดที่เคยพบพาน แต่เมื่อได้มองก็ทำให้รู้สึกสบายตายิ่ง

“อย่าได้กล่าวเยินยอ ข้าเพียงแค่ออกแรงเล็กน้อยเท่านั้น”

ไป๋ชิวหรานกล่าวอย่างสุภาพ

“เพราะความศรัทธาของเจ้าที่มีต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานและเทพธิดาแห่งความผูกพัน เช่นนี้จึงประสบความสำเร็จ”

“อ่า เดิมทีข้าได้อ่านเรื่องราวของสำนักอสูรแห่งความสุขแล้ว ข้าคิดเสมอมาว่าเทพเจ้าในโลกใบนี้ล้วนแต่ชั่วร้ายเหมือนพวกมัน แต่ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าเทพธิดาแห่งความผูกพันและเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานที่ประเสริฐจะมีอยู่ในโลกใบนี้ด้วย”

นักเล่าเรื่องรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่ง

“ข้าอยากเผยแพร่มัน แล้วต้องทำอย่างไร?”

“ไม่ ไม่ต้องทำสิ่งใด ตราบใดที่ศรัทธาต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานและมั่นคงในใจ ความศรัทธานี้จะปกป้องเจ้า และเทพเจ้าอื่น ๆ ก็เช่นกัน”

ไป๋ชิวหรานหยุดชั่วขณะ แสร้งเผยท่าทีลังเล ก่อนจะกล่าวว่า

“อย่างไรก็ตาม หากมีศรัทธา สหายของข้า ช่วยส่งต่อความเชื่อเหล่านี้ไปให้ไกลในใต้หล้า เพราะอย่างไรแล้วเทพเจ้าเหล่านี้ล้วนแต่เป็นประโยชน์กับผู้คน”

“มันย่อมเป็นเช่นนั้น”

นักเล่าเรื่องกล่าวตอบกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความสุข เขาเก็บแผงขายของในวันนี้ใส่ตะกร้าแล้วแบกมันขึ้นหลัง จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิวหรานและไป๋ลี่

“วันนี้ข้ามีความสุขนัก ไปกันเถิด ข้าขอเชิญพวกท่านทั้งสองไปดื่มที่หอซุยเซียน”

“โอ้ ยอดเยี่ยมแล้ว”

นักเล่าเรื่องพาภรรยาของเขา ไป๋ลี่ และไป๋ชิวหรานตรงไปที่หอซุยเซียน เขาเลือกโต๊ะใกล้กับราวบันไดพร้อมตะโกนขอสุราดี ๆ สองไห ก่อนจะสั่งอาหารที่ดีตามมาด้วย

เด็กน้อยไป๋ลี่ดูเหมือนจะแอบร่ำสุรากับนักเล่าเรื่องอยู่บ่อยครั้ง โดยเรื่องนี้บิดามารดาของเขาไม่ทราบ เพราะเมื่อเขาดื่มเข้าไปหมดแก้ว นักเล่าเรื่องก็ยังเติมสุราให้กับไป๋ลี่ด้วยท่วงท่าธรรมชาติ

ไป๋ชิวหรานไม่สนใจ แม้ร่างกายของเขาจะอายุเพียงสิบสองปี แต่จิตวิญญาณของไป๋ลี่คือจักรพรรดิเซียนองค์แรก และเขาก็มีขีดจำกัดของตนเองอยู่แล้ว

ทั้งสี่คนดื่มร่วมกันอย่างสนุกสนาน นักเล่าเรื่องมีความสุขมาก และอดไม่ได้ที่จะกล่าวถึงความศรัทธาที่มีต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน จากนั้นไป๋ลี่ก็เปิดเผยการกระจายความศรัทธาเหล่านี้อย่างชาญฉลาดออกมา วิธีการของเขายอดเยี่ยมจนน่าตกตะลึง

“จากความเห็นของข้า ข้าคิดว่าต้องดำเนินการสองขั้นตอน”

ใบหน้าของนักเล่าเรื่องแดงก่ำ แต่วาจาของอีกฝ่ายยังชัดเจนในโสตประสาท

“ขั้นตอนแรก เป็นเรื่องปกติที่ราชสำนักจะวุ่นวายเพราะต้องต่อสู้กับอสูรแห่งความสุข ดังนั้นราชวงศ์ต้าเซียที่ได้ทราบเรื่องจึงค่อนข้างหวาดกลัวสัตว์ประหลาดเหล่านั้น พวกเขาจึงควบคุมการศรัทธาของประชาชนอย่างเข้มงวด ดังนั้นหากเราจะก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ ประการแรก เราต้องไม่ปล่อยให้ราชสำนักตราหน้าว่าพวกเราคือลัทธิใดได้!”

“ขั้นที่สอง คือการเผยแพร่ข่าวสารของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานในเจียงหู โดยทั่วไปแล้วการสร้างชื่อให้ตนเองเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง วิธีที่ง่ายที่สุดคือหาผู้ที่ศรัทธาเข้าร่วมการแข่งขันในการประชุมสนทนาภาษากระบี่ แล้วเขาต้องชนะ”

“ความจริงวิธีนี้ข้าเคยปรึกษากับหวยลี่มาก่อนแล้ว แต่ข้าก็รู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ… ”

ไป๋ชิวหรานตบเข่า ก่อนจะกล่าวไป

“หากเพียงแค่ชนะ เราสามารถคัดเลือกคนออกมา แล้วให้คนผู้นั้นประกาศสิ่งนี้ออกไปทั่วโลก แต่อย่างไรแล้วข้ามองว่ามันไร้ประโยชน์ พวกเรามาที่นี่เพื่อเผยแพร่ แทนที่จะค้นหาผู้ชนะหรือผู้แพ้ของการประชุมสนทนากระบี่ ในความเป็นจริง หากทำให้ผู้คนสามารถศรัทธาได้ ไม่ว่าผู้ใดจะชนะหรือพ่ายแพ้ ย่อมไม่ส่งผลใด”

“พี่ไป๋ช่างมีวิสัยทัศน์ยาวไกลนัก”

เมื่อนักเล่าเรื่องได้ยินเช่นนี้ เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย

“มันน่าขันที่ข้าคาดเดาความคิดของพี่ไป๋จากมุมมองของชาวเจียงหู”

“ถ่อมตัวเกินไปแล้ว วิธีที่เจ้ากล่าวมา จริง ๆ แล้วมันคือวิธีที่หวยลี่เสนอให้กับข้าในคราวแรก แม้ว่าประสิทธิภาพจะต่ำ แต่ข้าก็ต้องยอมรับว่ามันก็เป็นทางเลือกที่ดี”

ไป๋ชิวหรานแตะคางก่อนจะกล่าวต่อ

“อย่างไรก็ตาม เรามาจัดการกับแผนนี้กันก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย ข้าคิดว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ข้าได้พบแรงบันดาลใจบางอย่าง”

“ถูกต้องแล้ว ปัญหาภายในเจียงหูจะถูกวางไว้ก่อน”

ไป๋ลี่พยักหน้า

“สิ่งสำคัญที่สุดคือราชสำนัก ราชวงศ์ต้าเซียที่ได้รับความทุกข์ทรมานมากมายจากอสูรแห่งความสุข ในช่วงความโกลาหล ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปถึงสองชั่วอายุคน ข้าคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะยอมรับความศรัทธาในพระเจ้าง่ายดายนัก”

“ปัญหานี้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ แล้วสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการได้รับความไว้วางใจจากราชวงศ์”

นักเล่าเรื่องกล่าวตอบ

“อย่างไรก็ตาม ข้ามีข่าวเล็กน้อยสืบทราบมาได้ ในเดือนมีนาคมปีหน้า จักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะเสด็จลงใต้ เขาจะไปท่องเที่ยวที่ทะเลสาบซู และเหมือนว่าอสูรแห่งความสุขจะวางแผนลอบสังหารจักรพรรดิที่นั่นด้วย”

“หนูขยะข้างถนนกล้าคิดที่จะลอบสังหารจักรพรรดิ?”

ไป๋ลี่ครุ่นคิด

“มีหนอนบ่อนไส้อยู่ในราชสำนักหรือไม่?”

“น้องชายหวยลี่ช่างมีดวงตาเฉียบคม เป็นเจ้าที่มองเห็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว”

นักเล่าเรื่องยิ้มขมขื่น

“เทพโลหิตสุขี สำนักโลหิตสุขี นอกจากความกระหายโลหิตแล้ว พวกมันยังชื่นชอบความสุขสมของมนุษย์ ทุกวันนี้เมื่อโลกกำลังเดินหน้าไปได้ดี เป็นช่วงเวลาสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ผู้คนทั้งเก่าใหม่สลับสับเปลี่ยนวนไป และคนรุ่นใหม่ไม่เคยได้สัมผัสภัยพิบัติโหดร้ายและทารุณเหล่านั้น พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะก่อกบฏ มันคือการใช้โอกาสนี้เพื่อแทรกซึมราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์”

“นี่คือโอกาสแล้ว เมื่อจักรพรรดิตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต พวกเราจึงต้องให้ความช่วยเหลือ จากนั้นจึงง่ายที่จะได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิ”

ไป๋ลี่กล่าวเสริม

“ขอบคุณแล้ว นี่คือข่าวกรองที่สำคัญยิ่ง”

“เหตุใดเจ้าต้องขอบคุณ เสี่ยวหวยลี่”

นักเล่าเรื่องโค้งคำนับต่อเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานบนท้องฟ้า

“ข้าเพียงต้องการเผยแพร่ความเชื่อของเทพอาวุโสและเทพธิดาเหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น กล่าวตามตรง ตั้งแต่ข้าได้แต่งงานกับเสี่ยวหลิง ตอนนี้ในใจของข้าก็เปี่ยมไปด้วยจุดมุ่งหมายที่ดีมากมาย…”

“มีจุดมุ่งหมายเป็นเรื่องที่ดี”

ไป๋ชิวหรานหัวเราะพร้อมกล่าวต่อ

“ตอนนี้เจ้าอาจจะเมาแล้วล่ะ”