ฟู่สีเกอได้ยินคำพูดของเมิ่งซินหรุ่ยแล้ว อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “แม่ครับ ตอนนี้แม่กลับไปตุ๋นน้ำแกงก่อนหรือจะไม่รอเยี่ยมหลานชายหลานสาวของคุณแม่แล้วหรือครับ?”
เมิ่งซินหรุ่ยตบเบา ๆ เข้าที่ทรวงอกไปหนหนึ่ง “ดูฉันสิ โง่จริง ๆ เลยนะ ตอนนี้จะไปได้อย่างไรกันล่ะ! ฉันยังไม่ได้เห็นพวกเจ้าตัวน้อยของฉันเลยนะ!”
พูดไป เธอก็หวนนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะเริ่มฮัมเพลงออกมา เมื่อเห็นสีหน้าขึงขังของฟู่ซื่อหนิงแล้ว เมิ่งซินหรุ่ยจึงตีเขาเบา ๆ ไปครั้งหนึ่ง “เหล่าฟู่ ประเดี๋ยวก็เจอเด็กแล้ว ต้องยิ้มนะคะรู้ไหม? ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเจ้าตัวน้อยจะต้องตกใจคุณจนร้องไห้งอแงแน่!”
ฟู่ซื่อหนิงได้ยินแล้ว ดังนั้นจึงรีบยกยิ้มขึ้นมาทันที แต่ทว่าเป็นรอยยิ้มที่แข็งกระด้างแทน
“ยิ้มให้เห็นฟันทั้งแปดซี่สิคะ!” เมิ่งซินหรุ่ยเอ่ยชี้แนะ “จินตนาการว่าคุณกำลังกัดตะเกียบเอาไว้ด้ามหนึ่งอยู่! ธรรมชาติหน่อยสิคะ!”
หลานเสี่ยวถางเห็นดังนั้นแล้ว อันที่จริงก็อดใจเอาไว้ไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจึงเดินเข้าไปเอ่ยว่า “คุณลุง คุณป้าคะ อันที่จริงแล้วในตอนที่เจ้าตัวน้อยพึ่งคลอดออกมา สายตาก็มองอะไรไม่ชัดเจนนักหรอกค่ะ ดังนั้นแล้วสีหน้าแบบไหนก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ เด็กน้อยสามารถรู้สึกได้ถึงบรรยากาศว่าดีหรือไม่ดีของทุกคนได้ค่ะ ดังนั้นแล้ว พวกเขาจะเป็นคนตัดสินเอง”
ฟู่ซื่อหนิงได้ยินดังนั้นแล้ว จึงจ้องเขม็งไปที่เมิ่งซินหรุ่ยครั้งหนึ่งทันที “ผมว่านะครับ สีหน้าของผมเป็นอย่างไร หลานชายหลานสาวของผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ!”
“เชอะ!” เมิ่งซินหรุ่ยไม่ยอม “ถ้าอย่างนั้นประเดี๋ยวมาแข่งกันสักตั้ง พวกเจ้าตัวน้อยจะชอบฉันมากกว่า หรือจะชอบคุณ!”
ทั้งสองคนกำลังถกเถียงกันไปมาอยู่ ประตูห้องก็เปิดออกมาแล้ว เป็นพยาบาลที่เดินออกมาเอ่ยว่า “ทุกท่านคงจะเป็นญาติของคุณเฉียวโยวโยวใช่ไหมคะ? สถานการณ์ของคุณแม่และเด็กดีมากเลยค่ะ พวกเราจะเข็นพวกเขาออกมาแล้วนะคะ!”
พูดไป ด้านในก็มีพยาบาลสองคนกำลังเข็นเฉียวโยวโยวออกมาแล้ว ทางด้านหลัง มีรถทารกสองคัน ด้านในวางเจ้าตัวน้อยทั้งสองคนเอาไว้อยู่
ฟู่สีเกอพุ่งเข้าไปก่อน “คุณโยวคนเก่ง ลำบากแล้วนะครับ!”
เฉียวโยวโยวช้อนสายตาที่ดูแล้วน่าเวทนามองฟู่สีเกอ “เมื่อกี้นี้ฉันตื่นเต้นจะตายอยู่แล้วค่ะ หลังจากนี้ฉันจะไม่ตั้งท้องเจ้าตัวน้อยแล้วนะคะ ตื่นเต้นมากกว่าคะแนนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับชาติออกอีก!”
“ครับ ครับ หลังจากนี้ไม่ตั้งครรภ์แล้ว!” ฟู่สีเกอบีบมือของเธอเอาไว้ “บาดแผลยังเจ็บอยู่ไหมครับ ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“ยังโอเคอยู่ค่ะ มียาแก้ปวดอยู่ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้นค่ะ” เฉียวโยวโยวเอ่ย “คุณรีบเข้าไปดูเร็วว่าเจ้าตัวน้อยหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง? จะน่าเกลียดไหมคะ เมื่อครู่นี้ฉันมองไม่ชัดนัก เห็นแต่ก้นเล็ก ๆ ของพวกเขา”
ฟู่สีเกอรีบพยักหน้าทันที ก่อนจะเดินไปที่รถเข็นทารกที่อยู่ทางด้านหลัง
ในตอนนั้นเอง เจ้าตัวน้อยทั้งสองคนกำลังหลับตาพริ้ม แทบจะหลับกับอย่างสนิทเลยทีเดียว
เพียงแต่ ผิวของเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นมีรอยยับเล็กน้อย สีก็ออกแดงนิดหน่อย แทบจะเป็นสีไม่ต่างจากหวันหว่านเลย……
ฟู่สีเกอเพื่อให้เฉียวโยวโยววางใจ ดังนั้นจึงรีบเดินไปเอ่ยว่า “วางใจเถอะครับ คุณโยวคนเก่ง เจ้าตัวน้อยทั้งสองคนงดงามมาก! มียีนของพวกเราอยู่ จะแย่ได้อย่างไรครับ!”
เฉียวโยวโยวได้ยินดังนั้นแล้ว ก็ถือว่าวางใจลงแล้ว “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย! อันที่จริงแล้วในตอนที่ฉันกำลังผ่าตัดอยู่ ตอนแรกเริ่มฉันนั้นสงสัยเพศของพวกเขามากเลย แต่ทว่ามาจนถึงในตอนท้ายแล้ว ภายในหัวใจก็มีเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหวังว่าพวกเขาจะสมบูรณ์แข็งแรง!”
ฟู่สีเกอสามารถเข้าอดเข้าใจความรู้สึกของเฉียวโยวโยวในตอนนี้ได้
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ในตอนที่ตั้งครรภ์อยู่ อยากที่จะทราบเพศของเด็กมากจริง ๆ แต่ทว่า ในตอนที่เฉียวโยวโยวนั้นถูกเข็นเข้าในไปห้องผ่าตัดตอนนั้นเอง เขาก็ต้องการเพียงแค่ขอให้พวกเขาออกมากันอย่างปลอดภัยเท่านั้น
อันที่จริงแล้วจะลูกชายหรือลูกสาว ล้วนแล้วแต่ได้ทั้งหมดเลย ถึงแม้ว่ามารดานั้นอยากที่จะได้ครรภ์แฝดชายหญิงมาก แต่ทว่า ถึงแม้จะเป็นเด็กชายทั้งสองคนหรือเด็กหญิงทั้งสองคน เขานั้นล้วนแล้วแต่ดีใจทั้งสิ้น ขอเพียงแค่พวกเขาปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว!
เมิ่งซินหรุ่ยในตอนนี้เองก็ชะโงกหน้าเข้าไปทางด้านหน้าของเฉียวโยวโยว หลังจากนั้น ในทุกสายตาของทุกคน เธอย่อตัวลง ก่อนจะจุ๊บเฉียวโยวโยวหนึ่งที เสียงใสดังก้องกังวาน
“คุณแม่ครับ แม่ทำอะไรน่ะ?” ฟู่สีเกอเอ่ยถาม
“โยโย่ของฉันคลอดเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยให้ตั้งสองคน ลำบากแล้วล่ะ! ฉันแลกไปจุ๊บหนึ่ง มันเกี่ยวอะไรกับแก?!” เมิ่งซินหรุ่ยพูดไป ก่อนจะเดินไปที่รถทารกที่อยู่ทางด้านนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงไปจุ๊บเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยกันคนละจุ๊บ
พยาบาลที่อยู่ทางด้านข้างล้วนแล้วแต่หัวเราะ หลังจากนั้นจึงเอ่ยว่า “เอาละค่ะ พวกเราควรไปที่ห้องพักผู้ป่วยกันได้แล้วค่ะ”
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ทุกคนจึงเดินจูงมือถือแขนกันไปที่ห้องเดี่ยว
เฉียวโยวโยวถึงแม้ว่าจะไม่ได้สติมากเท่าใดนัก แต่ทว่า ยังคงมีท่าทางห่วงเจ้าตัวน้อยทั้งสองคนอยู่ดี เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว จึงหันไปเอ่ยกับฟู่สีเกอว่า “สีเย็นคะ รีบไปอุ้มเจ้าตัวน้อยมาให้ฉันดูเร็ว!”
ฟู่สีเกอถึงแม้ว่าจะเคยทดลองอุ้มหวันหว่านมาแล้วว่าควรที่จะอุ้มเด็กเล็กอย่างไร แต่ทว่า เด็กพึ่งจะคลอดออกมาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง อีกทั้งเดิมทีเขานั้นก็ไม่กล้าที่จะแตะเลยเสียด้วยซ้ำ
เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้ายากลำบาก “คุณภรรยาครับ ผมไม่รู้ว่าจะอุ้มอย่างไรนะ!”
“สีเย็นคนโง่!” ในที่สุดเฉียวโยวโยวก็ตอบกลับไปหนึ่งประโยค ใครใช้ให้เขาเรียกเธอว่าคุณโยวคนโง่กันล่ะ!
ฟู่สีเกอยืนอยู่ตรงนี้ ไร้หนทางที่จะอธิบายต่อ ท่าทางราวกับถูกรังแก
ทางด้านข้าง สือมูเฉินหัวเราะ “สีเกอ ดูท่าแล้วสามารถทำครรภ์แฝดชายหญิงได้ ส่วนจะเลี้ยงได้ไหมนั้นก็บอกไม่ได้แล้วสินะ!”
หยานชิงเจ๋อเองก็ริบเข้ามาทิ้งหินลงบ่อทับทมในทันทีว่า “ใช่ครับผม ผมดูแล้วพี่สีเกอแม้กระทั่งตัวเองยังเลี้ยงดูได้ไม่ดีเลย หลังจากนี้เด็กน้อยทั้งสองคน ทรงผมและสารรูปของเขาจะต้องเละเทะแน่ ๆ! กลับไปก็ไม่รู้ว่าจะสามารถกลับไปเป็นผู้ชายหล่อเหลามีสไตล์อย่างแต่ก่อนได้หรือเปล่าก็ไม่รู้เนอะ!”
พวกเขากลับกล้าที่จะเหยียดหยามเขาอย่างนั้นหรือ?!
ฟู่สีเกอกำลังจะเถียงกลับไป จู๋ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพของเจ้าตัวน้อยทั้งสองคนเอาไว้หนึ่งภาพ หลังจากนั้น ก็โพสต์ลงในโมเมนต์วีแชท “ช่วยไม่ได้ พันธุ์ดี ครั้งเดียวติดสอง อีกทั้งยังคนละเพศอีกด้วย! แต่ว่านะเป็นนี่ครั้งแรกที่ได้เป็นพ่อคน มีบางจุดที่ยังไม่รู้มากพอ กลับถูกคนที่เชิญมาช่วยรังแกเสียนี่!”
ในตอนที่โพสต์ไปแล้ว อีกทั้งยังจงใจแท็กสือมูเฉินกับหยานชิงเจ๋ออีกด้วย
เขาหันไปเลิกคิ้วใส่ทั้งสองคน หึ ไม่ว่าเขาจะเป็นได้ดีหรือไม่ดี กลับกัน การทำให้ตั้งท้องลูกในครั้งนี้ เขานั้นวิ่งชนะเข้าถึงเส้นชัยไปแล้วเรียบร้อย!
เขาไม่เชื่อ กลับไปถ้าหากว่าสือมูเฉินจะตั้งครรภ์ครั้งที่สอง หรือว่ากลับไปหยานชิงเจ๋อจะทำให้ซูสือจิ่นตั้งครรภ์ พวกเขานั้นจะสามารถมีครรภ์แฝดชายหญิงได้!
ในตอนนั้นเอง หมอนวดน้ำนมที่ฟู่สีเกอได้ติดต่อเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็มาถึงแล้ว เป็นเพราะว่าเฉียวโยวโยวคลอดก่อนกำหนด ตอนนี้ก็ยังน้ำนมไม่ไหล ดังนั้นแล้ว เมิ่งซินหรุ่ยเห็นดังนั้นแล้ว จึงรีบให้ทุกคนออกไปกันให้หมด เหลือเพียงแค่ตนเองและฟู่สีเกอเท่านั้นภายในตัวห้อง
“อาจจะเจ็บนิดหน่อยนะจ๊ะ คุณผู้หญิงอดทนหน่อยนะ!” หมอนวดน้ำนมหันไปเอ่ยกับเฉียวโยวโยว
เฉียวโยวโยวพยักหน้า กำลังตื่นเต้น มือก็ถูกฟู่สีเกอคว้าจับเอาไว้แล้ว “คุณโยวคนโง่ครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง!”
เฉียวโยวโยวรู้สึกหัวใจอบอุ่น เดิมกังวลใจว่าเธอคลอดลูกออกมาแล้ว ทุกคนจะไปดูลูกกันหมด และมีความคิดว่าจะไม่สนใจตนเองกัน ทันใดนั้นเองความคิดนั้นก็มลายหายไปดังหมอกควันทันที
นวดเปิดน้ำนมนั้นเจ็บมากจริง ๆ แต่ทว่าก็ยังดีนะ นวดกดลงไปที่กี่จุดเท่านั้น เฉียวโยวโยวก็ค่อย ๆ คลายตัวขึ้น ในตอนที่กำลังผ่อนลมหายใจออกมาครั้งหนึ่งนั้นเอง ก็มองเห็นใบหน้าที่บานใหญ่ใบหน้าหนึ่งแล้ว
ตามต่อมาด้วย จูบชื้นแฉะเล็กน้อยที่ประทับลงบนดวงตาของเธอ จูบลงบนขนตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเล็กน้อย
“ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?” น้ำเสียงอ่อนโยนของฟู่สีเกอสามารถทำให้กกหูตั้งครรภ์ได้เลย
“ไม่แล้วค่ะ” อันที่จริงแล้ว ในทุกครั้งที่เขาเยาะเย้ย เธอนั้นยังสามารถโต้เถียงเขาเอ่ยออกมาได้อีกสองสามประโยค แต่ทว่า เมื่อเห็นสีหน้าเข้ม ๆ ของเขาแล้ว เฉียวโยวโยวก็รู้สึกว่าอดที่จะหาเรื่องทะเลาะด้วยไม่ได้เล็กน้อย ทันใดนั้นเอง แม้กระทั่งใบหูก็ขึ้นสีแดงไปหมดแล้ว
ภายในตัวห้อง ทั้งสองคนนั้นเธอคำฉันคำ ส่วนเมิ่งซินหรุ่ยนั้น เธอเองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูภาพถ่ายของเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยทั้งสองคน
ฟู่สีเกอทะเลาะหยอกล้อกับเฉียวโยวโยวเสร็จแล้ว เขาพึ่งจะยืดตัวขึ้นเมื่อครู่นี้เอง ก็มองเห็นมารดาของตนเองกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว จึงชะโงกหน้าเข้าไปหาครั้งหนึ่ง “นี่ โพสต์ลงในโมเมนต์วีแชทเหมือนกันหรือครับ!”
เมิ่งซินหรุ่ยหน้าแดงก่ำ “ฉันไม่ได้ขี้คุยเหมือนแกเสียหน่อย ที่ฉันถ่ายก็เป็นเพียงแค่ภาพเงาของเตียงทารกภาพหนึ่งก็เท่านั้น”
ฟู่สีเกอแย่งโทรศัพท์มือถือไปดู มารดาที่ปกติแล้วจะต้องคุยโวโอ้อวดวันนี้กลับไม่ได้ขี้คุยแล้วจริง ๆ ไม่ใช่นิสัยในยามปกติของเธอเลยจริง ๆ
เห็นเพียงแค่เมิ่งซินหรุ่ยที่โพสต์ภาพถ่ายเลือนรางของเตียงทารกภาพหนึ่งเท่านั้น เป็นเพราะว่าเลือนรางไม่ชัดเจน แม้กระทั่งที่ด้านบนนั้นมีเจ้าตัวน้อยหนึ่งคนหรือว่าสองคนก็มองไม่ออก
ส่วนความคิดเห็นนั้น ก็มีเพียงแค่ไม่กี่คำเท่านั้นว่า “ฉันเป็นคุณย่าแล้วนะ”
“แม่ครับ นี่คืออะไรครับเนี่ย?” ฟู่สีเกอสงสัย “ปกติไม่ได้อยากที่จะเอาชนะคุณนายจางที่อยู่บ้านข้าง ๆ หรอกหรือไงครับ อีกทั้งยังมีพวกคุณแม่ ๆ ในเขตเล็ก ๆ นั้นอีก? โอกาสดีขนาดนี้เลยนะครับ!”
“แกจะเข้าใจอะไร?!” เมิ่งซินหรุ่ยเหลือบตามองบนใส่ฟู่สีเกอไปหนึ่งหน “ช่วงนี้ฉันพึ่งจะเรียนคำศัพท์ใหม่มาหนึ่งคำ เรียกว่าสวนกระแส! ที่ฉันต้องการก็แค่เริ่มจงใจไม่คุยโวต่างหาก รอให้ถึงตอนที่ทุกคนคิดว่าฉันไม่ไหวแล้ว ฉันก็ค่อยอุ้มเจ้าตัวน้อยของฉันทั้งสอง แล้วไปอวดให้พวกสุนัขตาทองพวกนั้นดูต่างหาก!”
ทันใดนั้นเอง แม้กระทั่งเฉียวโยวโยวที่อยู่บนเตียงก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
แต่ทว่า เมื่อหัวเราะแล้วกลับดันไปกระทบบาดแผลเข้า ทันใดนั้นเองก็ขมวดคิ้วแน่นทันที ก่อนจะอดทนเอาไว้อย่างสุดกำลัง
“ไม่เลวนี่ครับ!” ฟู่สีเกอตบเบาเข้าที่หัวไหล่ของเมิ่งซินหรุ่ยเบา ๆ “คุณแม่ครับ ทักษะนับวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นนะครับเนี่ย ลูกชายของคารวะ!”
“หึ! แกยังอ่อนหัด เรียนรู้เอาไว้เสีย!” เมิ่งซินหรุ่ยเชิงจมูกสูงขึ้นฟ้า
วันนั้น บิดามารดาของเฉียวโยวโยวเองก็รีบเดินทางมาจากต่างถิ่น ทันใดนั้นเอง ทุก ๆ คนก็ล้อมหน้าล้อมหลังไปหมด ห้องพักเดิมก็แสดงให้เห็นความเบียดเสียดขึ้นมาแล้ว
ในตอนนั้นเอง หลานเสี่ยวถางเกรงว่าหวันหว่านจะหิว ดังนั้นจึงให้แม่นมช่วยอุ้มหวันหว่านเข้ามาส่ง
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เสี่ยวหวันหว่านกำลังอยู่ในอ้อมแขนของสือมูเฉิน สบตามองเจ้าตัวน้อยเหมือนกันที่อยู่ในรถทารกอย่างสนอกสนใจ
เธอยื่นมือเล็ก ๆ ของตนเองออกไป ก่อนจะจับเข้ากับน้องสาว แล้วก็ยื่นมือออกไปอีกครั้ง ก่อนจะจับมือของน้องชายเอาไว้ ทันใดนั้นเอง ริมฝีปากก็เปิดกว้างเผยรอยยิ้มออกมา
“หวันหว่านเองก็ชอบน้องชายน้องสาวมากเลยนะเนี่ย!” ฟู่สีเกอมองไปยังหวันหว่านที่อยู่ในอ้อมแขนของสือมูเฉิน เอ่ยว่า “บอกพ่อบุญธรรมมาเร็วเข้า ชอบน้องชายมากที่สุดหรือว่าน้องสาว?”
หวันหว่านนั้นแทบจะฟังออกเลยก็ไม่ปาน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ชี้ไปทางน้องชาย แล้วก็ชี้ไปทางน้องสาว สุดท้ายแล้ว ก็ชื่อไปยังหยานชิงเจ๋อที่อยู่ทางด้านหลังของฟู่สีเกอด้วย
“ห้ะ ไม่ใช่หรอกน่า?!” ฟู่สีเกอจะร้องไห้ก็ไม่ได้จะหัวเราะก็ไม่ออก ก่อนจะมองไปทางหยานชิงเจ๋อ “นายคือฆาตกรเด็กใช่ไหม?!”
สือมูเฉินเองก็หัวเราะ “หลังจากนี้หากชิงเจ๋อมีลูก จะต้องดีต่อเด็กเป็นอย่างมากแน่ ๆ! ไม่เหมือนฉัน หวันหว่านนั้นยังชอบและติดแม่ของเธอมากกว่าอีก”
หยานชิงเจ๋อได้ยินคำพูดของสือมูเฉิน อดไม่ได้ที่จะหันไปมองซูสือจิ่น
แต่ทว่า เธอกลับเบนหน้าหนีไปแล้ว ก่อนจะมุ่ยริมฝีปาก “ไม่เร็วขนาดนั้นค่ะ ไม่เร็วขนาดนั้นนะ……”
หยานชิงเจ๋อหันไปมองสือมูเฉินและฟู่สีเกอที่ล้วนแล้วแต่มีลูกกันแล้ว ทันใดนั้นเองก็รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ แต่ทว่าภรรยาเองก็บอกว่ายังก่อนให้ค่อยเป็นค่อยไป เขานั้นจะสามารถทำอย่างไรได้?
ฟู่สีเกอเมื่อเห็นสีหน้าของหยานชิงเจ๋อในตอนนั้นเอง ก็คาดเดาอะไรออกมาได้ เขาหันไปแอบกวักนิ้วเรียกเขาให้เข้ามาหาไปมา
หยานชิงเจ๋อเห็นสัญญาณนั้นแล้ว ดังนั้นจึงเดินเข้าไปหา
“ซูสือจิ่นไม่ยอมตั้งท้องหรือ?” ฟู่สีเกอพาเขาออกไปนอกห้อง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา
หยานชิงเจ๋อพยักหน้า “เธอบอกว่าเธอพึ่งจะยี่สิบสี่ เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ยังไม่มีเจ้าตัวน้อยกันเลย ถ้าหากว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว จะรู้สึกเก้อเขินน่ะครับ……”
“ฉันมีวิธีนะ” ฟู่สีเกอเผยรอยยิ้มร้ายออกมาครู่หนึ่ง หลังจากนั้น จึงพุ่งเข้าไปที่ทางด้านข้างของใบหูหยานชิงเจ๋อ “ในทุกครั้งก่อนหน้าที่จะใกล้ชิดกันน่ะ แอบเอากรรไกรเล่มเล็ก ๆ เตรียมไว้สักเล่ม หลังจากนั้น ก็ตัดถุงยางอนามัยให้เป็นรูสักรูหนึ่ง……”
หยานชิงเจ๋อได้ยินดังนั้นแล้ว นัยน์ตาเป็นประกายทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลต่อว่า “แต่ว่าถ้าหากว่าเธอไม่อยาก มันจะ……”
“นายนี่โง่จริง!” ฟู่สีเกอนั้นหมดคำจะเอ่ยเป็นอย่างมาก “ถ้าหากว่าเธอมีขึ้นมาแล้วจริง ๆ หรือว่าจะทำแท้งไม่ท้องแล้วจริง ๆ หรือไงกันนะ? ขอเพียงแค่นายตัดรูนั้นให้กว้างหน่อยในทุกครั้ง อย่าให้เธอจับได้ก็พอแล้ว เสร็จเรื่องทั้งหมดแล้วหลังจากนั้นก็ทำลายหลักฐาน กลับกันสวมใส่ถุงยางแล้วตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่ไม่เคยมีนะเว้ย หรือว่านายจะยอมรับอย่างโง่ ๆ กันล่ะ?!”