บทที่ 395 เวยเวยตอกหน้าผู้ชายเฮงซวย

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หันกลับ​ไป​ด้วย​ดวงตา​ราวกับ​เยาะเย้ย​ ​“​สิ่ง​ที่​ข้า​รับ​ไม่ได้​ก็​คือ​ความ​เฮงซวย​และ​ความ​อกตัญญู​ของ​เจ้า​ต่างหาก​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ ​เก็บ​คำพูด​ของ​เจ้า​เอาไว้​เถอะ​ ​แทนที่จะ​มาป​รากฏ​ตัวต่อ​หน้า​ข้า​ ​ทำไม​เจ้า​ถึง​ไม่​ใช้เวลา​นี้​คิด​ว่า​จะ​ยกฐานะ​ของ​ตน​ให้​ดีขึ้น​ได้​อย่างไร​แทน​ล่ะ​ ​เหตุผล​ที่​ตอนแรก​เจ้า​เขี่ย​ข้า​ทิ้ง​เมื่อคราว​ก่อน​ก็​เพราะ​อย่างนี้​มิใช่​หรือ​ ​ใน​ใจ​ของ​เจ้า​ ​การ​แต่งงาน​ก็​เป็น​เพียงแค่​บันได​สำหรับ​หน้าที่​การงาน​ของ​เจ้า​เท่านั้น​”

​สีหน้า​ของ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​เปลี่ยนไป​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เขา​กำมือ​แน่น​จน​ข้อนิ​้​วลั​่น​ ​จากนั้น​เขา​ก็​หัวเราะเยาะ​เย้ย​ว่า​ ​“​แล้ว​องค์​ชาย​สาม​ไม่ได้​แต่งงาน​เพื่อ​ยกฐานะ​ของ​ตน​หรือ​ ​หน้าตา​อย่าง​เจ้า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เขา​จะ​ยอมให้​เจ้า​อยู่​เคียงข้าง​เขา​ได้​อีก​นาน​แค่ไหน​หรือ​ ​ความคิด​นี้​ก็​น่าจะ​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​สมอง​ของ​เจ้า​ตั้งแต่​ตอนที่​เจ้า​แต่งงาน​กับ​เขา​แล้ว​มิใช่​หรือ​ ​ถ้า​ไม่อย่างนั้น​เจ้า​จะ​บอก​ให้​เฮย​เจ๋อ​เตรียม​หนทาง​หนี​ให้​เจ้า​ไป​ทำไม​”

​“​ก็​เรื่อง​ของ​พวก​ข้า​ ​ไม่เกี่ยว​กับ​เจ้า​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ปรายตา​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เฉยเมย​ ​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ ​“​กิน​หัวไชเท้า​ดอง​เค็ม​แล้วยัง​จะ​กลัว​เสียอีก​[1]​“

​“​เจ้า​!​”​ ​มู่​หรง​ฉางง​เฟิ​งม​อง​ด้านหลัง​ของ​คนที​่​เขา​ไม่​อาจ​เข้าใกล้​ได้​อีก​ ​นอกจาก​ความหงุดหงิด​แล้ว​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​ยัง​เต็มไปด้วย​ความว่างเปล่า​อัน​ไม่​อาจ​เติมเต็ม​ได้

​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ยืน​อยู่​ใต้​ต้นฮว​๋าย​ไม่​ไกล​จาก​ที่นั่น​นัก​ ​มุม​ปากของ​นาง​กระตุก​ขึ้น

​นาง​นำ​บทสนทนา​ระหว่าง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กับ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ภายใน​หอน​้ำ​ชา​ที่นาง​ได้ยิน​มา​พิจารณา

​สรุป​ว่าการ​อภิเษกสมรส​ระหว่าง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กับ​ฝ่า​บาท​ก็​เป็น​เพียงแค่​ข้อตกลง​ที่​มี​ร่วมกัน​เท่านั้น

​เป็น​เช่นนี้​นี่เอง

​ริมฝีปาก​บาง​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​โค้ง​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​ ​มัน​ก็​เป็น​แค่​ความสัมพันธ์​แบบ​มีประโยชน์​ร่วมกัน

​เช่นนั้น​ก็​คง​ง่าย​ทีเดียว​…

​ในเวลานั้น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​เพิ่ง​ออกจาก​ย่านการค้า​ตั้งใจ​จะ​ใช้​โอกาส​ที่นาง​ยัง​พอ​มี​เวลาว่าง​เหลืออยู่​นี้​แวะ​ไปหา​ชิง​หลง​ที่อยู่​ก้น​ทะเลสาบ​ชิง​หลง​เสียหน่อย

​แต่​ทะเลสาบ​ชิง​หลงกลั​บมี​หมอก​หนา​ทึบ​มากกว่า​ทุกที​ ​ทำให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เผลอ​ขมวดคิ้ว​เข้าหา​กัน

​“​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​”​ ​หยวน​หมิง​เตือน​ให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​ ​“​แม่นาง​ ​อย่า​เดิน​ไป​ไกล​กว่านั​้น​”

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ชะงัก​ฝีเท้า​กลางคัน​ ​“​มี​อะไร​หรือ​”

​“​ไอ​หมอก​ที่อยู่​ที่นี่​เป็นอันตราย​ต่อ​ร่างกาย​ของ​เจ้า​ในเวลานี้​”​ ​ดวงตา​ของ​หยวน​หมิง​หรี่​ลง​ ​“​หลัง​ผ่าน​วัน​เสพสังวาส​ไป​แล้ว​เจ้า​ค่อย​กลับมา​ก็​ยัง​ได้​ ​หาก​ไม่เช่นนั้น​ ​เจ้า​คง​ไม่มีทาง​ผ่านพ้น​คืน​วันพระ​จันทร์เต็ม​ดวง​ไป​ได้​แน่​ ​ความต้องการ​ของ​เจ้า​จะ​ระเบิด​ออกมา​”

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​หมอก​ที่อยู่​รอบ​ทะเลสาบ​ชิง​หลง​ ​“​เป็น​เพราะ​หมอก​พวก​นี้​หรือ​”

​“​นี่​ไม่ใช่​หมอก​ธรรมดา​”​ ​ดวงตา​ของ​หยวน​หมิง​หม่น​แสง​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​ใช้​วิธีการ​ใด​ ​แต่​มี​ใคร​บางคน​รวบรวม​ปราณ​แห่ง​ความโกรธแค้น​จาก​ทั่วทั้ง​สำนัก​มา​ไว้​ที่นี่​ ​และ​ในเวลานี้​ ​เจ้า​ก็​ไม่​ควร​ที่จะ​เดิน​เข้าไป​ใน​นั้น​”

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว​แน่น​ขึ้น​อีก​ ​“​เช่นนั้น​เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​กับ​ชิง​หลง​ดี​”

​“​ยก​ให้​คนอื่น​จัดการ​เสีย​”​ ​น้ำเสียง​ของ​หยวน​หมิง​เจือ​ไป​ด้วย​ความจริงจัง​อย่างที่​ไม่​ค่อย​ได้​เห็น​นัก​ ​“​นาย​น้อย​ตระกูล​เฮย​เป็น​คน​แน่วแน่​ ​และ​ไม่น่า​จะ​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​ปราณ​แห่ง​ความโกรธแค้น​พวก​นี้​ ​หลังจาก​เจ้า​ผ่าน​คืน​พระจันทร์เต็มดวง​ไป​ได้​แล้ว​ ​เจ้า​ค่อย​กลับมา​หา​ชิง​หลง​”

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​ตาม​ ​พร้อมกับ​ละสายตา​จาก​ทะเลสาบ​ชิง​หลง​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​คง​ทำได้​เพียงแค่​นี้​”

​แต่​ใคร​กันที่​ทุ่มเท​ความพยายาม​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​เพื่อ​ทำลาย​ปราณ​มงคล​ภายใน​สำนัก

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​แต่​นาง​รู้สึก​ว่า​ตัวการ​ของ​เรื่อง​นี้​อยู่​ใน​สำนัก​นี้​นี่เอง

​ซ่า​!

​ผิว​ทะเลสาบ​มีน​้ำ​กระเพื่อม​ขึ้น​จน​กลายเป็น​วง

​ในเวลาเดียวกัน​กับ​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กำลัง​คุย​กับ​หยวน​หมิง​อยู่​นั้น​ ​ก็​มี​รถม้า​คัน​หนึ่ง​แล่น​เข้ามา​จอดเทียบ​ที่​หน้า​ประตู​สัมฤทธิ์​ของ​ตระกูล​เฮย​ซึ่ง​ตั้งอยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​เมือง

​“ฮู​หยิน​ ​คุณหนู​ ​พวกเรา​มาถึง​แล้ว​ขอรับ​”​ ​บ่าว​รับใช้​เปิดม่าน​รถม้า​ออก

​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​เดินลง​มาจาก​รถม้า​ ​ผม​สีดำ​ที่​ผ่าน​การ​หวี​จัด​ทรง​มา​เป็น​อย่างดี​ที่​ด้านหลัง​ของ​นาง​ยาว​ถึง​เอว​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ทั้งสอง​ข้าง​ใส​เหมือนแก้ว​ ​มัน​เต็มไปด้วย​เสน่ห์​น่า​ดึงดูด​ยาก​ที่​ชาย​ใด​จะ​ต้านทาน​ได้​ ​นาง​ดูเหมือน​กำลัง​คิด​อะไร​บางอย่าง​อยู่

​แต่​ดู​จาก​เสื้อผ้า​ราคาแพง​ที่​เด็กสาว​สวม​อยู่​นั้น​ ​ก็​บอก​ได้​ไม่ยาก​ว่านาง​เป็น​คน​มี​ฐานะ​ ​ยิ่งกว่านั้น​แม้​ใบหน้า​ของ​นาง​จะ​มี​ผ้าพันแผล​สีขาว​ปิดบัง​เอาไว้​ ​แต่​ดู​จาก​โครงหน้า​ของ​นาง​แล้ว​ ​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่านา​งคือ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ที่​หายตัว​ไป​ใน​ช่วง​หลาย​วันที่​ผ่าน​มา​เพื่อ​หนี​ข่าวลือ​นั่นเอง

​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ที่​ได้​พักผ่อน​เต็มที่​ตอน​อยู่​นอกเมือง​ ​และ​เห็นได้ชัด​ว่านา​งก​ลับ​มาด​้ว​ยกำ​ลัง​ใจ​ที่​ดียิ่ง​กว่า​ที่​เคย

​ซู​เหยี​ยน​โม่​ยืน​อยู่​ข้าง​นาง​พร้อมกับ​เกี่ยว​แขน​ของ​ตน​ไว้​กับ​บุตรสาว​ ​สอง​แม่​ลูก​ดู​ยิ้มแย้ม​อารมณ์ดี

​พวก​นาง​รอ​วันนี้​มานาน​เหลือเกิน

​ในที่สุด​องค์​ชาย​สาม​ก็​จะ​เลือก​พระสนม​ ​และ​สำหรับ​พวก​นาง​ ​นี่​นับว่า​เป็นข่าว​ดี​อย่างมาก

​นัง​คน​อัปลักษณ์​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ต้อง​พ่ายแพ้​จน​หมดรูป

​สอง​แม่​ลูก​เดินทางออก​จาก​เมือง​โดยตั้งใจ​ว่า​จะ​ปล่อย​ให้ข่าว​ลือ​ใน​เมือง​เงียบ​ลง​เสียก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับมา

​แต่​ซู​เหยี​ยน​โม่​กลับ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่านาง​จะ​บังเอิญ​ได้รับ​ข่าว​ที่​น่า​ตกใจ​อย่าง​อื่น​มา​แทน

​นาง​เจอ​เบาะแส​ที่จะ​นำไปสู่​กองกำลัง​ลับ​เข้า

​ซู​เหยี​ยน​โม่​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​โบกมือ​ส่งสัญญาณ​ให้​สาวใช้​ของ​ตน​รอ​อยู่​ข้างนอก​ ​นาง​ปั้นหน้า​เครียด​ ​พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​จวน​ตระกูล​เฮย

​“​พวก​ข้า​ขอ​ทราบ​ได้​หรือไม่​ขอรับ​ว่าฮู​หยิน​มาที​่​จวน​ตระกูล​เฮ​ยด​้วย​เหตุ​อัน​ใด​”​ ​ทหาร​รักษาการณ์​ด้านนอก​หัน​มองฮู​หยิน​ซู​ที่​กำลัง​เดินหน้า​นิ่ว​คิ้ว​ขมวด​เข้ามา

​“​พี่ชาย​สอง​ท่าน​นี้​ ​ข้า​รบกวน​ช่วย​ไป​แจ้ง​ข้างใน​ให้​ที​ ​บอก​พวกเขา​ว่าฮู​หยิน​ซู​จาก​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​มาที​่​นี่​เพื่อ​ปรึกษา​เรื่อง​กองกำลัง​ลับ​กับ​เขา​ก็​พอ​”​ ​ซู​เหยี​ยน​โม่​อ้าง​ชื่อ​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ด้วย​ความมั่นใจ​อย่าง​เต็มเปี่ยม​ ​พลาง​คิด​ว่า​ผู้อาวุโส​เฮย​จะ​ต้อง​เชิญ​นาง​เข้าไป​ใน​จวน​อย่างแน่นอน

​“​ขอฮู​หยิน​โปรด​รอสั​กค​รู่​ ​ข้า​จะ​ไปรา​ยงาน​ท่าน​ผู้อาวุโส​ให้​ขอรับ​”​ ​ทันทีที่​ทหาร​ทั้งสอง​นาย​ได้ยิน​เรื่อง​กองกำลัง​ลับ​ ​พวกเขา​ก็​ลอบมอง​ตากัน

​หนึ่ง​ใน​นั้น​กลับ​หลัง​หัน​แล้ว​เดิน​หาย​เข้าไป​ใน​จวน​ตระกูล​เฮย

​ทันใดนั้น​นายทหาร​คนที​่​เพิ่ง​เดิน​เข้าไป​เมื่อ​ครู่​ก็​เดิน​กลับ​ออกมา​อีกครั้ง​ด้วย​ใบหน้า​เคร่งเครียด​ ​เขา​บอก​กับฮู​หยิน​ซู​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ขอรับ​ ​ตระกูล​เฮย​จะ​ต้อนรับ​แค่​เพียง​สมาชิก​ที่แท้​จริง​ของ​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​เท่านั้น​”

​“​สมาชิก​ที่แท้​จริง​ของ​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​หรือ​ ​เจ้า​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ที่​ยืน​ฟัง​อยู่​ข้างๆ​ ​ถาม​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ใช้​สกุล​เฮ่อ​เหลียน​อยู่​หรือ​ไร​”

​ทหาร​นาย​นั้น​มอง​นาง​ ​แล้ว​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ว่า​ ​“​ทายาท​ที่​มี​เลือด​ของ​นายท่าน​เฮ่อ​เหลียน​คน​ก่อน​ไหลเวียน​อยู่​ใน​ร่าง​คง​ไม่ใช่​คุณหนู​ที่​ยืน​อยู่​ตรงนี้​แน่​”

​“​แต่​ข้า​ก็​ยัง​มีสิทธิ์​ที่จะ​ได้​พบ​กับ​กองกำลัง​ลับ​มิใช่​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ขึ้นเสียง​อย่าง​อดไม่ไหว​ ​“​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​กำลังจะ​เปลี่ยน​ผ่าน​มา​อยู่​ใน​มือ​ของ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ ​และ​ข้า​ก็​เป็น​ทายาท​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ ​กองกำลัง​ลับ​จะ​กลับมา​ผงาด​ขึ้น​อีกครั้ง​ภายใต้การควบคุม​ของ​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ ​และ​คงจะ​ดีที​่​สุดหาก​ให้​ข้า​ได้​เข้าพบ​กองกำลัง​ลับ​เพื่อ​ทำความเข้าใจ​กับ​พวกเขา​ให้​ดี​เสียก่อน​”

​ทหาร​นาย​นั้น​ไม่​ขยับเขยื้อน​ ​“​การ​เข้าพบ​กองกำลัง​ลับ​นั้น​จำเป็นต้อง​แสดง​ตรา​ทัพ​เสียก่อน​ขอรับ​ ​ส่วน​ท่าน​ ​คุณหนู​ ​ท่าน​ไม่มี​ตรา​ทัพ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​ถูก​นับว่า​เป็นสมาชิก​ที่แท้​จริง​ของง​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​อีกด้วย​ ​ดังนั้น​กรุณา​กลับ​ไป​เถอะ​ขอรับ​”

​หลังจาก​พูด​จบ​ ​ทหาร​รักษาการณ์​ทั้งสอง​ก็​ไม่​แม้แต่​จะ​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​อีก​ ​และ​หันกลับ​ไป​สนใจ​กับ​สิ่งรอบข้าง​แทน​ราวกับว่า​สอง​แม่​ลูก​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​พวกเขา​นั้น​ไม่มี​ตัวตน

​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ทหาร​นาย​นั้น​ ​ใบหน้า​ที่​เคย​ยิ้มแย้ม​ของ​ซู​เหยี​ยน​โม่​ก็​พลัน​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​งุนงง​ ​นาง​คิด​ว่าการ​พา​เจียว​เอ๋อร​์​มาด​้วย​เช่นนี้​ ​แล้ว​ฐานะ​พระ​ชายา​กลับชาติมาเกิด​ที่​เจียว​เอ๋อร​์​มี​จะ​สามารถ​เบิกทาง​ให้​พวก​นาง​ได้​ไม่ว่า​พวก​นาง​จะ​ไป​ที่ใด​ ​อย่าง​แย่​ที่สุด​พวก​นาง​ก็​คงจะ​ยัง​ได้​พบ​กับ​ผู้อาวุโส​เฮย​บ้าง

​ตราบใดที่​พวก​นาง​ได้​พบ​ผู้อาวุโส​เฮย​ ​อย่างน้อย​พวก​นาง​ก็​น่าจะ​ได้​รู้เรื่อง​ของกอง​กำลัง​ลับ​มากกว่า​นี้​ผ่าน​ทาง​เขา​ ​ต่อให้​พวก​นาง​จะ​ไม่ได้​รับ​การ​สนับสนุน​จาก​กองกำลัง​ลับ​นั่น​ก็ตาม

​แต่​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​ผู้อาวุโส​เฮย​จะ​ไม่​ให้เกียรติ​นาง​แม้แต่​นิดเดียว​ ​มิหนำซ้ำ​ยัง​ไม่​ให้​พวก​นาง​ก้าว​ผ่าน​ประตู​จวน​ของ​ตระกูล​เฮย​เข้าไป​เลย​ด้วยซ้ำ

​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​ซู​เหยี​ยน​โม่​ก็​กัดฟัน​กรอด​ ​นาง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​จึง​หันหลัง​กลับ​ขึ้นรถ​ม้า​ด้วย​ใบหน้า​ดำทะมึน

—————————————–

​ ​[1]​ ​กิน​หัวไชเท้า​ดอง​เค็ม​แล้วยัง​จะ​กลัว​เสียอีก​ ​(​咸​吃​萝​卜​淡​操​心​)​ ​เป็น​สำนวน​ที่​ใช้​เปรียบเทียบ​กับ​คนที​่​ชอบ​ยุ่ง​เรื่อง​ชาวบ้าน​ไป​ทั่วทั้ง​ที่​ไม่ได้​เข้าใจ​สถานการณ์​เลย​แม้แต่น้อย