ตาของเฉินฮวนฮวนกะพริบไปหลายที นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
รอจนชายหนุ่มยอมปล่อยเธอออก เธอถามโง่ๆไป “คุณ…ไม่รู้สึกขมเหรอ?”
อย่างน้อยเมื่อกี้ตอนดื่มยาเสร็จ เธอรู้สึกในปากเต็มไปด้วยรสชาติขมปี๋
“ช่วยคุณแบ่งรสขม ยังไม่เต็มใจเหรอ?” เฟิงหานชวนหัวเราะออกมาเบาๆ จุ๊บลงบนหน้าผากเธออีกครั้ง
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่ได้ขมขนาดนั้นแล้วจริงๆ
“หลังจากนี้ยอมดื่มยาแล้วค่อยกินของหวาน หรือว่าดื่มยาแล้ว…” เฟิงหานชวนพูดแล้วหยุดไป บนใบหน้ากลับเผยให้เห็นถึงความชั่วร้าย
เฉินฮวนฮวนลุกพรวดขึ้นมา แล้วรีบเดินไปทางบันได พลางตอบคำถามไปด้วย“ฉันปฏิเสธจะตอบคำถามนี้”
“ฮวนฮวน งั้นคุณก็เลือกวิธีการที่สอง” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนเต็มไปด้วยหยอกล้อ
เฉินฮวนฮวนปิดหน้าไว้ รีบขึ้นบันไดไป
“ระวัง!” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความกังวลในฉับพลัน
…
ก็ผ่านไปแบบสงบร่มเย็นแบบนี้ไปหลายวัน
วันนี้ เฉินฮวนฮวนไปที่เอเจนซี่ของกู้ไหว่ นี่ก็เป็นที่พวกเขานัดกันไว้ก่อนแล้ว
ในหลายวันนี้ กู้ไหว่ของให้เธอเขียนเนื้อเพลงหลายเพลง เพราะฉะนั้นตอนเฉินฮวนฮวนอยู่บ้าน ก็ไม่ได้ว่าง
นำเนื้อเพลงสองเพลง เฉินฮวนฮวนเห็นกู้ไหว่กำลังบันทึกเสียงอยู่
หลังจากกู้ไหว่ทักทายเธอเสร็จ ก็เข้าเรื่องเลย ถามเอาเนื้อเพลงกับเธอ เฉินฮวนฮวนเอาต้นฉบับสองใบยื่นให้กู้ไหว่ทันที
เนื้อเพลงแรก ชื่อ 《คุณยาย》 เธอเขียนให้กับคุณยายที่รักของเธอ
เนื้อเพลงที่สอง ชื่อ《เข้มแข็ง》เธอเขียนให้กำลังตัวเองในอดีต
กู้ไหว่ดูเสร็จ เบ้าตาแดงเล็กน้อย นั่งกลับไปบนเก้าอี้ น้ำเสียงสะอึกสะอื้นนิดๆ “คุณยายผมตายไปสิบปีแล้ว ตอนนั้นผมไปโปรโมตที่ต่างจังหวัด มาไม่ทันดูหน้าท่านครั้งสุดท้าย ผมเสียใจมาก แต่กลับไม่มีความกล้าเขียนเพลงเพื่อท่านมาโดยตลอด”
ได้ยินกู้ไหว่เปิดเผยออกมา เบ้าตาของเฉินฮวนฮวนก็แดงออกมา เธอพูดเสียงเบา “เพราะเรื่องหนึ่ง ฉันก็ไม่ได้เจอหน้าคุณยายเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน”
“คุณให้ฉันเขียนเพลง คิดด้วยตัวเอง ในหัวของฉัน สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือคุณยายของฉัน…”
พูดถึงตอนท้าย ในที่สุดเฉินฮวนฮวนก็ทนไม่ไหว น้ำตาหยดลงมาทีละหยด แล้วหล่นลงไปบนพื้น
ชั่วพริบตาที่กู้ไหว่เงยหน้าขึ้นนั้น เห็นเข้าพอดี รีบดึงทิชชูหลายแผ่นมายื่นให้เฉินฮวนฮวน พูดว่า“รีบเช็ดน้ำตา ผมรู้สึกว่าเพลง《เข้มแข็ง》หนักเกินไป ใช้ในการแสดงเปิดตัวไม่ค่อยเหมาะ แต่เนื้อเพลงเขียนให้จิตใจคนฮึกเหิมขึ้นมาก ผมรู้สึกสามารถเก็บไว้ใช้ตอนการเปิดการแสดงครั้งแรกได้ การเปิดตัวก็ใช้เพลง《คุณยาย》นี้แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ ครูกู้ ขอบคุณครูจริงๆ” เฉินฮวนฮวนเช็ดน้ำตา โค้งคำนับให้กู้ไหว่ด้วยความซาบซึ้งใจ
ถ้าหากไม่มีความช่วยเหลือของกู้ไหว่ เธอก็ไม่มีโอกาสแบบในตอนนี้
“คุณมีพรสวรรค์มาก ผมรู้สึกสัมผัสของเนื้อเพลงไม่มีปัญหาอะไร ต่อจากนี้ก็คือแต่งทำนองกับเรียบเรียงแล้ว เรื่องนี้ก็ยกให้ผม ผมช่วยคุณเอง”กู้ไหว่พูดอย่างจริงใจ เขาอยากช่วยเฉินฮวนฮวนด้วยใจจริงๆ
หลังจากได้ยินคำว่าเรียบเรียง เฉินฮวนฮวนสูดหายใจลึกๆ พยายามคุมน้ำตาของตัวเองไว้ รีบถาม “ครูกู้ ฉันอยากเล่นทำนองท่อนหนึ่งให้คุณฟัง ทำนองนี้ไม่มีความขัดแย้งด้านลิขสิทธิ์ คุณลองฟังดู สามารถใช้ในเพลงนี้ได้หรือเปล่า”
“ได้ คุณเล่น” กู้ไหว่ชี้ไปที่เปียโนไฟฟ้าข้างๆ
เฉินฮวนฮวนเดินไป ยืนอยู่หน้าเปียโน หลับตา ย้อนนึกถึงอดีตหลายวินาที สองมือเต้นพลิ้วไหวอยู่บนแป้นเปียโน
เสียงเปียโนที่ไพเราะ น่าฟังมาก กลับซ่อนความเศร้าไว้เล็กน้อย เหมือนกับนางฟ้าตกลงมาในโลก กำลังร้องเพลง
ตอนเฉินฮวนฮวนกำลังตั้งใจบรรเลง กู้ไหว่กลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คนทั้งคนตัวแข็งไป จู่ๆเขาตะโกนเสียงดัง “คุณเล่นทำนองนี้ได้ยังไง?”
เฉินฮวนฮวนตกใจ หยุดเล่นไป มองไปที่กู้ไหว่ด้วยความงง กลับเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของกู้ไหว่
“ครูกู้ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? คุณเคยได้ยินทำนองนี้?” เฉินฮวนฮวนถามด้วยความตกใจ แล้วอธิบายไปหนึ่งประโยค“นี่เป็นการแต่งของคุณยายฉัน เรื่องนี้ ท่านไม่เคยพูดกับใคร”
ในอดีตคุณยายเป็นนักดนตรีรุ่นเยาว์ที่มีชื่อมากคนหนึ่ง แต่หลังจากที่ตั้งท้องแม่ของเธอ คุณยายก็อำลาวงการไป
ทำนองเพลงพวกนี้ คุณยายเป็นคนมอบให้เธอกับมือ แต่เธอกลับไม่เคยค้นเจอข้อมูลในอดีตของคุณยายเลย
“มิน่าล่ะ ตอนคุณปรับการร้องของเพลง《ลม》ผมก็แอบคิดว่าทำนองของคุณคุ้นๆ ที่แท้คุณ…คุณเป็นหลานสาวของเธอ!”
สีหน้าของกู้ไหว่ดูประหลาดใจมาก ในปากพูดพึมพำกับตัวเอง “นี่เป็นโชคชะตา โชคชะตา”
“ครูกู้ คุณรู้จักคุณยายของฉัน!?”
กู้ไหว่แค่สามสิบต้นๆ แต่คุณยายของเธออำลาวงการมาสี่สิบกว่าปีแล้ว ตอนนั้นกู้ไหว่ยังไม่เกิดแท้ๆ รู้จักคุณยายได้ยังไงกัน?
“เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมเรียนประถม ตอนนั้นคุณยายของคุณมาท่องเที่ยวในเมืองของผม เจอเข้ากับวงดนตรีแสดงข้างถนนวงหนึ่งพอดี ท่านแย่งที่คนอื่น จัดแสดงเดี่ยวข้างถนนขึ้น”
“น่าจะราว ๆเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมคิด คุณยายคนนี้เท่จัง ไวโอลินอันหนึ่งก็รู้สึกดึงโลกทั้งใบออกมา และเพราะแบบนี้ ดึงดูดผมเข้ามาในเส้นทางดนตรีนี้”
“ในสายตาของผม ท่านก็เหมือนครูชั้นยอด แต่ต่อมาผมกลับค้นหาข้อมูลของท่านไม่เจอเลย ตอนนั้นสังคมยังไม่ก้าวหน้า ไม่มีคนไปถ่ายรูปอะไร ไม่มีคนระลึกถึงเวลาศักดิ์สิทธิ์แบบนั้น”
ใบหน้าแสดงความนับถือของกู้ไหว่แทบจะล้นออกมาแล้ว เฉินฮวนฮวนดูออก กู้ไหว่ชื่นชมคุณยายจริงๆ เธอไม่เคยคิดมาก่อน จะมีคนแปลกหน้าคิดถึงคุณยายมาตลอด
20กว่าปีก่อน ตอนนั้นเธอยังไม่เกิด คุณแม่ซูอวิ้นดูแลบริษัท คุณยายนอกจากดูแลบ้านแล้ว ก็คือท่องเที่ยวไปทั่ว
คุณยายในตอนนั้น แม้ว่าในใจจะซ่อนเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต แต่เห็นลูกสาวประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คงจะมีความสุขเหมือนกัน
แต่ว่าหลังจากนั้น…
“เสียดายมาก ไม่รู้จักคุณให้เร็วกว่านี้ แบบนี้ไม่แน่บางทีตอนที่คุณยายมีชีวิตอยู่ ได้พบท่านอีกครั้ง ฟังท่านบรรเลงอีกหนึ่งบทเพลง”กู้ไหว่ถอนหายใจเบาๆ
เฉินฮวนฮวนเช็ดตา พยายามยิ้มออกมา พูดว่า“ครูกู้ ขอบคุณ คุณมากจริงๆ ขอบคุณ คุณมากที่ยังจำท่านได้”
หลายปีมานี้ ตั้งแต่คุณแม่ตายไป มีแค่เธอกับคุณยายสองคนดูแลซึ่งกันและกัน คุณยายนับวันยิ่งแก่ลง ร่างกายวันหนึ่งไม่สู้วันหนึ่ง สุดท้ายตรวจเจอโรคร้ายแรง
เธอกับคุณยาย ทั้งสองคนเหมือนลอยไปถึงเกาะร้าง หาเรือที่จะออกไปไม่ได้เลย
“ถ้าหากสะดวกใจ พาผมไปสุสานคุณยายหน่อย ผมอยากไปเยี่ยมท่าน คุณครูด้านดนตรีคนแรกของผม” กู้ไหว่ยกมือตบไปที่ไหล่ของเฉินฮวนฮวนเบาๆ
เรื่องของโชคชะตา พูดยากจริงๆ มิน่าหลังจากที่เขาเจอเฉินฮวนฮวน คิดอยากช่วยเหลือเธอจากก้นบึ้งของหัวใจ หรือบางที นี่ก็เป็นแรงชักนำลึกลับอย่างหนึ่ง