ตอนที่ 243 ข้าจะสนับสนุนแทนเจ้า
ตอนที่ 243 ข้าจะสนับสนุนแทนเจ้า
อวี้เป่าเอ๋อร์ตกใจแล้วรีบปิดปากทันที เด็กชายหันศีรษะพลางทำท่าทางครุ่นคิด ‘เมื่อครู่ข้านั้นเสียมารยาท ถ้าหากท่านประสงค์จะสังหารข้าแล้วละก็ รีบลงมือเสียเถิด’
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นแทนเด็กชาย “เจ้าอยากจะพูดว่า นางถูกอวี๋จั้วหลินสังหาร หรือไม่เช่นนั้นก็ถูกฮูหยินอวี้และคุณหนูอวี้สังหารถูกไหม?”
“ท่าน…”อวี้เป่าเอ๋อร์ตกตะลึง ท่านอ๋องรู้ได้อย่างไรกัน?
“เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า อวี้ชิงลั่วไม่ได้ถูกฟ้าผ่าจนเสียชีวิต นางรอดจากความตายและหนีออกมาจากจวนตระกูลอวี๋ แต่ผลลัพธ์กลายเป็นว่าในตอนที่นางกลับจวนตระกูลอวี้นั้นถูกบิดาของเจ้าไล่ออกมา และถูกเฉินจีซินไขความลับ จึงทำให้อวี๋จั้วหลินรู้ว่านางนั้นอยู่ที่ใดและพาคนมาตามสังหารนาง ในท้ายที่สุดนางก็เสียชีวิตที่วัดร้างใช่หรือไม่?”
อวี้เป่าเอ๋อร์ดวงตาเบิกกว้าง เด็กชายจ้องมองไปยังเย่ซิวตู๋อย่างไม่กล้าปักใจเชื่อ เขากลืนน้ำลายแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง “ท่าน ท่านรู้ได้อย่างไร? เรื่องพวกนี้ ท่านรู้ได้เช่นไร?”
นี่มันเป็นไปไม่ได้ เด็กชายได้ยินเฉินจีซินเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นนั้นคนที่รู้เรื่องราวนอกจากสองแม่ลูกเฉินซีจินและเขาเองก็มีเพียงแต่คนของอวี๋จั้วหลินเท่านั้นที่รับรู้
ดังนั้น พวกเขาไม่มีทางไปพูดคุยเรื่องพวกนี้กับผู้อื่นหรอก
เหวินเทียนตกตะลึง เรื่องพวกนี้ชายหนุ่มเองก็ยังไม่รู้ ที่แท้แล้วแม่นางอวี้ในตอนนั้นก็กลับไปขอความช่วยเหลือจากบ้านตระกูลอวี้ ไม่คิดเลยว่า…ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเรื่องน่าเศร้า
เย่ซิวตู๋ไม่ได้ตอบคำถามเด็กชาย เพียงแต่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย “ดื่มชา”
อวี้เป่าเอ๋อร์ยกแก้วขึ้นมาและดื่มเข้าไปทันที หลังจากนั้นก็จ้องมองเขาด้วยแววตาดุดัน “ใครบอกเรื่องเหล่านี้กับท่าน?”
เหวินเทียนลูบหน้าผากของตนเอง ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าอวี้เป่าเอ๋อร์ผู้นี้เป็นน้องชายของอวี้ชิงลั่วจริง ๆ ทั้งสองนั้นคล้ายกันจนน่าประหลาดใจยิ่ง อย่างเช่น…ความหยิ่งผยองเช่นนี้
เหวินเทียนจ้องมองอวี้เป่าเอ๋อร์ ชายหนุ่มกำมือขวาเอาไว้ใต้คางแล้วกระแอมขึ้นมาสองรอบ
เย่ซิวตู๋และอวี้เป่าเอ๋อร์เหลือบมองชายหนุ่มพร้อม ๆ กัน คนแรกกระตุกริมฝีปากอย่างเหน็บแนม และคนหลังก็ตระหนักได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือผู้ใด เด็กชายจึงรีบก้มหน้าลงแล้วเอ่ยขึ้น “ข้า ข้าเพียงแค่รู้สึกว่ามันแปลกว่าเหตุใดท่านอ๋องจึงรู้เรื่องพวกนี้ เนื่องจากผู้ที่รับรู้เรื่องพวกนี้ก็มีเพียงแค่คนเลว ๆ พวกนั้นที่ทำร้ายพี่สาวของข้า”
“อื้ม คนพวกนั้นช่างระยำเสียจริง” ในจุดนี้เย่ซิวตู๋และเด็กชายต่างมีความเห็นที่ตรงกัน
อวี้เป่าเอ๋อร์ดีใจเป็นอย่างมาก “ดังนั้นท่านอ๋องคงไม่ชอบอวี้ชิงโหรวใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ท่านอ๋องบอกว่าคนที่สังหารพี่สาวของตนเป็นคนระยำ เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาคงรู้ธาตุแท้ของสองแม่ลูกเฉินจีซินแล้ว
ชอบอวี้ชิงโหรวหรือ?
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ “ไม่ชอบ”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ดังนั้น ท่านอ๋องอนุญาตให้ข้าออกจากจวนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องที่สำคัญ” อวี้เป่าเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความสบายใจ ถึงอย่างไรเรื่องทั้งหมดที่เด็กชายกังวลก็ไม่ได้เกิดขึ้น เช่นนั้นเขาแค่เกลี้ยกล่อมก็พอแล้ว
“เจ้าจะไปพบเสนาบดีฝ่ายขวาหรือ? ไปบอกเขาว่าอวี้ชิงโหรวไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาคาดคิด และก็ไม่ได้ใสซื่อเช่นกัน เพื่อหวังว่าเขาจะไม่แต่งงานกับนาง ใช่หรือไม่? ”
อวี้เป่าเอ๋อร์จ้องมองเย่ซิวตู๋ด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง ท่าน เหตุใดท่านจึงรู้?” มหัศจรรย์ ที่แท้แล้วท่านอ๋องซิวก็สุดยอดสมกับที่ร่ำลือ
ในเมื่อเย่ซิวตู๋รับรู้เป้าหมายของเขา เช่นนั้นแล้วเรื่องราวก็ง่ายดายขึ้นมามาก “ท่านอ๋อง เสนาบดีฝ่ายขวานั้นเป็นคนดี ข้าไม่ต้องการให้เขานั้นถูกหลอก”
“หึ คนดีหรือ?” เย่ซิวตู๋เยาะเย้ย “เจ้าไม่ต้องไปหรอก หากว่าขนาดธาตุแท้ของสตรีนางหนึ่งเขายังดูไม่ออกแล้วละก็ เขาเองก็โง่เขลาเช่นกันที่อยู่กับอวี้ชิงโหรว ก็เหมาะสมกันแล้ว”
เหวินเทียนก้มหัวลงอย่างเงียบ ๆ เห็นได้ชัดว่านายท่านนั้นหึงหวง คาดว่าตอนนี้นายท่านก็คงจะทนรอไม่ไหวที่จะให้เสนาบดีฝ่ายขวากับอวี้ชิงโหรวแต่งงานกันเร็ว ๆ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เขามาโหยหาแม่นางอวี้
แต่เสนาบดีฝ่ายขวาผู้นี้…ต่อนายท่านแล้ว เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเสียจริง
อวี้เป่าเอ๋อร์ตกใจมาก เหตุใดอารมณ์ของท่านอ๋องจึงเปลี่ยนไปปุบปับเช่นนี้?
“แต่…แต่ว่า…” อวี้เป่าเอ๋อร์ครุ่นคิด หรือเขาควรจะพูดออกไปสักคำถึงจะดี “แต่อวี้ชิงโหรวได้รับการสนับสนุนจากเสนาบดีฝ่ายขวา และนางก็หยิ่งยโส ถ้าหากว่านางแต่งงานกับเสนาบดีฝ่ายขวา เช่นนั้นแล้วอนาคตจะเป็นเช่นไร? เป็นเพราะพวกเขาสองแม่ลูก พี่สาวของข้าจึงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ถ้าหากว่านางกลายเป็นฮูหยินของเสนาบดีฝ่ายขวา วันข้างหน้าข้าก็ไม่สามารถแก้แค้นแทนพี่สาวของข้าได้”
“พี่สาวของเจ้าไม่ต้องการให้เจ้าไปแก้แค้นแทนนาง” เด็กอายุสิบเอ็ดขวบคนหนึ่ง ไร้ซึ่งมีอำนาจ ไร้ซึ่งทรัพย์สิน ไร้ซึ่งกองกำลัง แม้แต่อิสระก็ยังไม่มี จะไปแก้แค้นได้เช่นไร? ถ้ารอให้เขานั้นเติบโตและมีต้นทุน ก็เกรงว่าจะสายเกินไป
อวี้เป่าเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น ไม่ต้องการให้เขาแก้แค้นหรือ?
“หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? เช่นนั้นแล้วพี่สาวของข้าจะไม่ตายเสียเปล่าหรอกหรือ? พี่สาวของข้านั้นตายอย่างน่าเวทนา ตอนนี้ผู้ที่จะมาเป็นเจ้าทุกข์ให้นางสักคนก็ไม่มี ผู้ที่จะจดจำนางได้สักหนึ่งคนก็ยังไม่มี ใต้หล้านี้นอกจากข้าแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยพี่สาวได้แล้ว ข้าไม่สามารถให้พี่สาวนอนตายตาไม่หลับ ไม่เช่นนั้นแล้วข้าก็คงจะไม่มีหน้าไปพบนางอีกในวันข้างหน้า แม้แต่ท่านแม่เองข้าก็ไม่มีหน้าที่จะไปพบนาง”
เหวินเทียนก่ายหน้าผากของตนเงียบ ๆ อวี้เป่าเอ๋อร์ผู้นี้ เพียงแค่เอ่ยถึงแม่นางอวี้ก็กล่าวได้อย่างเผ็ดร้อนและแสดงท่าทางพองขนราวกับใส่เสื้อเกราะหนามตามร่างกาย ไม่ว่าผู้ที่อยู่ข้างหน้าตนจะเป็นใคร สถานะไหน เด็กคนนี้ล้วนไม่สนใจแม้แต่น้อย
ยากมากที่ท่านอ๋องจะอดทนต่อขีดจำกัดของตน เคราะห์ดีที่อวี้เป่าเอ๋อร์ผู้นี้เป็นน้องชายของแม่นางอวี้ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องคงจะหมดความอดทนและโยนเจ้าเด็กคนนี้ออกไปแล้ว
เหวินเทียนพบว่า ขอบเขตของท่านอ๋องต่อแม่นางอวี้นั้นต้องล่าถอยออกไปเรื่อย ๆ ไม่ที่สิ้นสุด
เย่ซิวตู๋กลืนน้ำลาย ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกเบื่ออวี้เป่าเอ๋อร์ แต่กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้เด็กชายเข้าใจ
“หนี้แค้นของอวี้ชิงลั่ว ข้าจะแก้แค้นให้เอง ไม่ว่าวันข้างหน้าอวี้ชิงโหรวจะได้แต่งงานกับเสนาบดีฝ่ายขวาหรือไม่ ไม่สนว่าวันข้างหน้านางจะกำแหงถึงเพียงใด จะมีข้าคอยสนับสนุนเจ้า ผู้ใดจะกล้าลงมือกับเจ้าอีก?”
ประโยคนี้แม้จะฟังดูอวดดีและบ้าระห่ำ แต่สำหรับเย่ซิวตู๋แล้วนั้น นี่คือความจริง
เสนาบดีฝ่ายขวาไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย อวี้ชิงโหรวเองก็เช่นกัน ไม่ต้องเอ่ยถึงอวี๋จั้วหลิน
อวี้เป่าเอ๋อร์รู้สึกว่ามีกระแสความร้อนพุ่งออกมาจากหน้าอกของเขา เมื่อฟังประโยคนี้แล้วเด็กชายก็มีความมั่นใจเพียงพอ
“ท่าน…ท่านอ๋องซิว เหตุใดท่านจึงทำเพื่อข้า? เหตุใดจึงต้องแก้แค้นแทนพี่สาวข้า? ท่านอ๋องซิวรู้จักพี่สาวของข้าหรือ?” หรือว่าเสนาบดีฝ่ายขวาหรืออวี้ชิงโหรวจะทำผิดต่อท่านอ๋องซิวผู้นี้?
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว มือวางแก้วชาลง
แต่ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงสดใสกังวานก็ได้ดังมาจากด้านนอกประตู “แค้นของข้า ข้าจะแก้แค้นเอง”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น ภายในห้องของเย่ซิวตู๋ก็มีเงาของร่างที่ดูเย็นชาเดินเข้ามา
อวี้ชิงลั่วเปิดประตูเข้ามาในทันที ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกมองไปที่เด็กชายร่างเล็กและชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลัง ‘สนทนา’ กันอยู่
เยว่ซินที่ตามหลังมาก็ได้โผล่ศีรษะตามเข้ามา เมื่อพบเข้ากับอวี้เป่าเอ๋อร์ ดวงตาของนางก็เบิกกว้าง “คุณชายน้อย เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่ห้องของท่านอ๋องเจ้าคะ?”
…………………………
สารจากผู้แปล
คุณชายอวี้มีแบคแล้ว แถมยังเป็นแบคที่แข็งแกร่งด้วย
ว่าแต่ได้เจอพี่สาวตัวเป็น ๆ แล้วจะมีปฏิกิริยาเป็นยังไงนะ
ไหหม่า(海馬)