“เด็กนั่นเป็นลูกของผม”
นิ่งไปหลายวินาที เสียงเย็นชาดังขึ้นช้าๆ ในความเงียบสงบ
เฉินฮวนฮวนอดไม่ได้ที่จะมองเขา เกร็งไปทั้งตัว ขมวดคิ้วขึ้นทันที บนหน้าเผยให้เห็นถึงประหลาดใจและสงสัยสุดขีด
“เฟิงหานชวน คุณ… แปลกเกินไปแล้ว!”
เฉินฮวนฮวนเกือบจะพูดออกมา เธอถามต่อ“ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหน ใจกว้างเหมือนคุณขนาดนี้ เห็นลูกคนอื่นเป็นลูก”
“เดิมฉันนึกว่า เป็นเพราะฉัน คุณถึงยอมรับเด็กคนนี้ แต่ตอนนี้ ทำไมฉันเห็น…คุณสนใจเด็กคนนี้มากกว่า?”
สุดท้ายเฉินฮวนฮวนก็สังเกตเห็นถึงจุดที่แปลกๆ เธอรู้สึกแปลกจริงๆ เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมากแบบนั้น
เธอรู้สึกเฟิงหานชวนผิดปกติ ไม่ปกติสักนิด เกินขอบเขตความเข้าใจของคนปกติ
ถ้าหากเป็นเพราะเฟิงหานชวนชอบเด็ก แต่เขาดูเหมือนไม่ได้ชอบเด็กขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เร่งรัดเธอให้มีลูก ยังเคยบอกรอเธอเรียนจบแล้วค่อยมี
เพราะฉะนั้น ทำไมเฟิงหานชวนถึงสนใจเด็กคนนี้ขนาดนี้? นี่ถือว่าเป็นลูกของหลิวตงรุ่ย?
“ฮวนฮวน ผม…” ในหัวของเฟิงหานชวน ความคิดตีกันอยู่นับครั้งไม่ถ้วน
เขาถึงขนาดอยากพูดเรื่องคืนนั้นออกมาตรงๆ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ หากเขาพูดไป เกรงว่าเฉินฮวนฮวนจะยิ่งจากเขาไป
ในท้องของเธอยังมีลูกเขาอยู่ เขาจะไม่มีวันยอมให้เธอจากตัวเขาไป
เฉินฮวนฮวนสังเกตกิริยาเล็กๆของเฟิงหานชวนตลอด เธอรู้สึกเฟิงหานชวนกำลังปิดบังอะไรอยู่แน่นอน ท่าทางยากที่จะเปิดปากพูดแบบนั้น
“อาหาน คุณบอกความจริงกับฉันเถอะ คุณ…เป็นหมันใช่ไหม?” สีหน้าของเฉินฮวนฮวนจริงจังมาก ความเป็นไปได้อย่างเดียวที่เธอคิดออก
ไม่งั้น ไม่มีผู้ชายคนไหน ยอมรับลูกของผู้ชายคนอื่น มาเป็นลูกหรอก
เฟิงหานชวน …?
เป็นหมัน?
เขาดูเหมือนผู้ชายเป็นหมันเหรอ?
เห็นเขาไม่พูด เฉินฮวนฮวนถอนหายใจออกมา พูดว่า“คุณเคยบอกว่าเราเป็นสามีภรรยากัน ระหว่างสามีภรรยาไม่ควรมีความลับใดๆ ฉันบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้กับคุณ คุณก็ไม่ควรปิดบังอะไรฉัน”
“ถ้าหากคุณเห็นฉันเป็นภรรยาคุณ คุณก็บอกฉัน”
มุมปากของเฟิงหานชวนยกขึ้นหลายครั้ง น้ำเสียงเลื่อนลอยนิดๆ “พูดเรื่องคุณกับกู้ไหว่ก่อน”
“ตกลง ฉันพูดก่อน” เฉินฮวนฮวนนิ่งมาก เพราะระหว่างเธอกับกู้ไหว่ บริสุทธิ์ใจมากจริงๆ
เธอเปิดปากพูด “ก่อนไปร้านหม้อไฟ ฉันกับครูกู้ไปสุสานชุนเทียนมา…”
เธอเพิ่งพูดไปหนึ่งประโยค ก็ถูกเฟิงหานชวนขัดขึ้น เห็นเพียงสีหน้าไม่พอใจของอีกครั้ง เอ่ยถาม“คุณพาเขาไปเจอผู้ใหญ่แล้ว? คุณยังไม่เคยพาผมไปอย่างเป็นทางการเลย!”
เฉินฮวนฮวน “…”
เกิดอะไรขึ้น?
“คุณฟังฉันพูดให้จบก่อนได้ไหม?” เธอหมดคำพูด
เฟิงหานชวนจากราชสีห์ที่โกรธ สงบลงทันที พยายามทำให้ตัวเองสงบลง พูดด้วยความจนใจ“คุณพูดก่อน”
“เมื่อก่อนฉันไม่เคยพูดถึงเลย ไม่ว่าใครก็ไม่เคยพูด เมื่อก่อนคุณยายฉัน เป็นนักดนตรีคนหนึ่งที่อำลาวงการ”
“พอดีวันนี้ ตอนฉันกับครูกู้หารือกันเรื่องทำนองเพลงใหม่ ครูกู้จำบทเพลงของคุณยายได้ คุณยายสำหรับครูกู้ เป็นครูคนแรกในด้านดนตรี ดังนั้นเขาพูดออกมาว่าอยากไปเยี่ยมคุณยายที่สุสาน ”
“ครูกู้เป็นคนดี ไม่ใช่แบบที่คุณคิด ระหว่างเราก็ไม่เป็นอย่างที่คุณคิด มีเพียงการพูดคุยเรื่องดนตรีกับการเรียน”
เฉินฮวนฮวนเพิ่งพูดจบ เฟิงหานชวนก็ขัดเธออีกครั้ง “คุณพากู้ไหว่ไปสุสานคุณยาย คุณยายของคุณจะคิดว่าเขาเป็นแฟนคุณหรือเปล่า?”
“จะเป็นไปได้ยังไง!” เฉินฮวนฮวนปฏิเสธทันที และรู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
เธอรู้สึก บางเวลาเฟิงหานชวนดูเป็นผู้ใหญ่มากๆ บางเวลากลับมีความคิดเหมือนเด็กๆ
“ผมพาคุณไปโรงพยาบาลก่อน แล้วเราค่อยไปสุสานชุนเทียน” ระหว่างที่เฟิงหานชวนพูด ก็สตาร์ทรถยนต์ทันที
เฉินฮวนฮวนมึนงงไปหมด แต่ชั่วพริบตาก็เข้าใจ ทำไมเฟิงหานชวนทำแบบนี้
ไปโรงพยาบาล เป็นการตรวจสภาวะของเด็ก ไปสุสานเพื่อไปประกาศสถานะของเขากับคุณยายและคุณแม่
แต่จู่ๆ เธอก็นึกเรื่องหนึ่งออก นั่นก็คือเฟิงหานชวนยังไม่ได้ตอบคำถามเธอ
เธอรีบถาม “อาหาน คุณยังไม่ได้บอกฉัน คุณ…”
“ใช่!” เฟิงหานชวนกัดฟัน ยอมรับมันไปเลยแล้วกัน
“อะ…อะไร…” เฉินฮวนฮวนอ้าปากกว้าง ตอนนี้กลับมามึนงงเช่นเดิม
เธอยังไม่ทันตั้งตัว เฟิงหานชวนก็ยอมรับเรื่องนี้แล้ว เพราะฉะนั้น เฟิงหานชวนยอมรับเด็กคนนี้ เพราะว่าเขา…
เฉินฮวนฮวนช็อกมาก
“ฮวนฮวน คุณจะรังเกียจผมไหม?” เฟิงหานชวนจงใจถาม
เดิมทีเขาไม่อยาก “ยอมรับ” เพราะแบบนั้นจะกระทบถึงภาพลักษณ์เขา แต่เขาคิดไปคิดมาเห็นว่า ถ้าหากยอมรับเรื่องนี้ ภายในใจของเฉินฮวนฮวนจะรู้สึกดีขึ้น
อย่างน้อย เธอจะดูแลลูกคนนี้เพื่อเขา ไม่คิดฟุ้งซ่านเพราะ“หลิวตงรุ่ย”อีก
อย่างน้อย พูดแบบนี้ เธอก็ไม่รู้สึกละอายใจกับเขาอีก
เพราะฉะนั้น เฟิงหานชวนเลยยอมรับ
“ไม่…ฉันไม่รังเกียจคุณแน่นอน เพียงแต่…ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยบอก…” เฉินฮวนฮวนยังอยู่ในสภาพมึนงง
เพียงแต่แบบนี้ เรื่องก่อนหน้าทั้งหมดก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว
เพราะเฟิงหานชวนมีลูกไม่ได้ ดังนั้นเขาไม่สนใจความเป็นมาของเด็ก ดังนั้นเขาเลยเห็นเด็กคนนี้ เป็นลูกของเขาเอง
เพราะการทำแท้งเด็กคนนี้ มีความเป็นไปได้ที่เธอจะไม่มีลูกอีก เพราะฉะนั้นเฟิงหานชวนเลยต้องการเก็บเด็กคนนี้ไว้ และเพื่อชีวิตคู่ของพวกเรา เก็บสิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นก้อนผลึกไว้
คิดแบบนี้ เฉินฮวนฮวนรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย เหมือนปริศนาในใจทั้งหมด จางหายไปหมด
“ในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรื่องแบบนี้ ผมยากจะเอ่ยปาก” เฟิงหานชวนตอบกลับด้วยความจริงจัง สีหน้าจริงจังมาก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความทุกข์
…
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง
โรงพยาบาลรุ่ยเอิน ห้องรองผู้อำนวยการ
เสียงหัวเราะที่ดังของหรงจิ่นซิว ทำยังไงก็หยุดไม่ได้
“เพราะงั้น เฉินฮวนฮวนเชื่อจริงๆ?” เดรัจฉานในคราบมนุษย์อย่างหรงจิ่นซิว ตอนนี้กลับหัวเราะจนไม่เหลือภาพลักษณ์ กุมท้องหัวเราะเสียงดัง
“แกรีบปิดปากเดี๋ยวนี้” เฉินฮวนฮวนถูกพยาบาลพาไปตรวจแล้ว เฟิงหานชวนกังวลว่าตอนเธอกลับมา เกิดได้ยินเสียงของหรงจิ่นซิวเข้า จะสงสัยอะไร
“เฮียสาม เฮียวางใจ ตอนนี้เธอมาไม่ได้ ผมแค่อยากถาม ศักดิ์ศรีของเฮียล่ะ?” หรงจิ่นซิวหัวเราะออกมา พูดว่า“คุณสามตระกูลเฟิง ข่าวลือเรื่องเป็นหมันนี้แพร่ออกไป คนอื่นจะมองเฮียยังไง?”
“ไปให้พ้น!” เฟิงหานชวนตะคอกเสียงต่ำ
หรงจิ่นซิวพยายามรักษาอารมณ์ให้สงบ เขาข่มสีหน้า พยายามกลั้นยิ้มไว้ ท่าทางจริงจัง พูดว่า“แต่ว่าแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ถือว่าดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยตอนนี้ เฉินฮวนฮวนจะดูแลเด็กคนนี้เป็นอย่างดีแน่นอน”