ตอนที่ 438 การทุจริต

ตอนที่ 438 การทุจริต

บอนาร์กลายร่างมาเป็นอสุรกายร้ายอีกครั้ง จากนั้นอสุรกายทั้งสองตัวก็ลอดผ่านทางเชื่อมมิติไปที่พำนักของสวี่หลิงอวิ๋นด้วยกัน

หญิงสาวชาวมนุษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือยังคงเป็นพนักงานบริการอยู่ด้านหน้า แต่อาจเป็นเพราะกฎหมายข้อพิพากษ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ผ่านแล้ว อารมณ์ของเธอจึงดูดีขึ้นเล็กน้อย และไม่ได้ดูเศร้าใจอีกต่อไป

ในขณะเดียวกัน โอคาซีได้บุกรุกเข้าไปยังระบบเฝ้าระวังของชนชั้นสูงทั้งหลาย และพบมนุษย์มากมายที่ถูกกักขังเอาไว้

การปฏิบัติต่อมนุษย์เหล่านี้เป็นเช่นเดียวกับการปฏิบัติต่ออสุรกายกาน่า สติปัญญาของพวกเขาจะถูกกักขังเอาไว้ ได้รับการดูแลเหมือนกับเด็กเล็ก ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังถูกทุบตีจนใบหน้าบวมช้ำ

พวกเขาได้รับการฝึกฝนแบบสัตว์เลี้ยง ไม่ให้เรียนรู้ ไม่ให้รับชมวิดีโอที่จะก่อให้เกิดสติปัญญา เพียงวิ่งเล่นบนลานรอบ ๆ เหมือนกับคนป่าเถื่อน

โอคาซีมองดูผู้คนตรงหน้า หัวใจของเขาบอบช้ำไปด้วยความโศกเศร้าและความขุ่นเคืองไม่มีที่สิ้นสุด

เรื่องราวของมนุษย์ที่ถูกจองจำและความชั่วร้ายทั้งหลายของชนชั้นสูงที่อยู่ในกระบวนการค้ามนุษย์ถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี่ยงภาษี การลักลอบนำเข้า การอยู่เบื้องหลังของอาชญากรรม ทั้งหมดนี้ล้วนสั่นสะเทือนไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต

ทุกคนต่างถูกสังคมรังเกียจ

ในบรรดาคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนขององค์ชายใหญ่และองค์ชายสาม มีคนขององค์ชายรองเพียงไม่กี่คน

ทั่วทั้งจักรวรรดิเคทเลอร์ตกอยู่ในสถานการณ์คลางแคลงใจไปชั่วขณะ คนเหล่านี้กำลังสงสัยซึ่งกันและกัน พวกเขากำลังเดาว่ากองกำลังหรือองค์กรไหนเป็นคนทำ!

ฝูงชนทั้งหลายพากันโกรธจัด พวกเขาพูดคุย ก่นด่า และสาปแช่งกันอย่างดุเดือด ข่าวฉาวของชนชั้นสูงทำให้พวกเขาได้เห็นความงามที่ถูกลบเลือนออกไป ได้เห็นสาวงามที่หน้าแตกเป็นเสี่ยง จนทำให้ผู้คนขยะแขยงยิ่งนัก

[เหลือเชื่อมาก! ลูกสาวคนโตของชนชั้นสูงต่างมีความสัมพันธ์กับพ่อของเธอ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเทพธิดาฟ่านที่ใสซื่อบริสุทธิ์จะเป็นคนเสแสร้งเช่นนี้!]

“นั่นอะไร? คุณดูเจ้าหน้าที่สรรพากรโมซ่าสิ สินบนที่เธอได้รับทุกปีสูงจนเทียบเท่าจำนวนภาษีดาวเคราะห์ธรรมดาที่เธอเก็บรายปีด้วยซ้ำ! เป็นตัวเลขที่น่ากลัวมาก! ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรตัวเล็กนะนั่น!”

[เจ้าหน้าที่สรรพากรตัวเล็กอะไร? เจ้าหน้าที่สรรพากรผู้ยิ่งใหญ่ต่างหาก! ฮึ่ม! อย่างที่บอก คนพวกนี้โลภเกินไป ไม่ช้าก็เร็วทุกอย่างต้องเปิดเผยออกมา! เขาเป็นคนขององค์ชายใหญ่ใช่ไหม? ฮึฮึ! ไม่รู้ว่าองค์ชายใหญ่จะได้รับไปตั้งเท่าไหร่?]

[คนจากองค์ชายสามก็มีส่วนร่วมด้วย! ดูจำนวนเจ้าหน้าที่สรรพากรที่อยู่ในมือองค์ชายสามสิ หึหึ! องค์ชายทั้งสองนี้ร้ายกาจมาก!]

[ว่าแต่องค์ชายรองมีไม่เยอะเหรอ?]

[องค์ชายรองก็อยากจะยื่นมือเข้าไปแหละ แต่ว่าจะแทรกแซงได้ไหมล่ะ? อย่างที่ผมเคยบอกว่าเขาไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกัน สถานะก็คงจะแตกต่างไป! อีกอย่างเขาถูกพามาจากข้างนอกนี่]

[พระเจ้า! องค์ชายรองไม่ได้ลูกจักรพรรดินีเหรอ?]

หัวข้อเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง และกลายเป็นเรื่องซุบซิบของราชวงศ์

สายตาของมวลชนมักเปลี่ยนไปเสมอ ทว่าจิตใจของผู้คนที่อยู่ในเวทีการเมืองขณะนี้ได้ล่มสลายลง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการรอคำพิพากษาอย่างเงียบ ๆ

จักรพรรดิชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวบนสุด มองดูข้อมูลที่ถูกส่งมาโดยไม่แสดงตน บนกระดาษระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้โลภมากและยักยอกเงินตรา เสียงกระดาษดังขึ้นหลังจากถูกพลิกไปมา เขาชราภาพและอ่อนแรงมาก จึงได้นั่งหลังค่อมและไอออกมาเป็นครั้งคราว

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นอสุรกายร้ายผู้แก่ชรา แม้จะแก่ตัวลง และพละกำลังจะเหลือล้น

เจ้าหน้าที่ด้านล่างถึงกับตัวสั่นเทา ไม่ว่าอะไรจะเปิดเผยออกมา ทุกคนก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เพราะกลัวว่าจะถูกเอ่ยชื่อออกมา

บรรดาผู้ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยรายชื่อยืดอกตั้งตรง เงยหน้าขึ้นเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะต่อสู้ทุกเวลา โดยสาบานว่าจะกัดศัตรูทางการเมืองเหล่านี้ให้จมไปกับพื้น!

สีหน้าขององค์ชายใหญ่และองค์ชายสามไม่ค่อยสู้ดีนัก

ในขณะที่องค์ชายรองสามารถทรงตัวไว้ได้ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่ก้มหน้าจิบชาเป็นครั้งคราว

อันที่จริงซินหยาไม่ชอบชารสนี้มากนัก แต่ในเมื่อองค์ชายโมยาตชอบมัน เขาก็ต้องแสร้งทำเป็นชอบมันไปด้วย

เพราะนี่คือนิสัยขั้นพื้นฐานของเขา

ซินหยาได้รับคำชี้แนะมาจากอวี้ซินว่าเขาจะต้องทำลายความสงบสุขของเคทเลอร์ และจะต้องครอบงำหัวใจจักรพรรดิผู้แก่ชราเอาไว้ในกำมือให้ได้ โดยต้องมั่นใจว่าจักรพรรดิเฒ่าจะมอบตำแหน่งที่เก็บแผนที่ระบบป้องกันให้แก่เขา

ในขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ซินหยาได้รับข้อความจากสายลับในจักรวรรดิดวงดาวมาอย่างไม่คาดคิด นั่นทำให้เขาประหลาดใจมากและตัดสินใจเก็บมันไว้เป็นความลับ

จะต้องไม่ให้ฝ่ายไหนรับรู้!

อวี้ซินได้รับการรายงานจากซินหยา ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับสัญญาณของจักรวรรดิดวงดาวมากยิ่งขึ้น

จักรพรรดิผู้แก่ชราพลิกกระดาษข้อมูลอย่างไม่รีบร้อนนัก เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหลังถึงกับตัวสั่นเทา ปาดเหงื่อด้วยความหวาดกลัว โดยไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

เมื่อพวกเขาเห็นว่าจักรพรรดิชราส่งข้อมูลในมือให้กับองครักษ์ที่อยู่ด้านล่าง หัวใจของพวกเขาก็แทบจะกระโดดออกมา

ตอนนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังเป็นเหมือนกับเด็กนักเรียนชั้นประถมที่รอคอยไม้เรียวจากอาจารย์เพราะทำการบ้านไม่เสร็จ

จักรพรรดิชรามองเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านล่างด้วยสายตาขุ่นมัว เมื่อเขายังเยาว์วัย เขาเป็นถึงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เขากลับดูอ่อนโยนขึ้น แม้จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปิดตาข้างหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าผู้คนทั้งหลายจะหลงลืมความโหดเหี้ยมของเขาเมื่อครั้นวัยเยาว์ไปจนหมด

เขาจึงพูดขึ้นว่า “ในเมื่อพวกเจ้าชอบโลภมาก พวกเจ้าก็จงโลภมากแค่ครั้งเดียวพอ”

จักรพรรดิชรากระแอมสองครั้ง ขณะมองดูลูกชายทั้งสามคนที่อยู่ด้านล่าง มีเพียงลูกชายคนที่สองที่รักษาหัวใจของเขาเอาไว้ได้ ส่วนที่เหลือปล่อยให้เน่าเปื่อยไปซะ!

โลภแม้แต่เงินตราของแผ่นดิน ทำอย่างกับเด็กน้อยที่โลภเงินของพ่อแม่ไปได้ ต่อให้มีความสามารถแล้วจะมีประโยชน์อะไร?

ในเมื่อมันสมองของเขาไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง พวกเขาก็ควรจะไปตั้งแต่แรก

องค์ชายใหญ่กับองค์ชายสามมองดูสายตาของผู้เป็นพ่อที่กวาดมองพวกเขาทั้งสอง แม้ภายนอกดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่หลังจากที่ติดตามผู้เป็นพ่อมาหลายปี พวกเขาก็รู้ดีว่าท่าทีดังกล่าวต้องไม่ธรรมดาแน่

พวกเขาสังหรณ์ใจไม่ดี

และก็เป็นไปตามคาด เมื่อพ่อของพวกเขาพูดขึ้นมาว่า “ชายใหญ่กับชายสาม ในเมื่อพวกแกทั้งสองคุมคนกันไม่ได้ ก็ไปอยู่ดาวเคราะห์นอกระบบซะ คิดได้เมื่อไหร่แล้วค่อยกลับมา!”

“อะไรนะ!” องค์ชายทั้งสองตกตะลึง!

พวกเขาคิดว่าพวกเขาอาจจะแค่ถูกก่นด่า ถูกจำกัดอาณาเขต ถูกปรับหรืออื่น ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกไล่ออกจากจักรวรรดิเคทเลอร์!

นี่มันหมายความว่ายังไง?!

ทั้งสองรู้สึกหนาวสั่น นี่เป็นการประกาศก้องว่าพวกเขาทั้งสองคนจะต้องสูญเสียตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์ไปใช่ไหม?!

ซินหยามองดูจักรพรรดิชราด้วยความประหลาดใจ เขาหมายความว่ายังไง?! ถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าแผนการของพวกเขาสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วใช่ไหม?

“ท่านพ่อ! ข้าผิดไปแล้ว! ได้โปรดให้ข้าอยู่ในเมืองหลวงต่อด้วยเถิด! ข้าจะไม่ทำผิดพลาดอีก และจะห้ามปรามผู้ใต้บัญชา ขอร้องล่ะ!”

‘ตุบ’ เสียงองค์ชายสามคุกเข่าลง อ้อนวอนร้องขอต่อจักรพรรดิผู้แก่ชรา

องค์ชายใหญ่รีบคุกเข่าลงบ้าง ร้องขอความเมตตาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้น้อยหน้า

เจ้าหน้าที่ทุกคนคุกเข่าลง ยกเว้นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์ชายรองและเจ้าหน้าที่ที่เป็นกลาง