ตอนที่ 420 สองอ๋องหารือ (4)

หวนคืนชะตาแค้น

​มู่​ชิง​อี​อมยิ้ม​มอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ถึงแม้​อวี​้​อ๋อง​จะ​ไม่ได้​เข้าไป​ฟัง​งาน​ใน​ราชสำนัก​ ​แต่​ข้า​เชื่อ​ว่า​ท่าน​ย่อม​รู้เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​แน่นอน​”

​ปู้​อวี​้​ถัง​ใจ​กระตุก​วูบ​ ​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​หมายถึง​…​”

​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​ทุจริต​ ​ทุกปี​ราชสำนัก​จะ​แจกจ่าย​เสบียง​ให้​เหล่า​ราษฎร​เป็น​ล้าน​ ​แต่​…​ตก​มาถึง​มือ​ของ​เหล่า​ราษฎร​จริงๆ​ ​เกรง​ว่า​แทบ​ไม่​ถึง​สาม​ส่วน​ด้วยซ้ำ​ ​แคว้น​หวา​เป็น​เช่นนี้​ ​คิด​ว่า​…​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​คง​ไม่​ต่างกัน​กระมัง​”

​คนที​่​เติบใหญ่​มา​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​อย่าง​พวกเขา​สอง​คน​ต่าง​เงียบกริบ​ ​มนุษย์​มัก​ตาย​เพราะ​ความโลภ​ ​ตั้งแต่​อดีต​ถึง​ปัจจุบัน​มี​ข้าหลวง​ที่​ไม่รู้​จัก​พอ​โผล่​มา​ไม่ขาดสาย​ ​ต่อให้​แคว้น​เย​่ว​์​ลงโทษ​หนัก​เพียงใด​ก็​มิ​อาจ​ยับยั้ง​สิ่ง​เหล่านี้​ได้​ ​ครั้น​เห็น​สีหน้า​ของ​พวกเขา​ ​มู่​ชิง​อีก​็​หยิบ​ม้วน​กระดาษ​พับ​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​อีก​ฝั่ง​ขึ้น​มาก​่อน​เปิด​ดู​ ​“​พอดี​เลย​…​เรื่อง​แจกจ่าย​เสบียง​ให้​ประชาชน​เป็น​หน้าที่​ของ​กรม​พระ​คลัง​กับ​ผู้ว่าการ​เมืองหลวง​กระมัง​ ​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​…​ดู​เอาเถิด​”

​จากนั้น​นาง​ก็​ส่ง​ม้วน​กระดาษ​พับ​ใน​มือ​ไป​ให้​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​สีหน้า​ย่ำแย่​ลง​เรื่อยๆ​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​กรม​พระ​คลัง​เป็น​สถานที่​ที่​คว้าน​เอา​ผลประโยชน์​ได้​อย่างมหาศาล​ ​หาก​จะ​กล่าวว่า​ไม่​ทุจริต​เลย​ก็​อาจจะ​เกินไป​แต่​คง​ไม่​ต่าง​จาก​ที่​คิด​ไว้​เท่าไร​ ​อีกทั้ง​เดิมที​ผู้ว่าการ​ของ​เมืองหลวง​เป็น​คน​ของ​จื้อ​อ๋อง​ด้วย​ ​บัดนี้​กลายเป็น​คน​ของ​ฉิน​อ๋อง​แล้ว​ย่อม​เป็น​พวก​ละโมบ​เช่นกัน

​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ได้​เปิด​ดู​ ​เขา​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ตั้งแต่​เด็ก​จน​เติบใหญ่​แล้ว​จะ​ไม่เข้าใจ​คน​เหล่านี้​ได้​เช่นไร​ ​เขา​เหลือบมอง​มู่​ชิง​อี​อย่าง​ระอา​ใจ​ก่อน​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​ในเมื่อ​จื่อ​ชิง​อยาก​ไป​ ​เช่นนั้น​…​ข้า​ก็​จะ​ไปเป็นเพื่อน​เจ้า​แล้วกัน​”

​ครั้น​เห็น​สีหน้า​มุ่งมั่น​ของ​หรง​จิ​่น​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​รู้ทัน​ที​ว่า​คัดค้าน​ไป​ก็​ไร้ประโยชน์​เลย​ต้อง​ปล่อย​ให้​เขา​ตาม​ไป​ด้วย

​หมู่บ้าน​นอกเมือง​เสียหาย​หนัก​ไม่เบา​ ​บ้านพักอาศัย​ใน​ระยะ​ร้อย​ลี้​จาก​ตัวเมือง​หลวง​ถล่ม​ลงมา​เจ็ด​ถึง​แปด​ใน​สิบ​ส่วน​ ​เหตุการณ์​เลวร้าย​กว่า​ที่​ผู้ดูแล​รายงาน​อย่างมาก​ ​ครั้น​มู่​ชิง​อีเห็น​ชาวบ้าน​มากมาย​หนาวสั่น​ท่ามกลาง​หิมะ​เช่นนั้น​ก็​ชวน​ให้​ปวดใจ​ ​กระทั่ง​ลอบ​ถอนหายใจ​อย่างไร​้​เสียง

​“​ชิง​ชิง​ ​เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เจ้า​”​ ​หรง​จิ​่​นกุ​มมือ​ของ​มู่​ชิง​อี​ไว้​พลาง​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​เขา​สังเกตเห็น​นาน​แล้ว​ว่า​ชิง​ชิง​โหดเหี้ยม​ใส่​พวก​ตระกูล​อิทธิพล​มั่งคั่ง​เหล่านั้น​ได้​ ​ไม่ว่า​เป็น​ใคร​ก็​กล้า​ลง​ไม้​ลงมือ​ด้วย​ทั้งสิ้น​ ​ทว่า​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​ชาวบ้าน​ที่​ไร้ความสามารถ​เหล่านี้​แล้ว​กลับใจ​อ่อน​จน​น่า​เหลือเชื่อ

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​ ​ส่าย​ศีรษะ​สื่อ​ว่า​ตน​ไม่เป็นไร

​รถม้า​จอด​ลง​ตรงหน้า​หมู่บ้าน​ขนาดใหญ่​แห่งหนึ​่ง​ ​ทันทีที่​ลง​จาก​รถ​ก็​เห็น​บ้านเรือน​ล้มระเนระนาด​จม​กอง​หิมะ​ ​ชาวบ้าน​มากมาย​ต่าง​ร่ำไห้​ท่ามกลาง​ความ​เหน็บ​หนาว​ ​รวมถึง​มี​ชาวบ้าน​บางส่วน​เดิน​ไปมา​ท่ามกลาง​ซาก​ผุพัง​ ​ทว่า​ใบหน้า​เรียบ​นิ่ง​นั้น​กลับ​แฝง​ไป​ด้วย​ความสิ้นหวัง​ไร้ความรู้สึก​และ​ว่างเปล่า

​ครั้น​เห็น​พวกเขา​มา​ ​ชาวบ้าน​ต่าง​พากั​นมึ​นงง​และ​เผย​ท่าที​ขลาดกลัว​ ​ถึงแม้​พวกเขา​จะ​เกิด​บริเวณ​เมืองหลวง​ ​แต่​ก็​มี​คน​มากมาย​ที่​เป็น​เพียง​ชาวบ้าน​ธรรมดา​ ​ชั่วชีวิต​นี้​ไม่เคย​เจอ​คน​ฐานะ​สูงศักดิ์​แต่อย่างใด​ ​สักพัก​ถึง​มี​ผู้เฒ่า​ร่าง​ผอม​ซูบ​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​พร้อม​ไม้เท้า​ ​เอ่ย​ถาม​เสียงสั่น​เครือ​ว่า​ ​“​พวก​ท่าน​…​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​เมื่อ​เห็น​ผู้เฒ่า​อายุ​เจ็ดสิบ​ปี​ร่าง​สั่นเทิ้ม​ท่ามกลาง​ลมหนาว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ถอด​เสื้อ​กัน​ลม​บน​ร่าง​ออก​ ​ทว่า​กลับ​ถูก​มือหนึ่ง​ปราม​ไว้​อย่างเบามือ​ ​“​อยาก​ป่วย​หรือ​”

​จากนั้น​ก็​ถอด​เสื้อ​กัน​ลม​สีดำ​ของ​ตน​ออก​ไป​คลุม​ร่าง​ของ​ผู้เฒ่า​พร้อม​เอ่ย​ถาม​ ​“​ที่นี่​เป็น​เช่นใด​บ้าง​”

​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​มอง​เสื้อ​กัน​ลม​ที่​ปัก​ลายเมฆ​มงคล​อย่าง​งดงาม​ประณีต​พลาง​ชะงัก​ไป​ ​กระทั่ง​เห็น​หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​อย่าง​หงุดหงิด​ถึง​รีบ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​มาก​ ​ข้า​ไม่เป็นไร​หรอก​ ​ขอให้​ท่าน​เก็บ​กลับ​ไป​เถิด​”​ ​คน​อย่าง​พวกเขา​ไม่เคย​เห็น​แม้แต่​สิ่งของ​ราคาแพง​เช่นนี้​มาก​่อน​ด้วยซ้ำ

​หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​มุ่น​กล่าว​ ​“​พล่าม​ให้​น้อย​หน่อย​ ​อายุ​ปูน​นี้​แล้วยัง​จะ​มัว​เกรงใจ​อะไร​อีก​”

​“​องค์​ชาย​เก้า​”​ ​มู่​ชิง​อีก​ล่า​วอ​ย่าง​ระอา​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ผู้เฒ่า​ที่​เผย​ท่าที​งงงัน​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ท่าน​ผู้เฒ่า​อย่า​ถือสา​เลย​ ​เขา​อารมณ์​ฉุนเฉียว​ ​สถานการณ์​ใน​หมู่บ้าน​เป็น​เช่นใด​บ้าง​แล้ว​”

​ผู้เฒ่า​หันไป​มอง​ซาก​ผุพัง​ด้านหลัง​แวบ​หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​พร้อม​น้ำตา​ ​“​ลำบาก​ท่าน​ต้อง​ถามไถ่​แล้ว​ ​เวลา​เพียง​ชั่ว​ข้ามคืน​บ้าน​ใน​หมู่บ้าน​แห่ง​นี้​ก็​ถล่ม​ลงมา​เจ็ด​ถึง​แปด​ส่วน​ ​มี​หลาย​คน​ถูก​ทับ​อยู่​ด้านล่าง​ด้วย​ ​พวกเรา​กำลัง​คิด​หาวิ​ธี​ช่วย​เขา​อยู่​”

​“​อู๋​ฉิง​ ​พา​คน​ไป​ช่วย​”​ ​มู่​ชิง​อี​รีบ​ออกคำสั่ง​กับ​อู๋​ฉิง​ที่อยู่​ด้านหลัง​ ​ตอน​ออกมา​พา​องครักษ์​ติดตาม​มา​ไม่น้อย​ ​อู๋​ฉิง​พยักหน้า​เงียบๆ​ ​โบกมือ​ครั้งหนึ่ง​ก่อน​พา​เหล่า​องครักษ์​เดิน​จากไป

​มู่​ชิง​อี​ขมวดคิ้ว​งาม​มุ่น​ ​ถึงแม้นาง​จะ​รู้เรื่อง​ลับ​ใน​ราชสำนัก​ไม่น้อย​ ​แต่กลับ​รู้เรื่อง​ของ​ชาวบ้าน​ธรรมดาๆ​ ​ไม่​มาก​ไป​กว่า​หรง​จิ​่น​เท่าไร​เลย​ ​อย่างเช่น​นาง​อาจ​คิดได้​ว่า​ชาวบ้าน​ไม่มี​บ้าน​ให้​กลับ​ ​ไร้​เสื้อผ้า​และ​อาหาร​ ​แต่กลับ​ลืม​นึก​ไป​ว่า​หาก​บ้าน​ถล่ม​ก็​อาจมี​คน​ติด​อยู่​ด้านล่าง​ด้วย

​“​ฮั่ว​ซู​”​ ​หรง​จิ​่น​ชิง​เปิดปาก​พูด​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​โยน​ป้าย​คำสั่ง​สีดำ​อัน​หนึ่ง​ให้​นาง​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​ไป​เกณฑ์​คน​มาช​่วย​ ​แบ่ง​ออก​เป็น​สิบ​กลุ่ม​แล้ว​กระจาย​ช่วยเหลือ​คน​ตาม​จุด​ต่างๆ​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​เจ้า​ไปดู​สิว​่า​ผู้ว่าการ​เมืองหลวง​ตาย​ไป​ไหน​แล้ว​!​ ​แล้ว​พาตัว​พวก​ไร้ประโยชน์​ใน​จวน​เหล่านั้น​มาด​้วย​!​”

​ฮั่ว​ซู​และ​ปู้​อวี​้​ถัง​รีบ​ขานรับ​คำสั่ง​ก่อน​แยกย้าย​จากไป​ด้วย​ความ​รวดเร็ว

​ครั้น​ได้​ฟัง​คำสั่ง​อันเป็น​ระบบ​ระเบียบ​ของ​หรง​จิ​่น​ ​มู่​ชิง​อีก​็​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​แล้ว​เอ่ย​กับ​ผู้เฒ่า​ว่า​ ​“​ท่าน​ผู้เฒ่า​ ​รบกวน​ขอบุ​รุษ​ที่​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ใน​หมู่บ้าน​มาช​่ว​ยกัน​หน่อย​ ​อย่าง​แรก​เรา​ต้องหา​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ที่​ถูก​หิมะ​ถล่ม​ทับ​ก่อน​ ​หา​ได้​เท่าไร​ก็​เอา​เท่านั้น​ ​เกรง​ว่า​คืนนี้​ทุกคน​คง​หิว​กัน​แย่​ ​ต้ม​โจ๊ก​ทาน​เพิ่ม​ความอบอุ่น​ให้​ร่างกาย​ ​หลังจากนั้น​ไม่นาน​เหล่า​ใต้เท้า​ใน​ราชสำนัก​ก็​คงมา​จัดการ​เรื่อง​นี้​แล้ว​”

​ผู้เฒ่า​รีบ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​ขอบคุณ​คุณชาย​ทั้งสอง​มาก​ ​ข้า​จะ​ไป​ประเดี๋ยวนี้​”​ ​พูด​จบ​ก็​ไม่​พูดพล่าม​อะไร​กับ​พวกเขา​สอง​คน​อีก​ ​จากนั้น​ร่าง​โงนเงน​ก็​ถูก​ลูกหลาน​ประคองตัว​เดิน​จากไป

​มู่​ชิง​อี​มอง​องครักษ์​ด้านหลัง​และ​เหล่า​ชาวบ้าน​ที่​มุง​ดู​พวกเขา​จาก​มุม​ที่​ไม่​ไกล​นัก​ด้วย​ท่าที​ขลาดกลัว​แวบ​หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ ​“​พวก​เจ้า​เอง​ก็​ไป​ช่วย​ด้วย​เถิด​ ​แจกจ่าย​อาหาร​ที่อยู่​บน​รถ​ให้​พวกเขา​ทาน​ก่อน​ก็แล้วกัน​”

​“​ขอรับ​คุณชาย​”

​ครั้น​เห็น​สภาพ​หมู่บ้าน​หดหู่​ใน​เดิมที​กลับมา​มีชีวิตชีวา​อีกครั้ง​ ​หรง​จิ​่​นก​็​ก้มหน้า​มอง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​แบบนี้​ชิง​ชิง​พอใจ​แล้ว​กระมัง​”

​มู่​ชิง​อี​ยกมือ​ขึ้น​ผลัก​หน้า​หรง​จิ​่น​ไป​มอง​กลุ่มคน​ท่ามกลาง​ซากปรักหักพัง​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ​“​หรง​จิ​่น​ ​ท่าน​ได้ความ​ทะเยอทะยาน​จาก​ใต้​หล้า​ ​แต่​…​ท่าน​มี​ความเชื่อมั่น​ที่จะ​ปกครอง​บ้านเมือง​ได้ดี​บ้าง​หรือไม่​ ​พวกเขา​ไม่ใช่​แมลง​หรือ​มด​ตัวเล็ก​ๆ​ ​หาก​ท่าน​ได้​ใน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ต้องการ​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​คือ​ราษฎร​ของ​ท่าน​ ​หาก​ท่าน​ไม่มีความคิด​นี้​ ​หม่อมฉัน​ก็​ขอ​แนะนำ​ว่า​ล้มเลิก​ความคิด​นี้​ไป​ได้​เลย​”

​หรง​จิ​่น​หัวเราะ​หึๆ​ ​เสียง​เบา​แล้ว​กุมมือ​ของ​นาง​ที่ซ่อน​อยู่​ภายใต้​เสื้อ​กัน​ลม​โดย​ไม่​ให้​ใคร​เห็น​ ​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​ชิง​ชิง​โกรธ​หรือ​”

​มู่​ชิง​อีส​่าย​หน้า​พร้อม​ยิ้ม​บาง​ ​“​ถึงแม้​ตอนนี้​พูด​อาจจะ​เร็ว​ไป​หน่อย​ ​แต่​…​หม่อมฉัน​หวัง​ว่า​คนที​่​หม่อมฉัน​ช่วย​จะ​ถูก​สรรเสริญ​ว่า​เป็น​วีรบุรุษ​ใน​ใต้​หล้า​”

​“​วีรบุรุษ​?​”​ ​หรง​จิ​่​นมุ​่​นคิ​้ว​ เขา​…​ทั่วทั้ง​ร่าง​ของ​เขา​ไม่มี​ส่วน​ใด​สอดคล้อง​กับ​นิยาม​คำ​ว่าวี​รบุ​รุษ​เลย​สักนิด​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่​ชอบ​เป็น​วีรบุรุษ​เช่นกัน​ ​เพราะ​วีรบุรุษ​มัก​ตาย​เร็ว​เสมอ

​มู่​ชิง​อีกุ​มมือ​เขา​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ใน​ฐานะ​คนธรรมดา​ ​หาก​ทำ​อะไร​ตรงไปตรงมา​ด้วย​ความซื่อสัตย์​ก็​คือ​วีรบุรุษ​ ​ใน​ฐานะ​กษัตริย์​…​หาก​สร้าง​ความสงบ​สุข​ร่มเย็น​จน​เป็น​ที่รัก​ใคร่​ของ​ปวงชน​ ​แบบนี้​ต่างหาก​ถึง​จะ​เป็น​วีรบุรุษ​”

​หรง​จิ​่น​ผงะ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ฉับพลัน​ก็​หัวเราะ​เสียงต่ำ​เอ่ย​ ​“​ชิง​ชิง​โน้มน้าว​ให้​ข้า​ล้มเลิก​ความคิด​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ชิง​ชิง​ก็​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ข้ามิ​ใช่​หรือ​ ​มิเช่นนั้น​จะ​นึกถึง​เรื่อง​เป็น​ที่รัก​ใคร่​ของ​เหล่า​ปวงชน​ได้​เช่นใด​”

​มู่​ชิง​อี​มอง​เขา​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​“​ท่าน​คิดมาก​ไป​แล้ว​”​ ข้า​กังวล​ว่า​หาก​ท่าน​ได้​ดั่ง​ใจหวัง​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​จะ​ไม่รู้​จักรั​กษา​มัน​ไว้​เช่นใด​ ​แต่กลับ​ทำ​เรื่อง​ไร้ศีลธรรม​โหดเหี้ยม​ ​เช่นนั้น​สู้​ตัด​ไฟ​ตั้งแต่​ต้นลม​จะ​ดีกว่า ​เพราะ​ด้วย​นิสัย​ของ​หรง​จิ​่น​เลย​ทำให้​มู่​ชิง​อี​เป็นกังวล​มาโดยตลอด​ ​เขา​จะ​เย็นชา​ไร้ค​วาม​ปรานี​กับ​ใคร​นาง​ไม่สน​ใจ​ ​แต่​มู่​ชิง​อี​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ไม่​ใช้​ความ​เย็นชา​นี้​กับ​ปวงชน​ ​ใน​ฐานะ​ผู้ปกครอง​ทั่ว​ใต้​หล้า​คน​หนึ่ง​ ​ความคิด​เช่นนี้​ออกจะ​อันตราย​เกินไป​หน่อย​ ​นี่​จึง​เป็น​เหตุผล​ว่า​ทำไม​มู่​ชิง​อี​ถึง​ยืนกราน​จะ​ออกมา​ด้วยตัวเอง​ให้​ได้​อย่างไรเล่า