บทที่ 525 การทดสอบของเด็กใหม่

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 525 การทดสอบของเด็กใหม่

บทที่ 525 การทดสอบของเด็กใหม่

ตอนที่ฉู่เหินมาที่ลานกว้างแห่งนี้ ก็มีคนน่าสงสัยรวมตัวกันอยู่ก่อนแล้วนับร้อย ! พลังวรยุทธ์ที่ต่ำที่สุดของคนพวกนี้นั้นอยู่ในขั้นปราชญ์ระดับสูง หรือแม้แต่ขั้นปราชญ์ระดับสูงสุดก็มีไม่น้อยเลย เมื่อเห็นหน้าของคน 4 คนในกลุ่มคนเหล่านั้น ชายหนุ่มก็พลันชะงัก เพราะคนพวกนี้ก็คือคนที่ทำหน้าที่รับเด็กใหม่พวกนั้นนั่นเอง ! และพอพวกเขาหันมาเห็นฉู่เหิน พวกเขามองมาด้วยสายตาไม่น่าไว้วางใจเลย !

ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจพยายามหลีกเลี่ยง ทว่าด้วยพลังวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้หมด แต่ชายหนุ่มก็สามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน !

เพราะแบบนี้ตอนที่ฉู่เหินเห็นคนพวกนี้ เขาถึงไม่ได้สนใจอะไร ! ถ้าคนพวกนี้มีแผนการอะไรจริง ๆ เขาก็พอจะมีวิธีส่งพวกเขากลับบ้านเก่าได้ !

การเข้าร่วมทดสอบของพวกเขาในครั้งนี้ ต้องไปสถานที่ ๆ เรียกว่า หาดเสี้ยวจันทร์ ! เพราะเร็ว ๆ นี้ที่หาดนั้นได้ปรากฏกองโจรขึ้น พวกเขาต้องไปที่นั่นเพื่อกำจัดกองโจรพวกนั้น ! ตามที่ได้ยินมา ที่บริเวณช่องแคบของชายหาดนั้น บางครั้งบางคราวก็จะเกิดปรากฏการณ์หาดทรายแดงขึ้น เพียงแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดได้ง่าย ๆ !

ทว่าถ้ามีดวงมากพอ การเดินทางไปครั้งนี้อาจได้เจอเข้ากับทรายแดงเข้าให้ ซึ่งมันก็จะทำให้พวกเขารวยเละ ! ได้ยินมาว่าหาดทรายแดงนั้นจะสร้างทรายแดงขึ้นมาชนิดหนึ่ง เจ้าทรายแดงพวกนี้ถ้าเอามาทำอาวุธ มันก็จะทำให้ของชิ้นนั้นกลายเป็นของวิเศษล้ำค่า ! เพียงแต่น่าเสียดาย พวกเขาไปบ่อยขนาดนี้ ทว่าก็ยังไม่เคยเจอทรายแดงนั้นเลย

มีเพียงครั้งหนึ่ง ที่พวกเขาเคยเจอแต่ไกล แต่เมื่อวิ่งมาใกล้มันกลับหายไปแล้ว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนยังสงสัยอยู่เลย ! เพราะแบบนี้ตอนที่ได้ยินว่าสถานที่ทดสอบคือที่หาดเสี้ยวจันทร์ ถึงมีคนสมัครเยอะขนาดนี้ แน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกบังคับพามา ซึ่งฉู่เหินเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ระหว่างเดินทาง พวกเขาก็พบเข้ากับกลุ่ม ๆ หนึ่งเข้า ในกลุ่มของพวกเขานั้น มี 3-4 คนเป็นผู้อาวุโสพรรควายุอัสนี ที่กำลังจะไปทำธุระที่หาดเสี้ยวจันทร์เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงเท่ากับว่าพวกเขานั้นไปทางเดียวกัน ! แต่ฉู่เหินกลับรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจคนพวกนี้เลย ! เขารู้สึกว่าผู้อาวุโสพวกนี้ไม่ธรรมดา ขั้นพลังวรยุทธ์ก็น่ากลัวว่าจะถึงขั้นครึ่งจอมปราชญ์แล้ว

ที่สำคัญคนพวกนี้ยังเรียกพวกเขาว่าผู้เฒ่าหลิวอีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฉู่เหินเพิ่มการระวังมากขึ้น ! เดิมทีพวกเขาบอกว่ามีธุระจะไปทำที่หาดเสี้ยวจันทร์เหมือนกัน แต่ว่าจู่ ๆ พวกผู้อาวุโสพวกนี้ก็พูดขึ้นว่าธุระที่หาดเสี้ยวจันทร์เสร็จสิ้นแล้ว ! ให้พวกเขาไปที่เกาะด้านข้างที่เรียกว่าเกาะวารีแทน !

ตอนที่ถึงฉู่เหินก็คล้ายจะรู้แล้วว่าคนพวกนี้กำลังวางแผนกับตัวเองอยู่ ! เป็นไปตามคาดที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด ! เพราะต่อมา 3 ผู้อาวุโสก็ทำการแบ่งพวกเขานับร้อยออกเป็น 10 กลุ่มเล็ก ๆ ! โดยทั้ง 10 กลุ่มนั้น แต่ละคนจะมีภารกิจพิเศษให้ทำต่างกันไป !

ภารกิจที่กลุ่มของฉู่เหินได้รับมา คือชายหนุ่มต้องเข้าไปยังส่วนลึกของเกาะวารีเพื่อค้นหาสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าหญ้าร้อยฝัน ! ได้ยินมาว่าหญ้าร้อยฝันนั้นเป็นที่สิ่งที่ 1 พันปีถึงจะพบสักครั้ง แต่ด้วยก่อนหน้านี้มีลูกศิษย์คนหนึ่งรายงานว่า พวกเขาพบหญ้าร้อยฝันที่นั่น แต่ยังไม่สุกดี ! จึงไม่ได้เก็บมา

ถึงตอนนี้เวลาก็พามาหลายสิบปี หญ้าร้อยฝันคงถึงเวลาสุกงอมแล้ว ! และตอนนี้ก็เป็นเวลาพอเหมาะในการเก็บเกี่ยวหญ้าร้อยฝันพอดี ! ตามที่ได้ข่าวมา สิ่งนี้เป็นของที่ผู้เฒ่าตระกูลหลิวต้องการ ! ผู้เฒ่าหลิวคนนี้แก่ชราแล้ว แต่ถ้าใช้หญ้าร้อยฝันจะสามารถทำให้เขาอายุยืนนับ 10 ๆ ปี หรือกระทั้งอาจจะนับ 100 ๆ ปีได้เลยทีเดียว !

เพียงแต่หลังจากหญ้าร้อยฝันปรากฏขึ้น มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถเอามันมาได้ ! คิดไม่ถึงว่าวันนี้ หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดสอบ กลับได้ภารกิจที่ต้องไปเก็บหญ้าร้อยฝัน ! ทำให้พวกเขาต่างจดจ้องอยากจะครอบครอง ! ต้องเข้าใจว่าถ้าสามารถเก็บหญ้าร้อยฝันมาได้ พวกเขาจะได้ผลตอบแทนมากขนาดไหน !

ฉู่เหินอยู่ในกลุ่มที่หนึ่ง ซึ่งนอกจากพวกที่เคยรับเด็กใหม่ 4 คนนั้นแล้ว มันก็ยังมีผู้อาวุโสมาด้วยกันอีกคนหนึ่ง ! เมื่อเป็นแบบนี้พอนับรวมฉู่เหินด้วย กลุ่มของเขาจึงมีคนทั้งหมด 6 คน ซึ่งไม่ใช่ความแข็งแกร่งในระดับธรรมดาเลย ! แน่นอนว่าที่ทุกคนบอกว่าแข็งแกร่งนั้น เพราะแค่ผู้อาวุโสคนเดียวก็ขั้นครึ่งจอมปราชญ์ไปแล้ว ! สำหรับฉู่เหินนั้น ชายหนุ่มถูกคนอื่น ๆ มองข้ามไปแล้วโดยอัตโนมัติ !

ในสายตาของคนอื่น ฉู่เหินเป็นเพียงตัวแถม ไม่ได้มีค่าให้สนใจขนาดนั้น ! แต่ก็มีคนเป็นห่วงแทนชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน เพราะลึก ๆ แล้วทุกคนรู้แก่ใจดี ! ว่าฉู่เหินที่ไปกับคนพวกนี้นั้น ไม่ต่างอะไรกับหมูที่รอโดนเชือด !

ชายหนุ่มร่วมเดินทางกับคนพวกนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะรู้ตัวอีกทีว่ากลุ่มของพวกเขานั้นแยกออกมา มองไปด้านข้างก็ไม่เจอใครอื่นยืนอยู่แล้ว ใบหน้าของคนรอบตัวฉู่เหินทั้ง 5 พากันแสยะยิ้มโหดเหี้ยม แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาก็รู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะลงมือ !

ทางด้านฉู่เหิน เขานั้นไม่ได้สนใจครึ่งจอมปราชญ์ 4 คนนี้เท่าไรนัก แต่อีกคนหนึ่งนี่สิ คนผู้นี้ดันเป็นถึงยอดฝีมือขั้นครึ่งจอมปราชญ์ที่แท้จริง ! ถ้าปะทะกับ ชายหนุ่มไม่มั่นใจว่าตัวเองจะรับมือไหว ! แม้ว่าจะให้พลังจิตสังหารของเขา ก็ไม่แน่ว่าจะต้านคน ๆ นี้ไหว ! ดังนั้นในหัวตอนนี้ถึงได้คิดหาวิธีอยู่ว่าจะฆ่าคนคนนี้ยังไงดี !

พวกเขาเดินไปพักหนึ่ง ก็หยุดฝีเท้าลง เพราะด้านหน้านั้นเป็นสถานที่ที่หญ้าร้อยฝันขึ้นอยู่แล้ว ! และที่ต้องหยุด ก็เป็นเพราะว่าด้านนอกของหญ้าร้อยฝันนั้น มันมีค่ายกลธรรมชาติป้องกันอยู่ ! ค่ายกลธรรมชาติตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้นั้น แม้แต่ยอดฝีมือยังปวดหัวเหมือนกัน !

“ฉู่เหิน ได้ยินว่าบ้านวายุต่างก็เป็นผู้มีความสามารถ ภายในนั้นมีหญ้าร้อยฝันอยู่ นายไปเก็บมันออกมาสิ ! ถ้ากลับมาฉันจะจดบันทึกวีรกรรมใหญ่ให้ !” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น

พอฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็บิดยิ้มมุมปาก ! เขารู้ว่าที่คนคนนี้พูดจาดี ๆ กับตัวเอง ก็เพื่อจะใช้เขาไปสำรวจเส้นทางเท่านั้น เพราะถ้าเกิดก้าวพลาด ก็อาจตายได้ในทันที ! ส่วนพวกที่รออยู่ พวกเขาก็จะจำทางที่ชายหนุ่มเดิน และเลือกเดินทางที่ปลอดภัยแทน ! ทว่าในเมื่อที่นี่เป็นค่ายกล งั้นมันก็ต้องมีสมบัติอย่างแน่นอน !

ฉู่เหินยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะใช้วิชาเนตรของตัวเอง มองสำรวจอย่างละเอียด ! เมื่อเขามองอยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มก็เริ่มจะเข้าใจค่ายกลตรงหน้าอย่างช้า ๆ เขาคิดว่านี้ไม่ใช่เป็นค่ายกลธรรมชาติ แต่เป็นของที่มนุษย์ทำขึ้น ! เพราะค่ายกลตรงหน้ามีช่องโหว่ค่อนข้างเยอะ แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น ถ้าคุณกล้าเข้าไปโต้ง ๆ ก็อาจจะจบชีวิตได้ในพริบตา !

ระหว่างมองหา ฉู่เหินก็พบเข้ากับเส้นทางที่ปลอดภัยสายหนึ่งเข้าแล้ว ! เพียงแค่เส้นทางนี้แม้จะดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไร แต่ก็ต้องดูว่าตัวเองดวงดีจริงหรือเปล่า ! เพราะมันอาจมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นได้ ! จากนั้นชายหนุ่มก็ไม่รอช้า เดินก้าวเข้าไป ! ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ในมือของเขาก็กำคริสตัลจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้เอาไว้ทำอะไรอยู่ด้วย !

ทุกครั้งที่ ๆ เขาเดินผ่าน ก็จะทิ้งคริสตัลเอาไว้ 1 อัน เมื่อเห็นที่ฉู่เหินทำ คนพวกนั้นก็มองอย่างสงสัย พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายหนุ่มนั้นรู้เรื่องค่ายกลอะไรพวกนี้ด้วย ! และพอพวกเขาเห็นฉู่เหินเดินหายเข้าไป พวกเขาก็รีบตามไปทันที ด้วยกลัวว่าฉู่เหินจะซ้อนแผนเพื่อจัดการพวกเขาเสียเอง !

แต่พวกเขาที่เพิ่งจะก้าวเพียงก้าวเดียว ก็เห็นว่าจุดที่ฉู่เหินเคยเดินจู่ ๆ พลันเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ! ก่อนที่จะเกิดบาเรียบาง ๆ ชั้น 1 ขวางพวกเขาเอาไว้ข้างนอก ! และที่น่าหัวเสียที่สุดก็คือประโยคที่ลอยมาจากบาเรียที่ว่า “มีผู้บุกรุกในค่ายกล ระบบจะทำการกำจัดอัตโนมัติ !”

พอได้ยินคำนั้น พวกเขาก็พากันหัวเสีย จะให้พวกเขารออยู่ข้างนอกได้ยังไงกัน ! ใครจะรู้ว่าข้างในจะมีสมบัติอะไรบ้าง ถ้าชายหนุ่มคนนั้นพบเข้า จนทำให้พลังวรยุทธ์ของเขาก้าวหน้าอีกขั้นล่ะ ? เกรงว่าพวกเขาจะฆ่าอีกฝ่ายยากแล้วน่ะสิ !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ พวกเขาก็ไม่คำนึงถึงคำเตือนนั่นอีก รีบพุ่งเข้าไปด้านหน้า ! คนที่ไม่รู้เรื่องค่ายกลอย่างพวกเขา ไหนเลยจะรู้ว่าทางที่ฉู่เหินเคยเดินนั้น ได้เปลี่ยนไปแล้วทั้งหมด ! เมื่อเป็นแบบนี้ จากเส้นที่ปลอดภัยก็กลายเป็นเส้นทางแห่งความตายแทน ดังนั้นทันทีที่คนพวกนี้ก้าวเข้ามา พวกเขาก็ถูกค่ายกลโจมตีทันที !

เพียงชั่วพริบตาพวกเขาก็ตายไปแล้ว 2 จาก 5 ! ที่เหลืออีก 3 คนนั้นมีปฏิกิริยารวดเร็ว รีบถอยออกมาทัน ถึงได้สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ! และเมื่อมองไปที่ฉู่เหินอีกครั้ง พวกเขาก็เห็นว่าชายหนุ่มเดินไปไกลแล้ว ! จึงได้แต่คำรามเสียงดังอย่างหัวเสีย !