บทที่ 401 บอกแล้วว่าให้เชื่อข้า

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 401 บอกแล้วว่าให้เชื่อข้า

บทที่ 401 บอกแล้วว่าให้เชื่อข้า

เมื่อผู้ตัดสินของสมาพันธ์กระบี่ประกาศนามผู้ชนะ ใบหน้าของชายอ้วนที่สัตย์ซื่อกลายเป็นซีดขาวราวกับสาวน้อย

“โอ้! พี่ชายแพ้แล้วนะ” ไป๋ชิวหรานตบไหล่เขาพร้อมกล่าวว่า “พี่ชายเอ๋ย ข้าบอกแล้วว่าให้ใจเย็น ๆ แล้วรับฟังข้า”

แขนของชายอ้วนผู้สัตย์ซื่อสั่นสะท้านเล็กน้อย เขามองหมอดูด้านข้างก่อนจะถามขึ้นว่า

“เขาหมายความว่าอย่างไร?”

“หมายความว่าเจ้าต้องรักษาสัญญาไงล่ะ” หมอดูกวาดสายตามองขึ้นลงที่ใบหน้าสลับกับเครื่องเพศของเขาอย่างเวทนา “เร็วเข้าไอ้หนุ่ม เอานกเขาของเจ้าจุ่มพริกให้พวกเรารับชมเสีย”

“ใช่แล้ว!” ไป๋ชิวหรานเอื้อมมือไปจับไหล่อีกฝ่ายเอาไว้ “พี่ชายอ้วนที่สัตย์ซื่อของข้า เร็วเข้าเถิด!”

“เขากล่าวถูกต้อง”

หมอดูที่เป็นสหายของเขาพยายามกลั้นยิ้มพร้อมกล่าวเคร่งขรึม

“เจ้าต้องมีคุณธรรม เวลานี้เจ้ายืนอยู่ในงานประลองสมาพันธ์กระบี่ที่เหล่าผู้ฝึกตนในโลกมารวมตัวกัน อย่ากระทำการขายหน้าและสร้างความเสื่อมเสียต่อหน้าพวกเขา ไม่เช่นนั้น ในภายภาคหน้ากิจการของเจ้าย่อมไม่รุ่งเรือง”

“หนีไปก็ไร้ประโยชน์…”

น้ำเสียงสดใสและอ่อนหวานดังขึ้น ชายอ้วนเห็นหญิงสาวชุดแดงพยายามออกมาจากใต้วงแขนของไป๋ชิวหราน ก่อนจะมองดูเขาด้วยรอยยิ้ม

“ท่านกล้าดีอย่างไร เดิมพันให้สามีของข้าเสี่ยงพรากความสุขตลอดชั่วชีวิตของข้าเพื่อท่านงั้นหรือ? หากไม่ทำตามสัญญา แน่นอนว่าข้าจะเป็นคนกระทำมันเอง!”

นางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าชั่วร้ายและแสดงถึงการข่มขู่ชัดเจน

“จงสัญญาว่าจะไม่เดิมพันเช่นนี้อีกไปชั่วชีวิต!”

ในขณะที่หญิงสาวกล่าวออกมา พลังปีศาจที่น่าสะพรึงและจิตสังหารก็เล็ดลอดออกจากร่างกายของนาง สิ่งเหล่านี้ข่มขู่ชายอ้วนตรงหน้าจนต้องหวั่นเกรง

ชายอ้วนเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬ เขาไม่เคยพบเจอพลังที่น่าสะพรึงเช่นนี้มาก่อน

“อ… โอ้ แน่นอน ข้าย่อมไม่ปฏิเสธ”

เขารีบกล่าวขอโทษหลีจิ่นเหยาผู้กำลังขู่ฟ่อ ในขณะที่จินเฟิ่งหลายกำลังเผยแผ่คำสอนของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานแก่ฝูงชนอยู่บนสังเวียน ชายอ้วนก็ดึงตัวไป๋ชิวหรานออกมาอย่างรวดเร็ว

“สหาย… มาที่นี่เถิด ข้ามีสิ่งใดจะบอกกล่าว”

ไป๋ชิวหรานไม่ต่อต้านและปล่อยให้อีกฝ่ายลากตัวไปจากฝูงชนจนมาถึงพุ่มไม้บนยอดเขาหยวนชิง

“สหายเอ๋ย! เราไม่เคยมีความคับข้องใจต่อกัน… ที่ผ่านมาเราทั้งสองไร้ซึ่งความแค้นใด วันนี้ข้าปากเสีย เป็นคนท้าเดิมพันกับเจ้าก่อน”

เจ้าอ้วนกล่าวอย่างเขินอาย

“แล้วรู้หรือไม่ว่าการเดิมพันของเราก็เช่นกัน… เอ่อ มันคืออะไร? ภูเขาไม่อาจเปลี่ยนเป็นน้ำได้ เห็นหรือไม่ วันนี้ก็ปล่อยข้าไปเถิด… ข้าสามารถใช้สิ่งอื่นจ่ายแทนได้! เจ้าอยากได้สิ่งใด? เงิน? ทักษะการต่อสู้? อาวุธ? หรือต้องการสิ่งอื่น ๆ จากข้า?”

ไป๋ชิวหรานรับฟังอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่กลับถามว่า

“แล้วหากวันนี้ข้าพ่ายแพ้ และข้าไม่ต้องการเดิมพันกับเจ้าแล้ว ข้าสามารถร้องขอเจ้าเช่นนี้ได้หรือไม่?”

“เรื่องนี้…”

ชายอ้วนคิดจะตอบกลับ แต่ไป๋ชิวหรานขัดจังหวะขึ้นทันที

“อย่าพยายามหลอกลวงข้า! หลังจากที่เห็นพลังของภรรยาข้าแล้ว เจ้าควรเข้าใจ ไม่คิดหรือว่าเหตุใดข้าจึงเป็นสามีของนางได้? เจ้ายังกล้ามารยาสาไถใส่ข้าอยู่งั้นหรือ?”

ชายอ้วนถึงกับเงียบปากในทันที

เขาไม่ใช่คนโง่เขลาที่เข้าร่วมงานสมาพันธ์กระบี่อย่างไม่ทราบสิ่งใดแน่นอน และรู้ดีว่าแม้ไป๋ชิวหรานจะเป็นหนุ่มหน้าละอ่อน แต่อีกฝ่ายก็ได้รับการปรนนิบัติจากอสูรสาวงามที่พร้อมจะทำทุกสิ่งเพื่อเขา

แม้ตอนนี้ตนจะอยู่ห่างจากฝูงชนหลายจั้ง และหญิงสาวชุดแดงไม่ได้ติดตามมา แต่ชายอ้วนรู้ได้ทันทีว่าหากกล้าหลบหนี ศีรษะคงจะหลุดออกจากบ่าอย่างแน่นอน

เขาเชื่อว่าสตรีผู้นั้นกล้าลงมือ ท้ายที่สุดหากโชคดีคงได้สัมผัสพลังของเทพเจ้าในแผ่นดินของอาณาจักรต้าเซีย แต่เมื่อเทียบกับสตรีเมื่อครู่แล้ว มันด้อยกว่ามาก…

เจ้าอ้วนแอบเดาว่าหลีจิ่นเหยาคงจะเป็นหญิงชราในร่างสาวน้อย ความจริงนางต้องแก่ชรามากและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อันชั่วร้ายมามากมาย จึงสามารถรักษารูปลักษณ์วัยสาวที่งดงามไว้ได้ ส่วนไป๋ชิวหรานผู้หล่อเหลาคนนี้ย่อมถูกอสูรร้ายตนนั้นเลี้ยงดู…

หากเขาจะคิดเช่นนี้ก็ไม่ผิดเสียทีเดียว

ชายอ้วนสัตย์ซื่อครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายเขาจึงกล่าวกับไป๋ชิวหรานอย่างตรงไปตรงมา

“หากสหายของข้าต้องการจะต่อรอง ข้าย่อมยินดี”

ไป๋ชิวหรานมองดูเขาสักครู่ และเห็นว่าอีกฝ่ายกล่าวความจริง เขาจึงพยักหน้า

“ก็ได้… ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้โกหก”

ชายอ้วนถอนหายใจยาว กล่องดวงใจของเขาถึงกับผ่อนคลายลงหลังจากสั่นสะท้านอยู่ครู่หนึ่ง

“เอาล่ะ คราวนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป”

ไป๋ชิวหรานมองชายอ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกครั้ง และเห็นว่าเขาเป็นชายร่างอ้วน สวมเสื้อผ้าสีทองเผยให้เห็นความมั่งคั่งบนกายา

“ดูจากรูปร่างของเจ้าแล้ว เป็นพ่อค้างั้นหรือ?”

“ใช่”

ชายอ้วนตอบกลับ

“เจ้าของหอการค้าเซียไห่ ‘ไห่เต๋อหลง’ เจ้าไม่รู้จักหรือ? ว่าไปแล้ว ข้าก็ดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อของท่านชายกับภริยาในเจียงหูเลย… สอบถามได้หรือไม่ว่าท่านทั้งสองมีนามว่าอะไรหรือ?”

“ก็แค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสนใจ”

ไป๋ชิวหรานโบกมือ

“เพราะเจ้าเป็นพ่อค้า มันจึงง่ายที่จะกล่าว เจ้ารู้จักเทพีแห่งความมั่งคั่ง… ผู้อยู่ใต้อำนาจของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน ผู้ที่ได้รับการรับรองจากจักรพรรดิต้าเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่?”

“ข้ายังไม่ได้ไปสักการะด้วยตนเอง แต่พ่อค้าที่ข้ารู้จักหลายคนไปสวดภาวนาเสมอเมื่อพวกเขาว่าง”

ไห่เต๋อหลงตอบกลับ

“แล้วเทพธิดาแห่งความผูกพัน ราชินีประทานบุตร พระโพธิสัตว์เสริมอก และเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานล่ะ?”

“บุตรชายโง่เขลาของข้าศรัทธาในเทพธิดาแห่งความผูกพัน… ส่วนตัวข้ายังไม่เคย”

ไห่เต๋อหลงมองไป๋ชิวหรานและลอบคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายในใจ

“อย่างไรแล้วข้าก็เป็นพ่อค้า เชื่อว่าเงินทองยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า!”

“ความมั่งคั่งไม่สามารถสื่อสารกับเทพเจ้าได้ และไม่สามารถสื่อสารกับปีศาจได้ ท้ายที่สุดแล้ว เงินไม่ใช่ทุกสิ่งของโลกใบนี้…”

ไป๋ชิวหรานตบบ่าของเขาเบา ๆ พร้อมกล่าวอย่างผ่อนคลาย

“ไปเถิด พาคนที่เป็นลูกน้องของเจ้าไปบูชาเทพเจ้าเหล่านั้นเสีย… ไม่คิดจะตอบแทนที่ข้าไม่เอานกเขาของเจ้าจิ้มพริกแล้วหรือไร?”

จากสัญชาตญาณของพ่อค้าไห่เต๋อหลง เขาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ แต่ไม่สามารถนึกถึงเหตุผลที่จะปฏิเสธได้เลย เช่นนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที

“แน่นอน ข้าย่อมทำเช่นนั้น”

เจ้าอ้วนตอบตกลง เขาคิดไตร่ตรองแล้ว หลังจากกลับไปที่นั่น ก็เพียงแค่ส่งคนไปกราบไหว้อย่างลวก ๆ ก็เพียงพอแล้ว

“อย่าคิดฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปหน่อยเลย”

แต่ไป๋ชิวหรานดูเหมือนจะคาดเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงกล่าวขึ้นทันที

“นับตั้งแต่ข้าขอให้เจ้าทำสิ่งนี้เพื่อตอบแทนการเดิมพัน ข้าก็มีวิธีที่จะยืนยันได้ว่าเจ้าอยู่ในสถานที่แห่งนั้นจริงหรือไม่ ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าทำให้ผู้คนในหอการค้าทั้งหมดกลายเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้าเหล่านั้น แต่อย่างน้อยเมื่อครั้งที่สวดภาวนาและถวายเครื่องหอมก็ต้องเต็มไปด้วยความจริงใจ!”

“แน่นอน!”

ใบหน้าของเจ้าอ้วนเผยรอยยิ้มเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อค้าเช่นพวกเราคือความน่าเชื่อถือ เจ้าสามารถวางใจได้ว่าไห่เต๋อหลงผู้นี้จะไม่ทำลายชื่อของตนเอง!”

“ข้ามีภรรยาเป็นคนในวงการค้าด้วยเช่นกัน ไม่ต้องกล่าวสั่งสอนข้าด้วยถ้อยคำเหล่านี้ ไม่มีพ่อค้าคนใดที่ไม่คิดทรยศ เหล่าคนค้าขายให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ และให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มากด้วยเช่นกัน”

ไป๋ชิวหรานมองเขาด้วยแววตาเยือกเย็น ขณะนี้ใบหน้าของไห่เต๋อหลงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

“อย่างไรก็ตาม เจ้าสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง… หากทราบว่าเจ้ากระทำอย่างลวก ๆ ข้าจะพาภรรยาไปพบเจ้าถึงหน้าประตู แล้วถึงเวลานั้น ข้าจะไม่เพียงให้เครื่องเพศของเจ้าจุ่มพริกเท่านั้น แต่จะให้ได้ลิ้มรสอื่น ๆ ด้วย เช่น พริกไทย พริกตุ๋น ต้ม นึ่ง… ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน!”