บทที่ 536 สังหาร

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 536 สังหาร

บทที่ 536 สังหาร

ทว่าเมื่อพวกเขามองเห็นใบหน้าของยักษ์ตนนี้ ใบหน้าพวกเขาก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมอย่างรวดเร็ว เพราะหน้าของยักษ์ตนนี้คือฉู่เหินชัด ๆ เมื่อเห็นแบบนี้ ไม่ต้องถามก็รู้ได้ในทันที ว่าชายหนุ่มนั้นต้องได้อะไรดี ๆ มาอย่างแน่นอน !

แค่คิดว่าสมบัติที่ตัวเองควรได้ตกไปเป็นของคนอื่นแบบนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็พลันกระตุกด้วยความไม่ชอบใจ

“เอาสมบัติที่แกได้ออกมาซะ แล้วพวกเราจะไม่ฆ่าแก !” ทันทีที่สิ้นเสียง พวกเขาก็พุ่งเข้าหาฉู่เหินอย่างรวดเร็ว ! ทว่าชายหนุ่มนั้นไม่สนใจคนพวกนี้ เขาออกวิ่งต่อไปด้วยความรวดเร็ว !

“แกจะหนีไปไหน !” เมื่อคนพวกนี้มาถึงตำแหน่งเดิมที่เขาเคยยืน ร่างของฉู่เหินก็ได้หายไปไกลสุดสายตาแล้ว ก่อนที่จะตามมาด้วยการระเบิดอย่างรุนแรง จนเห็นควันพวยพุ่งเป็นรูปเห็ด !

ทั้งสามที่เพิ่งมาถึงถือว่าโชคร้ายแล้ว พวกเขาโดนแรงอัดของระเบิดเข้าอย่างจัง ! จนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ร่างจะถูกแรงระเบิดอัดจนกระเด็นไปไกล ! นับว่าโชคดียิ่งนักที่พวกเขาเพียงแค่บาดเจ็บเท่านั้น ไม่ถึงกับตายจากแรงระเบิด !

ฉู่เหินหยุดลงในที่ไกลออกไปแห่งหนึ่ง เมื่อหันกลับไป เขาก็เห็นเข้ากับทั้ง 3 คนนั้นที่นอนหมดสภาพอยู่ จึงโบกมือทีหนึ่งเพื่อเรียกคทาเวทย์ให้ปรากฏออกมา !

แม้ว่าทั้งสามจะไม่ตาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ! ดังนั้นชายหนุ่มจึงมีเวลามาพอที่จะปลดปล่อยพลังเวทย์อันทรงพลังออกมา ! ทว่าถึงแม้พลังเวทย์ที่เขาปล่อยออกมานั้นจะรุนแรง หากแต่น่าเสียดายนัก ที่ 1 ใน 3 คนนั้นเป็นถึงขั้นครึ่งจอมปราชญ์ดารา !

อีกฝ่ายเพียงแค่ยกมือขึ้นสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียวก็สามารถสลายการโจมตีของฉู่เหินได้แล้ว !

เพราะต่อให้พลังวรยุทธ์ของฉู่เหินจะมากขึ้น อยู่ในขั้นปราชญ์ระดับสูง หากแต่ระดับพลังของเขากับอีกฝ่ายนั้นก็ยังต่างชั้นกันอยู่เยอะทีเดียว ดังนั้นการโจมตีนี้จึงไม่ได้ผล !

“หนุ่มน้อย นายได้สมบัติล้ำค่ามาสินะ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นมันก็ยังไม่ใช่คู่มือของฉันอยู่ดี ! หยุดมือซะเดี๋ยวนี้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้ !” ชายชราขั้นครึ่งจอมปราชญ์ดาราพูดขึ้น

หลังจากได้รับภารกิจลับมา พวกเขาก็ขาดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ! เพราะกลัวว่าเรื่องที่ลงมือกับฉู่เหินจะหลุดออกไป ทว่าที่พวกเขาทำเช่นนี้มันกลับร้ายมากกว่าดี เพราะตอนนี้ทั้ง 3 คนไม่รู้เลยว่าถ้าพวกเขาทำสำเร็จ บ้านของตระกูลหลิวได้เละเป็นจุณแน่ !

ตอนนี้ตระกูลหลิวกำลังนั่งไม่ติด เหมือนแมลงที่อยู่ในกระทะร้อน ๆ ! เมื่อได้เจอเข้ากับพลังอันแข็งแกร่งของจูเก๋อโยวหมิงเข้าไป ! พวกเขานั้นรู้สึกหวาดกลัวและกังวลเป็นอันมาก เพราะถ้าคนที่พวกเขาส่งไปสังหารฉู่เหินไปแล้วละก็ ตระกูลหลิวของตัวเองคงได้สลายหายไปเหมือนหมอกควันเป็นแน่ !

คำพูดที่จูเก๋อโยวหมิงพูดออกมา พวกเขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อเลย เพราะเดิมทีจูเก๋อโยวหมิงก็ขึ้นชื่อเรื่องความบ้า และพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ! ดังนั้นพวกเขาก็รู้ได้เลยว่า ถ้าคนของตัวเองสังหารฉู่เหินได้ งั้นทางตระกูลหลิวก็เตรียมตัวจบสิ้นได้เลย !

ทั้งพรรควายุอัสนี ไม่มีใครเก่งพอจะสู้กับจูเก๋โยวหมิงได้สักคน ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงได้แต่เร่งรีบติดต่อกับคนพวกนั้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งส่งคนไปหาก็มี ! ก่อนที่จะพากันก้มหน้าก้มตาภาวนา ขออย่าให้พวกเขาลงมือแล้วเลย ไม่งั้นพวกเขาก็ไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น !

พอฉู่เหินเห็นว่าการโจมตีด้วยพลังเวทย์ไม่ได้ผล เขาก็ไม่ลังเลปล่อยพลังจิตสังหารออกมา ! ตอนนี้ชายหนุ่มจะต้องรีบฆ่าคนพวกนี้ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นจะสายเกินไป !

ในเวลาเดียวกันนี้เอง เหล่าแฟรี่ก็พลันถูกเรียกให้หลอมรวมเข้ากับร่างกาย ทำให้พลังวรยุทธ์ของฉู่เหินเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด !

เพียงชั่วพริบตา จากเดิมฉู่เหินที่อยู่ในขั้นปราชญ์ระดับสูง ก็พลันพุ่งสูงขึ้นจนอยู่ในขั้นครึ่งจอมปราชญ์ระดับกลาง พลังที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลันทำให้พลังในร่างกายของเขาปั่นป่วนอย่างบ้าคลั่ง ! และเสริมแกร่งให้กับพลังจิตสังหารขึ้นอีกหลายเท่า !

ในตอนที่พวกเขาทั้งสามถูกพลังจิตสังหารครอบคลุมไว้ ในใจของทั้งสามก็เริ่มจะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม อาศัยประสบการณ์ของพวกเขา ย่อมจะรู้ว่านี้คือวิชาของพลังจิตอย่างหนึ่ง ต้องเข้าใจว่าวิชาเวทย์กับพลังจิตนั้นไม่เหมือนกัน เพราะขอเพียงเป็นพลังจิต ไม่ว่าผู้ใช้จะพลังสูงหรือต่ำก็ย่อมไม่อาจดูถูกได้เลย !

เมื่อทั้ง 3 คนถูกความกลัวเข้าครอบงำ พวกเขาก็ได้เห็นเข้ากับวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนที่ปรากฏตัวขึ้น และโดยไม่ทันให้ตั้งตัว วิญญาณพวกนี้ก็พากันปีนเกาะบนร่างกายของทั้ง 3 คนและเริ่มดูดพลังชีวิตและพลังหยางในร่างกายทันที

ชายชราที่เป็นขั้นครึ่งจอมปราชญ์ผู้หนึ่ง เขาคนนี้นั้นเคยเห็นสิ่งต่าง ๆ มามากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย และพูดขึ้นอย่างสงบนิ่งว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นวิญญาณของภูตผีทั้งสิ้น แค่ใช้พลังวิญญาณโจมตีก็สามารถกำจัดพวกมันได้แล้ว !” สิ้นเสียง ทั้งสามก็ใช้จิตวิญญาณของตัวเองสังหารเหล่าวิญญาณร้ายพวกนี้ทันที !

จุดนี้เป็นสิ่งที่ฉู่เหินคาดไม่ถึงมาก่อน เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเดิมวิญญาณร้ายพวกนี้กลัวการโจมตีจากพลังวิญญาณ !

หลังจากพวกวิญญาณโดนการโจมตีแบบนี้เข้าไป พวกมันก็สลายกลายเป็นฝุ่นควันทันที ! สำหรับพวกวิญญาณร้ายที่ถูกกำจัดไปนั้น พวกมันนับเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของชายหนุ่ม ดังนั้นมันจึงส่งผลให้ฉู่เหินถูกพลังสะท้อนกลับ จนต้องกระอักเลือดออกมา !

และก็เป็นในตอนนี้เองที่เขาถึงเพิ่งจะรู้ว่าพลังจิตสังหารของตนไม่ได้ไร้เทียมทานอย่างที่คิด ! ทำให้เขากลับมาคิดทบทวนว่าถ้าพลังจิตสังหารถูกจัดการง่าย ๆ แบบนี้ละก็ งั้นมันก็ไม่ถือว่าเป็นวิชาพลังจิตที่แท้จริงแล้ว !

ดังนั้นเขาจึงเร่งโคจรพลังจิต เพื่อปรับเปลี่ยนค่ายกลภายในทันที ทำให้วิญญาณร้ายภายในหายไปทั้งหมด ก่อนที่จะปรากฏดวงไฟวิญญาณขึ้น และพอพวกมันเห็นทั้งสามก็พุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งในทันที !

ทั้งสามที่เห็นดังนั้น พวกเขาก็พากันหมุนกายหลบไม่ได้หยุด เพราะพวกเขาสัมผัสได้ว่าดวงไฟพวกนี้น่ากลัวกว่าวิญญาณร้ายเมื่อครู่เสียอีก ! ทว่าหลังจากดวงไฟปรากฏขึ้นไม่นานนัก ก็เห็นว่าที่ที่ไม่ไกลออกไปมากนัก จู่ ๆ ก็ปรากฏเกี้ยว 4 คนห่ามขึ้นมาคันหนึ่ง

เกี้ยวคันนั้นเคลื่อนที่อย่างว่องไว แม้ว่าเกี้ยวนั้นจะไม่ได้โจมตีอะไร แต่ก็ให้ความรู้สึกอันตรายแก่ทั้งสามอย่างมาก ! เพราะภายในนั้นคล้ายจะส่งพลังอำนาจที่น่ากลัวออกมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นไอแห่งความตาย !

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป ใช้พลังวิญญาณที่มีโจมตีเข้าใส่เกี้ยวนั้นในทันที ! แต่ที่พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีอย่างไร เจ้าเกี้ยวนี้ก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ยังคงเคลื่อนที่มาทางพวกเขาด้วยความเร็วคงที่ !

เกี้ยวนี้เคลื่อนที่มาทางพวกเขา จนสุดท้ายก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสาม ! ก่อนที่บานประตูเกี้ยวจะถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ ทำให้เกิดแรงดูดที่น่ากลัวจากภายในส่งออกมา !

แรงดูดที่ว่าทำให้พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้เลย ได้แต่โดนดูดเข้าไปในนั้นเสียเฉย ๆ พวกเขาได้แต่หวาดกลัว เริ่มรู้สึกกลัวว่าตัวเองจะตายขึ้นมาจริง ๆ บ้างแล้ว !

อย่างไรก็ตาม ที่ด้านนอกจู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นว่า “ไอ้เด็กเวรปล่อยคนของตระกูลหลิวออกมาเดี๋ยวนี้นะ ! ไม่งั้นแกได้ตายแน่ !” ใครจะไปคิดว่าตอนนี้กองกำลังของตระกูลหลิวจะมาถึงพอดี ! เดิมทีคนพวกนี้เป็นคนที่ตระกูลหลิวส่งมาให้สังเกตการณ์พวกที่ลอบสังหารฉู่เหินอย่างลับ ๆ แต่ที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ มันกลับเป็นคนของพวกเขาเองที่พลาดท่าถูกดึงเข้าไปในนั้น !

ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงรู้สึกโมโหอย่างมาก จนตะโกนไปแบบนั้น ! ทางด้านชายหนุ่ม เมื่อเห็นคนพวกนี้เข้า เขาเองก็ตกใจเช่นกัน ! เพราะเขานั้นมัวแต่มองการต่อสู้ข้างหน้า จึงไม่ได้สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงรอบ ๆ เลย !

ไม่รู้ว่าเป็นตอนไหนที่คนพวกนี้มาถึง หลังจากได้ยินพวกนี้ตะโกน ฉู่เหินไม่แม้แต่จะคิด เขารีบเอาพลังจิตสังหารครอบคลุมคนพวกนี้ไปด้วย ! เหยื่อคนที่ 1 ต้องตาย และเหยื่อคนที่ 2 ก็อย่าหวังว่าจะรอด ! ในเมื่อเป็นคนตระกูลหลิวเหมือนกัน งั้นก็ตายด้วยกันซะที่นี่แหละ !