ตอนที่ 293 เจ้ากำลังมองหาเทพแห่งท้องทะเล แล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…(1)
หลี่ฉางโซ่วยังคงใช้หลีกลี้วารีเร้นกายในน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง มุ่งหน้าไปยังค่ายกลโจมตีที่กองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองจัดวางเอาไว้
มันเป็นการโต้กลับด้วยการปิดล้อมอีกฝ่ายหนึ่ง
ด้วยกลอุบายบางอย่างเช่น ปลากระดาษ บัดนี้ หลี่ฉางโซ่วแน่ใจแล้วว่ามีปลาประมาณสามร้อยตัวที่ไล่ตามเขาและปิดกั้นเขาไม่ให้ออกไปได้
ในฝูงของพวกมัน มีเซียนเทียนสี่สิบสองตัว ส่วนที่เหลือล้วนเป็นเซียนเสิ่น พวกมันส่วนใหญ่เป็นปลาวิญญาณซึ่งมีหัวเป็นปลาและมีร่างเป็นมนุษย์ที่มาจากเผ่าทะเล
สิ่งที่สะดุดตากว่านั้นคือ นางเงือกงดงามที่มีเรือนร่างเย้ายวนสองสามตัว ริมฝีปากปลาหนาของพวกมันเป็นสีแดงสด ซึ่งไม่รู้ว่าถูกทาด้วยอะไร พวกนางค่อนข้าง… ดูน่าตื่นตาเล็กน้อย
หลี่ฉางโซ่วได้หลบเลี่ยงการสกัดกั้นของคู่ต่อสู้มาหลายครั้งติดต่อกันแล้ว
ทุกครั้งที่คนเหล่านั้นต้องการจะปิดล้อมเขา หลี่ฉางโซ่วก็จะใช้หลีกลี้วารีเร้นกายอย่างรวดเร็วมากขึ้นจนรอดพ้นจากการถูกปิดล้อมได้
ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วที่กำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็เปลี่ยนทิศ มุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยไม่รู้ตัว…
เขาสามารถควบคุมการทำงานหลายอย่างพร้อมกันมาได้นานแล้ว บัดนั้น กองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็มาถึงเกาะร้างแห่งหนึ่งในทะเลบูรพา หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ภายในสองสามพันลี้แล้ว เขาก็เก็บตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์สองตัวที่รับผิดชอบด้านการขนส่งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หลายสิบตัวที่ปล่อยพิษและโปรยถั่วให้กระจายออกไปยังพื้นที่ต่างๆ เอาไว้ใช้ในภายหลัง
หลี่ฉางโซ่วได้วิเคราะห์ว่า เขาถึงถูกสกัดกั้นด้วยเหตุใดแล้ว
แต่หลังจากวิเคราะห์แล้ว ทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในบรรดาตัวเลือกต่างๆ ที่เขาคิดได้ทั้งหมดก็คือบัดนี้ เขาตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังกบฏเผ่าทะเล…
แม้จะไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ว่า เป็นแผนร้ายของสำนักบำเพ็ญประจิมที่จะแก้แค้นเขา แต่หากเพียงมุ่งเป้าไปที่ร่างจำแลงของเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็จะดูไร้เหตุผลเกินไปเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น หากสำนักบำเพ็ญประจิมโจมตีจริง ๆ พวกเขาก็เพียงส่งคนดุร้ายในระดับเซียนจินมาลอบทำร้ายเขา ร่างนี้ของเขาย่อมไม่มีพลังพอจะจัดการมันได้เลย…
เขาคิดว่าเป็นไปได้กว่าแปดส่วนที่ปัญหานี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะมีหลายคนเรียกเขาว่าเทพแห่งท้องทะเลในระหว่างงานเลี้ยงที่วังมังกร
ทว่าเขาก็ทำอะไรไม่ได้
ในเวลานั้น ผู้คนในศาลสวรรค์จะอยู่ข้าง ๆ ซึ่งหากปกปิดตัวตนของเขา เขาก็จะไม่อาจเป็น “สะพานมิตรภาพ” เชื่อมระหว่างเผ่ามังกรและศาลสวรรค์ได้
หลี่ฉางโซ่วค่อยๆ ปรับความเร็วของหลีกลี้วารีเร้นกาย ซึ่งให้ภาพลวงตาที่ทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกว่า ในยามนี้ เขาได้ใช้เคล็ดลับบางอย่างเพื่อเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานี้ เมื่อผลของเคล็ดลับเริ่มจางลง ก็ทำให้พวกกบฏเผ่าทะเลคิดว่า โอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว
บัดนั้น ก็มีร่างหลายร้อยร่างภายในรัศมีหนึ่งพันลี้ เริ่มต้นการปิดล้อมครั้งสุดท้ายของพวกมันแล้ว…
และด้วยความเคารพต่อศัตรู ของหลี่ฉางโซ่วจึงมีความคิดแล่นพล่านเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่งในใจ เขาได้เตรียมแผนสามกลยุทธ์และหกแผนสำรองเอาไว้ แล้วทุ่มเท เพ่งจิตทั้งหมดลงไปในทันที
ขณะนี้ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหกได้เตรียมการเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูแล้ว พวกเขาโปรยโอสถไร้สีไร้กลิ่นลงไปในทะเล ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะมีผลไปถึงพื้นที่ทะเลใกล้กับเกาะร้าง
จากนั้น ร่างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว ซึ่งตกเป็นเป้าหมาย “โดยบังเอิญ” ก็พุ่งเข้าไปในการซุ่มโจมตีของเหล่าปรมาจารย์หลายคนในฝ่ายศัตรู…
ทันทีที่การต่อสู้ในทะเลเริ่มต้นขึ้น หลี่ฉางโซ่วก็ถอยกลับฉับพลันโดยไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ลงมือโจมตีใดๆ
เซียนเทียนเผ่าทะเลสองสามตัวที่เก่งกาจในการต้อสู้ทางน้ำ ก็ยังไม่อาจหยุดเขาเอาไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง
นี่เป็นผลของความพยายามและครุ่นคิดถึงวิชาหลีกลี้วารีเร้นกายอย่างต่อเนื่องในยามนั้น!
ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจนัก ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขาสุดแสนอัตคัตและไร้สมบัติวิญญาณ จึงทำได้เพียงชดเชยด้วยการใช้พลังเวทแทนเท่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วก็มายืนอยู่บนเกาะร้างนั้น
ในเวลานั้น ก็มีกระแสน้ำวนปรากฏขึ้นบนพื้นผิวทะเลรอบๆ เกาะร้าง ในขณะที่ร่างหลายร้อยร่างจากระยะไกลได้เข้ามาใกล้และตีขนาบล้อมรอบพวกเขาพร้อมๆ กัน
อีกฝ่ายหนึ่งระวังตัวน้อยมาก เขาไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในบริเวณนั้น และไม่ได้สังเกตเห็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หลายสิบตัวที่ซุ่มซ่อนอยู่ที่ก้นทะเล…
หลี่ฉางโซ่วมองสำรวจสภาพแวดล้อมไปรอบๆ บัดนี้ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์มีพลังเซียนเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย มันถูกใช้เพื่อป้องกันการต่อสู้และคุ้มกายตัวเองทั้งสิ้น
ดังนั้น ฐานพลังปราณในระดับเซียนเทียนขั้นเริ่มต้นของเขาจึงถูกเปิดเผยออกมา
มนุษย์ปลาส่วนใหญ่ที่อยู่รอบตัวล้วนเยาะเย้ยและมองดูมนุษย์ที่พวกมันรายล้อมอยู่อย่างวางโต…
เมื่อคนเผ่าทะเลเหล่านี้ไล่ล่าตามหลี่ฉางโซ่ว พวกเขาก็สงสัยในทันทีว่า เทพแห่งท้องทะเลที่พวกเขาซุ่มโจมตีและจับในวันนี้เป็นวิญญาณปลาหนีชิว[1]จากทะเลสาบขนาดใหญ่บนบก! แต่ในที่สุดพวกเขาก็ทุ่มเทอย่างหนักจนปิดล้อมชายผู้ลื่นไถลเหลี่ยมจัดคนนี้เอาไว้ได้สำเร็จ!
ทะเลเป็นบ้านเกิดของเผ่าทะเลของพวกเขา!
ในขณะนี้ หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ถูกปิดล้อมด้วยคนเผ่าทะเลหลายร้อยคน ในอีกด้านหนึ่งนั้น ผู้ฝึกบำเพ็ญของเผ่าทะเลก็เริ่มจ้องมองหลี่ฉางโซ่วอย่างเกลียดชัง
ราวกับพวกเขาคิดว่า หลี่ฉางโซ่วมีความบาดหมางกับพวกเขาและมองพวกเขาเป็นศัตรูจนจะแล่พวกเขาออกเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปจิ้มวาซาบิกินให้หายแค้น
เผ่าทะเลส่วนใหญ่ในโลกบรรพกาล จะมีร่างเป็นมนุษย์และมีหัวเป็นปลา
มีเพียงเงือกเท่านั้นที่มีร่างกายท่อนบนเป็นเผ่ามนุษย์และลำตัวส่วนล่างเป็นหางปลา
นอกจากนี้ ยังมีร่างในรูปแบบที่แบ่งเป็นครึ่งคนครึ่งปลา ซึ่งแยกส่วนกันจากตรงกลาง…
หากเต๋าสวรรค์ไม่ยินยอม พวกเขาย่อมจะไม่อาจดำรงอยู่ได้อย่างแน่นอน
หัวใจของหลี่ฉางโซ่วแจ่มกระจ่างชัดเจน ดวงตาของเขาฉายแววหวาดกลัว และดูกระวนกระวายเล็กน้อยเมื่อมองไปรอบๆ
เมื่อเผ่าทะเลเข้าล้อมรอบเขา หลี่ฉางโซ่วก็ถามอย่างเย็นชาว่า “สหาย เต๋า นี่หมายความอย่างไร?”
“เทพแห่งท้องทะเลทักษิณ!”
สาวทะเล ซึ่งเป็นเซียนเทียนขั้นสูงสุด ถือตรีศูลเหล็กและร้องตะโกนว่า “เจ้าช่วยเผ่ามังกรกดขี่รังแกเผ่าทะเล ของข้า วันนี้คือวันตายของเจ้าแล้ว! ตาย!”
“ช้าก่อน!”
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและร้องตะโกนเบาๆ เขาคำนวณเวลาว่า ยาสลบจะออกฤทธิ์เมื่อใดอยู่ในใจของเขาและคาดเดาว่าอีกฝ่ายซ่อนฐานพลังของพวกเขาเอาไว้หรือไม่
เขาแอบควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกตัวหนึ่งและแอบใส่พิษปราณวิญญาณเข้าไปในลมปราณของพวกมนุษย์ปลาเหล่านี้อย่างเงียบๆ
เพื่อความปลอดภัย หลี่ฉางโซ่วต้องชะลอเวลาระยะหนึ่งเพื่อให้พิษออกฤทธิ์ได้เต็มที่ จากนั้น เขาก็กล่าวต่อไปว่า “ในเมื่อเจ้ากำลังมองหาเทพแห่งท้องทะเลทักษิณ มีอันใดเกี่ยวข้องกับข้า นักพรตเต๋าไห่เซิน เล่า?”
“นักพรตเต๋า นักพรตเต๋าไห่เซิน?”
มนุษย์ปลาหญิงตกใจอย่างเห็นได้ชัด และขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “เจ้าคือ เทพแห่งท้องทะเลทักษิณมิใช่หรือ?”
หลี่ฉางโซ่วยักไหล่และกล่าวว่า “เจ้าเคยได้ยินผู้ใดเรียกข้าว่าไห่เซิน ไห่เซินในวังมังกรนั้น ฟังดูเหมือนเทพแห่งท้องทะเลหรือไม่? กล่าวตามตรง ข้าเคยเห็นเทพแห่งท้องทะเลทักษิณแล้ว เขาเป็นผู้อาวุโสที่ดูใจดีมีเมตตา แตกต่างจากข้าอย่างสิ้นเชิง นี่ข้าไม่ได้ใช้ภาพลวงตาหรือกลอุบายใดๆ เลยนะ ข้าย่อมหลอกพวกเจ้าไม่ได้อย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”
“หือ?”
มนุษย์ปลาสองสามคนที่เป็นเซียนเทียนขั้นสูงสุด ต่างมองตากันด้วยดวงตาที่ฉายแววสงสัยออกมา
พวกเขาเข้าใจผิดหรือไม่?
มนุษย์ปลากล่าวว่า “ข้ายอมฆ่าผิดคนมากกว่าจะปล่อยคนผู้นี้ไป”
“ใช่! มนุษย์ก็น่ารังเกียจพอๆ กับมังกร! อย่าปล่อยให้คนผู้นี้ไป!’
หลี่ฉางโซ่วเงียบงันทันที
พวกเขาเชื่อเรื่องเหลวใหลนั่นจริงๆ หรือ?
ทั้งที่รู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้วว่า โดยทั่วไปแล้ว ชนเผ่าทะเลไม่ค่อยมีสติปัญญาหรือฉลาดมากนัก และยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่หลี่ฉางโซ่วก็ไม่เคยคิดว่าจะไร้เดียงสามากถึงเพียงนี้
พวกมันสมกับเป็นปลาที่ถูกสำนักบำเพ็ญประจิมหลอกเอาจริงๆ!
ชีวิตในทะเลย่อมสบายกว่าบนฝั่งอย่างแน่นอน ไม่แปลกที่ในชาติก่อนๆ หลายคนต่างเลือกไปทะเลกัน…
แค่กๆ นอกเรื่องไปไกลแล้ว
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ทุกคน มีคำกล่าวในเผ่ามนุษย์ว่า ควรปรับความเข้าใจกับศัตรู อย่าเก็บเอาไปคิดแค้นฝังใจ วันนี้ พวกเจ้ามาปิดล้อมข้า และข้าก็จะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากพวกเจ้าลงมือทำร้ายข้าจริงๆ เจ้าจะต้องได้รับการแก้แค้นอย่างแน่นอน แล้วยิ่งไปกว่านั้น การแก้แค้นนี้จะมาถึงอย่างรวดเร็วมาก”
“เหอะ! พวกเรายังไม่กลัวเผ่ามังกรด้วยซ้ำ แล้วไยยังต้องกลัวเจ้า!?!”
มนุษย์ปลาหญิงผู้บังคับบัญชาส่งเสียงก่นด่าออกมาอย่างเย็นชา ดวงตาปลาทั้งคู่ของนางเปล่งแสงประหลาดออกมาในขณะที่นางร้องตะโกนว่า “หยุดพูดกับเขาเสียที! ลงมือฆ่ามันเลย!
“ให้มันจบสิ้นกันไป!”
……………………………………………………………….
[1] เป็นชื่อปลาชนิดหนึ่งที่แหวกว่ายได้รวดเร็วมาก มีตัวกลมปลายหางแบน หลังสีดำท้องสีขาวหรือเทา หัวเล็กแหลมปากมีหนวด มักจะอยู่ในแม่น้ำ หนอง บึง