บทที่ 409 รังรักของไป๋ลี่กำลังกรีดร้อง

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 409 รังรักของไป๋ลี่กำลังกรีดร้อง

บทที่ 409 รังรักของไป๋ลี่กำลังกรีดร้อง

อีกด้านหนึ่ง ณ เก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน ภายในลานเล็ก ๆ ของที่ตั้งสำนักเหอฮวน เจียงหลานออกจากบ้านด้วยชุดกระโปรงยาวตัวหลวม และเดินทอดน่องเข้ามาในลาน

เข้าเดือนพฤษภาคมแล้วอากาศจึงเริ่มร้อน แต่เจียงหลานก็ไม่คิดขยับตัวไปไหน เพื่อชีวิตน้อย ๆ ในท้อง หลังจากไม่กี่เดือนที่ผ่านมานางได้ไปเยือนสำนักเล็ก ๆ อันไกลสุดกู่ เพื่อเปิดประตูให้ซูเซียงเสวี่ยกลับมา

ท้ายที่สุดแล้ว มันคือสถานการณ์พิเศษที่ทุกคนในครอบครัวล้วนกังวล ซูเซียงเสวี่ยผู้อยู่ด้วยกันกล่าวว่าตอนนี้นางกลายเป็นแม่ไก่ขี้บ่น จู้จี้ จุกจิก ส่วนไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ กลับมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อพวกเขากลับมา นางจะได้รับการดูแลอย่างดีภายในบ้านของตนเอง

แน่นอนว่าเจียงหลานก็คิดเช่นนั้น เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่นางอาศัยอยู่แต่ในบ้าน และฝึกฝนด้วยตนเอง

ตอนนี้นางไม่ต้องทำงานบ้านทั้งหมดแล้ว ซูเซียงเสวี่ยเป็นคนจัดการทุกสิ่งอย่างให้ สำหรับไป๋ชิวหรานที่ฝึกตนอยูู่ตลอดเวลา การให้กำเนิดชีวิตเช่นนี้ถือว่าเป็นโอกาสเพียงเล็กน้อย เด็กที่อยู่ในท้องของเจียงหลานจึงไม่ใช่เพียงความปรารถนาของนางเท่านั้น แต่มันคือความปรารถนาของทุกคนภายในครอบครัว

ในเดือนพฤษภาคมที่บุปผชาติผลิบาน ซูเซียงเสวี่ยมีความสุขกับการดูแลพืชพรรณ ภายในบ้านที่นางอาศัยอยู่มีดอกไม้มากมายปลูกเอาไว้ และในที่สุดก็ถึงฤดูของมันแล้ว ทั่วทั้งลานจึงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ

เจียงหลานชื่นชอบเรื่องพิษ แมลง สมุนไพรพิษ อสรพิษ และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แต่ก่อนนางไม่คิดหวาดกลัวพวกมันแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ เจียงหลานจึงต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ‘ความอันตรายเพียงเล็กน้อย ย่อมส่งผลอันยิ่งใหญ่’ นางจึงเลิกสนใจงานอดิเรกเหล่านี้ชั่วคราว และหันไปสนใจต้นไม้เช่นเดียวกับซูเซียงเสวี่ย อีกทั้งยังช่วยนางดูแลสวนบ้างเป็นครั้งคราว

ขณะที่เจียงหลานกำลังรดน้ำต้นไม้ดอกไม้ในสวน ประตูของลานก็ถูกเปิดออก… เป็นไป๋ชิวหรานที่เดินเข้ามาพร้อมกับหลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวย

“หลานเอ๋อ!” ครั้นเห็นนาง ไป๋ชิวหรานก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับดึงฝักบัวรดน้ำออกจากมือของนางอย่างนิ่มนวล แล้วบ่นอุบอิบว่า “เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่? นอกบ้านมีลมแรง ยังจะมารดน้ำต้นไม้อีก! หากเป็นหวัดจะทำอย่างไร?”

“ข้าก็… คงจะเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จริง ๆ แล้ว” เจียงหลานกล่าวพลางขบขัน “จักรพรรดิเซียนที่อยู่ในขั้นซากปรักหักพังหวนคืน… เป็นหวัด”

“แค่ก ๆ”

ไป๋ชิวหรานเขินอายเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่คิดคืนฝักบัวรดน้ำให้กับเจียงหลาน เขาเลือกจะรดน้ำต้นไม้ให้ซูเซียงเสวี่ยด้วยตนเอง

“ท่านไม่ได้ยุ่งอยู่กับโลกใบนั้นงั้นหรือ? เหตุใดจึงกลับมา”

เจียงหลานถามขึ้น ทั้งสองยืนเคียงข้างกันยามชมดอกไม้ในสวน

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ที่นั่นยอดเยี่ยมมาก และกว่าจะถึงรอบชิงชนะเลิศยังมีเวลาอีกสองสัปดาห์… เช่นนั้นข้าจึงสามารถกลับมาพบเจ้าได้”

ไป๋ชิวหรานตอบกลับ

แม้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการก่อตั้งเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานในโลกใบนั้น แต่ในบางครั้ง… เขาก็หาเวลากลับมาที่นี่เพื่อพบเจียงหลาน ลูกน้อยในครรภ์ และซูเซียงเสวี่ย

ท้ายที่สุดแล้ว… สามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์เหนียวแน่นก็ยังต้องรักษาขาเตียงให้มั่นคง หากหายจากกันเนิ่นนานเกินไป เขาเกรงว่าเจียงหลานท้องใหญ่โตจะบุกไปที่โลกวัตถุพร้อมกับซูเซียงเสวี่ย

ไป๋ชิวหรานรดน้ำเสร็จสิ้น ในขณะที่หลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยก็เก็บข้าวของและวิ่งออกมา ทั้งสองมาหยุดยืนอยู่อีกด้านของเจียงหลาน ก่อนจะจับมือนางไว้

“โอ้! ศิษย์พี่หญิงหลาน ข้าขอฟังเสียงเคลื่อนไหวของเด็กน้อยได้หรือไม่”

แม่นางน้อยกล่าวพร้อมกับนั่งยอง ๆ ลง จากนั้นก็เอาหูแนบกับท้องของเจียงหลาน

นางตั้งครรภ์ได้สิบเดือนแล้ว แต่เจียงหลานยังไม่ได้คลอดบุตรเช่นเดียวกับสตรีทั่วไป ตอนนี้ท้องของนางใหญ่ออกมาเพียงเล็กน้อย และสามารถมองเห็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นได้

ไป๋ชิวหรานและทุกคนรู้สึกว่าชีวิตดวงน้อยภายในกำลังเติบโตอย่างราบรื่น ส่วนความรวดเร็วในการตั้งครรภ์ที่ช้ากว่าสตรีทั่วไปน่าจะเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์พิเศษของเจียงหลาน

นางเป็นเทพเจ้า และไป๋ชิวหรานที่เดิมทีควรจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่หลังจากฝึกฝนมานานกว่าสามพันปี ต่อให้ภูตผีก็ไม่ทราบว่าเขาคือเผ่าพันธุ์ใด เด็กที่เกิดจากการปฏิสนธิของทั้งสอง… อย่างน้อยย่อมไม่ด้อยไปกว่าเทพเจ้าระดับสูงแน่นอน

ดังคำที่เจียงหลานเคยกล่าวเอาไว้ เป็นปกติที่บุตรของเทพเจ้าจะเจริญเติบโตช้า เมื่อครั้งที่มารดาตั้งครรภ์นาง ดูเหมือนว่ามารดาจะตั้งท้องนานหลายปีว่าเจียงหลานจะถือกำเนิดขึ้นมา

หลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยผลัดกันเอาหูแนบท้องของนาง พยายามรับฟังเสียงภายใน แม้พวกเขาจะไม่ได้ยินอะไร แต่ผู้ฝึกตนและเซียนสามารถได้ยินจังหวะหัวใจที่พิเศษจากภายในได้อย่างชัดเจน

นั่นคือเสียงของสวรรค์ ในฐานะบุตรแห่งทวยเทพ สิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้ควรจะสามารถเข้าใจกฎแห่งธรรมชาติได้ตั้งแต่แรกเกิด เช่นเดียวกับเทพเจ้าที่ทรงพลัง!

“ยอดเยี่ยมนัก”

สตรีทั้งสองผลัดกันฟังอยู่ชั่วครู่ ใบหน้าของหลีจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความอิจฉา ก่อนจะมองไป๋ชิวหรานด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ข้าก็อยากจะสัมผัสประสบการณ์ความเป็นแม่เช่นกัน!”

“…ในอนาคตย่อมได้สัมผัส” เจียงหลานยิ้มและปลอบโยนทั้งสอง “รัวเว่ยก็เช่นกัน”

“ข้าไม่สนใจ”

ถังรั่วเวยเหลือบมองไป๋ชิวหราน ก่อนจะก้มศีรษะและกล่าวด้วยความขุ่นเคือง

“ข้าต้องทำความฝันของตนให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน! หากล้มเหลวในการฝึกฝน ข้าจะมีหน้ากลับบ้านได้อย่างไร?”

เมื่อเห็นท่าทีของถังรั่วเวย ไป๋ชิวหรานพลันรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเคยพัฒนาอุบายที่ทำให้ผู้คนสามารถสร้างรากฐานได้อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากได้พบกับนาง โลกของเขาก็เปิดกว้างขึ้น และพยายามช่วยเหลือให้นางสามารถสร้างพระโพธิสัตว์เสริมอกเพื่อพัฒนาให้หน้าอกอวบอิ่มได้ในสักวัน

แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งสองก็พยายามให้อาจารย์อสูรสำแดงฤทธิ์เดชจากพลังศรัทธา… แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังไม่ได้ผล

ในสำนักของไป๋ชิวหราน มีผู้ฝึกตนมากว่าสิบสองคน หรืออาจมากกว่านั้น ทุกคนล้วนอยู่ในขั้นการกลั่นลมปราณ พลังปราณแก่นแท้จึงเพิ่มพูนขึ้นมาก แต่หน้าอกของถังรั่วเวยนั้น… ไขมันได้เพิ่มขึ้นมาเพียงเสี้ยวในสิบเท่านั้น

ทั้งคู่ต่างรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นช่างไร้ประโยชน์…

“อย่าเพิ่งท้อเลย ข้ายังฝึกฝนมาตั้งสามพันปี”

ไป๋ชิวหรานตบไหล่ศิษย์ของตนเบา ๆ

“ตราบใดที่เรามีความปรารถนายิ่งใหญ่ ข้าเชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จแน่”

“อืม!”

ทั้งสองต่างให้กำลังใจกัน และตอนนี้ประตูลานถูกเปิดออกอีกครั้งอย่างกะทันหัน เป็นซูเซียงเสวี่ยที่เดินเข้ามา เมื่อนางเห็นไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ก็ตกใจไปชั่วขณะ ก่อนจะเผยรอยยิ้มแห่งความสุข

“พวกเจ้ากลับมาแล้ว! โอ้… ชิวหราน โม่เฉินมาพบข้าและฝากจดหมายไว้ให้ท่าน”

“จดหมายอะไรกัน? เขาอยู่ในโลกเดียวกับข้า ย่อมมาพบข้าด้วยตนเองได้”

ไป๋ชิวหรานหยิบจดหมายจากซูเซียงเสวี่ย พร้อมกับเปิดมันออก

“ตอนนี้เขาอยู่ในแดนเซียน ไม่ใช่เก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน!”

ซูเซียงเสวี่ยตอบ

“เมื่อไม่นานมานี้ เขาไปที่แดนเซียน ก่อนรีบกลับมาหาข้าทันทีและมอบจดหมายฉบับนี้ไว้ ข้าคิดว่าคงมีเรื่องราวบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นในแดนเซียน”

“หือ… เกิดอะไรขึ้น!”

ไป๋ชิวหรานอ่านจดหมายจบแล้ว สีหน้าของเขาก็ซีดขาวลง

“นางสนมของไป๋ลี่กำลังประท้วงเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดของเขา ต้องรีบกลับขึ้นไปแล้ว! การทดลองในโลกวัตถุต้องจบลงโดยเร็ว ช่างเป็นหายนะที่น่าหวาดกลัวจริง ๆ เฮ้อ… ไป๋ลี่ ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน เขาจะอดทนได้นานเพียงใดกัน”

“เรื่องนั้น… มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ข้าก็เข้าใจ”

ซูเซียงเสวี่ยเดินเข้าไปหาไป๋ชิวหรานพร้อมกับจับมือเขาเอาไว้

“เช่นนั้นคืนนี้ท่านอยู่กับข้านะ”

รอยยิ้มของไป๋ชิวหรานก่อนหน้านี้… กลายเป็นแข็งทื่อในทันที